ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1513 ลงอาคมค้นหากระบี่
เยี่ยนจ้าวเกอพอฟังว่ามีการเคลื่อนไหว จิตใจก็กระตือรือร้นขึ้น
เข้ามาถึงห้องสงบใจห้องหนึ่งพร้อมกับเกาชิงเสวียน เห็นในห้อง ร่างแยกของเกาชิงเสวียนกับหลงซิงเฉวียนนั่งหันหน้าเข้าหากัน ระหว่างคนทั้งสองมีกระบี่โบราณเล่มหนึ่งลอยอยู่กลางอากาศ
บนด้ามกระบี่ของกระบี่โบราณติดยันต์กระดาษใบหนึ่ง เป็นของที่มาจากเยี่ยนจ้าวเกอนั่นเอง
ขณะนี้บนกระบี่โบราณถึงกับมีประตูสี่บานลอยอยู่ แยกกันอยู่ทั้งสี่ทิศ คล้ายลวงคล้ายจริง ปราณอันดุร้ายส่งออกมาจากด้านใน ถึงกับเหมือนค่ายกลลงทัณฑ์เซียนย่อมๆ ค่ายหนึ่ง
เพียงแต่ภาพตรงหน้าแตกต่างจากค่ายกลลงทัณฑ์เซียนที่แท้จริง
เยี่ยนจ้าวเกอรู้จักมันดี นี่เป็นวิชาลับที่เขาศึกษาออกมาได้ โดยการทดลองใช้พลังของกระบี่ผนึกเซียน ค้นหากระบี่วิเศษอีกสามเล่ม
ครั้งนี้เห็นบนประตูสี่บานมีเพียงบานหนึ่งเหมือนกับแขวนไว้ด้วยกระบี่วิเศษ บนคมกระบี่มีปราณสีดำลอยวนเวียน สองคล้องกับกระบี่ผนึกเซียน
เยี่ยนจ้าวเกอตั้งใจพิจารณาประตูสามบานที่เหลือ ใบหน้าฉายความกระตือรือร้น “มีความหวัง”
“เช่นนี้ก็ประเสริฐ” เกาชิงเสวียนถาม “เพียงแต่ต่อจากนี้ต้องทำอย่างไร พวกเราไม่มีเบาะแสมากกว่านี้ในมือ”
หลงซิงเฉวียนถอนใจคำหนึ่ง “ครั้งกระโน้นศิษย์พี่ออกไปพร้อมกับสหายร่วมเส้นทางตี๋ หมายลองค้นหาที่อยู่ของกระบี่ลวงเซียน น่าเสียดายที่ไม่ได้อะไรกลับมา สุดท้ายไปแล้วไปลับ สิ้นชีวิตด้านนอก”
ตอนนี้เกาชิงเสวียนใบหน้าปรากฏความเศร้าสร้อยเช่นกัน
ในบรรดาสหายร่วมสำนักทั้งหมดที่เป็นลูกศิษย์ของหลี่อิงกษัตริย์เถา คนที่สนิทสนมกับนางมากที่สุดก็คือตี๋ชิงเหลียนผู้เป็นศิษย์น้อง
ตอนนั้นตี๋ชิงเหลียนกับเยี่ยนซิงถางแต่งงานกัน หลังจากแต่งก็ยังคงไปมาหาสู่กับหลงซิงเฉวียนสองสามีภรรยาบ่อยๆ
เยี่ยนซิงถางกับหลงซิงเฉวียนศิษย์พี่ศิษย์น้องเป็นผู้สืบทอดกระแสตรงสายหยกพิสุทธิ์ หากสืบสาวถึงต้นตอ บูรพาจารย์ในสายสืบทอดของพวกเขาก็คืออวี้ติ่งจินหยิน มือกระบี่อันดับหนึ่งท่ามกลางเหล่าลูกศิษย์ของบรมครูเทวกษัตริย์บรรพกำเนิดสายหยกพิสุทธิ์
สิ่งที่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงก็คือ ในสงครามสถาปนาเทพเมื่อยุคโบราณตอนต้น สายเหนือพิสุทธิ์ตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนถูกทำลาย สี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนที่เอาไว้กางค่ายกลแยกกันตกไปอยู่ในมือของเหล่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งสายหยกพิสุทธิ์
เช่นชื่อจิงจื่อได้กระบี่ผนึกเซียนไป ส่วนกระบี่ลวงเซียนตกเป็นของอวี้ติ่งจินหยิน
ภายหลังในยุคโบราณตอนกลาง ชื่อจิงจื่อตกตายด้วยมือของเทวกษัตริย์วิเศษคณานับ กระบี่ผนึกเซียนถูกเทวกษัตริย์วิเศษคณานับชิงกลับ
ทว่าไม่รอให้เขาตามหากระบี่อีกสามเล่มกลับมา ก็เสียชีวิตเพราะมารสวรรค์ไร้พันธนา
ด้วยเหตุนี้กระบี่ลวงเซียนจึงอยู่ในมือของอวี้ติ่งจินหยินตลอดมา เพียงแต่ว่าหลังยุคโบราณตอนต้น อวี้ติ่งจินหยินมักเร้นกาย น้อยครั้งจะมีข่าวแพร่หลาย
หลังการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยและวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ปัจจุบันข่าวคราวก็หายไปโดยสิ้นเชิง
เยี่ยนซิงถางเป็นผู้สืบทอดกระแสตรงของอวี้ติ่งจินหยิน ออกเดินทางพร้อมกับตี๋ชิงเหลียนผู้สืบทอดกระแสตรงสายเหนือพิสุทธิ์ ทดลองยืนยันความเป็นความตายของอวี้ติ่งจินหยิน และตามหาที่อยู่ของกระบี่ลวงเซียน ตามมรดกของคนรุ่นก่อนที่มีจำกัดยิ่ง
การไปในครั้งนี้กินเวลาหลายปี น่าเสียดายไม่ได้อะไรกลับมา
เกาชิงเสวียน หลงซิงเฉวียน หลี่อิง เฉินเสวียนจง เยว่เจิ้นเป่ยต่างทดลองตามหาพวกเขา ทว่าสิ่งที่มาถึงในตอนสุดท้ายกลับเป็นข่าวร้าย
กระบี่ชีวิตที่คนทั้งสองตั้งใจทิ้งเอาไว้ก่อนออกเดินทาง หักพร้อมกัน บ่งบอกถึงข่าวการตายของคนทั้งสอง
อัจฉริยะมรรคากระบี่ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองที่โดดเด่นที่สุดในสำนักเต๋าหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ตกตายพร้อมกัน ทิ้งความเสียดายไร้สิ้นสุดให้แก่ชนชาวโลก ทิ้งความเจ็บปวดไร้สิ้นสุดให้แก่พวกเกาชิงเสวียนและหลงซิงเฉวียน
มรดกสุดท้ายของพวกเขาถูกจัดวางอยู่ในเมฆแปลงกำเนิด ไม่ทราบว่าล่องลอยไปยังที่ใด แต่ถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะกำเนิดเป็นเยียนตี๋แห่งจักรวาลสำนักเต๋า
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง เยี่ยนจ้าวเกอเคยฟังมานานแล้ว หลายปีมานี้ออกเดินทางอยู่ด้านนอก ได้ไปตามหาสถานที่ฝังศพของเยี่ยนซิงถางสามีภรรยาพร้อมกันเยี่ยนตี๋บ่อยๆ เช่นกัน
ทว่าน่าเสียดายที่ในมือไม่มีเบาะแสอันใด จึงไม่มีผลลัพธ์อะไร
“เรื่องบางอย่าง หลายๆ ครั้งแล้วต้องรอวาสนา” เยี่ยนจ้าวเกอเดินวนรอบกระบี่ผนึกเซียนที่ลอยค้างกลางอากาศหลายรอบ “ก่อนหน้านี้พวกเราไม่เคยหาเจอ ตอนนี้ไม่แน่ว่าจะอาศัยกระบี่ผนึกเซียนเล่มนี้ช่วยเหลือได้”
เขากล่าวเสียงเบา “ความตายของท่านปู่และท่านย่าแปลกประหลาดและกะทันหันเกินไป ข้ารู้สึกว่าสมควรมีสาเหตุบางอย่าง ข้าคาดเดาว่าพวกท่านอาจจะตามหากระบี่ลวงเซียนเจอจริงๆ แล้วก็ได้”
“ต่อให้ไม่เจอ เชื่อว่าคงอยู่อีกไม่ไกล”
เยี่ยนจ้าวเกอระบายลมหายใจออกยาวๆ “เช่นนั้นถ้าหากว่าสามารถหากระบี่ลวงเซียนจนเจอ แล้วอนุมานย้อนกลับ ค้นหาดูใกล้ๆ อาจจะเจอร่องรอยที่ท่านปู่ได้เหลือเอาไว้”
เขาลังเลเล็กน้อย ถามว่า “ถึงก่อนหน้านี้จะถามอาจารย์ลุงเยว่มาแล้ว ทั้งได้รับคำตอบปฏิเสธ ทว่ายังคิดจะถามอีกครั้ง พวกท่านปู่กับท่านย่าไม่มีหวังว่าจะมีชีวิตอยู่จริงๆ หรือ”
“ถึงข้าจะหวังให้เกิดปาฏิหาริย์ ทว่า…” หลงซิงเฉวียนสายหน้า “กระบี่ชีวิตเล่มนี้ ยังแม่นยำกว่าวิชาลับอย่างตะเกียงวิญญาณเสียอีก หนำซ้ำยังเป็นผู้เมียโอบกอด ผลลัพธ์กระบี่คู่หักพร้อมกัน”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าเงียบๆ “มีมรดกที่ท่านปู่กับท่านย่าอยู่ เอาออกมาทดลองดูเถอะ”
เกาชิงเสวียนหยิบกระบี่เล่มหนึ่งออกมา กลับเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิชิ้นหนึ่ง เป็นหนึ่งในกระบี่ที่ตี๋ชิงเหลียนหลอมด้วยมือตัวเองก่อนเปิดประตูเซียน
กระบี่ยาวเล่มนี้ถูกเยี่ยนจ้าวเกอถือไว้ ลงอาคมแล้วโยนออกไป ลอยอยู่เหนือประตูที่เป็นมายาสี่บานนั้น
กระบี่ผนึกเซียนด้านล่างสั่นไหวเบาๆ กระบี่อันเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ด้านบนก็สั่นสะเทือนตาม
ลวดลายค่ายกลหลายสายเหยียดยื่นออกมาจากในยันต์อาคมที่อยู่บนด้ามกระบี่ผนึกเซียนแผ่นนั้น สลักใส่อากาศ กลายเป็นค่ายกล
ลวดลายค่ายกลกะพริบแสงหลายสาย เบียดเข้าหากัน ครอบคลุมกระบี่อันเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ด้านบน
จากนั้นพร้อมกับที่เวลาผ่านไป กระบี่เล่มนี้ไม่มีการเคลื่อนไหวพิเศษ
“ดูเหมือนกระบี่เล่มนี้จะใช้ไม่ได้” เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้มีสีหน้าผิดหวัง สั่นศีรษะอย่างสงบนิ่ง “ลองดูของข้าเถอะ”
หลังจากเกาชิงเสวียนเก็บกระบี่ เยี่ยนจ้าวเกอก็หยิบกระบี่ออกมาเล่มหนึ่ง มันเป็นประกายสีทองจางๆ คมกริบอย่างน่าประหลาด เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์เหมือนกัน แต่เหนือกว่ากระบี่ของเกาชิงเสวียน
กลับเป็นกระบี่พระศุกร์
อาวุธเซียนชั้นสูงเล่มหนึ่งที่เยี่ยนซิงถางสร้างขึ้นเพื่อให้เหมาะกับชื่อเก้านพเคราะห์ ที่แล้วมามีชื่อเสียงเท่ากับของวิเศษอย่างตราประทับตะวัน มงกุฎจันทรา ธงพฤหัสบดี เป็นตัวตนที่เรียกได้ว่าเป็นราชาในหมู่อาวุธศักดิ์สิทธิ์
ไม่ได้หมายความว่าเยี่ยนซิงถางหลอมอุปกรณ์เก่งกาจกว่าตี๋ชิงเหลียน แต่ว่ากระบี่พระศุกร์เล่มนี้เป็นเยี่ยนซิงถางสร้างขึ้นหลังกลายเป็นเซียน
หลายปีมานี้ กระบี่เล่มนี้เป็นของวิเศษที่สืบทอดต่อกันมาของเขานครหยกแห่งยอดเขาเป่ยเกาในเขาคุนหลุนบนโลกซ้อนโลกมาโดยตลอด
เห็นวัตถุคิดถึงผู้คน เยว่เจิ้นเป่ยออกจากเขานครหยก กระบี่เปิดกำเนิดอาวุธเซียนที่ตนหลอมสร้างขึ้นเองยังคงอยู่ในสำนัก ทว่ากระบี่พระศุกร์เล่มนี้กลับนำติดตัวตลอดเวลา
จนกระทั่งเยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋ปรากฏตัวบนโลกซ้อนโลก หลังจากเยว่เจิ้นเป่ยกลับมาจากมิติไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน ค่อยนำกระบี่นี้คืนให้ตระกูลเยี่ยน
กระนั้น ไม่ว่าจะเป็นเยี่ยนจ้าวเกอหรือว่าเยี่ยนตี๋ ต่างนำกระบี่เล่มนี้ไปคืนให้เขานครหยก
ถึงพวกเขาพ่อลูกจะเป็นลูกหลานทางสายเลือดของเยี่ยนซิงถาง ทว่าดูจากมุมมองการสืบทอดมรรคายุทธ์แล้ว เยว่เจิ้นเป่ยกับเขานครหยกต่างหากที่เป็นผู้สืบทอดดั้งเดิมของเยี่ยนซิงถาง รับสืบทอดระบบมรรคามรดกของเขา
ครั้งนี้เป็นเพราะต้องใช้กระบี่ผนึกเซียนตามหากระบี่อีกสามเล่ม และอาจตามหาที่ฝังศพของเยี่ยนซิงถางสามีภรรยา เยี่ยนจ้าวเกอจึงยืมกระบี่เล่มนี้มาจากเขานครหยกอีกครั้ง แล้วนำมามรกตท่องฟ้า
สำหรับหลงซิงเฉวียนที่เป็นเซียนลี้ลับแล้ว อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชิ้นหนึ่งไม่ต่างอะไรกับเหล็กทั่วไป แต่ยามนี้ขณะมองดูกระบี่พระศุกร์กลับรู้สึกสะท้อนใจ
เยี่ยนจ้าวเกอใช้สองมือประคองกระบี่พระศุกร์ขึ้น ลงอาคมแล้วโยนขึ้น ลอยเข้าไปในค่ายกล