ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1507 ความรู้สึกคับขันของเยี่ยนจ้าวเกอ
พอฟังวาจาของเยี่ยนจ้าวเกอ เยี่ยนตี๋ เสวี่ยชูฉิงต่างใช้สายตาถามไถ่มองเขา
“เป็นวิธีการเดิม ถ้าไม่ลดทอนพลังของอีกฝ่าย ก็ต้องเพิ่มพลังของตัวเอง” เยี่ยนจ้าวเกออธิบาย “การลดทอนพลังของอีกฝ่าย คือการคิดหาวิธีแก้ไขแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีของวิทยราชข่งซวน”
เมื่อไม่มีแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสี ถึงข่งซวนจะยังคงแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ใช่การคุกคามที่ใกล้เคียงกับอานุภาพระดับมรรคา คิดหาวิธีไม่ออกอีก
ถ้าไม่อาจทำลายแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสี สำหรับคนที่อยู่ต่ำกว่าระดับมรรคา ข่งซวนในตอนนี้แทบเป็นตัวตนที่ไร้ทางแก้ไข
ยากจะมีวิธีต้านทานท่าน แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีไม่มีสิ่งใดที่ขจัดไม่ได้ ไม่มีสิ่งใดต้านทาน อย่าว่าแต่ตอนนี้สำนักเต๋ามีคนน้อย ต่อให้ยอดฝีมือรวมตัวกันดุจหมู่เมฆ ก็ยากจะอาศัยจำนวนคนสร้างความได้เปรียบ
มหาเทวะเผ่าปีศาจกลุ่มหนึ่งได้ยืนยันเรื่องนี้แล้ว
เผิงท่องเมฆหมื่นลี้อาศัยข้อได้เปรียบด้านความเร็วที่แทบเป็นหนึ่งไม่มีสอง จึงค่อยฝืนสร้างสถานการณ์เล่นงานกันและกัน รักษาสมดุลอันอ่อนแอไว้ได้ แต่ว่านี่อยู่ในเงื่อนไขที่ข่งซวนต้องการช่วยคุ้มครองโถงเซียน
หากว่าไม่มีพันธะอะไร เดิมทีเผิงท่องเมฆหมื่นลี้ลากถ่วงท่านไม่ได้ ข่งซวนคิดไปที่ไหนก็ไปที่นั่น คนที่อยู่ต่ำกว่าระดับมรรคากล้าขวางก็จะถูกท่านใช้แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีจับไว้แล้ว
“แต่นอกจากผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคา คิดจะแก้ไขแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีของวิทยราชข่งซวน ไม่ใช่เรื่องง่ายดายจริงๆ” เยี่ยนจ้าวเกอแบมือ “ของวิเศษคุ้มครองร่างที่แข็งแกร่งในตำนานเหล่านั้น ต่างไม่ทราบเบาะแสที่อยู่”
เสวี่ยชูฉิงพึมพำกับตัวเอง “แต่หากบอกว่าเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเอง ไหนเลยง่ายดายปานนั้น นี่ไม่ใช่เรื่องที่ทำสำเร็จได้ในคราวเดียว”
นางมองสามีและบุตรชายของตน “อย่างพวกท่านสองคุณชาย เป็นบุคคลหายากไปแล้ว แต่จะมากจะน้อยก็ยังคงต้องการการตกตะกอนของเวลา”
“ไม่ผิด” เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า จากนั้นก็ส่ายหน้า “แต่นอกจากพลังการบำเพ็ญของตัวเองแล้ว ก็ไม่ใช่ไม่มีวิธีอื่นเสียทีเดียว”
เสวี่ยชูฉิงคล้ายนึกอะไรออก จึงมองเยี่ยนจ้าวเกอแวบหนึ่ง “เจ้ากำลังพูดถึง ทางสายเหนือพิสุทธิ์…”
“ถูกแล้ว ค่ายกลลงทัณฑ์เซียน!” เยี่ยนจ้าวเกอแค่นเสียง “ต่อให้แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีของวิทยราชข่งซวนจะแข็งแกร่งกว่านี้ หากกล้าเข้ามาในค่ายกลลงทัณฑ์เซียนก็เป็นทางตายสถานเดียว”
ก่อนหน้านี้เพราะเรื่องการคืนชีพของมารน้ำกุ่ยและดินโบ่ว พวกเยี่ยนจ้าวเกอจึงสู้กับหมู่มารจากนพยมโลก
เนี่ยจิงเสินกับอวี่เยี่ยพลัดหลงเข้าไปในสถานที่ฝังศพของเทวกษัตริย์วิเศษคณานับ ได้รับมรดกของเทวกษัตริย์วิเศษคณานับมา
เป็นเพราะว่าการไหลของเวลาในร่องรอยทางประวัติศาสตร์แห่งนั้นต่างไปจากโลกภายนอก จึงมอบโอกาสให้อวี่เยี่ยฝึกฝนคัมภีร์โกลาหลสูญจนสำเร็จ ทั้งบันทึกค่ายกลงทัณฑ์เซียนได้
ต่อมาเนี่ยจิงเสินกับอวี่เยี่ยนำกระบี่ผนึกเซียนมาช่วยเหลือพวกเยี่ยนจ้าวเกอ ยังทันสู้กับยุทธวิชัยพุทธะ
เนื่องจากสถานการณ์ในตอนนั้นคับขั้น ทุกคนยุ่งกับการสู้ศัตรู เยี่ยนจ้าวเกอจึงไม่มีเวลาพูดคุยกับเนี่ยจิงเสินและอวี่เยี่ย ไม่ทันได้ฟังพวกเขาเล่าเรื่องราวเมื่อก่อนหน้า ไม่ทันได้บอกข่าวการตายของหลี่อิงกษัตริย์เถา
แต่ว่ายังไม่เอ่ยถึงอย่างอื่น เพื่อรับมือยุทธวิชัยพุทธะที่อยู่ในระดับมหาชาล ต้องกางค่ายกลลงทัณฑ์เซียน อวี่เยี่ยย่อมทันส่งมอบผังค่ายกลลงทัณฑ์เซียนให้พวกเขา
เยี่ยนจ้าวเกอกับนักพรตอวิ๋นเจิง เดิมทีเป็นคนที่มีระดับค่ายกลสูงส่งที่สุดในฟ้าเหนือฟ้ากับมรกตท่องฟ้า ณ ปัจจุบัน
ความลี้ลับน่าอัศจรรย์ของค่ายกลลงทัณฑ์เซียน แม้แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็ต้องศึกษาอย่างละเอียด ค่อยๆ ทำความเข้าใจ ทว่าวันนี้มีค่ายกลลงทัณฑ์เซียนอยู่ในมือ ย่อมมีโอกาสสำเร็จสูง
“แต่ว่ารวบรวมเซียนสวรรค์สายเหนือพิสุทธิ์ระดับมหาชาลไม่ครบสี่คน” เสวี่ยชูฉิงไตร่ตรองพร้อมกับกล่าว “หากต้องสู้กับยอดฝีมืออย่างวิทยราชข่งซวน ใช้เซียนกำเนิดกางค่ายกลเกรงว่าจะไม่ไหว”
นางมองเยี่ยนจ้าวเกอ “หรือไม่ก็รวบรวมสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนให้ครบ สามารถกางค่ายกลลงทัณฑ์เซียนที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง!”
สี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนในที่นี้ไม่ใช่สี่ยอดวรยุทธ์มรรคากระบี่สายเหนือพิสุทธิ์ แต่หมายถึงกระบี่เทพของแท้อย่างกระบี่ผนึกเซียน อาวุธพิฆาตที่มีชื่อเสียงสั่นสะท้านในยุคโบราณตอนต้น
กระบี่เพียงเล่มเดียว ถ้าหากกระตุ้นพลังทั้งหมด ล้วนเป็นอาวุธเข่นฆ่าสังหาร
สี่กระบี่เมื่อมีครบ แล้ววางค่ายกลลงทัณฑ์เซียนอีกรอบจะสามารถแสดงอานุภาพของค่ายกลอันดับหนึ่งแห่งยุคได้
“ตอนนี้พวกเรามีแค่กระบี่ผนึกเซียนในมือ กระบี่อีกสามเล่มไม่ทราบอยู่ที่ไหน หรือเจ้าจะมีเบาะแสแล้ว” เสวี่ยชูฉิงคิดอะไรได้ ถามเยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจัง “เกี่ยวกับกระบี่ลงทัณฑ์เซียนกับกระบี่ลวงเซียน ข้ามีความคิดอยู่จริงๆ กระบี่สังหารเซียนยังคงต้องปล่อยไว้ก่อน แต่ถ้าหากมีสามกระบี่ในมือ ต้องการหากระบี่เล่มสุดท้าย ความยากจะลดลงมาก”
เยี่ยนตี๋กับเสวี่ยชูฉิงต่างประหลาดใจอยู่บ้าง “ถ้าหากทำสำเร็จจริงๆ ย่อมประเสริฐ แต่ต้องระวังตั๊กแตนจับจั๊กจั่น นกขมิ้นอยู่ข้างหลัง ส่งชุดแต่งงานให้แก่คนอื่น”
“อืม ข้าจะระวัง” เยี่ยนจ้าวเกอตอบ “ตอนนี้ยังเป็นแค่แนวคิดขั้นต้น จะทำให้สำเร็จจำเป็นต้องมีการเตรียมตัวในหลายๆ ด้าน”
เยี่ยนจ้าวเกอบอกลาเยี่ยนตี๋สามีภรรยา ก่อนจะกลับที่อยู่ของตัวเอง
ถ้าหากว่ารวบรวมสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนได้ครบ ทำให้ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ย่อมส่งผลดีอย่างใหญ่หลวงต่อฝ่ายตัวเอง แต่ว่าความยากในนี้ ไม่ต้องพูดก็เป็นที่เข้าใจได้
ไม่เพียงแต่ความยากในการตามหากระบี่วิเศษเท่านั้น แต่เกี่ยวพันถึงการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้คนอื่นๆ ด้วย
พวกคู่ต่อสู้ต้องไม่อยากเห็นค่ายกลลงทัณฑ์เซียนที่สมบูรณ์อย่างแท้จริงโผล่ขึ้นมาแน่
นี่เกี่ยวข้องกับการวัดกำลังในหลายด้านจริงๆ
เยี่ยนจ้าวเกอนั่งขัดสมาธิในห้องสงบใจ ทางหนึ่งขบคิดถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน ทางหนึ่งคาดคำนวณตัวเอง
ปัจจุบันตนยิ่งมายิ่งระมัดระวังแล้ว
หมอกตรงหน้าค่อยๆ สลาย ตนเริ่มยิ่งมายิ่งได้สัมผัสกับบุคคลในตำนานเหล่านั้น และได้สัมผัสกับความจริงมากมายที่ถูกอำพรางไว้ใต้ฝุ่นผงทางประวัติศาสตร์บ่อยครั้ง
ข้อมูลที่ตนมีอยู่เริ่มเพิ่มขึ้น แต่ว่าอีกฝ่ายก็แตกต่างไปจากอดีตเช่นกัน
ยังไม่เอ่ยถึงผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาทั้งหลาย ข่งซวน ทีปังกรพุทธะ เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ ยุทธวิชัยพุทธะ บุญกุศลพุทธะ หรือว่ามหาเทวะเก้าเศียร มารจิตแรกเริ่ม ผู้ใดไม่ใช่ผู้ยิ่งใหญ่ในประวัตศาสตร์บ้าง
จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ จักรพรรดิโกวเฉิน เจ้าแม่อู๋ตัง ล้วนเป็นยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้ฝากตำนานเอาไว้ในประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น
ยอดฝีมือระดับมหาชาลเหล่านั้น ไม่เหมือนกับพวกปีศาจกวางขาวและหลี่ซิ่งป้าที่มีตำแหน่งและระดับยังคงต่ำ ไม่เพียงแต่ขีดความสามารถการฝึกปรือจะแข็งแกร่งกว่าเท่านั้น ปริมาณข้อมูลที่พวกเขาครอบครอง ก็ไม่อาจดูแคลนได้เช่นกัน
เยี่ยนจ้าวเกอถามตัวเองว่า หลังจากตนคืนชีพขึ้นในโลกแปดพิภพ ที่สามารถเป็นมาถึงตอนนี้ได้ทีละก้าวๆ สาเหตุมีมากมาย แต่ว่าสาเหตุหนึ่งในนี้ที่มีความดีความชอบมากที่สุดก็คือการได้อ่านคัมภีร์ต่างๆ ในช่วงที่ตนกลายเป็นวิญญาณหอของหอเก็บหนังสือแห่งวังเทพก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่
ไม่เพียงแต่วรยุทธ์มรรคายุทธ์จำนวนมากเท่านั้น ยังมีศาสตร์ต่างๆ รวมถึงวิธีการหลอมยาหลอมอุปกรณ์ ถึงขั้นที่มีข่าวซุบซิบและข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ที่ดูเหมือนสะดุดตาส่วนหนึ่งในวังเทพ
ทั้งหมดนี้ทำให้ความรู้ของเยี่ยนจ้าวเกอ บดขยี้คู่ต่อสู้ส่วนใหญ่ที่เขาได้เจอ
คนที่ต่อสู้กับเขาหลายคน สุดท้ายต่างรู้สึกว่าพ่ายแพ้อย่างน่าประหลาดเหลือแสน ตายโดยไม่เข้าใจ สาเหตุอยู่ที่นี่เอง
แต่พร้อมกับที่วันนี้เยี่ยนจ้าวเกอยิ่งเดินยิ่งสูงขึ้น เหล่าคู่ต่อสู้ของเขายิ่งมายิ่งแข็งแกร่ง ในนี้มีตัวตนที่เก่าแก่ยิ่งกว่าประวัติศาสตร์ของวังเทพอยู่ด้วย
ดังนั้น ข้อได้เปรียบที่หอเก็บหนังสือวังเทพมอบให้แก่เขาจึงยิ่งมายิ่งไม่ชัดเจน
เวลาแบบนี้ สมควรทำอย่างไร