ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1493 ที่อยู่ของเฮ่อเหมี่ยน
ตอนแรกเป็นคนในโถงเซียนออกค้นหา หมายจะจับกุมจอมยุทธ์สำนักเต๋าสายหลักที่อยู่ตัวคนเดียว
ขณะนี้จุดยืนของทั้งสองฝ่ายกลับสลับกัน พวกเยี่ยนจ้าวเกอเริ่มค้นหาจอมยุทธ์โถงเซียนที่อยู่ใกล้ๆ
ครั้งนี้ทางโถงเซียนมีเซียนกำเนิดสองคนออกโรง แต่ว่าคนหนึ่งในนี้เสียท่าด้วยมือของพวกเยี่ยนจ้าวเกอ
คนในเส้นทางนอกรีตคนอื่นๆ หลังจากได้รับข่าวต่างเริ่มรวมตัวกัน พวกเขาเดิมทีต่อสู้กันบนแดนสุขาวดีบัวขาว ยากจะส่งคนมามากกว่านี้ ตอนนี้เสียเปรียบ ทั้งยังไม่เห็นโอกาสจับปลาตอนน้ำขุ่น จึงเกิดความคิดถอยหนี
แต่ว่าขณะนี้พวกเยี่ยนกลับไม่ปล่อยปละละเว้นพวกเขา เริ่มค้นหาไล่ล่าไม่หยุด
อย่างเหนือความคาดหมาย ไม่ทันไรพวกเขาก็พบที่อยู่ของพวกจ้าวสวรรค์อัสนีเขียว
เป็นเพราะว่าอีกฝ่ายกำลังเกิดความขัดแย้งกับคนอื่นๆ ฝีมือสูสี ต่อสู้กันยากแยกแยะ
ในตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอรุดไปถึง เขาเห็นตรงหน้าเป็นสายฟ้าเขียวผืนหนึ่งกระจายถี่ยิบ กว้างใหญ่ไร้ขอบเขต
เทียบกับอานุภาพครอบคลุมทั่วฟ้า เหมือนกับผู้ปกครองแห่งหมื่นอัสนีแล้วของโลกที่จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋สร้างขึ้นแล้ว เซียนกำเนิดจากเส้นทางนอกรีตผู้นี้ย่อมสู้ไม่ได้ เหมือนกับหิ่งห้อยที่อยู่ต่อหน้าดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
แต่ว่าบนทะเลสายฟ้าไกลๆ กว้างใหญ่ไร้ขอบเขตมีสายฟ้าระเบิดขึ้นด้านในเป็นระยะ ราวกับนรกอัสนีผืนหนึ่ง ทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญแขวน
ในทะเลสายฟ้าเห็นเงาแสงหลายสายกำลังบินอยู่ไม่หยุด
เยี่ยนจ้าวเกอเพ่งตามองไป เห็นเงาแสงสองสายนั้นเป็นเผ่าปีศาจสองตน ตนหนึ่งในนี้รูปร่างคล้ายนกกระเรียนมงกุฎแดง แต่กลับมีขาข้างเดียว ตัวเป็นสีน้ำเงิน บนผิวมีลายสีแดง จะงอยปากยาวๆ เป็นสีขาว
นกประหลาดตัวนี้มีแสงสีแดงกะพริบอยู่ทั่วร่าง กลับไม่เห็นเปลวเพลิง อุณหภูมิอันร้อนแรงที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกไม่ดี ราวกับเป็นสัญญาณของอัคคีภัย
แสงสีแดงร้อนแรงปะทะกับสายฟ้าที่อยู่รอบๆ อย่างต่อเนื่อง ถึงกับคล้ายไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เหี้ยมหาญเป็นพิเศษ
เป็นวิหคเทพที่มีชื่อว่าปี้ฟาง
ปีศาจอีกตนหนึ่งมีรูปร่างเหมือนหมาป่า ร่างครึ่งบนเหมือนหมาป่า ด้านล่างเป็นคน ทั่วร่างเป็นขนสีดำวาว ลูกตาแดงฉาน กลืนกินหมอกสีดำหลายสายไม่หยุด
ปราณปีศาจของเขาแข็งแกร่งสู้ปี้ฟางที่อยู่ด้านข้างไม่ได้ จึงถูกสายฟ้าเขียวห้อมล้อม เกิดสภาพกันซ้ายโหว่ขวาอยู่บ้าง
แต่พอมีปี้ฟางที่อยู่ด้านข้างคอยช่วยเหลือก็รับมือได้ชั่วขณะ
ระดับพลังของปีศาจสองตนนี้ต่างเทียบได้กับยอดฝีมือมรรคายุทธ์ระดับเซียนลี้ลับสงบนิ่งของสำนักเต๋า
จ้าวสวรรค์อัสนีเขียวอาศัยระดับกดทับคน ยังรุกถอยได้ตามใจ
แต่ว่าปี้ฟางตนนั้นเหี้ยมหาญจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะวายุปีศาจของเขาทำอะไรร่างห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิดของเซียนกำเนิดไม่ได้ แรงกดดันของจ้าวสวรรค์อัสนีเขียวจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ที่แล้วมาเผ่าปีศาจช่วยเหลือแดนสุขาวดีบัวขาว ก่อนหน้านี้ได้เจอจ้าวสวรรค์อัสนีเขียวจากโถงเซียนโดยไม่ได้ตั้งใจ สองฝ่ายพลันทำสงครามกัน
ในตอนที่พวกเขากำลังสู้รบอย่างดุเดือด พวกเยี่ยนจ้าวเกอพลันปรากฏกาย สองฝ่ายที่สู้กันอยู่แตกตื่น
ไม่รอพวกเขาตอบสนอง เยี่ยนจ้าวเกอก็สืบเท้าออกก้าวหนึ่ง เข่นฆ่าเข้าสนามรบ
“ข้ามาหาเศษสวะเส้นทางนอกรีตผู้นี้ ผู้ไม่เกี่ยวข้องจงหลบไปด้านข้าง” เยี่ยนจ้าวเกอจ้องมองจ้าวสวรรค์อัสนีเขียว กล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
ถึงแม้จะเป็นคนที่กำลังสู้กับโถงเซียนอยู่ แต่ปีศาจสองตนก็ยังถูกสะกดความโกรธเพราะวาจาไร้ความเกรงใจเช่นนี้
ทว่าหลังจากที่พวกเขาเห็นเยี่ยนจ้าวเกอใช้ธงเบิกนภาทำลายทะเลสายฟ้า คำผรุสวาจที่มาถึงมุมปากก็เลี้ยวกลับเข้าไปในคอใหม่
“ตามสบาย” ปีศาจสองตนไม่กล่าวมากความ ออกจากวงต่อสู้ หลบไปอยู่ห่างๆ
จ้าวสวรรค์อัสนีเขียวด่าทอในใจ
ถ้าหากไม่ใช่เพราะถูกปีศาจสองตนนี้ขัดขวางอย่างเหนือความคาดหมาย เสียเวลาไปมากมาย เขาคงออกจากจักรวาลแห่งนี้ได้แต่แรก ไม่ถูกพวกเยี่ยนจ้าวเกอไล่ตามทัน
ขณะนี้ในเมื่อถูกตามทันแล้ว จ้าวสวรรค์อัสนีเขียวก็มีแต่ต้องปลุกปลอบจิตใจ
“มารร้ายเส้นทางนอกรีตเป็นหนูตะเภาเดียวกัน อีกไม่นานพวกเจ้าต้องพบทัณฑ์สวรรค์!” เขาแค่นเสียงคำหนึ่ง ร่างกลายเป็นสายฟ้า ถูกห่อหุ้มในสายฟ้าเขียวหลายสายก่อนจะกระจายไปรอบๆ
เยี่ยนจ้าวเกอมองภาพนี้อย่างเย็นชา ยกฝ่ามือขึ้น สองมือประกบกันตรงกลาง
ในความว่างเปล่ารอบๆ พลันเกิดเสียงสายฟ้าดังขึ้นเช่นกัน
ทั่วทั้งจักรวาลถึงกับสั่นสะเทือนพร้อมกัน เหมือนกับกลายเป็นสายฟ้าที่ไร้รูปร่าง กระจัดกระจายไปทั่วสี่ทิศ รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน หยุดแสงสายฟ้าสีเขียวหลายสายที่กระจายไปรอบๆ ไว้ตรงกลาง
“สายฟ้าอนัตตา?” สายฟ้าเขียวรวมตัวกันใหม่ ปรากฏเป็นรูปร่างของนักพรคคนหนึ่ง สีหน้าภายใต้การส่องแสงสายฟ้าดูแย่สุดเปรียบปาน
เยี่ยนจ้าวเกอระเบิดสายฟ้าอนัตตา พลันกระแทกเขากลับมายังตำแหน่งที่อยู่ก่อนหน้า
จ้าวสวรรค์อัสนีเขียวไม่ทันกล่าวประโยคที่สอง เยี่ยนจ้าวเกอสืบเท้าออกก้าวหนึ่ง บรรลุถึงตรงหน้าแล้วยกมือขึ้นฟาดใส่ศีรษะของเขา
พลังอันน่ากลัวชนิดพลิกฟ้าคว่ำฟ้าดินครอบคลุมรอบๆ ทำให้เซียนกำเนิดผู้ยิ่งใหญ่อย่างจ้าวสวรรค์อัสนีเขียวเกิดความรู้สึกหลบไม่พ้น
ถึงจะมาจากเส้นทางนอกรีต แต่พลังฝึกปรือสามารถบรรลุถึงระดับเซียนกำเนิดได้ย่อมไม่ใช่ชนชั้นธรรมดา
ยามเผชิญกับรอยตราพลิกนภาที่ยิ่งใหญ่เกรี้ยวกราดของเยี่ยนจ้าวเกอ จ้าวสวรรค์อัสนีเขียวเจออันตรายแต่ไม่ลนลาน สายฟ้าสีเขียวหลายสายในอากาศรวมตัวกันที่ตัวเขา หลังผนึกรวมเป็นเส้นเดียว แสงสายฟ้าทั้งหมดก็รวมกันเป็นหนึ่งสาย เหมือนกับหอกยาวที่ทะลุทะลวงท้องฟ้าเล่มหนึ่ง ทิ่มแทงใส่กลางฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอใบหน้าไร้อารมณ์ เหมือนกับกลายร่างเป็นราชาเทพบุพกาล ยกเขาเทพขึ้นฟาดลงใส่
ในสายตาของจ้าวสวรรค์อัสนีเขียว ครั้งนี้เหมือนกับฟาดฟากฟ้าแหลกสลาย ฟาดผืนดินพังทลาย ฟาดจักรวาลป่นปี้ ฟาดธรรมชาติจนหายไป
รอยตราพลิกนภากับหอกยาวแสงสายฟ้าปะทะกันกลางอากาศ รอยตราพลิกนภาชะงักไปพริบตาหนึ่ง
ความคมกล้าของหอกยาวแสงสายฟ้าเล่มนั้นระเบิดออก แล้วหายไป
หลังจากการชะงักในชั่วอึดใจ รอยตราพลิกนภาก็ร่วงหล่นต่อ ยังคงพุ่งเข้าหาจ้าวสวรรค์อัสนีเขียว!
จ้าวสวรรค์อัสนีเขียวตื่นตระหนก รีบร้อนหลบไปด้านข้าง
ทว่าถึงแม้จะมีหอกยาวแสงสายฟ้าขวางไว้ จ้าวสวรรค์อัสนีเขียวยังคงหลบไม่พ้น รอยตราพลิกนภาของเยี่ยนจ้าวเกอกระแทกใส่ไหล่ของจ้าวสวรรค์อัสนีเขียวจนสั่นไหวไปทั่วร่าง
ร่างห้าปราณมุ่งสู่กำเนิดเสริมพลัง แม้นว่าจ้าวสวรรค์อัสนีเขียวจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนกับพลังที่หนักไร้สิ้นสุดกดทับบนร่างของตัวเองอยู่ชั่วขณะ
เหมือนกับในฟากฟ้ากลางจักรวาลนี้พลันเพิ่มเสาต้นหนึ่ง ปลายด้านหนึ่งค้ำยันจักรวาลกว้างใหญ่ ปลายอีกด้านกลับกดลงบนร่างเขา สะกดเขากับพื้น จนยากจะเคลื่อนไหว
เยี่ยนจ้าวเกอมองเขาอย่างเย็นชา ราวกับมองดูคนตายคนหนึ่ง
กระบี่เนรเทศเซียนฟันลง จ้าวสวรรค์อัสนีเขียวพลันตกสู่ระดับเซียนลี้ลับ
แรงกดดันไร้สิ้นสุดที่เมื่อครู่สะกดจนเขากระดิกกระเดี้ยไม่ได้ ทำให้เจ็ดทวารของเขาฉีกออก รูขุมขนทุกจุดมีเลือดพ่นออกมา!
“มารร้ายเส้นทางนอกรีต เจ้ากล้าสังหารข้า?” จ้าวสวรรค์อัสนีเขียวเผชิญกระบี่เนรเทศเซียน แตกตื่นตะลึงลาน
“ในการไล่ล่า ศิษย์พี่เนี่ยกับศิษย์พี่อวี่มีพวกท่านอยู่ด้วย ท่านถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องพบกับเส้นทางตาย” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยอย่างเย็นชา “เฮ่อเหมี่ยนนั่นที่ท่านจับไว้ก็เป็นเหมือนกัน”
จ้าวสวรรค์อัสนีเขียวดิ้นรนพลางกล่าวด้วยรอยยิ้มแปลกประหลาด “เจอปีศาจสองตนนี้ ข้าอยู่รั้งท้ายที่นี่ พัวพันกันจากไปไม่ได้ แต่ว่าผู้เยาว์แซ่เฮ่อนั่น ตอนนี้ถูกส่งกลับโถงเซียนของข้าแล้ว เจ้าคิดสังหารเขา? หากกล้าก็ไปโถงเซียนเสีย ต่อให้เจ้าไปแล้วจะไม่ได้ก็ตาม” ถึงเจ้าจะมีพลังแข็งแกร่ง กลับยังเป็นแค่เซียนลี้ลับสงบนิ่ง ยังจะทำอะไรได้ อยู่ที่นี่เจ้าสามารถแสดงพลังอำนาจได้ หากไปถึงบนถิ่นของโถงเซียน อย่าว่าแต่เทวกษัตริย์ไร้ประมาณเลย แค่เทวกษัตริย์กับสหายร่วมเส้นทางจำนวนมากคอยคุ้มกัน เจ้าจะยังโอหังได้อีกหรือ”