ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1523 มีเรื่องบางเรื่อง พวกท่านจัดการไม่ได้
ไม่เพียงปัญหาของตัวเองเท่านั้น เยี่ยนจ้าวเกอสัมผัสได้ว่า ในหุบเขาเบื้องล่างระเบิดปราณดาบสะท้านฟ้าออกมา
นั่นย่อมเป็นเยี่ยนตี๋ลงมือต่อต้าน
สภาวะในนี้ทำให้สีหน้าของพวกนักพรตชิงจางเคร่งขรึมลงหลายส่วน ไม่ได้น่าดูชมเหมือนเดิมแล้ว
ถึงแม้จะมองออกว่าเยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋ต่างอยู่ในระดับเซียนลี้ลับสงบนิ่ง แต่ว่าพลังที่เยี่ยนตี๋แสดงออกมาเพียงแวบเดียวยังคงอยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขา “นี่เป็นพลังที่เซียนลี้ลับมีได้หรือ”
ทว่าถึงสามคนจะแตกตื่น แต่กลับไม่สับสน
นักพรตชิงจางสีหน้าเยือกเย็น กำกระบี่สั้นเล่มหนึ่งไว้ในมือ
กระบี่สั้นทั้งเล่มสร้างขึ้นจากหยกขาว เป็นแสงแวววาว เพียงแต่ผิวเต็มไปด้วยรอยแตก สภาพผุกร่อน เหมือนกับอาจจะแหลกสลายได้ตลอดเวลา แต่ว่าเจตจำนงกระบี่ที่อยู่ด้านในลี้ลับยิ่งใหญ่ แถมยังน่าอัศจรรย์
ภายใต้การควบคุมของนักพรตชิงจาง กระบี่สั้นหยกขาวส่องประกายกระบี่ระยิบระยับ เหมือนกับตัวตนบางอย่างที่เชื่อมสู่ฟากฟ้า
พอคิดเชื่อมโยงถึงสิ่งที่นักพรตจ้าวเจินเคยเอ่ยว่า ซากสังขารของนักพรตอวี้ติ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของตราผนึกเหมือนกัน เยี่ยนจ้าวเกอก็คาดเดาว่า กระบี่สั้นหยกขาวเล่มนี้บางทีเป็นหนึ่งในมรดกของนักพรตอวี้ติ่ง
พวกนักพรตชิงจางจึงสามารถวางแผนการนี้ได้ เปลี่ยนแปลงพลังของตราผนึกได้ในระดับจำกัด ทั้งยังคิดทำลายตราผนึกทิ้ง
แต่ว่าถ้าหากมีแค่นี้ โอกาสพวกเขายังไม่มาก
ด้วยความดุร้ายของกระบี่ลวงเซียน ผลลัพธ์พ่ายแพ้อาจจะน่าอนาถสุดขีด กายตายมรรคามลายเป็นเรื่องธรรมดา
ทว่าถ้าหากเซ่นสรวงเลือดเยี่ยนจ้าวเกอพ่อลูกจริงๆ เช่นนั้นจะสำเร็จหรือไม่แม้นยังไม่แน่นอน แต่ว่าก็เพิ่มความหวังที่จะสำเร็จมากมาย
…ต่อให้พ่ายแพ้แล้ว สมควรเป็นค่าตอบแทนที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอต้องแบกรับ ต่อจากนี้พวกนักพรตชิงจางมีโอกาสตั้งหลักใหม่
ภายใต้การควบคุมของนักพรตชิงจาง แสงโลหิตที่ครอบคลุมเขาแสงทองยิ่งมายิ่งเจิดจ้า
เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกได้ว่าแรงกดดันของตัวเองยิ่งมายิ่งชัดเจน ผลลัพธ์แบบนี้ทำให้เขาจิตใจหนักอึ้งอยู่บ้าง
ไม่ได้เป็นห่วงตัวเอง แต่เป็นเพราะนี่หมายความว่าคำพูดก่อนหน้านี้ของอีกฝ่าย เกรงว่าจะไม่แปลกปลอม
ตราผนึกของที่นี่เป็นเยี่ยนซิงถาง ตี๋ชิงเหลียนอย่างน้อยสักคนหนึ่งในนี้ กางขึ้นโดยเซ่นสรวงเลือดให้แก่กระบี่ลวงเซียน ไม่อยางนั้นพิธีเซ่นสรวงเลือดที่คล้ายกัน ไม่มีทางส่งผลต่อเยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋ชัดเจนขนาดนี้
นี่หมายความว่ามีความเกี่ยวข้องกับสายสายเลือดจริงๆ
“เอาละ ตอนนี้ข้าไม่มีความเข้าใจจริงๆ ว่าพวกท่านคิดอย่างไร” เยี่ยนจ้าวเกอสัมผัสความเจ็บปวดของร่างกาย ระบายลมหายใจออกยาวๆ “เหมือนกับมีบางเรื่องราวที่พวกท่านอาจทำความเข้าใจไม่ได้กระมัง”
ขณะที่พูด สภาวะโจมตีของเยี่ยนตี๋ยิ่งมายิ่งรุนแรง เหมือนกับไม่ได้รับผลกระทบโดยสิ้นเชิง
เหนือหุบเขาพลันมีเมฆมงคลกลุ่มหนึ่งบานออกเหมือนดอกบัว โกลาหลขมุกขมัว
พอเมฆแปลงกำเนิดรองไว้ เยี่ยนตี๋สัมผัสได้ถึงผลกระทบของการเซ่นสรวงเลือด พลันลดต่ำลง
“สิ่งของอันใด” นักพรตชิงจางสีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ชี้กระบี่สั้นหยกขาวไปยังเยี่ยนจ้าวเกอ
แสงสีแดงผนึกรวม พลันรวมศูนย์กว่าเดิม เริ่มส่องต้องเยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม แสงสีแดงก่ำหลายสายกะพริบบนร่าง
ในกายเขาแฝงความโกลาหล สารจำเป็น ลมปราณ จิตใจที่เต้นเร่าราวกับลุกไหม้สงบลงในทันใด
ขณะเดียวกัน เยี่ยนจ้าวเกอยื่นนิ้วออกมาตวัดกลางอากาศ ประกายกระบี่สีแดงก่ำเวียนว่อน ถึงกับกลายเป็นค่ายกลกระบี่หลายสาย
ค่ายกลกระบี่เหล่านี้หมุนและลอยขึ้น ทำลายสภาวะค่ายกลที่ครอบคลุมเขาเมฆทองไม่หยุด
นักพรตชิงจางเห็นดังนั้น ในที่สุดสีหน้าเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้แสดงพลังน่าตกตะลึงเท่าใดนัก แต่ใช้ความแยบยลทำลายความแยบยล แก้ไขสภาวะค่ายกลของตราผนึกเซ่นสรวงเลือดตรงหน้า การทำยากให้เป็นง่ายในนี้ทำให้พวกนักพรตชิงจางที่ทราบว่าเป็นอะไรถึงกับตกตะลึง
ภายใต้การเปรียบเทียบ ความเชี่ยวชาญคัมภีร์กระบี่ลวงเซียนของเยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่ได้ทำให้พวกเขาประหลาดใจขนาดนั้นแล้ว
“ไป!” นักพรตชิงชางตัดสินใจ หมุนกายเข้าไปในส่วนลึกของถ้ำ
จากตรงนั้น พวกเขามีเส้นทางออกไป
ทว่าทันใดนั้น เยี่ยนจ้าวเกอปล่อยพลังแล้ว
หลังจากแก้ไขการผนึกที่แสงสีแดงส่งผลต่อตัวเอง เขาส่ายร่าง กระแสปราณหลายสายเกาะเกี่ยว ราวกับกลายเป็นธงเบิกนภาคันหนึ่ง
ความมืดไร้สิ้นสุดโดนแหวกออก แสงสว่างพร่างพราวเบ่งบานเป็นครั้งแรก เยี่ยนจ้าวเกอพุ่งเข้าไปในถ้ำอย่างหักโหม
ประกายกระบี่สีแดงก่ำกะพริบ เยี่ยนจ้าวเกอไล่ตามพวกนักพรตชิงจางด้วยความเร็วสูง
ร่างของนักพรตชิงจางสาดประกายกระบี่สีแดงก่ำ กลับเป็นเคล็ดวิชาในคัมภีร์กระบี่ลวงเซียนที่สืบทอดกันในสายของอวี้ติ่งจินหยินแห่งหยกพิสุทธิ์ที่บนโลกภายนอกได้สาบสูญไปแล้ว
เขานำนักพรตจ้าวเจินกับเหยาอวิ๋นเฉิงหลบหนีด้วยความเร็วสูง ความเร็วถึงกับไม่ด้อยไปกว่าเซียนลี้ลับสายเหนือพิสุทธิ์ที่เชี่ยวชาญกระบี่ลวงเซียนเหมือนกัน
น่าเสียดาย เขาเร็วแล้ว แต่เยี่ยนจ้าวเกอเร็วกกว่า
แสงสีแดงส่องระยิบระยับหลายครั้ง ระยะห่างระหว่างสองฝ่ายหดเล็กลงอย่างไม่อาจควบคุม!
เยี่ยนจ้าวเกอเพิ่งพุ่งออกจากถ้ำตรงร่องแตกรอยแยกของมิติเวลาอีกด้านหนึ่ง ทว่าติดตามนักพรตชิงจางทันแล้ว
นักพรตชิงจางเห็นว่ายังคงหนีไม่พ้น กระนั้นใบหน้าของเขายังคงสงบนิ่ง ไม่รีบไม่ร้อน พลันหันม้ากลับมาแทงหอก พลิกตัวจู่โจมกระบี่หนึ่งใส่เยี่ยนจ้าวเกอ!
ทิศที่คมกระบี่ชี้ไป สรรพวัตถุล้วนกำเนิด
วายุสวรรค์ หินหนืดใต้ดิน น้ำในทะเลลึก สายฟ้าเสินเซียว…ฟ้าดินทั้งหมดเหมือนกับเปลี่ยนแปลง ม้วนพัดธรรมชาติจนผนึกตัวเป็นคมกระบี่ที่ทนทานไม่อาจทำลาย ฟันทำลายความว่างเปล่าในพริบตาเดียว
ขณะนี้เองเยี่ยนจ้าวเกอยังอยู่ในพริบตาที่กำลังจะพุ่งออกจากร่องแยกมิติเวลา ผละจากถ้ำ จึงติดอยู่ระหว่างมิติเวลาสองชั้น
เวลาที่นักพรตชิงจางเลือกลงมือ ไม่อาจไม่บอกว่าแยบคาย
กระบี่ของเขายิ่งบรรยายถึงแก่นแท้ในสายสืบทอดมรรคากระบี่สายหยกพิสุทธิ์ที่อวี้ติ่งจินหยินถ่ายทอด
ในหนึ่งกระบี่รวมสองวิถีเช่น ‘วัตถุใดไม่กำเนิด’ และ ‘วัตถุใดไม่ห่อหุ้ม’ ของกระบี่จริงแท้เก้ากระบวนท่าแห่งหยกพิสุทธิ์เป็นหนึ่งเดียว หลอมรวมเข้าด้วยกัน
เขาทราบแล้วว่าเยี่ยนจ้าวเกอแตกฉานในคัมภีร์กระบี่ลวงเซียน ในกระบี่นี้ถึงขั้นหลอมรวมความเข้าใจที่เขามีแต่กระบี่ลวงเซียนสายหยกพิสุทธิ์ จึงต้องการแก้ไขการเปลี่ยนแปลงที่เยี่ยนจ้าวเกออาจหลบหลีก
“กระบี่ที่ดี” เยี่ยนจ้าวเกอตวาดขึ้น กลับไม่หลบหลีก ปล่อยประกายกระบี่สีแดงก่ำทั่วทั้งร่างออกไป หยุดการเปลี่ยนแปลงมากมายตรงบริเวณที่มิติเวลาสองห้วงตัดกัน
จากนั้นเขาก็ต่อยหมัดหนึ่งออกไปด้านหน้า เจตจำนงหมัดของหมัดแปลงกำเนิดครอบคลุมสี่ทิศ หยุดการเปลี่ยนแปลงในสภาวะกระบี่ของนักพรตชิงจาง เจอคมกระบี่ของนักพรตชิงจางอย่างแม่นยำ
พอถึงใกล้ๆ เขาก็งอนิ้วดีดออกใส่คมกระบี่ของนักพรตชิงจางอย่างแม่นยำ
นักพรตชิงจางทั่วร่างสั่นสะท้าน พลันจับกระบี่วิเศษในมือไว้ไม่อยู่ เขาตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ปล่อยมือโยนกระบี่พุ่งใส่เยี่ยนจ้าวเกอ ขณะเดียวกันตนก็ทดลองถอยไปด้านหลัง
แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอพุ่งสองนิ้วออกไป คีบกระบี่วิเศษเล่มนั้นไว้
เยี่ยนจ้าวเกอทิ่มแทงออกหนึ่งกระบี่แล้ว เหมือนกับเปิดผ่าฟ้าดิน บรรลุถึงเบื้องหน้านักพรตชิงจาง
เขาใช้สองนิ้วคีบปลายกระบี่พร้อมกับขวางคม ฟันใส่คอของนักพรตชิงจาง
นักพรตชิงจางรีบร้อนหลบ ฝืนเบี่ยงจุดตายที่คอได้ แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอพลิกคมกระบี่ในมือตามสภาวะ ปลายกระบี่ชี้ที่เขา แทงทะลุนักพรตชราผู้นี้ เสียบอีกฝ่ายติดกับพื้น!
นักพรตจ้าวเจินกับเหยาอวิ๋นเฉิงยิ่งไม่มีที่ให้หลบหนี ถูกเยี่ยนจ้าวเกอยื่นฝ่ามือออกมาจับไว้กลางฝ่ามือ
“เอาละ ตอนนี้พวกเราคุยกันได้แล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าเป็นปรกติ สายตามองนักพรตชิงจางที่ใบหน้าเหมือนหมดอาลัยตายอยาก
เขาไม่ถามไถ่ว่าทำไมอีกฝ่ายจะต้องสร้างความลำบากให้แก่พวกตนสองพ่อลูก แต่ถามว่า “ตราผนึกที่เกิดขึ้นกระบี่ลวงเซียน ที่แท้ผนึกอะไรกันแน่ หรือว่าผนึกผู้ใด?”
พวกนักพรตชิงจางเงียบงัน
“เป็นไร คิดหลอกให้ตัวข้าไปเปิดตราผนึก จากนั้นก็ฝากความหวังไว้กับคนในตราผนึกให้กำจัดข้าทิ้งแก้แค้นให้กับพวกท่านหรือ?” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะเหอะๆ