ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1485 การหนีตายกับเบาะแส
“เจ้าห้ามลงมือกับคนอื่นอีกเด็ดขาด” เนี่ยจิงเสินกล่าวเสียงเบา
อวี่เยี่ยลืมตา ยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นไร”
เนี่ยจิงเสินตรวจสอบสภาพของนาง สีหน้าหนักใจ “ร่างกายของเจ้าเกรงว่าจะรับการข้ามปราการมิติเวลาไม่ไหวแล้ว พวกเราไม่อาจใช้กระแสปั่นป่วนของมิติเวลาหลบหนีทัพไล่ตามได้อีก”
“เมื่อไม่มีฝักกระบี่ที่บรมครูเทวกษัตริย์วิเศษคณานับทิ้งไว้ อาจารย์ปู่น้อยจางคงไม่เจอตัวพวกเราง่ายเหมือนเดิมแล้ว” อวี่เยี่ยกล่าวอย่างอ่อนแรงอยู่บ้าง
เนี่ยจิงเสินให้นางหลับตาปรับลมหายใจฟื้นฟูกำลังต่อ ส่วนตนเองพานางเหาะเหิน ‘ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องหาสถานที่ซ่อนตัว ทิ้งเบาะแสไว้ รอพวกศิษย์น้องเยี่ยน ท่านอาจารย์ ยังมีพวกผู้อาวุโสเกามาตามหาพวกเรา’
หลังจากเขาทิ้งรอยตราชนิดพิเศษเสร็จ เขาก็พาอวี่เยี่ยเคลื่อนไหวในความว่างเปล่าอันกว้างใหญ่สักพัก ก่อนจะหยุดลง เมื่อเจอแถบดาวตกบริเวณหนึ่งแล้วทดลองซ่อนตัว
แต่ไม่รอให้ตั้งหลักได้ เนี่ยจิงเสินสีหน้าพลันสั่นไหว เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า มีคนกำลังเข้าใกล้ที่นี่
พลังฝึกปรือของอีกฝ่ายไม่ได้สูงเท่าจางปู้ซวี ดังนั้นเนี่ยจิงเสินไม่คิดลงมือ
ทว่ารอผู้มาเข้าใกล้ ถึงกับเริ่มค้นหาในอวกาศผืนนี้
เนี่ยจิงเสินจึงถือโอกาสลงมือจัดการ
ผู้มากลับเป็นจอมยุทธ์โถงเซียนระดับเซียนจริงแท้สองคน!
ถึงปัจจุบันเป็นเสือหล่นลงบนที่ราบ ทว่าความแข็งแกร่งของเนี่ยจิงเสินยังคงสุดที่เซียนจริงแท้เส้นทางนอกรีตสองคนจะเทียบเคียงได้ จึงสังหารทิ้งไปหนึ่ง จับตัวไว้หนึ่ง
เนี่ยจิงเสินอาศัยความน่าอัศจรรย์ของคัมภีร์มารไร้รูปที่เยี่ยนจ้าวเกอถ่ายทอดให้ ไม่ห่วงว่าตนลงมือสังหารคนจากเส้นทางนอกรีตไปแล้ว จะทำให้แสงวิเศษพลังศรัทธาไปหายอดฝีมือโถงเซียนในระดับสูงยิ่งกว่า จนเผยตำแหน่งของตนกับอวี่เยี่ย
จับมาได้คนหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องไต่สวน อีกฝ่ายก็คุยโวว่ามีจ้าวสวรรค์อยู่ใกล้ๆ นอกจากนี้ยังมียอดฝีมือมากมาย อวี่เยี่ยกับเนี่ยจิงเสินไม่มีโอกาสหนีรอด
ซึ่งความจริงเดิมทีพวกเขามาตามหาจางปู้ซวี แต่ถ้าหากจับตัวอวี่เยี่ยหรือชำระล้างเนี่ยจิงเสินได้ ย่อมเป็นประโยชน์อันใหญ่หลวง
‘จางปู้ซวีมีแค่ตัวคนเดียว ถึงจะมีพลังฝึกปรือสูง ขีดความสามารถแข็งแกร่ง แต่การตามหาในจักรวาลอันไพศาลก็ยากจะสำเร็จได้ในระยะเวลาอันสั้น’ เนี่ยจิงเสินสีหน้าเคร่งขรึม ‘แต่พอมีพวกเศษเดนเส้นทางนอกรีตเหล่านี้อยู่ แม้พลังจะไม่พอ แต่จำนวนกลับมีมาก พอกระจายกำลังคนออกตามหาอย่างละเอียด พวกเราก็ยากจะซ่อนตัว’
ถึงจะสามารถฆ่าปิดปากจอมยุทธ์เส้นทางนอกรีตที่พบเจอตนสองคนเหมือนอย่างตอนนี้ได้
ทว่าอีกฝ่ายย่อมมีการติดต่อระหว่างกันเอง หากคนหายไปบ่อยๆ ย่อมสังเกตเห็น จากนั้นก็มาค้นหาในอาณาเขตที่ผู้หายตัวไปอยู่
เมื่อเป็นแบบนี้ การหยุดอยู่ในสถานที่สักแห่งเพื่อซ่อนร่องรอย ตั้งรับรอกการช่วยเหลือกลับไม่เหมาะสมแล้ว
คนของโถงเซียนที่เป็นผู้นำในการออกค้นหาบริเวณนี้ ถึงอย่างไรก็เป็นเซียนกำเนิดสุญญตาคนหนึ่ง หนำซ้ำยังมีกษัตริย์เซียนลี้ลับอยู่ด้วย
ฝ่ายตนตอนนี้บาดเจ็บสาหัส ไม่อาจพัวพันกับอีกฝ่ายได้มากเกินไปจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีจางปู้ซวีคอยจ้องตาเป็นมันอยู่
แม้เขาจะเป็นเป้าหมายของโถงเซียนเช่นกัน แต่เปรียบเทียบกันแล้ว เขาสามารถสลัดรอดจากการไล่ล่าของโถงเซียนได้ง่ายกว่าพวกเนี่ยจิงเสิน
ภายใต้ความจนปัญญา เนี่ยจิงเสินได้แต่พาอวี่เยี่ยหนีการไล่ล่าของจางปู้ซวีกับโถงเซียน
คนทั้งสองเหาะเหินตลอดทาง ทว่าครั้งนี้คนของโถงเซียนที่มุ่งมามีมากมาย ภายใต้การค้นหาอย่างต่อเนื่อง ก็บีบอัดพื้นที่เคลื่อนไหวของพวกเนี่ยจิงเสิน เส้นทางการเคลื่อนไหวที่พวกเขาเลือกได้ยิ่งมายิ่งน้อยลง
หลังจากผ่านการเดินทางอันแสนยาวไกล เนี่ยจิงเสินพลันขมวดคิ้ว เขาเพ่งตามองไกลๆ ความว่างเปล่าที่อยู่ตรงนั้นมองดูผิดปกติสุดขีด
ความว่างเปล่าในจักรวาลเดิมทีเป็นสีดำสนิท ทิศทางนั้นก็เป็นสีดำเช่นกัน ทว่ากลับปรากฏความรู้สึกดำเมี่ยมเป็นมันวาวชนิดหนึ่ง
ความแวววาวชนิดนี้ไม่ได้อ่อนโยน มอบความรู้สึกสกปรกแก่ผู้คน
‘…ชายฝั่งยมโลก’ เนี่ยจิงเสินขมวดคิ้วมุ่นกว่าเดิม
ก่อนหน้านี้ไม่นานเพิ่งต่อสู้กับจอมมารแห่งนพยมโลกไป กลับคิดไม่ถึงว่าตอนนี้กลับใกล้ถึงดินแดนของนพยมโลกแล้ว
เขตมารนพยมโลกเป็นประโยชน์ต่อการซ่อนตัวจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นจางปู้ซวีหรือคนจากโถงเซียน หากคิดจะหาพวกเขาในนพยมโลกมีความยากยิ่งกว่ายาก
ทว่าถ้าทำได้ เนี่ยจิงเสินไม่คิดจะเข้าไปในนพยมโลกเด็ดขาด
อาการบาดเจ็บในตอนนี้ของอวี่เยี่ยก็ไม่เป็นผลดีต่อการเคลื่อนไหวในนพยมโลกเช่นกัน
นางมีจิตใจแน่วแน่ ไม่กลัวการกัดกินจากมารรร้าย แต่ว่าอาการบาดเจ็บสาหัสฉกรรจ์เกินไป หากถูกปราณมารลามใส่ก็ย่อมฟื้นฟูยากกว่าเดิม
เนี่ยจิงเสินหันกลับไปมอง ความว่างเปล่าไกลออกไปมืดมิด ทว่าก็มีกลิ่นอายของยอดฝีมือเดี๋ยวโผล่เดี๋ยวสูญหาย
เขาส่ายหน้า พาอวี่เยี่ยเคลื่อนไหวเลียบขอบชายฝั่งยมโลก ตัดไปด้านข้าง
ความหวังในตอนนี้ของพวกเขาได้แต่ฝากไว้ที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอ ขอให้สามารถรีบออกค้นหา พบเบาะแสสัญลักษณ์ที่พวกเขาได้ทิ้งเอาไว้ แล้วช่วยเหลือได้ก่อนอีกฝ่ายก้าวหนึ่ง
…
มีคนที่เจอสัญลักษณ์ที่เนี่ยจิงเสินได้ทิ้งเอาไว้จริงๆ
นักพรตหนุ่มสวมเสื้อคลุมเต๋า แต่ไม่ได้มัดผม หากแต่ปล่อยสยาย โบกมือในความว่างเปล่า
ประกายกระบี่หลายสายไม่สลายเนิ่นนาน ทิ้งร่องรอยเอาไว้
จากนั้นประกายกระบี่ก็ดึงดูดแสงเป็นจุดๆ ของดวงดาวจำนวนมากซึ่งอยู่รอบๆ เข้ามาใกล้ที่นี่
แสงดาวรวมกับประกายกระบี่ ร่องรอยบิดเบี้ยวเปลี่ยนแปลง เริ่มประกอบกันเป็นตราอาคมอันใหม่โดยสิ้นเชิง
นักพรตหนุ่มเห็นดังนั้นก็ยื่นมือออกมาแตะอีกรอบ ตราอาคมขยายออกมา กลายเป็นม่านน้ำบริเวณหนึ่ง คาถาอาคมกว่าง ส่งข้อมูลออกมา
‘กษัตริย์อนันต์…เส้นทางนอกรีต...’ นักพรตหนุ่มอ่านเสร็จ สีหน้าเปลี่ยนแปลง
เขารีบหยิบยันต์กระดาษใบหนึ่งออกมา เตรียมจะเผา
แต่ว่าก่อนจะเผา การเคลื่อนไหวของนักพรตหนุ่มชะงักลงเล็กน้อย ขณะมองยันต์กระดาษ ดวงตาปรากฏความลังเลอยู่เลือนราง
หลังจากลังเลสักพัก การเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้าไปบ้าง สุดท้ายยังเผายันต์กระดาษ
ยันต์กระดาษลุกไหม้เป็นควันสีเขียว ค่อยๆ ผนึกตัวเป็นรูปเป็นร่าง
แสงไฟส่องใบหน้าของเขา บัดเดี๋ยวมืดบัดเดี๋ยวสว่าง
ก่อนที่ควันเขียวจะผนึกกลายเป็นรูปร่าง เขาพลันดับไฟบนยันต์กระดาษ
นักพรตหนุ่มมองยันต์กระดาษ จากนั้นก็มองม่านแสงที่เกิดขึ้นจากสัญลักษณ์ที่เนี่ยจิงเสินทิ้งไว้กลางความว่างเปล่า สายตาของเขาเลื่อนไปเลื่อนมาระหว่างสองอย่าง เงียนงันอยู่เนิ่นนาน
สุดท้าย พร้อมกับที่การเคลื่อนไหวของเขายิ่งมายิ่งเชื่องช้า สายตาของนักพรตหนุ่มก็หยุดอยู่บนม่านแสง
แสงสว่างส่องต้องแก้มของเขาจนพร่ามัว มองไม่เห็นสีหน้า
นักพรตหนุ่มค่อยๆ เก็บยันต์กระดาษ จากนั้นก็ยื่นนิ้วของตัวเองออกมา
ในตอนกำลังจะสัมผัสม่านแสง นิ้วของเขาก็หยุดลง
ครู่ต่อมา ในที่สุดนิ้วก็ยื่นออกมาแตะกับม่านแสงอีกครั้ง
ม่านแสงหุบลง เปลี่ยนกลับเป็นตราอาคม ลอยนิ่งอยู่กลางความว่างเปล่า
นักพรตหนุ่มค่อยๆ โบกมือ สายหมอกจางๆ ชั้นหนึ่งปรากฏขึ้น กลบตราอาคมไว้
เขาระบายลมหายใจออกยาวๆ หมุนตัวอย่างรีบเร่ง ไม่หันกลับมามองอีก ออกจากที่นี่ด้วยความเร็วสูง
พอไปได้สักพัก สีหน้าของเขาพลันสั่นไหวเล็กน้อย ชะงักอยู่กับที่
ผ่านไปครู่หนึ่งแล้วนักพรตหนุ่มถึงเคลื่อนไหวต่อ ค้นหาในบริเวณใกล้ๆ เจอตราอาคมที่เนี่ยจิงเสินทิ้งไว้อีกชิ้นหนึ่ง
หลังความเงียบงันช่วงสั้นๆ เขาก็ทำเหมือนเดิม เปิดตราอาคมออก จากนั้นใช้หมอกบางๆ คุมไว้
เมื่อทำเสร็จแล้วเขาก็ไม่หยุดลง ค้นหาในบริเวณแห่งนี้อย่างละเอียดอีกชั่วขณะ เจอตราอาคมอีกหลายชิ้น แล้วก็จัดการครั้งแล้วครั้งเล่า
พอสัมผัสได้ว่าใกล้ๆ มีกลิ่นอายของยอดฝีมือคนอื่นๆ ปรากฏ หนักพรตหนุ่มก็ซ่อนร่องรอย ไม่หยุดอยู่อีก จากไปอย่างเงียบเชียบ