ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1543 เจ้าสำนักคนใหม่ของเขากว่างเฉิง
เมิ่งหวานมองไปที่ไกล เห็นคนที่สวมเสื้อผ้าตามขนบของเขากว่างเฉิงขึ้นสู่ยอดเขาโถงทอง ภายใต้การต้อนรับจากจอมยุทธ์เขาโถงทอง
คนที่เป็นผู้นำเป็นบุรุษวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ผู้หนึ่ง สายตาแน่วแน่ บุคลิกผ่าเผย
เมิ่งหวานความจริงรู้จักบุรุษวัยกลางคนผู้นี้เช่นกัน
เป็นเจ้าสำนักคนปัจจุบันของเขากว่างเฉิง สวีเฟย
หลังจากที่นำกระบี่ลวงเซียนกลับมาแล้ว เยี่ยนตี๋เจ้าสำนักรุ่นก่อนของเขากว่างเฉิงก็ได้มอบตำแหน่งให้สวีเฟยที่เป็นผู้อาวุโสระดับหนึ่งแห่งวิหารปฏิบัติกิจกว่างเฉิงรับดูแลสำนัก จากนั้นก็ตั้งใจฝึกฝน
ตอนนั้นเป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งในฟ้าเหนือฟ้า เมิ่งหวานเคยไปเข้าร่วมพิธีที่เขากว่างเฉิงพร้อมกับฟู่อวิ๋นฉือผู้เป็นบิดา เป็นสักขีพยาน การเปลี่ยนชื่อ ‘วิหคเวหา’ ของสวีเฟยตามประเพณีในแต่ละยุคของกว่างเฉิง เป็น ‘วิหคบังฟ้า’
พริบตาเดียวผ่านไปหลายปีแล้ว
ตอนนั้นสวีเฟยเป็นบุคคลชั้นผู้นำในศิษย์รุ่นสามของเขากว่างเฉิง รับหน้าที่สำคัญในสำนักมาเป็นเวลานาน
แต่สำหรับคนในโลกภายนอก เมื่อเทียบกับเยี่ยนจ้าวเกอพ่อลูกและเฟิงอวิ๋นเซิงที่สร้างชื่อข่มขวัญอยู่ด้านนอก สวีเฟยดูธรรมดาไป
เรื่องที่เขาครอบครองกายทองมหาเทวะ ตอนแรกมิได้มีการประกาศอย่ากว้างขวาง
แต่ว่าหลังจากเขารับเขากว่างเฉิงต่อ การพัฒนาของสำนักก็เป็นไปอย่างมีลำดับขั้นตอน พลังของสวีเฟยค่อยๆ แสดงออกมาทีละนิดทีละน้อยตากาลเวลาที่ผ่านไป บารมีส่วนตัวยิ่งมายิ่งแข็งแกร่ง
มาถึงวันนี้ กลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งที่ชื่อสมกับความเป็นจริง อิทธิพลมาจากตัวเอง มิใช่สถานะเจ้าสำนักคนใหม่ของเขากว่างเฉิง
ขุมกำลังที่มีตำแหน่งสูงมากพอ ทั้งมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับเขากว่างเฉิงอย่างเขาโถงทองและผาบัวแดง ย่อมทราบอะไรมากกว่า รู้จักความเหี้ยมหาญที่สวีเฟยครอบครองกายทองมหาเทวะดี
“ข้าขอขอบคุณเจ้าสำนักสวีที่เดินทางมาไกล และขอต้อนรับแทนอาจารย์” ถั่งหย่งฮ่าวในฐานะผู้ต้อนรับแขก คำนับสวีเฟยด้วยรอยยิ้ม
ในสายเขากว่างเฉิง เยี่ยนตี๋ เยี่ยนจ้าวเกอ เฟิงอวิ๋นเซิงมีระดับพลังฝึกปรือค่อนข้างสูง หากมาจะกลายเป็นแขกมีหน้ามีตากว่าเจ้าภาพ
คนที่มีพลังฝึกปรือตำกว่าคนอื่นๆ มาอวยพร จะดูทะนงตนไร้มารยาท
เฉาเจี๋ยมองจากภายนอกแม้นเป็นบุรุษวัยกลางคน แต่ว่าตอนอยู่บนโลกซ้อนโลกก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงมาหลายปี อายุจริงยังมากกว่าใครในเขากว่างเฉิง
ถึงสวีเฟยจะมีวัยวุฒิอ่อนอยู่ แต่ว่าเขามาแสดงความยินดีในฐานะเจ้าสำนักคนใหม่ของเขากว่างเฉิง ไม่ว่าจะยึดถืออย่างไรต่างเป็นการให้เกียรติเขาโถงทอง
หนำซ้ำถึงเขาจะมีบารมีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่างไรยังคงด้อยกว่าเยี่ยนจ้าวเกอพ่อลูก การจัดการเรื่องราวประจำวันก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่าเยี่ยนจ้าวเกอพ่อลูก ดังนั้นไม่ถึงกับทำให้จุดหลักของพิธีฉลองในวันนี้เอียงไป
คนอีกคนที่มิได้ยิ่งใหญ่มากนัก แต่ว่ามีความสำคัญมากพอไม่ถึงกับเสียมารยาท ก็คือหยวนเจิ้งเฟิงเจ้าสำนักคนเก่าของเขากว่างเฉิง อาจารย์ปู่ของเยี่ยนจ้าวเกอและสวีเฟย
หากพูดถึงคุณวุฒิของเยี่ยนตี๋กับเยี่ยนจ้าวเกอ หรือว่าสถานะด้านในเขากว่างเฉิง หยวนเจิ้งเฟิงมีสถานะมากพอ ส่วนอายุและระดับพลังฝึกปรือของเขายังน้อยกว่าเฉาเจี๋ย
ทว่าปัจจุบันหยวนเจิ้งเฟิงเข้าฌานฝึกฝน มิได้ออกมา ย่อมไม่สะดวกกับการมาแสดงความยินดีที่เขาโถงทอง
“ศิษย์พี่ถังกับสหายร่วมเส้นทางบนเขาโถงทองทุกท่านเกรงใจแล้ว เป็นข้าผู้แซ่สวีรบกวนจึงถูกต้อง” สวีเฟยยิ้ม ตอบตามมารยาท
จอมยุทธ์เขากว่างเฉิงคนอื่นๆ ด้านข้างเขาพากันคารวะตอบคนของเขาโถงทอง
ถังหย่งฮ่าวมองไปไกล เห็นใบหน้าคุ้นเคยในกลุ่มคนอยู่บ้าง
คนหนึ่งในนี้เป็นคนหนุ่มที่สุภาพอ่อนโยน ประสานมือให้เขา “ก่อนหน้านี้ได้ยินพี่ร่วมเส้นทางจากสำนักท่านพูดถึง ศิษย์พี่ถังอยู่ใกล้กับระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายแค่คืบแล้ว ขอแสดงความยินดี ณ ที่นี้ไว้ก่อน”
“อยู่ใกล้แค่คืบมิกล้าเอ่ย ขอรับคำอวยพรของสหายร่วมเส้นทางเฟิงด้วย” ถังหย่งฮ่าวยิ้มพร้อมคารวะตอบ
คนหนุ่มผู้นี้คือเฟิงม่อหยางศิษย์กว่างเฉิงที่มีวัยวุฒิเท่ากับเยี่ยนจ้าวเกอและสวีเฟย มีตำแหน่งกับชื่อเสียงในเขากว่างเฉิงเหนือกว่าภาพประทับใจที่ชนชาวโลกมีต่อเขา
ปัจจุบันถึงแม้จะยังเป็นแค่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดง แต่พูดถึงวิชากลั่นยาหลอมโอสถกับการเพาะเลี้ยงพืชพรรณและยาวิญญาณแล้ว เป็นมือดีที่สามารถงอนิ้วนับได้ในเขากว่างเฉิง แบกรับภารกิจมากมาย
ในสายเขาโถงทอง เป็นเพราะเฉาเจี๋ยผู้คุมหางเสือชมชอบการหลอมโอสถ ทั่วทั้งสำนักพลอยได้รับอิทธิพลไปด้วย ผู้ที่แตกฉานในมรรคานี้มีอยู่ค่อนข้างมาก
เขากว่างเฉิงกับเขาโถงทองมีการติดต่อแลกเปลี่ยนเรื่องนี้บ่อยๆ ดังนั้นเฟิงม่อหยางจึงคุ้นเคยกับทั่วทั้งเขาโถงทองยิ่ง ไปมาหาสู่กันหลายครั้ง
พลังฝึกปรือส่วนตัวของเฟิงม่อหยางต่ำกว่าถังหย่งฮ่าว พูดถึงเรื่องด้านระดับพลังฝึกปรือแล้ว มิได้ยิ่งใหญ่จนคุกคามคน
ไม่พูดถึงเยี่ยนจ้าวเกอ ในตอนที่เขากว่างเฉิงกับสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ยังสู้กัอยู่บนโลกแปดพิภพ ศิษย์รุ่นเยาว์ปะทะกัน คู่ต่อสู้ของถังหยงฮ่าวก็คือสวีเฟยที่อยู่เบื้องหน้า คนสองคนที่เคยเปล่งประกายในหมู่วีรบุรุษผู้มากพรสวรรค์ซึ่งมีช่วงอายุใกล้กัน
แต่ภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นเขากว่างเฉิงกับสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ หรือสวีเฟยกับถังหย่งฮ่าว ชีวิตกลับเดินสู่จุดเปลี่ยน
ถังหย่งฮ่าวก็นับว่าลำบาก ถึงแม้จะผ่านการขึ้นสุดลงสุด แต่ขณะที่ทำให้สุริยันศักดิ์สิทธิ์รุ่งเรืองอีกครั้ง ก็ตั้งใจฝึกฝนมาโดยตลอด
เขาโถงทองไม่ว่าจะเป็นการสืบทอดมรรคายุทธ์หรือเงื่อนไขด้านสภาพแวดล้อม ล้วนเหนือกว่าสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์
ถังหย่งฮ่าวในฐานะศิษย์ก้นกุฏิของเฉาเจี๋ย สวัสดิการยิ่งไม่มีทางแย่
แต่สามารถเดินมาถึงระดับนี้ ความล้ำเลิศด้านพรสวรรค์ และความขยันหมั่นเพียรของคนผู้นี้ แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมของโลกซ้อนโลกหรือฟ้าเหนือฟ้า ต่างยังคงน่าสรรเสริญ
ถึงอย่างไรในตอนที่เพิ่งมาถึงโลกซ้อนโลก ไม่ได้เข้าเขาโถงทอง เขาเคยเสียเวลาช่วงหนึ่ง ต่อมาเพื่อสร้างความรุ่งเรืองให้แก่สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง เคยกลับไปอยู่บนโลกแปดพิภพที่มีสภาพแวดล้อมในการฝึกฝนแย่ยิ่งกว่าระยะหนึ่ง
มาถึงวันนี้ ถังหย่งฮ่าวเป็นบุคคลหมายเลขหนึ่งที่มีชื่อเสียงดังกระฉ่อนบนแคว้นบูรพาในฟ้าเหนือฟ้ามานานแล้ว
โดยเฉพาะหากดูจากอายุและระดับในปัจจุบันของเขา ยิ่งกล่าวได้ว่ามีอนาคตไร้สิ้นสุด
กระนั้น…
เทียบกับสวีเฟย เขารั้งท้ายแล้ว
หลังจากได้กายทองมหาเทวะ ถึงแม้ยามปกติจะซ่อนกายทอง กระนั้นระดับพลังฝึกปรือของสวีเฟยก็เริ่มค่อยๆ เปลี่ยนเป็นลางเรือน
กายทองมหาเทวะที่แข็งแกร่งนั้นส่งผลต่อการฝึกฝนของสวีเฟยทั้งในที่ลับและที่แจ้ง ปรากฏสภาพไม่แบ่งแยกชัดเจน
มองดูเหมือนยังคงติดอยู่บนโลกมนุษย์ ไม่เหมือนผู้เข้มแข็งระดับเซียน แต่อย่าว่าแต่ลูกศิษย์เขาโถงทองอย่างถังหย่งฮ่าว แม้เฉาเจี๋ยจะมาเอง ก็มองความตื้นลึกหนาบางในพลังของสวีเฟยไม่ออก
ถ้าแสดงกายทองมหาเทวะ ก็ยิ่งไม่จำเป็นต้องพูดถึง
ซือคงจิง อิงหลงถูก และเซี่ยกวงที่ถูกขนานนามเป็นสี่อัจฉริยะบรรพบูรพาเหมือนกับสวีเฟยแห่งเขากว่างเฉิง ต่างก็เลื่อนสู่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้ามานานแล้ว
ในฐานะหัวมังกรแห่งฟ้าเหนือฟ้า ณ วันนี้ เงื่อนไขแต่ละด้านของเขากว่างเฉิงย่อมโดดเด่นกว่าสำนักอื่นๆ อย่างมิต้องสงสัย
ตามข่าวที่ถังหย่งฮ่าวกับเขาโถงทองได้มาก่อนหน้านี้ ภายใต้สถานการณ์ที่สั่งสมมาหลายปี พวกอิงหลงเริ่มเลื่อนสู่ระดับประมุขในหมู่คน เพียงแต่ยังไม่ทราบว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไร
สำหรับถังหย่งฮ่าว เทียบกับสวีเฟยแล้ว ซือคงจิงกับอิงหลงถูเป็นผู้มาทีหลังกลับแซงหน้า บางทีอาจทำให้คนกระอักกระอ่วนกว่าเดิม
แต่ว่าถังหย่งฮ่าวกลับไม่นำพาเรื่องนี้
ชีวิตคนมีโชคชะตาของใครของมัน แม้แต่เขาถังหย่งฮ่าว ถ้าในอดีตมิใช่เพราะได้กระดูกหงส์อมตะ ถูกม้วนเข้าไปในความขัดแย้งระหว่างเขาโถงทองกับเนินต้นจักรพรรดิในตอนนั้น ไหนเลยจะเข้าเขาโถงทองได้ง่ายดายปานนี้?
เขาเพียงแต่ทอดถอนใจอีกครั้ง “ตอนนั่งในบ่อเหม่อมองฟ้าอยู่บนโลกแปดพิภพ เพียงหวังสามารถเลื่อนจากบรรลุธรรมสู่ศักดิ์สิทธิ์ ปลอบประโลมผู้ล่วงลับในแต่ละยุคของสำนัก สืบทอดอดีตสร้างอนาคต ทำให้วรยุทธ์ของสำนักส่องประกาย กลับไม่เคยคิดถึงภาพที่เดินขึ้นสะพานเซียนในวันนี้จริงๆ”