ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1458 ค่ายกลลงทัณฑ์เซียน!
อวี่เยี่ยออกกระบี่ เส้นสีดำหลายสายกระจายทั่วความว่างเปล่า
หลงเสวี่ยจี้ออกกระบี่ มีปราณสีขาวหลายสายพาดขวาง
นักพรตอวิ๋นเจิ้งออกกระบี่ เห็นประกายกระบี่สีแดงก่ำกระเพื่อมขึ้นรอบๆ
สุดท้ายเยี่ยนจ้าวเกอออกกระบี่ แสงสีเขียวหนาแน่น
เจตจำนงกระบี่ของสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนปรากฏพร้อมกัน สภาวะโกลาหลสูญสะท้อนขึ้นในม่านตาของอวี่เยี่ย
ความว่างเปล่าที่เงียบสงัดเหมือนกับมหาสมุทร มีฟองอากาศจำนวนนับไม่ถ้วนผุดออกมาจากภายใน นั่นเป็นลวดลายยันต์หลายสายประกอบกันในทะเลแห่งความว่างเปล่า กลายเป็นค่ายกลวิญญาณค่ายแล้วค่ายเล่า
ลวดลายค่ายกลมากมายปรากฏ เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าเคร่งขรึม ปรับเปลี่ยนค่ายกลวิญญาณเหล่านั้น ทำให้พวกเขาประสานงานได้ต่อ
ขณะนี้นักพรตอวิ๋นเจิ้งที่เชี่ยวชาญค่ายกลคอยช่วยเหลืออยู่ด้านข้าง ทำให้ลวดลายค่ายกลประกอบกันได้เร็วกว่าเดิม
แสงพุทธของยุทธวิชัยพุทธะกลายเป็นฝ่ามือขนาดยักษ์ แล้วร่วงหล่นลงจากฟ้า
ทว่าเกาชิงเสวียนที่ลอยอยู่ด้านบนกระตุ้นกระบี่ผนึกเซียนเข้าต้านรับ ถึงแม้จะถูกฝ่ามือยักษ์แสงพุทธกดลงมา กลับก็ช่วงชิงเวลาที่มากพอให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอซึ่งอยู่ด้านข้างสำเร็จ
หมอกสีเหลืองกับแสงสีทองนับไม่ถ้วนพรั่งพรูจากลวดลายค่ายกล ครู่เดียวก็ปกคลุมฟ้าดินไว้
หมอกแสงแผ่พุ่ง ม้วนไปทั่วสี่ทิศ เกาชิงเสวียนถือกระบี่ผนึกเซียน พุ่งเข้าไปด้านใน
“เมื่อไม่มีตัวตนระดับมหาชาลควบคุม อีกทั้งพวกโยมยังได้กระบี่ผนึกเซียนมาแค่เล่มเดียว ขาดกระบี่อีกสามเล่ม หามีความน่ากลัวไม่” ยุทธวิชัยพุทธะไม่กริ่งเกรง ศีรษะยี่สิบข้างเปล่งคำสรรเสริญคุณ ยื่นแขนทั้งสิบแปดข้างออกมา แต่ละข้างฟาดของวิเศษลง ถึงกับแหวกหมอกสีเหลืองแสงสีทองอย่างหักโหม
แต่ว่าเห็นเกาชิงเสวียนปล่อยกระบี่ผนึกเซียน ร่างจริงกับร่างแยกยืนหันหน้าเข้าหากัน แยกกันยืนอยู่คนละมุมของค่ายกล
หลิงชิงเคลื่อนไหวอย่างเดียวกัน ยืนอยู่ตรงข้ามกับกระบี่ผนึกเซียน ยึดครองอีกสองมุกของค่ายกล
ลวดลายค่ายกลที่ลี้ลับซับซ้อนหมุนวน ปราณกาลีทั่วฟ้าพวยพุ่งสู่ชั้นเมฆ ย้อมเกาชิงเสวียนกับร่างแยก รวมถึงร่างของหลิงชิง
เซียนกำเนิดสามคนที่อยู่ในชั้นสุญญตา ตอนนี้ต่างกำลังถูกพลังค่ายกลเปลี่ยนให้เป็นพวกเดียวกัน
เกาชิงเสวียนร่างจริงถูกแสงสีเขียวครอบคลุม ร่างแยกของนางถูกแสงสีแดงครอบคลุม
ด้านล่าง เยี่ยนจ้าวเกอกับนักพรตอวิ๋นเจิ้งต่างออกกระบี่ ประกายกระบี่ตกลงบนร่างของเกาชิงเสวียนกับร่างแยก
เห็นร่างมนุษย์ของเกาชิงเสวียนสองคนเหมือนกับถดถอยไปพร้อมกัน กลายเป็นกระบี่แสงขนาดยักษ์สองเล่มสีเขียวสีแดง!
หลิงชิงไม่ใช่มือกระบี่สายเหนือพิสุทธิ์ ถึงหลงเสวี่ยจี้จะออกกระบี่ ปราณกระบี่สังหารเซียนหลายสายเวียนว่อน ทว่าไม่ได้กลายเป็นพวกเดียวกันกับนางอย่างชัดเจนนัก
แต่ทันใดนั้นเอง ในค่ายกลมีกระบี่สามเล่ม หลิงชิงเพียงจำเป็นต้องใช้พลังฝึกปรือระดับสุญญตาของตัวเองสะกดด้านหนึ่งของค่ายกลเป็นก็ใช้ได้แล้ว
กระบี่ลงทัณฑ์เซียนกับกระบี่ลวงเซียนที่เกิดจากเกาชิงเสวียนเป็นกระบี่ปลอมเช่นกัน แต่ว่าเมื่อมีนางสะกดค่ายกล ประกายกระบี่ของกระบี่ผนึกเซียน กระบี่ที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียวก็พลันขยายใหญ่ขึ้น
กระบี่ผนึกเซียนกลับชักนำพวกนางสามคน มอบพลังให้แก่ค่ายกลอย่างต่อเนื่อง
ค่ายกลโคจร แสงสว่างรวมตัว กลายเป็นประตูสี่บาน แยะออกไปสี่ทิศ
กระบี่สี่เล่มที่แบ่งเป็นหนึ่งแท้ สองปลอม หนึ่งมายา แยกกันลอยอยู่เหนือประตูสี่บาน
“ขึ้น!” เยี่ยนจ้าวเกอตวาดคำหนึ่ง ลวดลายค่ายกลรวมตัวกันในสองตา
พลันมีปราณกาลีอันดุร้ายไร้สิ้นสุดลอยขึ้นจากในค่ายกล แล้วกลายเป็นคมกระบี่ที่แข็งแกร่งไม่อาจทำลาย กวาดล้างจักรวาล ทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญแขวน
“ถึงจะใช้เล่ห์เหลี่ยม แต่ว่าโคจรค่ายกลได้อย่างคล่องแคล่วปานนี้ ช่างหายากจริงๆ!” ยุทธวิชัยพุทธะแตกตื่น สลัดความประมาททิ้ง ประกบแขนทั้งสิบแปดข้าง สร้างแดนสุขาวดีพุทธเกษตรขึ้นมาทลายปราณกระบี่ที่ดุร้าย
นอกจากจะรับมือกับยุทธวิชัยพุทธะที่อยู่ด้านบนแล้ว หมอกสีเหลืองกับแสงสีทองก็ทะลักไปทั่วสี่ทิศแปดทาง กลืนกินฟ้าดิน
ก่อนหน้านี้พวกฝูหลัวจื่อกับพญามารควันสายัณห์เหล่ายอดฝีมือเริ่มหลบหลีกแล้ว ทว่าขณะนี้ค่ายกลขยายตัวเร็วเกินไป ถึงกับออกทีหลังแต่ถึงก่อน ไม่ว่าจะเป็นพุทธ มาร ปีศาจก็ม้วนเข้าไปทั้งหมดในคราวเดียว!
นอกจากร่างกายจะกลายเป็นประกายกระบี่ลงทัณฑ์เซียนแล้ว ที่เกาชิงเสวียนทิ้งกระบี่สังหารเซียน ใช้กระบี่ลวงเซียนแทน ก็เพื่อจัดการอีกฝ่ายที่อยู่ที่นี่ในคราวเดียว
คนพอเข้ามาในค่ายกล จักรวาลตรงหน้าก็พลันเปลี่ยนแปลง
ปราณกรบะที่ดุร้ายพุ่งไปมา บดขยี้มิติ กลายเป็นดิน น้ำ ลม ไฟแรกเริ่ม ตลบไปทั่วบริเวณ
ฟ้าดินธรรมชาติคล้ายถูกทำลาย ทุกอย่างถูกบดขยี้ กลับคืนสู่ความว่างเปล่า ราวกับภาพวันสิ้นโลกโดยสมบูรณ์!
“ค่ายกลลงทัณฑ์เซียน!” ฝูหลัวจื่อโพล่งออกมา
คนที่ติดอยู่ใจค่ายกลล้วนหน้าเขียวคล้ำ ใบหน้าฉายแววแตกตื่นหวาดกลัว
ถึงแม้ยังไม่สมบูรณ์ กระนั้นสถานที่ที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้ก็เป็นค่ายกลอันดับหนึ่งแห่งยุคสมัย
ค่ายกลลงทัณฑ์เซียน!
ไม่ใช่สำริดไม่ใช่เหล็กและไม่ใช่เหล็กเหล็กกล้า เคยถูกซ่อนในภูเขาซวีหมี่
ไม่ใช้หยินหยางกลับข้างหลอม หรือไม่มีน้ำกับไฟไว้ชุบคม
ช่วยสังหารเซียน ผนึกเซียน ลวงเซียน เกิดแสงสีชาดสี่ทิศ
สังหารเซียนเปลี่ยนแปลงไร้สิ้นสุด เหล่าเทพเซียนมหาชาลโลหิตย้อมอาภรณ์
วันนี้แม้นไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ทำให้เซียนและพระพุทธต้องหลบถอย
“สตรีนางนั้นฝึกฝนคัมภีร์โกลาหลสูญ มีผังค่ายกลลงทัณฑ์เซียนไม่ประหลาดอันใด แต่ว่าพวกเขาถึงกับวางค่ายกลสังหารนี้ในเวลาเพียงชั่วครู่ได้!?” ไม่ว่าเป็นมาร พุทธ หรือปีศาจ ต่างโอดครวญไม่หยุด
มีผังค่ายกลกับการวางค่ายกลได้อย่าแท้จริง เป็นคนละเรื่องกัน
โดยเฉพาะค่ายกลอันดับหนึ่งแห่งยุคสมัยอย่างค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ความยากในการวางค่ายกลยิ่งไม่ต้องกล่าวมากความ
กระนั้นตอนนี้ ค่ายกลอันน่ากลัวนี้ปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคนอย่างแท้จริง
ค่ายกลที่หายสาบสูญไปตั้งแต่ยุคโบราณตอนกลาง ในที่สุดก็โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง!
พวกเยี่ยนจ้าวเกอวางค่ายกล เกาชิง หลิงชิงกลายเป็นกระบี่ พวกเยี่ยนตี๋ยึดครองตำแหน่งตาค่ายกลไว้อย่างแน่นหนา ดำเนินการสะกดตามคำชี้แนะของเยี่ยนจ้าวเกอและนักพรตอวิ๋นเจิ้ง
“เร่ง!” เยี่ยนจ้าวเกอตะโกนขึ้น
เยี่ยนจ้าวเกอ เนี่ยจิงเสิน เยว่เจิ้นเป่ย หลงซิงเฉวียนอยู่ด้านใน แยกกันส่งพลัง
เยี่ยนตี๋ช่วยเหลือเยี่ยนจ้าวเกอ เนี่ยจิงเสินช่วยเหลือวี่เยี่ย เยว่เจิ้นเป่ยช่วยเหลือหลงเสวี่ยจี้ หลงซิงเฉวียนช่วยเหลือนักพรตอวิ๋นเจิ้ง
พวกเยี่ยนจ้าวเกอพากันออกกระบี่
หมอกเหลืองแสงทองวนเวียน เจตจำนงกระบี่เปลี่ยนเป็นประกายสายฟ้าหลายสาย
ท่ามกลางเสียงคำรามของสายฟ้า ประกายสายฟ้าแยกกันพุ่งลงใส่กระบี่ผนึกเซียน เกาชิงเสวียน และหลิงชิงที่ลอยอยู่ด้านบน
ปราณกระบี่พวยพุ่งแหวกอากาศ ฟันทำลายจักรวาล บดขยี้เอกภพโดยมีกระบี่ผนึกเซียนเป็นศูนย์กลาง!
คมกระบี่ทรงอานุภาพ แข็งแกร่งกว่าตอนที่เกาชิงเสวียนรวมร่างคู่เป็นหนึ่ง กระตุ้นกระบี่ผนึกเซียนด้วยพลังทั้งหมดเสียอีก
กระบี่เดียวกระจายทั่ว สรรพชีวิตสิ้นสูญ สรรพวัตถุไม่คงอยู่ มิติเวลาพังทลาย มหามรรคาเสื่อมโทรม!
ดินแดนพุทธเกษตรที่ยุทธวิชัยพุทธะสร้างขึ้นเหมือนกับเจอยุคสิ้นสุด
ต้นโพธิ์นับไม่ถ้วนในพุทธเกษตรแห้งเหี่ยว
บัวเขียวนับไม่ถ้วนเหี่ยวเฉา
ตะเกียงพุทธนับไม่ถ้วนดับลง
เจดีย์นับไม่ถ้วนพังทลาย
ในมือทั้งยี่สิบข้าง มือข้างหนึ่งที่ถือกรดและพาหุรัดของท่านถูกกระบี่นี้ฟัน ด้านบนพลันแยกเป็นรอยแหว่ง!
“ได้มาแค่กระบี่เดียว ก็แสดงอานุภาพขนาดนี้ได้แล้ว?” ยุทธวิชัยพุทธถอนใจ จากนั้นก็กำฝ่ามือ
สมุทัยในอริยสัจสี่แห่งพระธรรมถูกใช้ออกมา เก็บผลทุกข์แห่งความทุกข์หมดสิ้น ทำลายคมของกระบี่อันน่ากลัวจากค่ายกลลงทัณฑ์เซียนก่อน จากนั้นก็ใช้มรรคในอริยะสัจสี่ที่มีแต่ยอดฝีมือศาสนาพุทธระดับมหาชาลเท่านั้นถึงจะฝึกฝนสำเร็จออกมา
วินาทีนี้ โพธิปักขิยธรรมสามสิบเจ็ด มรรคแปด สติปัฏฐานสี่ สัมมัปปธานสี่ อิทธิบาทสี่ อินทรีย์ห้า พละห้า โพชฌงค์เจ็ดเหมือนปรากฏขึ้นพร้อมกัน ต้านทานอานุภาพของค่ายกลลงทัณฑ์เซียน
ยุทธวิชัยพุทธะถึงขั้นกันกระบี่นี้ไว้ได้ คมกระบี่อาศัยสภาวะลี้ยวกลับ พัดกระพือฝนโลหิตพายุคาวเลือดขึ้นในค่ายกล!
เหล่าบรรพชิตศาสนาพุทธ เหล่าวีรบุรุษแห่งเผ่าปีศาจ พวกมารแห่งนพยมโลกพลันถูกกวาดล้าง
นอกจากคนไม่กี่คนที่อยู่ในระดับสูงสุดของชั้นสุญญตาที่ฝืนรักษาชีวิตไว้ได้ ที่เหลือล้วนพินาศด้วยหนึ่งกระบี่นี้!