ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1500 เจ้ามีแค่เส้นทางตาย!
กรงเล็บยักษ์ขนสีทองพอคว้าใส่ ราชาบันดาลใจส่งเสียงโหยหวน สองตาเบิกโพลง เลือดไหลทั่วร่าง
มาตรว่าจะเป็นเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลที่มาจากโถงเซียน หนำซ้ำยังมีสามบุปผาบนกระหม่อม ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด ทว่าพร้อมกับที่กรงเล็บทั้งห้าที่น่ากลัวนั้นหุบเข้าหากัน ทั่วร่างของราชาบันดาลใจก็ส่งเสียงกร๊อบๆ ที่ต่อเนื่องไม่ขาดหูออกมา
ขณะที่ราชาบันดาลใจโหยหยวน ก็รีบดิ้นรนด้วยพลังทั้งหมด
พร้อมกับที่ตนเสี่ยงชีวิต ก็ผลักดันให้แสงหยกหลายสายบนโถงเซียนมช่วยเหลือ
ทว่าขนเล็กๆ สีทองบนฝ่ามืออันน่ากลัวนั้นตั้งขึ้น เหมือนกับเสาสีทองหลายต้น เรืองแสงสีทอง ขัดขวางแสงหยกไว้
ทันใดนั้นเอง กรงเล็บนี้เหมือนกับขยายขึ้นอีกเท่าตัว
กรงเล็บยักษ์ออกแรงบีบ ราชาบันดาลใจแผดเสียง ถูกจับไว้จนคืนร่างเดิม เปลี่ยนกลับเป็นปลาทองยักษ์ตัวหนึ่ง!
เขาบำเพ็ญทั้งเต๋าทั้งพุทธ บรรลุมรรคผล ถอนทำลายกายปีศาจไปแต่แรก ไม่อาจถูกคนทุบตีจนกลับสภาพน่าอนาถอย่างเดิม
ทว่าวานรยักษ์น่ากลัวที่ตอนนี้จับเขาไว้กลับพลิกเอกภพ บิดเปลี่ยนกฎเกณฑ์ ทำลายวิชาฝีมือทั้งหมดของราชาบันดาลใจไป
ในแสงสีทองยิ่งใหญ่ วานรยักษ์ตัวหนึ่งสวมมงกุฎทองปีกหงส์ ใส่เสื้อเกราะทอง สวมรองเท้าใยบัว โผล่ร่างออกมาจากแสงสว่าง
มองไปคล้ายไม่สูงใหญ่เท่าใด แต่กลับเหมือนศีรษะค้ำฟ้า เท้าเหยียบปรโลก ต้องการดันทำลายโลกใบนี้
ดวงตาสองดวงเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่สว่างไสวสองดวง
กลิ่นอายบ้าคลั่งที่ไร้กฎไร้เกณฑ์ โอหังไม่ยอมสยบแผ่พุ่งออกมา ครอบคลุมทั่วทั้งโถงเซียน!
เงาร่างที่เคยอาละวาดบนวังเทพระหว่างยุคโบราณตอนกลาง บัดนี้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ตำนานที่อยู่ในฝุ่นผงทางประวัติศาสตร์ ปรากฏตรงหน้าผู้คนอย่างเจิดจ้าอีกหน!
พร้อมกับที่เงาร่างสายหนึ่งเดินออกมาจากในแสงสว่าง เขาก็ออกแรงที่ฝ่ามือ ปลาทองที่ถูกจับไว้พลันเปลี่ยนเป็นเลือดเนื้อแหลกเหลวกองหนึ่งหนึ่ง!
ราชาบันดาลใจถูกวานรยักษ์ที่น่ากลัวตัวนี้บีบตายด้วยมือข้างเดียว!
เทวกษัตริย์โถงเซียนผู้หนึ่งตกตายในพริบตา!
กลิ่นคาวเลือดม้วนไปทั่วสี่ทิศ แผ่ไปทั่วสวรรค์
วานรยักษ์เงยหน้าถลึงตามองยุทธวิชัยพุทธะกับบุญกุศลพุทธะ ดวงตาสีแดงฉานมีปราณพิฆาตพวยพุ่ง ก่อนจะสืบเท้าออกก้าวหนึ่ง ยกสองกรงเล็บขึ้นแล้วคว้าใส่พระพุทธเจ้าสององค์พร้อมกัน
“ตถาคตเมตตากรุณา ประสกอย่าฆ่าสัตว์ตัดชีวิต” บุญกุศลพุทธะถอนใจคำหนึ่ง
ดอกบัวหลายดอกกลายเป็นทะเลดอก ขวางระหว่างท่านกับวานรยักษ์ บัวเขียวกระจัดกระจาย บดขยี้มิติเวลา บิดเบี้ยวโลก ปรากฏพุทธเกษตรแห่งหนึ่ง
บุญกุศลพุทธะย้ายแดนสุขาวดีของตัวเองมายังที่นี่ ประสานกับความน่าอัศจรรย์ของวาจาไพเราะดุจดอกบัว สร้างฟ้าดินที่ท่นเป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์แห่งหนึ่ง
นอกจากข้อยกเว้นจำนวนน้อยนิด ต่อให้ยอดฝีมือระดับมหาชาลคนอื่นๆ เข้ามาในโลกใบนี้ก็ไม่อาจกระโดดออกไปได้ ต่างต้องขยับตามกฎเกณฑ์ที่บุญกุศลพุทธะได้กำหนด
ทว่าคู่ต่อสู้ตรงหน้าท่านในปัจจุบัน เป็นหนึ่งในข้อยกเว้นจำนวนน้อยนั้น!
วานรยักษ์ที่เกิดจากการแปลงร่างของเยี่ยนจ้าวเกออ้าปาก ร้องตะโกนจนสะเทือนแก้วหู “ท่านบอกไม่ฆ่าก็ต้องไม่ฆ่าหรือ”
วานรกระโจนร่างขึ้น สองมือดุจกรงเล็บ คว้าไปด้านใน ไม่มีสิ่งใดขวางได้!
แดนสุขาวดีที่ลี้ลับไม่อาจหยั่งคาดของบุญกุศลพุทธะถึงกับถูกกรงเล็บของวานรตนนี้จับไว้ จากนั้นก็ถูกฉีกออก!
เขาในตอนนี้ไม่เหมือนกับตอนอยู่ในจุดสูงสุดของระดับเซียนกำเนิดเมื่อครู่ แต่ว่าเป็นตัวตนที่ขึ้นสู่สวรรค์มหาชาลเหมือนกัน!
ต่อให้สู้ตอนที่มหาเทวะเสมอฟ้าอยู่บนจุดสูงสุดไม่ได้ กลับสำเร็จระดับมหาชาล เป็นหนึ่งในตัวตนระดับสุดยอดท่ามกลางเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาล
ในเสียงหัวเราะดุร้าย วานรยักษ์ออกแรงที่สองกรงเล็บ
บุญกุศลพุทธะไม่อาจเทียบกับเซียนสวรรค์เส้นทางนอกรีตอย่างราชาบันดาลใจ คือตัวตนที่สำเร็จมรรคาผลเป็นพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง พลังท่ามกลางหมู่พระพุทธเจ้าแห่งแดนตะวันตกไม่อาจดูแคลน
ทว่าขณะนี้ วานรแยกสองกรงเล็บจากตรงกลางไปด้านข้าง ฉีกแดนสุขาวดีของบุญกุศลพุทธะ!
โอษฐ์พ่นดอกบัว วาจาเปล่งกฎเกณฑ์ติดตาม ตอนนี้มีเพียงความเสื่อมทราม
ยุทธวิชัยพุทธะที่อยู่ด้านข้างมองวานรยักษ์ที่ดุร้ายตัวนั้น พลางถอนใจเบาๆ
บุญกุศลพุทธะเอ่ยขึ้น “เหตุและผลนี้ พวกเราหลีกเลี่ยงไม่พ้น”
“ถูกต้อง เพียงแต่อาตมาไม่อยากกลับร่างเดิมจริงๆ พูดถึงที่สุดแล้วยังบำเพ็ญไม่สำเร็จ มองไม่ออก” ยุทธวิชัยพุทธะส่ายหน้า สั่นร่างเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
ศีรษะยี่สิบข้าง แขนสิบแปดข้าง ต่างหายไปจนหมด แสงพุทธบริสุทธิ์ก็มืดลงจนหายไปเช่นกัน
ลักษณะภายนอกของยุทธวิชัยพุทธเปลี่ยนแปลง แต่งกายในชุดผู้ออกบวช เพียงแต่ปากแหลมแก้มลิง แก้มมีขน เหมือนกับวานรใส่จีวร
ยุทธวิชัยพุทธอาศัยเวลาที่บุญกุศลพุทะย้ายแดนสุขาวดีป้องกัน ช่วงช่วงชิงมาให้ แสดงร่างของซุนเห้งเจียในตอนแรกอีกครั้ง!
ท่านกับมหาเทวะเสมอฟ้าที่เปลี่ยนจากเยี่ยนจ้าวเกอสบตากัน ใบหน้าองคาพยพใกล้เคียงกัน
ซุนเห้งเจียสูดลมหายใจเฮือกหนึ่ง เอียงศีรษะ มีกระบองเล็กๆ ท่อนหนึ่งลอยออกมาจากในรูหู
กระบองเล็กขยายใหญ่ตามลม พริบตาเดียวก็กลายเป็นกระบองสารพัดนึกขนาดมหึมา!
ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงจากพลังของท่าน แต่ว่าเป็นกระบองสารพัดนึกของจริง!
อาวุธเทพที่ในอดีตมหาเทวะเสมอฟ้าเคยใช้กวาดทำลายสวรรค์ ปราณพิฆาตที่ไม่อาจเทียบกับสิ่งใดได้พุ่งมา ความรู้สึกของพลังงานอันหนักอึ้งบดขยี้ท้องฟ้า เพียงแค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็เหมือนกำลังจะทุบทำลายท้องฟ้าของโถงเซียน
ซุนเห้งเจียยกกระบองขึ้นฟาดเข้าใส่มหาเทวะเสมอฟ้า
“มาได้ประเสริฐ!”
มหาเทวะเสมอฟ้าตวาดขึ้น แสงสีทองห้อมล้อมทั่วฝ่ามือ ปรากฏกระบองสีทองท่อนหนึ่ง ยกขึ้นด้านบน
กระบองของสองฝ่ายปะทะกัน เกิดเสียงทึบๆ ดังเปรี้ยง
คลื่นคลั่งลามไปรอบๆ กระแทกจนวังเซียนเหนือสวรรค์สั่นไหวไม่หยุด
กระบองในมือมหาเทวะเสมอฟ้าแหลกสลายเป็นแสง ทว่ากระบองทองของจริงในมือซุนเห้งเจียก็ถูกกระแทกกระเด็นขึ้นสูงเช่นกัน
ทว่าเพิ่งกระเด็นได้ครึ่งทาง กรงเล็บยักษ์เต็มไปด้วยขนข้างหนึ่งก็จับปลายกระบองเอาไว้
“รูปร่างของโยมในตอนนี้คงอยู่ได้แค่สั้นๆ น่าเสียดายในระยะเวลาสั้นๆ นี้ พวกเราต้านทานไม่ได้” ซุนเห้งเจียถอนใจอย่างจนปัญญา
พลังอันยิ่งใหญ่ที่ส่งมาจากปลายกระบองสารพัดนึก สั่นสะเทือนจนสองมือของเขาเกิดอาการชา จะจับไว้ไม่อยู่
ซุนเห้งเจียยกมือข้างหนึ่งขึ้น คลายเหล็กเทพในฝ่ามือเอง ปล่อยตามพลังชิงกลับของมหาเทวะเสมอฟ้า จากนั้นเพิ่มแรงส่งเข้าไปในทรวงอกของอีกฝ่าย ขณะเดียวกันก็อาศัยพลังดันกลับ ฉวยโอกาสล่าถอย
บุญกุศลพุทธะรีบร้อนรับมือซุนเห้งเจียที่กลายเป็นยุทธวิชัยพุทธะใหม่ พระพุทธเจ้าทั้งสองหนีออกจากโลกของโถงเซียนด้วยกัน
มหาเทวะเสมอฟ้าหยุดท่าร่างของตัวเอง กำกระบองสารพัดนึกในมือ เงยหน้ากู่ร้อง
กระบองเหล็กเทพที่ปราณพิฆาตพวยพุ่งสู่ฟากฟ้า หมุนในมือของเขาวูบหนึ่ง จากนั้นหลังจากหมุนครบวงก็ฟาดลงเบื้องล่าง!
ตัวตนที่ดูเหมือนวังเซียนที่แท้จริงบนสรวงสวรรค์ พลันถูกกระบองฟาดแหลกไปมุมหนึ่ง
วังเซียนทั้งหมดเอียง ศาลาพลับพลาห้องหอมากมาย ตำหนักระเบียงที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเรืองแสงสีทอง ถล่มลงเป็นแถบๆ!
เหล่าเซียนแห่งโถงเซียนที่ยังเคลื่อนไหวบนวังเซียนต่างถูกชำระบัญชี ดับสูญเป็นควันธุลีเหมือนกัน
การทำลายล้างขยายไปไกล ตำหนักล้มคว่ำ อิฐกระเบื้องลอยว่อน บันไดผืนดินแตกร้าว ไม่ทันไรก็ปรากฏเงาร่างสายหนึ่งที่กำลังบินไปในทิศทางตรงกันข้าม
เป็นเฮ่อเหมี่ยน
พอสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวด้านหลัง เขาก็หันกลับมาอย่างตื่นตระหนก
กลับเห็นม่านตาที่เหมือนกับดวงอาทิตย์สีเลือดอยู่ใกล้แค่คืบ
“ข้ามีคำพูดจะกล่าว…” เฮ่อเหมี่ยนตะโกน
“ใครจะเปลืองวาจากับเจ้า” เยี่ยนจ้าวเกอสนใจยังไม่สนใจ วานรยักษ์ที่แปลงกายตบฝ่ามือใส่เฮ่อเหมี่ยนไม่เหลือแม้แต่กระดูก เศษซากก็ไม่มี!
“บอกแล้วว่าเจ้ามีแค่เส้นทางตาย เจ้าจงไปตายให้ข้า!”