ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1511 ศิลามนุษย์กำเนิด
เสวี่ยชูฉิงมองเยี่ยนจ้าวเกอ ขมวดคิ้วถาม “เจ้าสมควรไม่คิดจะสังหารพระพุทธเจ้าของแดนสุขาวดีบัวขาวอย่างผ่าเผยกระมัง”
“ไม่ปิดบังท่าน ข้าเคยคิดจริงๆ” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ “แต่ต่อมารู้สึกว่านั่นโง่เง่าอยู่บ้าง เลยละทิ้งความคิดนี้ไป”
เซียนลี้ลับสำนักเต๋าที่เทียบได้กับพระอรหันต์แห่งศาสนาพุทธคนหนึ่ง คิดสังหารพระพุทะเจ้าแห่งแดนสุขาวดีที่เทียบได้กับเซียนสวรรค์สำนักเต๋า ต่อให้นั่นเป็นพระพุทธเจ้าที่มาจากเส้นทางนอกรีตก็ตาม หากได้ยินความคิดนี้เข้า คงทำให้คนรู้สึกเหลือเชื่อและเห็นว่าโอหังบ้าคลั่ง
กระนั้นเสวี่ยชูฉิงกลับทราบว่า ถ้าหากว่าวางแผนโจมตีตอนอีกฝ่ายไม่ทันเตรียมตัวได้ เยี่ยนจ้าวเกอตรงหน้าอาจจะทำเรื่องนี้ได้จริงๆ
ตัวอย่างอย่างราชาบันดาลใจวางอยู่ตรงหน้านี้เอง
หลังจากอดทดรอยคอยกายทองมหาเทวะฟื้นฟูปราณกำเนิด สามารถใช้ได้ใหม่ เขากว่างเฉิงในปัจจุบันส่งผลคุกคามตัวตนชั้นมหาชาลจำนวนมากด้วยพลังของคนคนเดียวได้จริงๆ โดยเฉพาะมหาชาลจากเส้นทางนอกรีต
ทุกๆ ครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ เสวี่ยชูฉิงอดลอบถอนใจไม่ได้
ถึงแม้ตนเองจะเป็นผู้สืบทอดกระแสตรงของราชันพระพฤหัสบดี หากสืบสาวไปถึงต้นตอยิ่งเป็นจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่เทวราชแห่งสำนักเต๋า แต่ที่แล้วมานางคิดไม่ถึงว่าจะมีวันหนึ่งที่คนที่อยู่ด้านข้างตัวเองถึงกับครอบครองพลังเช่นนี้
บางทีตัวเยี่ยนจ้าวเกอยังไม่ได้เดินสู่ระดับนี้ แต่เขาก็มีพลังเช่นนี้แล้ว
ก่อนหน้านี้ในตอนที่รับมือหมู่มารนพยมโลกยังไม่มี ทว่าหลังจากนั้น กลับพุ่งทะยานขึ้น ไม่อาจใช้สายตาในวันวานมาตัดสินได้อีกต่อไป
แต่เป็นอย่างที่เยี่ยนจ้าวเกอพูด ตอนนี้ยังไม่เพียงพอ พวกเขาต้องแข็งแกร่งขึ้นอีก
นางพอฟังวาจาของเยี่ยนจ้าวเกอ ก็ปั้นสีหน้าจริงจัง มองดูบุตรชาย
คิดจะจุดไฟสงครามระหว่างโถงเซียนกับแดนสุขาวดีบัวขาวขึ้นใหม่ ความจริงไม่ใช่เรื่องง่าย
อย่างน้อยต้องให้พวกเขาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแยกแยะว่า ผลประโยชน์ของการเริ่มสงครามมีมากกว่าค่าตอบแทนต้องจ่ายออกไป ทุกอย่างค่อยมีความเป็นไปได้
โถงเซียนถูกสั่วหมิงจางกับเยี่ยนจ้าวเกออาละวาดติดต่อกันสองรอบ สูญเสียทหารและแม่ทัพ ปราณกำเนิดเสียหายใหญ่หลวง สุดท้ายไม่อาจชดเชยได้ในระยะเวลาสั้นๆ
ต่อให้พวกเขาจะชำระล้างโลกซ้อนโลกไปแล้ว และรวบรวมอาณาเขตแดนเซียนทั้งแปดร้อยแห่งของตัวเองกลับมาได้ใหม่ ก็ได้แต่บอกว่าเป็นการตั้งหลักใหม่ ยังอยู่ห่างจากการฟื้นฟูปราณกำเนิดไกลยิ่ง
ปัจจุบันเหลือเพียงเซียนสวรรค์ชั้นมหาชาลแปดคน อย่าว่าแต่เปรียบเทียบกับแดนสุขาวดีบัวขาว ต่อให้เปรียบเทียบกับสภาพสูงสุดของตัวเองในอดีต ก็ถือว่าย่ำแย่กว่าไม่น้อย
ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้ว พวกเขายังคงอยู่ในตำแหน่งที่อ่อนแอยิ่ง
ถ้าหากว่าแดนสุขาวดีบัวขาวมาโจมตีอีกรอบ โถงเซียนย่อมเสียดินแดนไป เล่นฉากเหตุการณ์เมื่อยี่สิบปีก่อนใหม่
ทว่าเป็นเพราะไม่อาจแยกแยะความคิดของวิทยราชข่งซวน แดนสุขาวดีบัวขาวจึงไม่ลงมือวู่วาม จุดไฟสงครามอีกรอบ เพียงหยั่งเชิงและแทรกซึมด้วยความระวังมากกว่าเดิม
สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว ต่อให้เขาทำให้เทวกษัตริย์โถงเซียนลดลงได้อีก ถึงขั้นที่เข่นฆ่าพระพุทธเจ้าแห่งแดนสุขาวดีตะวันตกได้ ก็ยากจะทำให้แดนสุขาวดีบัวขาวกับเผ่าปีศาจตัดสินใจลงมืออีกครั้ง เริ่มทำสงครามกันใหม่
นอกเสียจากว่าเขาจะมีแผนการที่สะกดวิทยราชข่งซวนได้
ดังนั้นหากเทียบกับแล้ว ตัวเลือกอีกอย่างความจริงเป็นการสังการยอดฝีมือชั้นมหาชาลของแดนสุขาวดีบัวขาว!
หนำซ้ำเป็นการสังหารที่มีจำนวนมากสุดขีด เข่นฆ่าจนแดนุสขาวดีบัวขาวอ่อนแอกว่าโถงเซียน
เมื่อเป็นแบบนี้ โถงเซียนอาจจะกลายเป็นฝ่ายที่ลงมือก่อนแล้ว
ความคิดนี้คล้ายบ้าคลั่งกว่า แต่หากคว้าโอกาสที่เหมาะสมได้ ใช่ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้
ถึงอย่างไรสำหรับมหาเทวะเสมอฟ้าที่อยู่ในระดับสูงสุดของมหาชาลแล้ว มหาชาลนอกรีตไม่ต่างอะไรกับเซียนกำเนิดสุญญตา
ไม่จำเป็นต้องสงสัยถึงความกระตือรือร้นในการตีชิงตามไฟของโถงเซียน พวกเขากับแดนสุขาวดีบัวขาวจึงเป็นคู่แข่งหลักโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
แต่ว่าวิธีคอยพัดกระพือไฟ รอโอกาสจับปลาตอนน้ำขุ่นอย่างนี้ เป็นความคิดไม่เข้าท่าและหลงตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัย
โถงเซียนกับแดนสุขาวดีบัวขาวไม่มีทางมองดูตนเองถูกเยี่ยนจ้าวเกอลดทอนพลังอยู่เฉยๆ
นี่จะกระตุ้นให้สองฝ่ายที่เดิมทีเป็นปรปักษ์ละวางความขัดแย้งระหว่างกัน แล้วร่วมมือกันกดดันพวกเยี่ยนจ้าวเกอก่อน
ถึงแม้ตอนนี้จักรวาลฟ้าฟื้นจะมีเบาะแสไม่แน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีทางผิดพลาด
สำนักเต๋าสายหลักในปัจจุบันใช่ว่าจะต้านทานการร่วมมือสะกดของโถงเซียน แดนสุขาวดีบัวขาว แดนสุขาวดีตะวันตก และเผ่าปีศาจไหว
ด้วยความเข้าใจที่เสวี่ยชูฉิงมีต่อเยี่ยนจ้าวเกอ แม้บ่อยครั้งดูเหมือนกระทำบุ่มบ่าม แต่ว่าก็ไม่ใช่คนได้ดีลืมตัว
ดังนั้นในเมื่อเยี่ยนจ้าวเกอบอกว่าละทิ้งความคิดยั่วยุสองฝ่ายแบบนี้ไปแล้ว เสวี่ยชูฉิงก็สนใจมากว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“ข้าความจริงกำลังคิดถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับศิลาวิเศษสามก้อนที่เจ้าแม่หนี่ว์วาได้ทิ้งเอาไว้ในตอนอุดฟ้า” เยี่ยนจ้าวเกอตาเป็นประกาย
เสวี่ยชูฉิงพอฟังก็เข้าใจ “อืม สมกับความเคยชินในตอนคิดถึงเรื่องราวของเจ้า สืบสาวถึงต้นตอแล้วสะสางเบาะแสใหม่”
“ถูกต้อง ความจริงหลายปีมานี้ ข้าก็คิดถึงเรื่องนี้มาโดยตลอด อยากเห็นว่าจะขุดค้นโอกาสส่วนหนึ่งจากด้านในได้หรือไม่” เยี่ยนจ้าวเกอว่า “แต่ว่ามีเรื่องบางประการที่ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จดี กำลังใคร่ครวญอยู่”
เขามองเสวี่ยชูฉิง “ครั้งกระโน้นเจ้าแม่หนี่ว์วาได้ทิ้งศิลาวิเศษสามก้อนเอาไว้ ศิลาดินกำเนิดไม่ต้องกล่าวมากความ เป็นรากฐานของมหาเทวะเสมอฟ้า ความน่าอัศจรรย์ของมันอยู่ที่เทวราชก่อนกำเนิดไม่ถูกทำลาย สงบนิ่งชั่วกาลนาน ส่วนศิลามนุษย์กำเนิด สามารถรวบรวมพลังศรัทธา ทั้งยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านคุณสมบัติ ทำให้เส้นทางศรัทธาเส้นเล็กๆ กลายเป็นมหามรรคาที่เชื่อมไปทุกด้านซึ่งดูเหมือนเป็นประกายเจิดจ้า”
พระศรีอริยเมตไตรยที่ถูกสะบั้นความหวังในการสำเร็จมรรคาตามปกติ อาศัยมันขึ้นสู่ระดับมรรคา บุกเบิกเส้นทางใหม่สายหนึ่ง
“แต่เส้นทางนี้ก็สร้างเทวกษัตริย์ไร้ประมาณขึ้นมาเช่นกัน” เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง “ดังนั้นข้าความจริงกำลังคาดเดาอยู่ว่า เศษศิลามนุษย์กำเนิดในครั้งนั้นมีส่วนหนึ่งอยู่ในมือของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ”
ในยุคโบราณตอนกลาง พุทธปีศาจต่อสู้กัน ศิลามนุษย์กำเนิดแบ่งแยกเป็นหนึ่งร้อยแปดก้อน ให้มหาเทวะสามสิบหกตน กับอนุเทวะเจ็ดสิบสองตนของเผ่าปีศาจกางค่ายกลพร้อมกัน
สุดท้ายเกิดไซอิ๋ว จึงหายไปเป็นส่วนใหญ่
ชิ้นส่วนส่วนใหญ่ตกไปอยู่ในมือของพวกซุนเห้งเจียกับพระถังซัมจั๋ง สุดท้าย่อมกลายเป็นของวัยลุ่ยอิมแห่งเขาหลิงซานในแดนสุขาวดีอภิรดี
แต่ก็ยังมีส่วนหนึ่งที่กระจัดกระจายอยู่ด้านนอก
ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอกำลังพิจารณาว่า ยังมีเศษศิลามนุษย์กำเนิดที่กระจายอยู่ด้านนอกตลอดมา ไม่เคยตกไปอยู่ในมือแดนสุขาวดีบัวขาวกับโถงเซียนหรือไม่
ในนี้มีความเป็นไปได้ที่จะใช้ประโยชน์หรือไม่
“แน่นอนว่า เส้นทางของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับพระศรีอาริย์แตกต่างกันไม่มากก็น้อย ในนี้อาจมีศิลาฟ้ากำเนิดเกี่ยวข้องด้วย” เยี่ยนจ้าวเกอระบายลมหายใจออกเบาๆ หัวเราะขึ้น “โถงเซียนกับแดนสุขาวดีตะวันตก แดนสุขาวดีบัวขาวกับเผ่าปีศาจ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ดูเหมือนจะน่าสนใจกว่าที่พวกเราคาดคิดไว้”
เสวี่ยชูฉิงเงียบงันครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “พวกเราไม่มีศิลามนุษย์กำเนิดในมือ”
“แต่คนบางคนอาจจะมี เพียงแต่พวกเราไม่แน่ใจว่า เขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่” เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งครุ่นคิดทางหนึ่งกล่าว “ขอแค่โถงเซียนกับแดนสุขาวดีบัวขาวไม่อาจยืนยันได้ว่าเขายังอยู่หรือไม่ เช่นนั้นพวกเราก็มีความเป็นไปได้ที่จะกระจายข่าวปลอม ดึงดูดเส้นทางนอกรีตพวกนั้น”
เสวี่ยชูฉิงตอนแรกงงงัน จากนั้นคล้ายนึกอะไรได้ “ที่เจ้าว่าสมควรไม่ใช่…”
“ในมหาเทวะเผ่าปีศาจทั้งสามสิบหกตนในตอนนั้น มีบุคคลระดับสุดยอดคนหนึ่ง” เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “เขาเปลี่ยนชื่อเป็นปฐมเทวะนพวิญญาณ มีความเกี่ยวข้องกับสำนักเต๋าเรา”