ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1499 เทพนิยายปรากฏ!
พระพุทธเจ้าสีน้ำเงินย่อมเป็นบุญกุศลพุทธะ ท่านมองวานรปีศาจสามตนตรงหน้า เอ่ยปากถามว่า “วันนี้มหาเทวะเสมอฟ้าสบายดีหรือ”
ขณะที่พูด แสงสว่างหลายสายทะลักออกมาจากปากของท่าน ถึงกับกลายเป็นดอกบัวหลายดอกกลางอากาศ
มีคำกล่าวว่า วาจาไพเราะดุจดั่งดอกบัว วินาทีนี้เป็นภาพอันน่าอัศจรรย์ที่เห็นได้จริงๆ
ดอกบัวหลายดอกกระจายไปกลางอากาศ ขวางตรงหน้าวานรปีศาจที่เกิดจากพวกเยี่ยนจ้าวเกอ
กายทองมหาเทวะที่เกิดจากร่างของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกนำหน้า พลิกตัวกระโดด เตรียมจะกระโจนข้ามทะเลดอกบัว
“ประสกมีโทสะเช่นนี้ มิสู้อย่าได้พบหน้า แยกย้ายไปคนละทางเถอะ” บุญกุศลพุทธะเอ่ยขึ้น
ดอกบัวดอกแล้วดอกเล่าวางขวางกลางอากาศ เยี่ยนจ้าวเกอพบว่ากายทองมหาเทวะที่ตนสร้างขึ้น ถึงกับถูกดอกบัวสกัดไว้ ไม่อาจเข้าใกล้บุญกุศลพุทธะ
ดอกบัวนั้นไม่เหมือนกับเปลี่ยนแปลงมิติเวลาตลอดเวลา แต่ว่าบิดเปลี่ยนหลักการบางอย่างของโลก เกิดประสิทธิผลอย่างในตอนนี้
พอกล่าว ‘มิสู้อย่าได้พบหน้า’ ทั้งสองฝ่ายก็ไม่เห็นกันจริงๆ
พอกล่าว ‘แยกย้ายไปคนละทาง’ พวกเยี่ยนจ้าวเกอตรงหน้าก็มีดอกสวรรค์ร่วงหล่นเกลื่อนกล่าน ถูกดอกบัวมากมายนั้นล้อมรอบ คิดโยนพวกเขาลงไปจากสวรรค์
“พุทธบุตรวาจาไพเราะนัก!” เยี่ยนจ้าวเกอถอนใจชมเชย
เรื่องที่แตกต่างกันมากที่สุดเกี่ยวกับยุคไซอิ๋วโบราณตอนกลางในโลกใบนี้ กับภาพทรงจำของตน ไม่ใช่มหาเทวกษัตริย์หยกไม่โง่งม ถึงอย่างไรนอกจากในละครแล้ว ตนก็เคยอ่านเรื่องราวในนิยายเล่มอื่นๆ มาก่อน
ส่วนที่แตกต่างที่สุดอยู่ที่ ‘พระถัง’ ในโลกใบนี้ เป็นพระอาจารย์ซำจั๋งพุทธบุตรที่ก่อนบุญกุศลพุทธะจะกลายเป็นพระพุทธะ มีวิชาฝีมือและการฝึกปรือเหี้ยมหาญอย่างแท้จริง ไม่ใช่ตัวไร้ประโยชน์ในภาพความทรงจำของเยี่ยนจ้าวเกอ
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่พระถังกล้ามเป็นมัดๆ ที่พูดว่า ‘หงอคงโยมถอยไป ให้อาตมาเอง’ อย่างในมุกตลกร้าย แต่สามารถถูกยกย่องเป็นพระอาจารย์ซำจั๋งแห่งพุทธบุตรได้ ก็เป็นคนรุ่นหลังผู้โดดเด่นที่สุดของศาสนาพุทธในสมัยนั้นจริงๆ
ความน่าอัศจรรย์ในหลักพระธรรมของวาจาไพเราะดุจดอกบัวของท่าน แม้แต่เซียนกับมารต่างหลบหลีก
ไม่ใช่กล่าวพร่ำพิไรที่เหมือนคำพูดล้อเล่น แต่คล้ายวาจาพอเปล่งกฎเกณฑ์ก็ติดตามอย่างแท้จริง สามารถพูดจนคนตาย หากเจอศัตรูในระดับเดียวกัน ถึงขั้นมีฝีปากไร้เทียมทาญโดยแท้
“แต่ว่าต่อให้ยามปกติจะพูดดี คนว่ายน้ำก็จมน้ำตายได้เช่นกัน พระภิกษุท่านระวังตนจะตกนรกถอนลิ้น” วานรปีศาจที่เกิดจากร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกส่งเสียงกู่ร้อง จากนั้นวูบไหวร่างอย่างต่อเนื่อง
กายปีศาจขนาดใหญ่โตเหมือนกับเปลี่ยนเป็นมายาพร่าเลือน ยากจะบรรยายลักษณะ ไม่อาจใช้หลักการทั่วไปมาทำความเข้าใจได้
ดอกบัวหลายดอกที่ต้องการปัดเขาลงหมุนติ้วๆ ก่อนจะเฉียดผ่านร่างเขา กระจายออกไปเอง
วานรปีศาจที่สวีเฟยกับพ่านพ่านสร้างขึ้นก็เคลื่อนไหวอย่างเดียวกัน
วานรยักษ์สามตัวกระโจนหลบหลีกดอกบัวมากมาย
แต่ว่าในตอนนั้นเอง ยุทธวิชัยพุทธะก็ลงมืออีกครั้ง
ถึงแม้ว่าปราณกำเนิดจะยังไม่ฟื้นฟูโดยสมบูรณ์ ทว่าในฐานะคนบนชั้นมหาชาล การลงมือในตอนนี้ยังคงมีพลังกล้าแข็ง ในสถานการณ์หนึ่งต่อหนึ่ง สามารถสะกดกายทองมหาเทวะร่างหนึ่งของพวกเยี่ยนจ้าวเกอได้
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ไม่ต้องให้ท่านใช้หนึ่งสู้สาม เพียงก่อกวนวานรปีศาจสามตน ทำให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอต้องแบ่งแยกจิตใจ จากนั้นก็ให้บุญกุศลพุทธะเปล่งเสียง
ราชาบันดาลใจคอยรบกวนอยู่ด้านข้าง ขณะเดียวกันเขายังทดลองฟื้นฟูพิธีกรรมบนพื้นที่ของโถงเซียนที่ถูกทำลายไป หมายจะสร้างความได้เปรียบด้านชัยภูมิใหม่ เพื่อกักขังพวกเยี่ยนจ้าวเกอ จับเขาไว้บนโถงเซียน
แสงหยกหลายสายสว่างขึ้นอีกครา กลายเป็นสิ่งที่ดูเหมือนกับกรงขัง
วานรปีศาจร่างกายเชื่องช้าลง ยุทธวิชัยพุทธะขยับเข้ามา โอบแขน จับวานรปีศาจสามตนไว้พร้อมกัน
บุญกุศลพุทธะเปล่งเสียงสรรเสริญคุณ “ประสกอย่าได้ขยับแล้ว”
คำกล่าวนี้พอเปล่งออกมา ดอกบัวหลายดอกวนเวียนเบียดเสียด วานรปีศาจสามตนพลันรู้สึกว่าร่างกายหนักอึ้งกว่าเดิม บนร่างเหมือนเพิ่มเชือกและโซ่ไร้สิ้นสุด
“จงยืด!”
“จงยืด!”
“จงยืด!”
วานรปีศาจสามถลึงตาตวาดขึ้นพร้อมกัน ลูกตาเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน ปราณปีศาจทั่วร่างพวยพุ่งสู่ฟากฟ้า
ปราณปีศาจที่น่ากลัวเหมือนกับผนึกตัวเป็นของแข็ง ทำให้วานรปีศาจที่เดิมทีใหญ่โตราวเขาเทพ กลับมหึมามากกว่าเดิม เติมเต็มจักรวาล ก้มมองแดนเซียน
การจองจำที่ยุทธวิชัยพุทธะ บุญกุศลพุทธะกับราชาบันดาลใจสร้างขึ้น รัดและคลายตามไป ไม่มอบโอกาสให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอหนีรอด
ถึงอย่างไรก็เป็นพระพุทธเจ้าระดับมหาชาลสององค์ลงมือ ยังมีราชาบันดาลใจที่อาศัยชัยภูมิของโถงเซียนคอยช่วยเหลือ สามฝ่ายร่วมมือกัน ทำให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอที่ใช้กายทองมหาเทวะยากจะหลุดไปได้ชั่วขณะ
แต่ว่าร่างของวานรปีศาจสามตนขยายใหญ่ดิ้นรน การจองจำย่อมหลวมไปมาก
ในตอนนั้นเอง เยี่ยนจ้าวเกอร่างจริงที่ได้รับการปกป้องในกายทองมหาเทวะ พลันยื่นนิ้วออกมาทิ่มใส่อากาศเบาๆ
จากนั้น ปราณก่อนกำเนิดที่ไร้รูปร่างซึ่งกอปรด้วยสภาพความโกลาหลก็พุ่งออกมาจากปลายนิ้วของเยี่ยนจ้าวเกอ
ปราณปฐมกำเนิดถูกพ่นออกมาจากปากของวานรปีศาจที่กลายร่างจากร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก ถึงกับแยกจากหนึ่งเป็นสาม กลายเป็นปราณพิสุทธิ์สามสายกลางอากาศ
เขาเพิ่งมีการเคลื่อนไหว ฟ้าดินถึงกับเปลี่ยนแปลง!
ในวินาทีนี้เอง ดินแดนของโถงเซียนที่สูงส่งลี้ลับ ถึงกับเหมือนแบนราบ
วังเซียนบนสวรรค์ที่เดิมทีสูงส่ง ยามนี้เหมือนรวมเป็นหนึ่งกับแดนเซียนมากมายที่อยู่ด้านล่าง ไม่แบ่งแยกสูงต่ำ
สาเหตุที่ปรากฏสถานการณ์ในตอนนี้ คือมีตัวตนที่สูงส่งยิ่งกว่าถึงกับโผล่มาในเวลานี้
โถงเซียนเหมือนกับกลายเป็นโลกมนุษย์
ประตูเซียนที่เก่าแก่บานหนึ่ง ขณะนี้เหมือนกับเปิดออกเหนือดินแดนของโถงเซียน ในประตูมีแสงหยกลอดออกมาอย่างเลือนราง
พอถูกแสงหยกนี้กระตุ้น โถงเซียนทั้งหมดก็เหมือนกับเกิดแสงทองขึ้น
เทียบกับการเคลื่อนไหวที่ก่อนหน้านี้ราชาบันดาลใจทำออกมา ไม่แตกต่างจากอะไรกับการเทียบเคียงไฟเทียนกับดวงจันทร์และดวงอาทิตย์
ทว่าทันใดนั้นเอง กลางอากาศพลันปรากฏบัวขาวดอกหนึ่งอย่างไร้เค้าลาง
บัวขาวพอโผล่มา ถึงประตูเซียนจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ว่าแสงหยกที่เพิ่งสว่างขึ้นบนดินแดนของโถงเซียนก็หายไปด้วย
บนท้องฟ้าอีกด้านหนึ่งปรากฏบัวเขียวดอกหนึ่ง ลอยมายังประตูเซียนกับบัวขาวอย่างไม่รีบไม่ร้อน ทว่าก็มีเสียงระฆังอันไพเราะดังขึ้นทันที ระฆังโบราณสำริดเขียวอันหนึ่งปรากฏพร้อมกับบัวเขียว
ประตูเซียนกับบัวขาว ระฆังสำริดกับบัวเขียว ม้วนเข้าหากัน จากนั้นก็หายไปอีกครั้ง
พร้อมกับการหายไปของพวกมัน สภาพฟ้าดินก็กลับคืนสู่ลักษณะเดิมอีกครั้ง
วังเซียนล่องลอยยิ่งใหญ่ ยังคงอยู่บนสวรรค์ชั้นเก้า ก้มมองแดนเซียนนับร้อยนับพัน และโลกนับพันนับหมื่นด้านล่าง
การเคลื่อนไหวของเยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่หยุดลงเช่นกัน ปราณพิสุทธิ์สามสายลอยออกมา แยกกันตกลงบนกายทองมหาเทวะสามร่างที่รวมถึงตนเอง
ในตอนที่ประตูเซียนกับบัวเขียวโผล่ขึ้น บุญกุศลพุทธะกับยุทธวิชัยพุทธะต่างรู้สึกสังหรณ์ไม่ดี
พวกเขาคิดเคลื่อนไหว กลับเห็นปราณมารแสงทองตรงหน้าระเบิดขึ้นอีกครั้ง!
คลุ้มคลั่งอย่างไม่เคยมีมาก่อน!
แสงทองครอบคลุม ร่างของวานรปีศาจสามตนหายไป เสียงคำรามชนิดสะเทือนจนแก้วหูแทบแตกดังขึ้น!
คลื่นสียงหลายสายกลายเป็นของที่จับต้องได้โดยสมบูรณ์ แล้วกวาดล้างสายลมก้อนเมฆที่อยู่รอบๆ อานุภาพดั่งคลื่นโหม รุนแรงไม่สงบ
กรงเล็บยักษ์บังฟ้าที่เต็มไปด้วยขนข้างหนึ่งยื่นออกมาจากในแสงทอง ด้วยความเร็วที่ยอดฝีมือชั้นมหาชาลสามคนแทบไม่อาจตอบสนอง!
สุดท้ายแล้วบุญกุศลพุทธะกับยุทธวิชัยพุทธะก็มีการป้องกันในใจไว้ก่อน ถอยร่างไปด้านหลังโดยสัญชาตญาณ หลบกรงเล็บนี้ได้อย่างหวุดหวิด
แต่ว่าราชาบันดาลใจไม่ได้โชคดีขนาดนั้น ถูกกรงเล็บขนาดยักษ์นั้นคว้าไปไว้ในฝ่ามือ!