ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1521 ติดอยู่ในห้วงทุกข์บนโลกน้ำพุหยก
ถ้ำเมฆทองบนเขาน้ำพุหยก ว่ากันว่าเป็นนิวาสสถานที่บำเพ็ญของอวี้ติ่งจินหยิน
สถานที่นี้ใช้ ‘น้ำพุหยก’ เป็นชื่อ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะไม่ใช่ฝีมือของตัวอวี้ติ่งจินหยิน แต่เป็นผู้สืบทอดของเขาตั้งขึ้น
เยี่ยนจ้าวเกอยืนเงียบๆ อยู่ด้านข้างเยี่ยนตี๋ มองดูคนทั้งสามที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสนใจ
เซียนลี้ลับคนหนึ่ง เซียนจริงแท้สองคน
ถ้าหากนี่อยู่ในสำนักหนึ่ง เช่นนั้นสำหรับสำนักเต๋าสายหลักหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ก็เรียกได้ว่าโดดเด่น
ปัจจุบันฟ้าเหนือฟ้ายิ่งใหญ่แล้ว แต่ก็เป็นเพราะวาสนาและการทุ่มเทในหลายปีมานี้
โลกซ้อนโลกกับฟ้าท้องมรกตเก็บสะสมทรัพย์สมบัติมาหลายปี ครั้งกระโน้นเก็บสะสมได้ไม่เท่าไร
แต่ถ้าโลกน้ำพุหยกใบนี้ผ่านวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ได้อย่างปลอดภัย วัตถุมากมายต่างมีพื้นฐาน ไม่ต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่สร้างบ้านด้วยมือเปล่า เช่นนั้นจะมีทรัพย์สมบัติอยู่บ้างกลับถือว่าปกติ
สิ่งที่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอสนใจก็คือ ในตอนที่อีกฝ่ายได้ยินเยี่ยนตี๋บอกชื่อแซ่ของตัวเอง ก็มีการเคลื่อนไหวปกติอยู่บ้าง
“เราพ่อลูกมาจากภายนอกจริงๆ” เยี่ยนตี๋ตอบตรงไปตรงมา
คนคนหนึ่งด้านหลังนักพรตชิงจางอดถามไม่ได้ “พวกท่านเข้ามาได้อย่างไร”
ไม่รอเยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋ตอบ นักพรตชิงจางกวาดมองคนผู้นั้น “อย่าได้เสียมารยาทต่อแขก”
“เป็นศิษย์วู่วามไป” นักพรตหนุ่มวัยกลางคนผู้นั้นพอฟัง ปั้นสีหน้าจริงจัง ประสานมือคำนับพวกเยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋ “ข้าจ้าวเจิน คำนับสหายร่วมเส้นทางสองท่าน”
“จ้าวเจินเป็นศิษย์ของข้า” นักพรตชิงจางยามนี้แนะนำอีกคนหนึ่งด้านข้าง “ท่านผู้นี้คือเหยาอวิ๋นเฉิง สหายร่วมเส้นทางเหยาแห่งหุบเขาชีวาม่วงบนเขาคลื่นสูง”
“สวัสดีสหายร่วมเส้นทางสองท่าน เหยาอวิ๋นเฉิงขอคารวะ” รูปลักษณะภายนอกของคนผู้นี้กลับเป็นคนหนุ่ม ตอนนี้พิจารณาพวกเยี่ยนจ้าวเกออย่างละเอียดเช่นกัน
เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋มองออกว่า คนสามคนตรงหน้า มาจากสองสำนัก
ทว่าพอพิจารณาว่าที่นี่เกี่ยวข้องกับอวี้ติ่งจินหยิน บางทีหากสืบสาวการสืบทอดของสามคนที่อยู่ตรงหน้าไปถึงต้นตอ ต่างก็เป็นสายสืบทอดของอวี้ติ่งจินหยิน เพียงแต่แตกกิ่งก้านสาขาเท่านั้น
“สหายร่วมเส้นทางสามท่าน เมื่อครู่ได้ยินข้าผู้แซ่เยี่ยนเล่าความเป็นมา คล้ายมีคำพูดต้องการกล่าว” หลังจากเยี่ยนตี๋ทักทายพวกเขา ก็ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธเรื่องที่นักพรตจ้าวเจินถามว่าพวกตนสองพ่อลูกเข้ามาได้อย่างไร แต่กลับถามว่า “ข้าผู้แซ่เยี่ยนกับทั้งสามท่านไม่เคยรู้จักกัน ขณะนี้สมควรเจอกันเป็นครั้งแรก ไฉนสามท่านคล้ายเคยได้ยินนามธรรมดาของข้าผู้แซ่เยี่ยนมาก่อน”
นักพรตชิงจางมองเยี่ยนตี๋อย่างล้ำลึก “ข้ากับพวกท่านพ่อลูกย่อมเพิ่งพบหน้ากันเป็นครั้งแรก แต่ชื่อต้องห้ามของสหายร่วมเส้นทางเยี่ยนตี๋ท่าน ทำให้ข้านึกถึงคนรู้จักสองคน ศิษย์กับสหายร่วมเส้นทางเหยาเคยได้ยินมา ดังนั้นเมื่อครู่อาจมีจุดที่เสียมารยาท ขอให้พวกท่านพ่อลูกอย่าถือสา”
‘ชื่อต้องห้ามของท่านพ่อ…’ เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าไร้อารมณ์ กล่าวในใจว่านึกไว้แล้ว
ชื่อของเยี่ยนตี๋มาจากการผสมแซ่ของเยี่ยนซิงถางผู้เป็นบิดา และตี๋ชิงเหลียนผู้เป็นมารดา
ถ้าหากว่าเยี่ยนซิงถางสองสามีภรรยาอยู่บนโลกน้ำพุหยกจริงๆ และรู้จักกับพวกนักพรตชิงจาง เช่นนั้นจะเกิดความคิดเชื่อมโยงเพราะเรื่องนี้ก็ถือว่าปกติ
คนอื่นๆ ยังพอว่า เยี่ยนตี๋ เยี่ยนจ้าวเกอล้วนเป็นผู้มาจากภายนอก ไม่ใช่ผู้อยู่อาศัยดั้งเดิมของโลกน้ำพุหยกใบนี้เหมือนกับเยี่ยนซิงถางและตี๋ชิงเหลียนในตอนนั้น
จุดร่วมกันนี้ไม่อยากเชื่อมโยงยังยากเย็น
เพียงแต่เป็นเพราะตอนนั้นเยี่ยนตี๋ตั้งครรภ์ในเมฆแปลงกำเนิดสองพันกว่าปี ใกล้ชิดธรรมชาติ เกิดขึ้นมาเอง กลับค่อยๆ เจือจางการสืบทอดทางสายเลือด ดังนั้นมีความแตกต่างกับเยี่ยนซิงถางสามีภรรยาในด้านลักษณะเฉพาะของรูปร่างหน้าตาค่อนข้างมาก
นี่ทำให้พวกนักพรตชิงจางไม่แน่ใจอยู่บ้าง
เพียงแต่บังเอิญเกินไปจริงๆ ทำให้คนทั้งสามยากจะไม่มีความคิดในใจ
“นามของข้าผู้แซ่เยี่ยนไม่มีความเป็นมาพิเศษ” เยี่ยนตี๋พูดตรงไปตรงมา “มารดาแซ่ตี๋ เป็นชื่อของข้า จะว่าไปไม่ได้หลีกเลี่ยงคำต้องห้าม กลับทำให้สหายร่วมเส้นทางสามท่านหัวเราะเยาะแล้ว”
สามคนที่อยู่ตรงข้ามมองหน้ากัน สุดท้ายยังเป็นนักพรตชิงจางเอ่ย “ขอถาม แซ่สูงส่งนามยิ่งใหญ่ของบิดามารดาสหายร่วมเส้นทางคืออะไรหรือ”
เยี่ยนตี๋ตอบ “บิดาเยี่ยนซิงถาง ผู้สืบทอดกระแสตรงของบูรพาจารย์อวี้ติ่งจินหยินผู้ยิ่งใหญ่แห่งหยกพิสุทธิ์ มารดาตี๋ชิงเหลียน ผู้สืบทอดกระแสตรงสายเหนือพิสุทธิ์”
นักพรตชิงจางถอนใจเบาๆ
เหยาอวิ๋นเฉิงกับนักพรตจ้าวเจินสีหน้าประหลาดพิกลอยู่บ้าง
“ครั้งนี้ที่ข้าผู้แซ่เยี่ยนมาเพื่อตามหาบิดากับมารดา ถึงแม้จะตัดขาดข่าวสารไปหลายปี แต่ในฐานะผู้บุตร เมื่อมีความหวังย่อมพยายามกระทำให้สำเร็จ” เยี่ยนตี๋กวาดมองใบหน้าทั้งสามที่อยู่อีกด้าน “หากว่าสหายร่วมเส้นทางสามท่านทราบเรื่อง ขอให้บอกเล่าได้เต็มที่ พวกเราพ่อลูกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง”
“สหายร่วมเส้นทางเยี่ยนเกรงใจแล้ว” นักพรตชิงจางสีหน้ากลับเป็นปกติ เอ่ยปากว่า “ถ้าหากในนี้ไม่มีความเข้าใจผิดอะไรกัน เช่นนั้นสหายร่วมเส้นทางสองท่านที่ข้าพูดถึงก่อนหน้านี้ คงจะเป็นคนที่สหายร่วมเส้นทางเยี่ยนต้องการตามหาแล้ว”
เขาพยักหน้า “เยี่ยนซิงถางสหายร่วมเส้นทางเยี่ยน ยังมีตี๋ชิงเหลียนสหายร่วมเส้นทางตี๋สองคน อยู่บนโลกน้ำพุหยกของพวกเราจริงๆ”
เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋พอฟัง ต่างกระตือรือร้น “อ้อ? ไม่ทราบตอนนี้อยู่ที่ใด”
“ย่อมยังอยู่” นักพรตชิงจางใบหน้าปรากฏรอยยิ้มหนักใจ “อยากออกไปก็ออกไปไม่ได้”
เยี่ยนจ้าวเกอพ่อลูกขมวดคิ้ว
นักพรตชิงจางส่ายหน้า ชี้ที่ท้องฟ้าเบื้องบน “เป็นข้าใช้คำไม่ชัดเจน ความหมายเมื่อครู่ของข้าคือ ใครก็ออกจากที่นี่ไม่ได้”
เขามองพวกเยี่ยนจ้าวเกอ “สองพันกว่าปีมานี้ พวกท่านสองพ่อลูกเป็นแขกกลุ่มแรก”
นักพรตจ้าวเจินที่อยู่ด้านข้างเสริมว่า “สองพันปีแล้วที่ไม่มีคนออกจากโลกน้ำพุหยกได้ และไม่มีใครเข้ามาได้ พวกท่านเป็นข้อยกเว้นหนึ่งเดียว”
“ที่พวกเราเข้ามาได้ เป็นวาสนาความบังเอิญเช่นกัน” เยี่ยนจ้าวเกอพูดขึ้น “วิธีที่เข้ามา ไม่มีวิธีใช้ออกมา”
เขาพูดความจริง นอกจากว่าจะประทะกับตราผนึกตรงๆ ทำลายโลกน้ำพุหยกใบนี้ทิ้ง
คิดใช้วิธีการสันติออกไป เช่นนั้นจำเป็นต้องให้พวกเขาหากระบี่ลวงเซียนเจอก่อน แล้วแก้ตราผนึกจากด้านใน
หลังจากได้ยินเขาพูดแบบนี้ คนทั้งสามที่อยู่อีกด้านสีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
นักพรตชิงจางยังดี นักพรตจ้าวเจินกับเหยาอวิ๋นเฉิง สีหน้าต่างมืดครึ้ม แสดงให้เห็นว่าพวกเขาผิดหวังยิ่ง
ถึงจะเป็นยอดฝีมือที่ได้ผลักเปิดประตูเซียน กลับถูกจำกัดไว้ในฟ้าดินของโลกน้ำพุหยก ไม่มีอิสระ ย่อมทำให้พวกเขาต้องการออกมากอย่างไม่ต้องสงสัย
การมาถึงของพวกเยี่ยนจ้าวเกอเป็นความหวัง แต่ตอนนี้เป็นความผิดหวังอีกรอบหลังจากความหวัง
กระนั้นสิ่งที่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอสนใจก็คือ เขารู้สึกถึงจิตสังหารและปราณกาลีที่เลือนรางในปราณกระบี่ของอีกฝ่าย
นักพรตชิงจางถอนใจคำหนึ่ง “คิดออกไปยากเย็นเกินไปแล้ว พวกเราพยายามมาครึ่งชีวิต วันนี้แก่ชราแล้ว กลับยังคงได้แต่ติดอยู่ในความทุกข์”
เยี่ยนจ้าวเกอทำสีหน้าลำบากใจเช่นกัน “ก่อนเข้ามา กลับคิดไม่ถึงว่าจะมีด่านยากเช่นนี้”
“ไม่ทราบว่าตอนนี้บิดากับมารดาอยู่ที่ใด” เยี่ยนตี๋ถามขึ้น
นักพรตชิงจางกล่าว “จากที่นี่ไปทางตะวันตกเป็นเขาเมฆทอง บิดากับมารดาท่านอาศัยอยู่ที่นั่น”
เขาหันไปพูดกับจ้าวเจิน “จ้าวเจิน เจ้าช่วยนำทางสหายร่วมเส้นทางสองคนนี้ไปเขาเมฆทองเถอะ”
“ขอรับท่านอาจารย์” ขณะนี้นักพรตจ้าวเจินจัดระเบียบอารมณ์ความรู้สึก สีหน้ากลับเป็นอย่างเดิม ประสานมือให้แก่พวกเยี่ยนจ้าวเกอ “สหายร่วมเส้นทางสองคนขอให้ติดตามข้ามา”
เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋สบตากัน ต่างพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็ติดตามนักพรตจ้าวเจินมุ่งหน้าไปทางตะวันตก
นักพรตชิงจางกับเหยาอวิ๋นเฉิงเงียบงัน ใช้สายตาส่งพวกเขาจนหายไป นักพรตชิงจางกล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “รีบลงมือเถอะ”