ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1479 ทำลายขีดจำกัดล่างความปลอดภัยในใจของโถงเซียน
“เจ้า…วิชากระบี่เมื่อครู่ของเจ้า…” นักพรตวัยกลางคนผู้นั้นดิ้นรนพลางมองเยี่ยนจ้าวเกอ ความตกตะลึงในดวงตายังไม่สลายไป
การสั่นสะเทือนที่กระบี่เนรเทศเซียนมอบให้แก่เขา ต่อให้รวมทุกสิ่งก่อนหน้าไว้ด้วยกันก็ยังรุนแรงยิ่งกว่า
เป็นเพราะว่านั่นข้ามผ่านขีดจำกัดระหว่างเซียนลี้ลับและเซียนกำเนิด
ก่อนหน้านี้นอกจากค่ายกลลงทัณฑ์เซียนแล้ว ก็ไม่เคยปรากฏการดำรงอยู่ที่แข็งแกร่งเช่นนี้อีก
สำหรับยอดฝีมือระดับสุดยอดในโถงเซียน แม้ว่าจะเคยได้ยินอานุภาพของค่ายกลลงทัณฑ์เซียนกับคัมภีร์โกลาหลสูญมาก่อน แต่ถึงอย่างไรก็เป็นแค่ตำนาน
ก่อนที่โถงเซียนจะปรากฏขึ้น ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนกับโกลาหลสูญก็ได้หายสาบสูญไปนานแล้ว ไม่เคยปรากฏขึ้นมาอีก
ดังนั้นสำหรับเขาแล้ว จึงไม่เคยได้เจอและไม่เคยมีข้อกริ่งเกรง
ทว่าวันนี้ กระบี่เนรเทศเซียนของเยี่ยนจ้าวเกอเนรเทศอีกฝ่ายที่อยู่ในระดับเซียนกำเนิด
เซียนลี้ลับฟันย้อนใส่เซียนกำเนิด!
ไม่ใช่การต้านทาน ไม่ใช่การสะกด ไม่ใช่การจับเป็น แต่ว่าใช้ระดับเซียนลี้ลับสังหารเซียนกำเนิดที่ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิดอย่างแท้จริง
อย่าว่าแต่คนที่เกี่ยวข้อง แม้แต่มังกรดำที่ถูกเยี่ยนตี๋เฝ้าแทนตัวนั้น พอเห็นเหตุการณ์นี้ในใจก็เกิดความเย็นเยียบ ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างไม่เคยมีมาก่อน
หากว่าเป็นค่ายกลลงทัณฑ์เซียนจริงๆ ถึงขั้นที่ถ้าเป็นโกลาหลสูญยังพอทำเนา อย่างน้อยก็ยังมีการเตรียมใจไว้ ตอนนี้กลับงุนงงโดยสมบูรณ์
ที่แล้วมาแม้ตอนต่อสู้ในระดับเดียวกัน ส่วนใหญ่แล้วจะสู้ยอดฝีมือซึ่งเป็นผู้สืบทอดสายหลักของสำนักเต๋าไม่ได้ แต่จอมยุทธ์จากโถงเซียนยังคงมีความมั่นใจสนับสนุน
หลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ความยากในการเพิ่มระดับของพวกเขามีน้อยกว่าเดิม ความเร็วในการพัฒนาเหนือกว่าสำนักเต๋าสายหลัก
เซียนจริงแท้กดทับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ เซียนลี้ลับกดทับเซียนจริงแท้ เซียนกำเนิดกดทับเซียนลี้ลับ เซียนสวรรค์กดทับเซียนกำเนิด
มีวิธีแก้ไขเสมอ สุดท้ายก็ยังได้เปรียบ
สั่วหมิงจางสั่นสะเทือนทั่วหล้า สร้างสถานการณ์ที่โถงเซียนในปัจจุบันทรุดโทรม ถูกแดนสุขาวดีบัวคราวยึดครองความได้เปรียบด้วยมือเดียวขึ้นมา เป็นเพราะว่าเขาเลื่อนสู่ชั้นมหาชาลอย่างเหนือความคาดหมาย
ถ้าหากว่าเขายังอยู่ในระดับเซียนกำเนิดสุญญตา ไม่ว่าตัวเขาในตอนนั้นจะเข่นฆ่าออกนอกวงล้อมได้หรือไม่ จะอยู่หรือจะตาย อย่างน้อยโถงเซียนก็ไม่ถึงกับตกสู่สภาพจนตรอกเช่นในตอนนี้
ดังนั้นแม้นโถงเซียนจะขุ่นข้อง แต่ก็ได้แต่บีบจมูกยอมรับแล้ว
ทว่าตอนนี้สถานการณ์แตกต่างกันโดยสมบูรณ์
เป็นขีดจำกัดล่างความปลอดภัยในใจของจอมยุทธ์จากโถงเซียนจำนวนมากถูกทำลายถึงระดับหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นนักพรตวัยกลางคนผู้นั้น หรือว่ามังกรดำตัวนั้น ตอนนี้ต่างมองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยสีหน้าซับซ้อน ในดวงตาฉายความหวาดหวั่นพรั่นกลัวอย่างไม่อาจควบคุม
นักพรตอวิ๋นเจิ้งมองเยี่ยนตี๋กับหลงซิงเฉวียนด้วยความเสียดายอยู่บ้าง ส่งกระแสเสียงว่า “น่าเสียดาย”
เยี่ยนตี๋กับหลงซิงเฉวียนทราบว่าเขาเสียดายอะไร
เป็นเพราะกระบี่เนรเทศเซียนยากจะเรียนรู้ คิดจะเรียนวิชากระบี่ชนิดนี้ อันดับแรกต้องฝึกฝนวรยุทธ์มากมายอย่างหกคัมภีร์หลังกำเนิดแรกเร่ม สี่กระบี่ล้ำค่า มังกรเขียวในแขนเสื้อ คัมภีร์เซียนหลิงกวงทะยานให้สำเร็จ หนำซ้ำต้องมีระดับประมาณหนึ่ง
เช่นนี้จึงจะเรียนรู้สี่กระบี่สังหารมังกรเขียว สังหารเสวียนอู่ สังหารพยัคฆ์ขาว และสังหารหงส์แดงได้
บนพื้นฐานนี้ ค่อยมีความหวังสุดท้ายในการสำเร็จกระบี่เนรเทศเซียน
วรยุทธ์ที่เป็นพื้นฐานของกระบี่เนรเทศเซียนต่างก็ลี้ลับไร้สิ้นสุด สุดที่วรยุทธ์ทั่วไปจะเทียบเคียงได้ สำหรับจอมยุทธ์ส่วนใหญ่แล้ว ต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิตทำความเข้าใจวรยุทธ์หนึ่งในนี้อย่างล้ำลึกได้ ก็จำเป็นต้องใช้พลังสมาธิทั้งหมด
มาตรแม้นจะเป็นอัจฉริยะเชิงยุทธ์ที่มีพรสวรรค์ล้ำเลิศ มีความสามารถในการทำความเข้าใจโดดเด่น สามารถศึกษาวรยุทธ์มากมายร่วมกันได้ แต่คิดศึกษาทุกศาสตร์ให้ทะลุปรุโปร่ง นั่นก็ยังเป็นเรื่องที่ยากลำบากถึงขีดสุดอยู่ดี
ศาสตร์ความรู้มีการเน้นในด้านต่างๆ สามารถทำความเข้าใจความถนัดในวรยุทธ์ชนิดหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว ไม่ได้หมายคามว่ายามคนผู้นี้ศึกษาฝึกฝนวรยุทธ์อื่นๆ จะมีประสิทธิผลสูงเหมือนเดิม
วรยุทธ์สิบกว่าชนิดที่กระบี่เนรเทศเซียนเกี่ยวข้องด้วย แทบจะกระจายไปยังทุกขอบเขต
ต่อให้ทั้งเก็บทั้งสั่งสมได้เหมือนกับมหาสมุทรรองรับร้อยธารา ทว่าคิดฝึกฝนวรยุทธ์วรยุทธ์มากมายขนาดนี้สุดท้ายก็จำเป็น้องมีการสั่งสมด้านเวลา
หากรอให้เขาสำเร็จจริงๆ ผู้ใดทราบว่าจะรอถึงเวลาไหน
ยิ่งไปกว่านั้น การทำความเข้าในวรยุทธ์จำนวนมากขนาดนี้ยังเป็นแค่การเข้าสู่พื้นฐานเท่านั้น คิดจะฝึกฝนกระบี่เนรเทศเซียน จำเป็นต้องหลอมรวมวรยุทธ์จำนวนมากขนาดนี้เข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว และใช้ออกได้ตามใจจึงจะกระทำได้
ด่านนี้สร้างความลำบากแก่คนนับไม่ถ้วน
แม้ว่าเงื่อนไขจะโหดร้าย แต่ความแข็งแกร่งของกระบี่เนรเทศเซียนก็ยังคงทำให้ผู้คนปรารถนาจนเหมือนกับฝูงเป็ดที่พากันพุ่งเข้าใส่
ปัญหาอยู่ที่ยากเย็นเกินไปจริงๆ
“เฉินเฉียนหัวตายไปก็ไม่น่าเสียดาย แต่หากจะกล่าวกันจริงๆ มันเป็นคนที่สามารถเรียกกระบี่เนรเทศเซียนของจ้าวเกอได้มากที่สุด” เยี่ยนตี๋กล่าวอย่างเฉื่อยชา
หลังจากพบเจอกันอีกครั้ง เยี่ยนตี๋ย่อมได้ยินเยี่ยนจ้าวเกอเล่าถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดก่อนหน้า
“ความจริงข้าเองก็มีความหวัง” หลงซิงเฉวียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ก่อนหน้านี้มี” เยี่ยนตี๋ไม่ถ่อมตัวและไม่ได้ภูมิใจ
การเรียนวรยุทธ์ในตอนที่เขายังเด็ก ก็เป็นเส้นทางที่ศึกษาไปอย่างกว้างขวางเช่นกัน
ทว่ากาลต่อมาพร้อมกับที่ระดับพลังฝึกปรือยิ่งมายิ่งสูง ดาบกฎเกณฑ์ยิ่งมายิ่งสุกงอมก็ค่อยๆ เริ่มมุ่งเน้นในเส้นทางเดียว ที่เหลือล้วนเอาไว้ประกอบการพิจารณา
การไปศึกษาเจตจำนงกระบี่ของกระบี่เนรเทศเซียนในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่ใช่ว่าไม่ได้ แต่ว่าจะถ่วงความก้าวหน้าของดาบกฎเกณฑ์
ดาบกฎเกณฑ์เพียงรุดหน้าไม่มีถอยหลัง หากตัวเองถ่วงเวลาก็จะถึงขั้นที่เกิดความเสียหาย
สามารถใช้ล่างข่มบน ก้าวข้ามร่องน้ำทางธรรมชาติระหว่างระดับเซียนย่อมดี แต่ว่าสำหรับเยี่ยนตี๋แล้ว เขาเหมาะกับการพัฒนาอย่างเหี้ยมหาญ จนมีระดับเท่ากันหรือก้มมองคู่ต่อสู้มากกว่า
หากไปเรียนกระบี่เนรเทศเซียนในเวลานี้ แม้จะได้ประโยชน์ แต่ก็จำเป็นต้องใช้เวลามากมาย ดังนั้นไม่เหมาะสม
เวลาที่ว่านี้ ระดับของเขาคงเพิ่มขึ้นแล้ว
“ฟังว่าในสำนักของท่านมีคนรุ่นหลังที่โดดเด่นคนหนึ่ง เป็นร่างจิตนภา ความคิดบริสุทธิ์โดยกำเนิด บางทีอาจเรียนสำเร็จ” นักพรตอวิ๋นเจิ้งเอ่ยขึ้น
เยี่ยนตี๋ผงกศีรษะ “หลงถูมีความหวังจริงๆ แต่ยังต้องขัดเกลา ต่อให้มีความสำเร็จก็ไม่อาจฝึกฝนกระบี่เนรเทศเซียนสำเร็จในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุขเหมือนอย่างจ้าวเกอ”
ในบรรดาคนรุ่นหนุ่มสาวของเขากว่างเฉิง อิงหลงถูเป็นจอมยุทธ์ที่ศึกษากว้างขวางที่สุดนอกจากเยี่ยนจ้าวเกอ หนำซ้ำยังไม่ใช่ตัวอย่างที่ไม่สำเร็จสักอย่าง แต่เชี่ยวชาญทุกอย่าง
ตัวเยี่ยนจ้าวเกอก็หวังว่าเขาสามารถฝึกฝนกระบี่เนรเทศเซียนจนสำเร็จได้เช่นกัน
“เทียบกับหลงถูแล้ว ศิษย์หลานอวี่ครอบครองวิญญาณฟ้าแฝง มีความหวังมากกว่า” เยี่ยนตี๋ว่า “เพียงแต่ก่อนหน้านี้นางไม่ได้ศึกษาไปเรื่อยเหมือนจ้าวเกอกับเฉินเฉียนหัว การสร้างพื้นฐานเริ่มต้นจำเป็นต้องใช้เวลามากกว่าเดิม ไม่อย่างนั้นเฉินเฉียนหัวก็มีความหวังมากกว่า ทว่าตอนนี้ศิษย์หลานอวี่ร่ำเรียนคัมภีร์โกลาหลสูญ กลับไม่จำเป็นต้องพิจารณาถึงกระบี่เนรเทศเซียนแล้ว”
หลงซิงเฉวียนถอนใจเบาๆ “ตอนนี้เยี่ยเอ๋อร์ เจิ้นเป่ย กับจิงเสินไม่ทราบไปอยู่ที่ไหน หวังว่าพวกเขาจะปลอดภัยไร้เรื่องราว”
เยี่ยนตี๋กับนักพรตอวิ๋นเจิ้งต่างพยักหน้า “ต่อจากนี้พวกเราต้องรีบตามหาต่อ”
“พวกเราจำเป็นต้องแข่งกับเวลาจริงๆ” ยามนี้เยี่ยนจ้าวเกอจับจ้าวสวรรค์โถงเซียนผู้นั้นมา “ครั้งนี้เส้นทางนอกรีตมีเซียนกำเนิดไม่ต่ำกว่าหนึ่งคนออกมา นอกจากคนผู้นี้แล้ว ยังมีอีกคนหนึ่ง”
พวกเยี่ยนตี๋ต่างขมวดคิ้ว
ในสถานการณ์ปกติ ในแดนเซียนสามพันแดนเซียนของโถงเซียน จะมอบเจ็บสิบสองแดนเซียนให้แก่จ้าวสวรรค์เซียนกำเนิด จ้าวสวรรค์ทุกคนจะได้ใช้พลังศรัทธาจากสามสิบหกแดนเซียนไปจนถึงสี่สิบห้าแดนเซียนโดยประมาณ
ในสงครามเมื่อยี่สิบปีก่อนหน้า นอกจากเทวกษัตริย์ทั้งสี่คนแล้ว ยังมีจ้าวสวรรค์จำนวนมากที่ตายด้วยมือของสั่วหมิงจาง
ภายหลังถูกแดนสุขาวดีบัวขาวจู่โจมตลอด โถงเซียนที่เดิมทีอ่อนแอยากจะแบ่งกำลังคนได้
ในเวลาแบบนี้ ยังแบ่งจ้าวสวรรค์ระดับเซียนกำเนิดสองคนมายังที่นี่ ถือว่ายากเย็นถึงขีดสุด สิ่งที่วางแผนไว้คงไม่ใช่เรื่องเล็กแน่
ผู้ใดทราบว่าด้านหลังจะยังมีกำลังหนุนหรือไม่