ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1488 สงครามบนพยมโลก
หลังจากเข้าไปในเขตมารนพยมโลก หมอกสีดำที่กะพริบแสงสีเลือดพรั่งพรู กั้นเสียงมหามรรคาที่เกิดขึ้นจากจ้าวสวรรค์จากโถงเซียนซึ่งอยู่ด้านนอกนพยมโลก
การเคลื่อนไหวของเนี่ยจิงเสินพลันกลับเป็นอย่างเดิม
ทว่าอีกด้านหนึ่ง สีหน้าของอวี่เยี่ยซีดขาวกว่าเดิม ลมปราณอ่อนแอลงหลายส่วน
เนี่ยจิงเสินก็ไม่ได้ดีกว่า ในสถานการณ์ที่ได้รับบาดเจ็บ ต้องผ่านการต่อสู้เลวร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า สภาพร่างกายของเขายังย่ำแย่ยิ่งกว่า
ทว่าไม่รอให้พวกเขาระบายลมหายใจ พวกเซียนลี้ลับและเซียนจริงแท้ของโถงเซียนซึ่งอยู่ด้านนอก หลังจากลังเลอยู่ชั่วครู่ ในที่สุดก็ติดตามเข้ามาในเขตมารนพยมโลก
เนี่ยจิงเสินพาอวี่เยี่ยหนีอย่างรวดเร็ว แต่พวกคู่ต่อสู้ก็ยังคงติดตามอยู่ด้านหลัง
ในชายฝั่งยมโลก นอกนพยมโลก จางปู้ซวีที่โจมตีเยว่เจิ้นเป่ยกับจ้าวสวรรค์เส้นทางนอกรีตผู้นั้นพลันออกกระบวนท่าลวง ฉวยโอกาสตอนที่จ้าวสวรรค์เส้นทางนอกรีตผู้นั้นโจมตีเยว่เจิ้นเป่ย กลับเปลี่ยนทิศทาง
ภายใต้ประกายกระบี่สีแดงก่ำของกระบี่ลวงเซียนที่ส่องระยับ จางปู้ซวีพุ่งเข้าไปในนพยมโลกเช่นกัน!
ขณะนี้แม้นว่ายอดฝีมือจอมมารระดับสุดยอดอย่างมารจิตแรกเริ่มกับมารไม้อิกต่างไม่อยู่บนนพยมโลก ทว่าพอพวกเนี่ยจิงเสินทะลวงเข้ามาด้านใน เหล่ามารที่อยู่ใกล้ๆ ในนพยมโลกต่างก็สัมผัสได้ จึงมีมารหลายตัวพากันไล่ตามมา เล็งเป้าหมายไปที่พวกเนี่ยจิงเสินที่ทะลวงเข้ามา สร้างการขัดขวาง
พร้อมกับที่เวลาผ่านไป ในที่สุดเนี่ยจิงเสินกับอวี่เยี่ยที่ฝีเท้าไม่หยุดลงก็ตกเข้าสู่วงล้อมอีกครั้ง
กษัตริย์และจักรพรรดิจากโถงเซียนล้อมเข้ามา
เนี่ยจิงเสินใบหน้าดุจเหล็กกล้า ไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย อาศัยกระบี่ตั้งรับ
ประกายกระบี่หลายสายเปลี่ยนแปลง สานกันเป็นรั้ว ทั้งโจมตีทั้งป้องกัน ขัดขวางศัตรูที่บุกมา
ถึงจะได้รับบาดเจ็บสาหัส ทว่ายามที่เนี่ยจิงเสินออกกระบี่ก็ยังคงรอบคอบรัดกุมดุจน้ำลึกเขาตระหง่าน ต่อให้คนจากโถงเซียนจะกลุ้มรุมอย่างไร ในช่วงสั้นๆ นี้ก็ไม่อาจเข้าใกล้ได้
กษัตริย์โถงเซียนคนหนึ่งเห็นดังนั้น ในใจเริ่มหมดความอดทน ตวาดขึ้นว่า “ไม่ต้องปรานี ไม่อย่างนั้นอาจถูกพวกเขาหนีได้!”
อีกฝ่ายพูดจบก็โจมตีหนึ่งกระบวนท่าทันที เนี่ยจิงเสินโต้ตอบ กษัตริย์โถงเซียนผู้นี้ไม่ถอยหากรุกคืบ ใช้ระดับสงบนิ่งของตัวเองที่ไม่กลัวการโจมตีของเซียนจริงแท้เป็นที่พึ่ง ต้านการโจมตีของเนี่ยจิงเสินอย่างหักโหม
ขณะเดียวกัน การโจมตีของเขายังคงพุ่งเข้าหาเนี่ยจิงเสิน เห็นได้ชัดว่าต้องการใช้วิธีต่อสู้ที่บาดเจ็บทั้งสองฝ่าย
ถึงจะมาจากโถงเซียน วายุเซียนของเซียนลี้ลับสงบนิ่งก็ไม่เกรงกลัวปราณเซียนของเซียนจริงแท้
กษัตริย์โถงเซียนผู้นี้ต้องการใช้ระดับกดข่มคน เลือกใช้วิธีที่แทบไร้ศักดิ์ศรีรับมือเนี่ยจิงเสิน
เนี่ยจิงเสินเก็บกระบี่อย่างรวดเร็ว แสดงความพิสดารของบรรพครรภ์ก่อนกำเนิดออกมาหมดจด การเก็บกระบี่และการออกกระบี่อยู่เหนือระดับเซียนจริงแท้ทั่วไป เปลี่ยนแปลงกระบี่ป้องกันการจู่โจมของอีกฝ่าย ทำให้แผนการของอีกฝ่ายกลายเป็นเงาฟอง
ทว่ามีกษัตริย์โถงเซียนคนอื่นเลียนแบบ ทำอย่างเดียวกัน กลุ้มรุมเนี่ยจิงเสินดุจพายุบุแคม
เซียนลี้ลับเส้นทางนอกรีตคนหนึ่งในนี้อำมหิตเป็นพิเศษ เปลี่ยนแปลงกระบวนท่ากลางทาง เล็งเป้าหมายไปที่อวี่เยี่ยที่บาดเจ็บสาหัสกว่า เพื่อก่อกวนให้เนี่ยจิงเสินโจมตีช่วยเหลือ กดดันให้ชายหนุ่มเกิดข้อผิดพาด
เนี่ยจิงเสินขมวดคิ้ว สูดหายใจลึกแล้วพลิกมือส่งกระบี่ออกไป แยบยลถึงที่สุด ปัดป้องดาบยาวของอีกฝ่าย
ในขณะเดียวกันนั้นเขาเคลื่อนไหวร่าง หลบพลางจู่โจมพลาง พร้อมกับที่หลบการโจตีจากกษัตริย์โถงเซียนคนหนึ่งก็ออกอีกหนึ่งกระบี่ ต้านทานกษัตริย์โถงเซียนคนที่สาม
ทว่าทันใดนั้นมีเงาร่างสองสายเข่นฆ่าออกมาจากในที่ลับ กลับเป็นเซียนจริงแท้เส้นทางนอกรีตสองคน
เนี่ยจิงเสินสู้ศัตรูพวกมากต่อเนื่อง กระบวนท่าเริ่มซ้ำกัน ร่างหยุดนิ่งเล็กน้อย อีกฝ่ายจู่โจมมาแล้ว
เขาพลันหันหน้าไปถลึงตาตวาดขึ้น พ่นปราณสีขาวหลายสายออกจากปาก พวกมันกลายเป็นประกายกระบี่ที่ดูราวกับอาชาขานควบผ่านอากาศ ต้านทานคู่ต่อสู้ทั้งสอง
ทว่าตอนนั้นเองมีคมกระบี่สีแดงฉานเล่มหนึ่งเสือกส่งออกมาจากในความว่างเปล่าอย่างงเงียบๆ เนี่ยจิงเสินหลบไม่ทัน มันจึงเสียบเข้าไปในชายโครงของเขา!
หมอกสีดำพลิกตัว เผยให้เห็นใบหน้าของจักรพรรดิจากโถงเซียนอีกคนที่จับจ้องเนี่ยจิงเสินด้วยสีหน้าดุร้าย คมกระบี่น่ากลัวในมือเขามุ่งไปด้านหน้าต่อ กำลังจะเฉือนร่างของอีกฝ่าย
“ฮ่า!” กลับได้ยินเนี่ยจิงเสินตะโกนกึกก้อง กระบี่ทะลุฟ้าผ่าศิลาที่ราวกับไร้รูปร่างเสียบเข้าไปในวิญญาณของจักรพรรดิของโถงเซียนผู้นี้ ทำให้หัวสมองของเขาขาวโพลน
การเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายช้าลง เจตจำนงกระบี่ทั่วร่างของเนี่ยจิงเสินระเบิดขึ้น กระแทกคมกระบี่สีแดนฉานนั้นหัก
กระบี่หักสีแดงฉานครึ่งหนึ่งในปากแผลบริเวณชายโครงของเนี่ยจิงเสินถูกพ่นออกมา กลายเป็นสายฟ้าสีแดงฉานสายหนึ่ง ยิงใส่ตัวจักรพรรดิโถงเซียนผู้นั้น!
ตอนเซียนจริงแท้เส้นทางนอกรีตผู้นี้ได้สติกลับมาก็ถลึงตาแทบฉีก คิดจะหลบหลีก แต่ไหนเลยหลบได้
มังกรแหวกว่ายถึงน้ำตื้นถูกกุ้งหยอกล้อ เสือหล่นลงบนที่ราบถูกสุนัขข่มเหง
แต่ต่อให้มังกรและเสือตกต่ำอย่างไร ก็ไม่ใช่ว่าหมาแมวตัวไหนสามารถรังแกได้!
สายฟ้าฟาดสีแดงฉานยิงกลับ แทงทะลุคอของจักรพรรดิโถงเซียนผู้นั้น ศีรษะลอยขึ้น!
ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบเช่นนี้ ยังถูกเนี่ยจิงเสินสังหารสหาย ยอดฝีมือจากโถงเซียนจำนวนมากเดือดดาล โดยเฉพาะกษัตริย์จากโถงเซียนยิ่งอับอายกลายเป็นโทสะ
ภายใต้การกลุ้มรุมอย่างต่อเนื่องของอีกฝ่าย แม้นว่าเนี่ยจิงเสินจะฝืนทนได้ แต่สถานการณ์ยิ่งมายิ่งอันตรายแล้ว
ในที่สุด หลังจากเขาสังหารเซียนจริงแท้เส้นทางนอกรีตอีกคน การโจมตีจากเซียนลี้ลับคนหนึ่งก็ถูกใส่ตัวเขา
ร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บอยู่แล้วเสียหายหนักกว่าเดิม บาดเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยากจะป้องกันได้อีก
รอยแตกบนเขื่อนที่กั้นน้ำยิ่งมายิ่งใหญ่ สุดท้ายก็พังทลาย
ภายใต้สภาวะโจมตีอย่างมืดฟ้ามัวดินของอีกฝ่าย ในที่สุดสภาวะกระบี่ของเนี่ยจิงเสินก็บังเกิดรอยโหว่ ถูกคนโจมตีโดน
ประกายดาบมาถึง เหมือนขุนเขาหลายลูกกดทับศีรษะ กลิ่นอายที่นำพาความตายช่างน่ากลัว
เนี่ยจิงเสินที่เป็นธนูแรงปลาย ประกายดาบยังคงไม่ถูกตัวจริงๆ เพียงแต่พายุที่มาถึงก่อนเหมือนกับคมดาบที่จับต้องได้ เฉือนเลือดเนื้อของเขา
“จิงเสิน!” อวี่เยี่ยลืมตาอย่างอ่อนล้า ดวงตาฉายแววแน่วแน่
ในสองตาของนางปรากฏสภาพโกลาหลสูญอีกครั้ง เหมือนกับจุดจบของสรรพเรื่องราว สรรพวัตถุ สรรพมรรคา แสงสว่างสายหนึ่งที่ไม่งดงามละลานตา แต่ว่าสั่นสะเทือนจิตใจ พลันเบ่งบานขึ้นกลางผู้คน!
บุปผากระบี่วันสิ้นโลกที่น่ากลัวทำลายประกายดาบหลายชั้นที่เหมือนกับขุนเขากดทับศีรษะนั้นทิ้ง
ทำลายดาบวิเศษในมือของอีกฝ่าย
ทำลายมือที่กำดาบข้างนั้นของอีกฝ่าย
สุดท้ายก็ทำลายเจ้าของมือข้างนั้น!
ทุกคนแตกตื่นตะลึงลาน เห็นกษัตริย์โถงเซียนคนหนึ่งตายด้วยประกายกระบี่ที่สิ้นสูญนั้น ตายด้วยมือของเซียนจริงแท้คนหนึ่ง
ในบรรดาคนที่อยู่รอบๆ มีแต่เนี่ยจิงเสินที่ไม่งุนงงสงสัย เขาสองตาเป็นสีแดงฉาน กัดฟันกรอด อาศัยสภาวะโต้ตอบสุดชีวิต
ประกายกระบี่ขยายตัว กวาดทั่วสี่ทิศ สังหารเซียนจริงแท้เส้นทางนอกรีตที่ก่อนหน้ายังมีสภาวะดุร้ายคิดจะอาศัยช่องโหว่มากมาย
ในเขตมารที่น่ากลัวปรากฏอสุรภูมิที่คาวเลือดกว่าเดิม
เนี่ยจิงเสินเหมือนกับภูตเทพเปื้อนเลือด ระหว่างส่งเสียงตวาด เขาโอบกอดอวี่เยี่ยพุ่งฝ่าจากวงล้อม ออกห่างไปในพริบตา
สภาวะของคนจากโถงเซียนพลันถูกพวกเขาสองคนช่วงชิง ถึงกับโดนพวกเขาฝ่าไปได้
ครู่ต่อมา ยอดฝีมือเส้นทางนอกรีตกลุ่มหนึ่งได้สติ แตกตื่นตกใจ อับอาย และขุ่นข้อง
เวลานี้เอง ไกลออกไปมีเสียงพิณดังขึ้น ประกายกระบี่สายหนึ่งแหวกหมอกมาร กลับเป็นจางปู้ซวีไล่ตามมาถึง ไม่ได้หยุดลง ไล่ล่าเนี่ยจิงเสินกับอวี่เยี่ยต่อ
“โจรน้อยเส้นทางนอกรีตสองคนนั้นเป็นตะเกียงสิ้นน้ำมัน[1]แล้ว!” คนจากโถงเวียนมองหน้ากัน รีบร้อนตามไป
เขตมารนพยมโลกเปลี่ยนเป็นคาวเลือดน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมเพราะผู้มาจากภายนอก
………………..
[1] ตะเกียงสิ้นน้ำมัน สุภาษิตจีน หมายถึง คนที่ไม่มีความน่ากลัว คนที่หมดสภาพ