ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1532 สุดยอดอาวุธพิฆาต
พอเห็นเยี่ยนจ้าวเกอดิ้นหลุดจากวงล้อมของโลกีย์วิสัยบนโลกมนุษย์ เหมือนกับเซียนผู้ถูกเนรเทศกลับสู่สวรรค์ชั้นเก้า ฉวีซู หวังก่วน เทวกษัตริย์เภรีต่างขมวดคิ้ว
“วิชากระบี่นี้…”
ถึงแม้ยอดฝีมือระดับมหาชาลทั้งหลายจะคอยระวังกระบี่เนรเทศเซียนของเยี่ยนจ้าวเกอ แต่ว่าใคร่ครวญถึงผลกระทบจากวิชากระบี่นี้มากกว่า ไม่ใช่อานุภาพอย่างในตอนนี้
มาตรแม้นกระบี่เนรเทศเซียนจะแข็งแกร่ง ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอมีพลังฝึกปรือระดับเซียนลี้ลับ ก็ไม่อาจขับไล่พวกเขาที่อยู่บนระดับมหาชาลได้
ที่หลุดจากโลกมนุษย์ซึ่งกระบี่พุทธะแปลงกายได้ เป็นเพราะว่าสภาพในปัจจุบันของกระบี่พุทธะมีความพิเศษ กล่าวในระดับหนึ่งคือ สูญเสียความน่าอัศจรรย์ของยอดฝีมือชั้นมหาชาล กระบี่เนรเทศเซียนจึงเล็งเป้าหมายไปที่สัจธรรมในการแปลงวิถีเป็นโลกมนุษย์ของกระบี่พุทธะได้
แต่เพียงทำให้เขาหลุดออกจากการบกวนโดยโลกีย์วิสัยบนโลกมนุษย์ หากทำอะไรรากฐานของกระบี่พุทธะไม่ได้
เยี่ยนจ้าวเกอย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดีกว่าคนผู้ใด เป้าหมายของเขาที่แล้วมาจึงไม่ใช่ฉวีซูกับหวังก่วน
ประกายกระบี่ยิ่งใหญ่ซัดโหม เป้าหมายกลับเป็นซากสังขารของอวี้ติ่งจินหยินที่ไม่เคยมีผู้ใดเฝ้ามอง!
ตอนอวี้ติ่งจินหยินมีชีวิต เป็นสุดยอดผู้ฝึกกระบี่ที่มีจำนวนจำกัดในสำนักเต๋า หรือแม้แต่ประวัติศาสตร์ทั้งหมด
แต่ไม่ว่าจะเป็นพวกกระบี่พุทธะหรือฉวีซูล้วนมองออก ว่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งสายหยกพิสุทธิ์ในวันวานผู้นี้ปัจจุบันได้ตกตายไปแล้ว ซากสังขารของเขาไม่ได้ทิ้งกลไกอะไรเอาไว้
ที่กระบี่พุทธะถูกซากสังขารอวี้ติ่งกับกระบี่ลวงเซียนผนึก เป็นผลลัพธ์จากการที่เยี่ยนซิงถางกับตี๋ชิงเหลียนเซ่นสรวงเลือด
ดังนั้นแม้นซากสังขารของอวี้ติ่งจะดูเหมือนแฝงความน่าอัศจรรย์ แต่ว่าสำหรับพวกฉวีซูและหวังก่วน ไม่จำเป็นต้องเพ่งความสนใจ ความสำคัญกับการคุกคามด้อยกว่ากระบี่ลวงเซียนมาก
พวกเขาป้องกันพวกเยี่ยนจ้าวเกอมีความคิดเซ่นสรวงเลือด ระวังตัวในที่ลับ
ทว่าตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอฟันกระบี่เนรเทศเซียนใส่ซากสังขารอวี้ติ่ง กลับอยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขา
เทวกษัตริย์เภรีตอนแรกตบฝ่ามือลงด้านล่าง ดูเหมือนเล็งเป้าหมายที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอ ความจริงแฝงความคิดรับมือกระบี่พุทธะและฉวีซูสองศิษย์อาจารย์
ทว่าขณะนี้ เขารวบพลังฝ่ามืออย่างฉับพลัน ทะยานดุจดั่งมังกร พุ่งเข้าใส่เยี่ยนจ้าวเกอกับซากสังขารอวี้ติ่งซึ่งก่อนหน้าเขาไม่ได้จดจำใส่ใจ
ก่อนหน้านี้คิดทำตัวเป็นชาวประมงได้ประโยชน์ หาโอกาสรับมือฉวีซูศิษย์อาจารย์กับพวกเยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกัน ตอนนี้ละทิ้งหมดสิ้น จัดการการเปลี่ยนแปลงที่อยู่เหนือความคาดหมาย ไม่อยู่ในการควบคุมของตัวเองก่อน
เสียงกลองตึงตังดังขึ้นตามการลงมือของเทวกษัตริย์เภรี กลิ่นอายอันน่ากลัวเหมือนกับภูเขาไท่ซานกดทับศีรษะ โจมตีใส่เยี่ยนจ้าวเกอกับซากสังขารอวี้ติ่ง
แทบเป็นในพริบตาเดียวกัน เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกว่าการหายใจติดขัด ร่างที่เพิ่งหลุดจากวิถีมนุษย์ซึ่งเกิดจากกระบี่พุทธะ ก็เปลี่ยนเป็นแข็งทื่อชาด้านอีกรอบ
ถึงเทวกษัตริย์เภรีจะเป็นมหาชาลเส้นทางนอกรีต พลังสู้พวกฉวีซู หวังก่วน และกระบี่พุทธะไม่ได้ แต่ก็เป็นคนบนมหาชาล สุดที่เซียนลี้ลับสักคนจะรับมือได้ด้วยตัวคนเดียว
พลังของเขายังไม่ทันสัมผัสจริงๆ ประกายกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอที่ฟันเข้าใส่ซากสังขารอวี้ติ่งก็มีสภาพแตกกระจาย
นักพรตจ้าวเจินเห็นดังนั้นก็หัวเราะฮ่าๆ “ในที่สุดท่านก็ยังต้องตกตายเหมือนกับข้า!”
ทว่าทันใดนั้น วานรปีศาจขนาดมหึมาที่ถูกโลกีย์วิสัยบนโลกมนุษย์ห้อมล้อม พลันเงยหน้าส่งเสียงกู่ร้อง
ในเสียงกู่ร้อง วานรปีศาจตนนี้เอียงศีรษะ กระบองท่อนหนึ่งลอยออกมาจากด้านใน
กระบองเล็กขยายใหญ่ตามลม พริบตาเดียวก็กลายเป็นกระบองสารพัดนึกขนาดมหึมา!
ไม่ใช่ภาพลวงที่เกิดจากพลังของเขา แต่เป็นกระบองสารพัดนึกของจริง
เยี่ยนจ้าวเกออาละวาดบนโถงเซียน กายทองมหาเทวะสามร่างรวมกันเป็นหนึ่ง แสดงร่างที่แท้จริงของมหาเทวะเสมอฟ้า กดดันให้ยุทธวิชัยพุทธะต้องแสดงกายปีศาจ หยิบของวิเศษชิ้นนี้ขึ้นมาสู้ศัตรู
สุดท้ายยุทธวิชัยพุทธะกับบุญกุศลพุทธะถอยหนีได้อย่างปลอดภัย แต่ว่ากระบองสารพัดนึกหรือเหล็กวิเศษค้ำทะเลที่เป็นของมหาเทวะเสมอฟ้าตกมาอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอ
ครั้งนี้พอลงมือ ข้างเยี่ยนจ้าวเกอแม้มีแค่พ่านพ่านติดตาม ทว่ากระบองสารพัดนึกกลับถูกกายทองมหาเทวะร่างนี้นำติดตัวมาด้วย
ปราณพิฆาตพุ่งสู่ฟากฟ้า กระบองเหล็กอันน่ากลัวที่บดขยี้ท้องฟ้าพุ่งเข้าไปในฝ่ามือของวานรปีศาจที่พ่านพ่านแปลงขึ้นมา ควันปีศาจไร้สิ้นสุดพลันขยายขึ้นเหมือนกับไร้ขอบเขต!
ควันปีศาจปราณพิฆาตแข็งกร้าวเกินไป ผนึกตัวกลายเป็นสสาร ถึงกับเริ่มทำลายโลกีย์วิสัย ทำให้โลกมนุษย์ที่เกิดจากกระบี่พุทธะรกร้าง!
“จงยืด! จงยืด! จงยืด!”
วานรปีศาจร้องคำราม มือหนึ่งถือกระบอง ร่างเหมือนกับเปลี่ยนเป็นใหญ่โตมโหฬาร ขวางอยู่ตรงหน้าเทวกษัตริย์เภรี
เทวกษัตริย์เภรีฟาดฝ่ามือใส่ศีรษะของวานรปีศาจ ฝ่ายวานรปีศาจตนนั้นส่ายศีรษะ เหมือนไม่รู้สึกอะไร ยิ้มยิงฟันให้แก่เทวกษัตริย์เภรี แล้วควงกระบองฟาดใส่!
กระบองเหล็กกวาดไปทั่ว ความว่างเปล่าในจักรวาลพังทลายเพราะมัน ลำแสงหลายสายรวมกันที่ปลายกระบอง พร้อมกับที่กระลองเคลื่อนไปด้านหน้า ก็กอปรเป็นตัวตนราวกับธารดาวสายหนึ่ง
ร่างของเทวกษัตริย์เภรีถูกฟาดสลาย
เหมือนกับกระจกใบหนึ่งแตก ความว่างเปล่าเปลี่ยนเป็นกระจัดกระจาย หล่นไปรอบๆ
หวังก่วนแค่นเสียงคำหนึ่ง ส่ายร่าง บนใบหน้าไร้สีเลือดในพริบตา
ร่างของเทวกษัตริย์เภรีปรากฏขึ้นอีกด้านหนึ่ง
ทั้งหมดอาศัยหวังก่วนช่วยชีวิต เขาจึงค่อยรอดจากภัยพิบัติ แต่ว่าทั่วร่างร่างกระจายด้วยรอยแผลสายแล้วสายเล่า คนเหมือนกับเครื่องกระเบื้องที่กำลังจะแหลกสลาย สั่นไหวแทบล้มคว่ำ
ฉวีซูสีหน้าเปลี่ยนแปลง “กระบองสารพัดนึกของจริง?! ไฉนจึงอยู่ในมือของเขาแล้ว”
แดนสุขาวดีบัวขาวย่อมได้ทำความเข้าใจสถานการณ์ในสงครามอาละวาดบนโถงเซียนอย่างคร่าวๆ ถึงขั้นทราบว่าฝั่งเยี่ยนจ้าวเกอมีกายทองมหาเทวะสามร่าง ทั้งแสดงร่างที่แท้จริงของมหาเทวะเสมอฟ้าออกมาได้
แต่พวกเขากลับไม่ทราบรายละเอียดอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ทราบว่าในสงครามครั้งนั้น ยุทธวิชัยพุทธะได้เสียกระบองสารพัดนึกไป
นั่นเป็นอาวุธวพิฆาตที่มหาเทวะเสมอฟ้าเคยใช้กวาดทำลายสวรรค์ ซุนเห้งเจียเคยพกพาไปยังชมพูทวีป ล้วนเป็นศาสตราเทพที่ทำร้ายยอดฝีมือชั้นมหาชาลได้เหมือนกับสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียน
ตอนนั้นไม่ทราบว่าสังหารแม่ทัพและทหารสวรรค์ กับผู้ยิ่งใหญ่เผ่าปีศาจไปกี่มากน้อย
“นำมายังทางนี้ เช่นนั้นหมายความว่าทางเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอดเป็นหอกลวงแล้ว?” หวังก่วนส่ายหน้า พูดกับฉวีซู “พูดเรื่องอื่นไม่มีประโยชน์ ขวางเขาสักพัก อย่างมากสุดเขาก็ต้านได้ไม่กี่ชั่วลมหายใจ”
ขณะที่พูด ในมือหวังก่วนเพิ่มคันฉ่องคันหนึ่ง แสงกระจกสาดใส่วานรปีศาจที่ชูกระบองสารพัดนึกขึ้น
ฉวีซูเห็นกระบี่พุทธะอาจารย์ของตัวเองกลายเป็นเป้าหมายในการโจมตีหลักของวานรปีศาจ จึงไม่ถอยหนี ฟันลงหนึ่งกระบี่
ยอดฝีมือชั้นมหาชาลระดับสุดสองคนของเส้นทางนอกรีตในยุคสมัยใหม่หลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ร่วมมือกันเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมา
ขณะเดียวกัน กระบี่พุทธะที่เผชิญหน้ากับกระบองสารพัดนึกโดยตรง ปลุกปลอบความกล้าหาญ ผลักดันพลังของวิถีมนุษย์ที่ตนแปลงกายมาถึงระดับสูงสุด
ยอดฝีมือชั้นมหาชาลสามคนร่วมมือกัน ไม่ได้ใช้แข็งปะทะแข็งกับกายทองมหาเทวะที่ถือกระบองสารพัดนึกไว้ในมือ แต่ว่าดำเนินแผนการก่อนหน้า แสดงโลกีย์วิสัยบนโลกมนุษย์ เพื่อลดทอนพลังและกักขังศัตรู
เมื่อเป็นแบบนี้ก็สามารถป้องกันไม่ให้เฟิงอวิ๋นเซิงกับเกาชิงเสวียนหลุดออกมาได้เช่นกัน
ไม่อย่างนั้นพวกเขาสามคนที่รวมมือกันเผชิญกับวานรปีศาจซึ่งมีกระบองสารพัดนึกอยู่ในมือก็มีความเสี่ยงมากมายอยู่แล้ว ไหนเลยยังมีเวลาไปสนใจศัตรูที่เหลือ
ความคิดหลักของพวกเขาในตอนนี้คือต้องถ่วงเวลา
การแยกแยะของหวังก่วนไม่ผิดพลาด การควบคุมกระบองสารพัดนึกทำให้เวลาที่พ่านพ่านแสดงกายทองมหาเทวะหดสั้นลงมาก หนำซ้ำหลังจากเสร็จเรื่องแล้วการฟื้นฟูลมปราณจะเชื่องช้า จึงระวังการใช้กระบวนท่านี้เป็นอย่างยิ่ง
ยอดฝีมือเส้นทางนอกรีตหลายคนขอแค่อดทนจนพ่านพ่านพลังหมดได้ เรื่องราวก็ยังมีการโอกาสพลิกเปลี่ยน
แต่ตอนนี้พวกเขากลับสนใจเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้
เยี่ยนจ้าวเกอเยือกเย็นเหมือนเดิม ใช้มือบีบนักพรตจ้าวเจินกับเหยาอวิ๋นเฉิงที่อ้าปากตาค้างจนตาย อีกมือหนึ่งเคลื่อนไหวก่อน ฟันกระบี่เนรเทศเซียนใส่ซากสังขารอวี้ติ่ง
………………..