ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1481 วรยุทธ์สะท้านโลกที่ฝึกได้แค่คนเดียว
“ถ้าหากข้าเข้าใจไม่ผิด จางปู้ซวีก็ได้การสืบทอดของคัมภีร์โกลาหลสูญและค่ายกลลงทัณฑ์เซียนไปแล้วเช่นกัน แต่เป็นเพราะสาเหตุอื่นๆ เขาจึงช้ากว่าศิษย์พี่อวี่ก้าวหนึ่ง” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยอย่างแช่มช้า
ถึงจะได้คัมภีร์โกลาหลสูญ แต่ว่าอวี่เยี่ยร่ำเรียนก่อน เท่ากับยึดครองตำแหน่งก่อน ก่อนที่นางจะหลุดพ้นหรือตกตาย คนอื่นๆ ที่ฝึกฝนคัมภีร์โกลาหลสูญก็ถูกกำหนดไว้ว่าไม่อาจเริ่มต้นได้ ในนี้ย่อมรวมถึงจางปู้ซวีกษัตริย์อนันต์
“จางปู้ซวี…” หลงซิงเฉวียนมีสีหน้าเคร่งขรึม
นักพรตอวิ๋นเจิ้งเห็นดังนั้น ไม่ได้พูดอะไร
กษัตริย์อนันต์ไม่ยอมตัดใจ ติดตามมา ต้องการทำอะไรไม่ต้องกล่าวก็เป็นที่เข้าใจได้
โอกาสที่เคยอยู่ใกล้เพียงแค่คืบ กลับหลุดจากมือตัวเองไปตกอยู่ในมือของคนอื่น หากเขายอมแพ้จึงนับว่าประหลาด
นี่เป็นหนึ่งในวรยุทธ์ของสำนักเต๋าไปจนถึงทั่วทั้งมหาจักรวาลที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่ประวัติศาสตร์เคยมีมา ถ้าหากว่าเทียบแค่พลังโจมตีกับพลังทำลายล้างเพียงอย่างเดียว ในเวลาส่วนใหญ่แล้วถึงขั้นตัดคำว่า ‘หนึ่ง’ ออกไปได้ด้วยซ้ำ
ถึงแม้จะมีเทวกษัตริย์วิเศษคณานับเป็นตัวอย่าง แสดงให้เห็นว่าเส้นทางที่เชื่อมไปยังระดับมรรคาสายนี้ไม่ได้เป็นหนทางราบเรียบ
ทว่ายุคสมัยที่สุดก็ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง คนรุ่นหลังพัฒนาต่อ ผลักสิ่งเก่ามองหาสิ่งใหม่ ศึกษาค้นคว้าไม่หยุดยั้ง หรืออาจเป็นเพราะวาสนา ใช่ว่าไม่อาจบุกเบิกเส้นทางใหม่ได้
ต่อให้ไม่ไหวจริงๆ คัมภีร์โกลาหลสูญก็ยังคงมุ่งสู่ระดับเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาล
ไม่ว่าจะเป็นจอมยุทธ์สายเหนือพิสุทธิ์คนใด หรือจอมยุทธ์ผู้สืบทอดกระแสตรงของสำนักเต๋าคนไหน แรงดึงดูดของวรยุทธ์นี้ก็ไม่มีอะไรให้ต้องสงสัย และไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวออกมา
มีแต่ฟ้าเท่านั้นที่ทราบว่าอวี่เยี่ยจะหลุดพ้นได้เมื่อใด
เช่นนั้นนอกจากนี้แล้ว วิธีการที่เหลือก็มีแค่วิธีเดียวแล้ว
“ศิษย์หลานอวี่ฝึกฝนคัมภีร์โกลาหลสูญสำเร็จ มีพลังไม่ธรรมดาจริงๆ ทั้งคุกคามเซียนลี้ลับ ทำให้ความสงบนิ่งหายไปได้” เยี่ยนตี๋กล่าวเสียงทุ้ม “ยิ่งไปกว่านั้นอย่างไรนางก็มีของวิเศษอย่างกระบี่ผนึกเซียนอยู่กับตัว จางปู้ซวีมีความมั่นใจอะไรจึงกล้าติดตามมาตลอด”
ภายหลังค่ายกลลงทัณฑ์เซียนถูกทำลาย กระบี่ผนึกเซียนตกมาอยู่ในมือของเกาชิงเสวียน เรื่องราวเหล่านี้จางปู้ซวีไม่อาจพยากรณ์ทราบได้ก่อน
ในสถานการณ์แบบนี้กลับกล้าติดตามเนี่ยจิงเสินกับอวี่เยี่ย นอกจากว่าจะหวังพึ่งโชคแล้ว ตามเหตุผลยังคงมีที่พึ่งพาอย่างอื่นอีก
“ยากจะหลอกเอาข้อมูลที่มีค่าจำนวนมากจากปากของเส้นทางนอกรีตสองคนนี้” เยี่ยนจ้าวเกอว่า “กระนั้นข้าก็รู้สึกว่าจางปู้ซวีจะต้องมีที่พึ่งพาอย่างอื่น จึงมีความมั่นใจในการเสี่ยงอันตราย ตามหาโอกาส”
นักพรตอวิ๋นเจิ้งถามเสียงเบา “ยืนยันได้หรือไม่ว่าจางปู้ซวีเข้ากับเส้นทางนอกรีต”
“ปัจจุบันยังไม่อาจยืนยัน” เยี่ยนจ้าวเกอส่ายหน้า “ทว่าตอนนี้ศิษย์พี่อวี่พลัดหลงกับพวกเรา จางปู้ซวีจะต้องฉวยโอกาสหานางแน่ หนำซ้ำ นอกจากคนที่ถูกข้าจับไว้ เส้นทางนอกรีตยังมีจ้าวสวรรค์อีกคนหนึ่ง รวมถึงจอมยุทธ์เส้นทางนอกรีตคนอื่นๆ พวกเขาเป็นภัยคุกคามต่อศิษย์พี่อวี่ ยังมีศิษย์พี่เนี่ยกับอาจารย์ลุงเยว่อีก”
หลังจากเว้นเล็กน้อย เยี่ยนจ้าวเกอก็กล่าวเสริม “สหายร่วมเส้นทางที่แยกกันตามหาคนอยู่ด้านนอก จำเป็นต้องระวังตัว”
ครั้งนี้คุนหนิงจื่อกับไป๋เทาถูกคนในเส้นทางนอกรีตพัวพัน ถ้าไม่ใช่พวกเยี่ยนจ้าวเกอมาถึงทันเวลา ปล่อยให้กำลังหนุนของอีกฝ่ายมาถึงก่อนก้าวหนึ่ง สถานการณ์ของเขาย่อมย่ำแย่
“รีบตามหาคนให้เร็วที่สุดเถอะ” เยี่ยนตี๋กล่าว
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “พวกเราออกเดินทาง ข่าวได้หาวิธีส่งให้ผู้อาวุโสเกาแล้ว อีกเดี๋ยวนางจะมาเช่นกัน”
ทุกคนกล่าวจบก็ออกเดินทางทันที เข้าไปในมิติไร้สิ้นสุดอันกว้างใหญ่ ค้นหาอย่างยากลำบากต่อไป
…
ในความว่างเปล่า การต่อสู้ของยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดยังคงดำเนินต่อไป การล้อมปราบมารร้ายจากนพยมโลกยังไม่จบลง
การต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือชั้นมหาชาล ต่อให้จะทำลายความวิเศษมากมายระหว่างกันและกัน แต่ว่าเมื่อต่อสู้กัน ระดับความรุนแรงกับอาณาเขตที่ส่งผลถึงยังคงสุดที่คนทั่วไปจะจินตนาการออก
ระหว่างจักรวาลอันมืดมิด พลันมีแสงสีทองกะพริบ กวนคนความเปลี่ยนแปลงของมิติเวลา
ทว่าไม่ทันไรก็มีแสงเพลิงทะลัก เผาไม้อากาศ ลบเลือนร่องรอยของแสงทอง
สองฝ่ายมาอย่างกะทันหัน แล้วจากไปในพริบตา
ทว่าจักรวาลแห่งนี้กลายเป็นความว่างเปล่าที่สิ่งมีชีวิตไม่คงอยู่แล้ว
กระนั้นสุดท้ายยังมีข้อยกเว้น รอดจากภัยพิบัติได้
ก้อนหินยักษ์ที่เหมือนกับดาวตกก้อนหนึ่ง ผิวกระเทาะหลุดร่วงออกอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งแตกออกโดยสมบูรณ์ เผยให้เห็นเงาร่างสองสาย
คนหนุ่มอาภรณ์ดำคนหนึ่ง สตรีอาภรณ์เขียวคนหนึ่ง เป็นเนี่ยจิงเสินกับอวี่เยี่ย!
ขณะนี้คนทั้งสองต่างมีสีหน้าซีดขาว แสดงให้เห็นว่าอาการบาดเจ็บไม่ธรรมดา
“แสงสีทองนั้น หรือจะเป็นเผิงท่องเมฆหมื่นลี้” อวี่เยี่ยถามเสียงเบา
“เป็นไปได้ ตามที่ศิษย์น้องเยี่ยนบอก นกเผิงยักษ์ปีกทองระดับอนุเทวะที่ก่อนหน้านี้พวกเราผลักดันค่ายกลลงทัณฑ์เซียนสังหารทิ้งตนนั้น เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นฝูหลัวจื่อ บุตรของเผิงท่องเมฆหมื่นลี้” เนี่ยจิงเสินตอบ จากนั้นหันไปมองที่ไกล “แต่ดูเหมือนมีคนพัวพันเขาไว้ คล้ายกับราชันพระอังคารยิ่ง”
“ถ้าไม่ใช่เช่นนี้ พวกเราคงถูกเจอตัวแต่แรกแล้ว” อวี่เยี่ยไอไม่หยุด
“ไม่ว่าอย่างไร พวกเราต้องรีบออกจากที่นี่ ไปรวมตัวกับศิษย์น้องเยี่ยนและผู้อาวุโสเกา” เนี่ยจิงเสินเอ่ย
อวี่เยี่ยพยักหน้าอย่างอ่อนแรงเล็กน้อย
ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนถูกทำลาย คนทั้งสองโดนลูกหลง ต่างได้รับบาดเจ็บสาหัส เนี่ยจิงเสินมีสภาพดีกว่า จึงให้อวี่เยี่ยพักรักษาตัว ส่วนเขาพานางเหาะเหิน ค้นหาเส้นทางกลับจักรวาลฟ้าฟื้น
ก่อนหน้านี้ในตอนที่ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนถูกทำลาย ก่อเกิดหลุมดำขนาดมหึมา ไม่ทราบรุนแรงกว่าการเคลื่อนไหวในตอนที่พญามารดาวโลหิตสร้างขึ้นตอนฆ่าตัวตายขนาดไหน
อวี่เยี่ยในฐานะคนกางค่ายกลได้รับประโยชน์อยู่บ้าง แม้นว่าจะตกเข้ามาในหลุมดำก็หยุดยั้งท่าร่างได้ง่ายดายกว่า
ทว่านางเพื่อช่วยเหลือเนี่ยจิงเสิน ถูกหลุมอันขมุกขมัวม้วนใส่จนวิงเวียนศีรษะพร้อมกับเนี่ยจิงเสินเช่นกัน
รอพวกเขากำหนดตำแหน่งของตัวเองได้อย่างยากลำบาก แล้วออกจากกระแสปั่นป่วนของมิติเวลา ก็รีบแยกแยะทิศทางค้นหาเส้นทางกลับทันที
มิคาดเดินทางได้ไม่นาน อุตส่าห์มีวี่แววส่วนหนึ่งก็ได้เจอเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ผ่านมา
เผิงท่องเมฆหมื่นลี้เข้ารบกวน จนพวกเขาต้องหลบหลีก แต่ขณะมันโผบินก็ส่งผลรบกวนมิติเวลารุนแรงเกินไป
พวกเนี่ยจิงเสินซ่อนร่าง ไม่กล้าวู่วามเคลื่อนไหว สุดท้ายอีกฝ่ายกระพือปีกครั้งหนึ่ง พวกเขาก็ถูกม้วนเข้าไปในกระแสปั่นป่วนของมิติเวลาอีกรอบ ไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด
โชคดีที่สุดท้ายไม่ถูกจอมปีศาจตนนั้นพบตัว ตอนนี้ออกเดินทางค้นหาเส้นทางอีกครั้ง
อวี่เยี่ยให้เนี่ยจิงเสินพาเหาะเหินในความว่างเปล่าอันกว้างใหญ่ นางทางหนึ่งนั่งปรับลมหายใจ ทางหนึ่งกล่าว “ก่อนหน้านี้ข้ารู้สึกว่าอาจารย์ปู่น้อยจางดูเหมือนจะติดตามอยู่ด้านหลังพวกเรา”
“เขามีฝักกระบี่ที่เทวกษัตริย์วิเศษคณานับเคยพก ไม่อาจไม่ป้องกัน” เนี่ยจิงเสินเอ่ย “เขาได้คัมภีร์โกลาหลสูญแล้วเช่นกัน กลับถูกเจ้าแย่งไปก่อนก้าวหนึ่ง ดูท่าทางมีความคิดมุ่งร้าย”
“ข้าเข้าใจ” อวี่เยี่ยพยักหน้า “ไม่ทราบว่าพวกท่านย่าจะเป็นอย่างไรบ้าง”
เนี่ยจิงเสินกล่าว “เชื่อว่าพวกเขาไม่เป็นอะไร”
“ถูกต้อง” อวี่เยี่ยพึมพำกับตัวเอง ใบหน้าปรากฏความกังวล
เนี่ยจิงเสินเห็นดังนั้น ทราบความในใจของนาง เอ่ยขึ้น “กษัตริย์เถาจะต้องมีฟ้าคอยคุ้มครอง ปลอดภัยไร้เรื่องราวแน่ เจ้าไม่ต้องกังวลไป”
“…ข้าเองก็เชื่อว่า ท่านยายบูรพาจารย์จะต้องไม่เป็นไร” อวี่เยี่ยลดเสียงกล่าว
ก่อนหน้านี้ทุกคนต่างคร่ำเครียดกับการต่อสู้กับยอดฝีมือชั้นมหาชาลอย่างยุทธวิชัยพุทธะ พวกเยี่ยนจ้าวเกอจึงไม่ได้คุยเรื่องอื่นกับพวกเขา รวมถึงเรื่องของกษัตริย์เถาหลี่อิง
สุดท้ายค่ายกลลงทัณฑ์เซียนถูกทำลาย ทุกคนพลัดหลง ไม่มีโอกาสคุยถึงเรื่องนี้มาโดยตลอด อวี่เยี่ยย่อมวิตกกังวลกับเรื่องนี้
เนี่ยจิงเสินเงียบงันเล็กน้อย
ทุกครั้งที่พูดถึงกษัตริย์เถาหลี่อิง ระหว่างคนทั้งสองเหมือนมีกำแพงที่เหมือนมีเหมือนไม่มีตั้งขวางอยู่