ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1568 เป็นเทพเทวาองค์ไหนกันแน่
“มาจากนพยมโลก” เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงได้ยิน ต่างรู้สึกเหนือความคาดหมาย
ตอนนี้แม้สัมผัสได้ว่าเรื่องราวไม่ปกติ แต่การที่มีความเกี่ยวข้องกับนพยมโลก ยังคงคาดไม่ถึงอยู่ดี
เยี่ยนจ้าวเกอเงียบงันครู่หนึ่ง กล่าวเสียงเบา “ตอนแรกข้านึกว่าจะเกี่ยวข้องกับวังดุสิต”
เขาพอกล่าวคำพูดนี้ เฟิงอวิ๋นเซิงที่อยู่ด้านข้างอดเหลือบมองไม่ได้
เจ้าแม่โฮ่วถู่ถือกระบี่ลงทัณฑ์เซียน หากแต่ส่งกระบี่กลับไปยังตำแหน่งที่ซากสังขารของกว่างเฉิงจื่ออยู่ ปล่อยให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอหาเจอ
ขณะเดียวกัน เทียบได้กับดึงความสนใจของเผ่าปีศาจ ศาสนาพุทธสายหลัก โถงเซียน แดนสุขาวดีบัวขาว
แต่ว่าในเวลานี้ วังหยกปรากฏบนโลกใหม่
ยากจะไม่ทำให้ผู้คนเกิดความคิดเชื่อมโยงว่า เป็นเจ้าแม่โฮ่วถู่ตั้งใจอาศัยกระบี่ลงทัณฑ์เซียนดึงความสนใจของคนอื่นๆ เพื่อหาโอกาสเข้าไปในวังหยกให้แก่ตัวเอง
เช่นนั้นปัญหาก็มาแล้ว เจ้าแม่โฮ่วถู่เจอวังหยกได้อย่างไร?
ปัญหานี้อาจมีคำตอบไม่ต่ำกว่าหนึ่ง รวมกับหลายปีมานี้เจ้าแม่โฮ่วถูกเก็บเนื้อเก็บตัว ตั้งใจตามหา ปัจจุบันในที่สุดก็มีผลลัพธ์
อาจเป็นนางได้ข้อมูลมาจากที่อื่น
แต่ว่าในคำตอบทั้งหมด ข้อที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดก็ยังคงเป็นท่านผู้นั้นแห่งวังดุสิต
วังหยก วังแปดทัศน์ วังท่องมรกตหายไป ที่อยู่อาจปิดคนทุกคนได้ ถึงขั้นที่เจ้ามรรคาคนอื่นๆ ไม่ทราบ แต่ว่าเหล่าจวินไท่ซ่างในฐานะเงาที่ยังคงอยู่ของบรมครูเทวกษัตริย์เต๋าแห่งสายเอกพิสุทธิ์ จะต้องทราบว่าวังหยกอยู่ที่ใด
ดังนั้นระหว่างทางที่มา เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงพูดถึงปัญหานี้ ตอนแรกสงสัยว่า หลายปีมานี้เจ้าแม่โฮ่วถู่เร้นกายไม่ออกมา ความจริงอาจซ่อนอยู่ในวังดุสิต
“ข้ามาจากวังดุสิตจริงๆ” พอได้ยินคำพูดของเยี่ยนจ้าเกอ เจ้าแม่โฮ่วถู่ก็มิได้ถือสา น้ำเสียงยังคงอบอุ่น ไม่เห็นความแปรปรวนแม้แต่น้อย
คำตอบของนางทำให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอฮึกเหิม
แต่ความสงสัยในใจก็มากขึ้นตาม
เยี่ยนจ้าวเกอยืนนิ่งอยู่กลางโลกสีเหลืองขมุกขมัว ครุ่นคิดไม่พูดอะไร พริบตาเดียวพิจารณาไปมากมาย
ไดัยินเจ้าแม่โฮ่วถู่พูดต่อ “แต่ว่ากระบี่ลงทัณฑ์เซียนเล่มนี้มาจากนพยมโลกจริงๆ”
“ตอนนั้นสหายร่วมเส้นทางกว่างเฉิงเสียชีวิต กระบี่ลงทัณฑ์เซียนในมือเขาสุดท้ายตกอยู่ในมือวิถีมาร” เสียงถอนใจอันซึมเซาดังขึ้น “จนกระทั่งกระบี่ผนึกเซียนและลวงเซียนโผล่ออกมาติดต่อกัน มารสวรรค์ไร้พันธนาไปถึงวังดุสิตด้วยตัวเอง นำกระบี่ลงทัณฑ์เซียนไปด้วย ต้องการแลกเปลี่ยนกับเหล่าจวิน”
“เหล่าจวินไม่ตอบรับไม่ปฏิเสธ มอบเรื่องราวให้สหายร่วมเส้นทางอู่เสี่ยนจัดการ สุดท้ายสหายร่วมเส้นทางอู่เสี่ยนเป็นผู้ตัดสินใจ เห็นด้วยกับข้อแลกเปลี่ยนนั้น กระบี่ลงทัณฑ์เซียนค่อยกลับมายังสำนักเต๋าของพวกเรา อยู่ที่วังดุสิต”
เจ้าแม่โฮ่วถู่เล่าต่อ “จนกระทั่งครั้งนี้เป็นข้านำออกมา วางกลับไปข้างกายสหายร่วมเส้นทางกว่างเฉิงอีกครั้ง”
“พระอาจารย์เสวียนตู…” เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงพยักหน้าแช่มช้า คล้ายนึกอะไรออก
พระอาจารย์เสวียนตู หรือเทวกษัตริย์สุขวิเศษ มีชื่อเต็มว่า ‘เทวกษัตริย์มหาปัญญาสันติเมตตาสุขวิเศษ’ นั่งบนปัทมาสน์เก้าสี ฉัตรกระเรียนสิบตัดขาดคลุม เป็นยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดของสำนักเต๋า
นอกจากนี้ยังมีฉายา ‘จักรพรรดิอารามวิญญาณอู่เสี่ยน’ เป็นวังเทพสถาปนาขึ้น
ดังนั้นเจ้าแม่โฮ่วถู่ที่เป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งวังเทพเหมือนกัน มักใช้ฉายานี้เรียกพระอาจารย์เสวียนตูว่า ‘สหายร่วมเส้นทางอู่เสี่ยน’
แต่ว่าผู้สืบทอดสำนักเต๋าที่เป็นผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์ คุ้นเคยเรียกฉายาพระอาจารย์เสวียนตูมากกว่า ตามปกติแล้ว ชนชาวโลกมองยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้เป็นศิษย์ก้นกุฎิของเทวกษัตริย์เต๋าแห่งเอกพิสุทธิ์ แต่เป็นเพราะความโดดเด่นของเขา ที่แล้วมาได้รับการสรรเสริญว่าศิษย์เอกแห่งเอกพิสุทธิ์
สิ่งที่ควรค่าแก่การพูดถึงก็คือ เทวกษัตริย์เก้าสวรรค์สะท้านมาร หรือจักรพรรดิเจินอู่ ตอนแรกเป็นพระอาจารย์เสวียนตูนำเข้าสู่เต๋า
เพียงแต่ยุคโบราณตอนกลาง พระอาจารย์เสวียนตูจะปรากฏตัวขึ้นไม่กี่ครั้ง ดังนั้นชื่อเสียงจึงค่อยๆ หายไป
ตอนนี้เวลาผู้คนพูดถึงผู้เข้มแข็งระดับสุดยอดซึ่งเป็นผู้สืบทอดกระแสตรงสายเอกพิสุทธิ์ มักจะคิดถึงจักรพรรดิจื่อเวยที่ถูจัดอยู่ในสี่เทวราชสำนักเต๋าเหมือนกับเจ้าแม่โฮ่วถู่ ทั้งยังเป็นผู้นำสี่เทวราช
แต่เทียบกันแล้ว ตอนที่จักรพรรดิจื่อเวยยังศึกษาเต๋า บรมครูสามพิสุทธิ์ได้หลุดพ้นไปแล้ว จึงฟังร่ำเรียนกับเหล่าจวิน ดังนั้นการสืบทอดของเขาจึงเลอะเลือนไปบ้าง
“ไม่ทราบว่านพยมโลกคิดทำการแลกเปลี่ยนอันใด? ถ้าเจ้าแม่โฮ่วถู่ทราบเรื่อง สะดวกเปิดเผยหรือไม่?” เยี่ยนจ้าวเกอถามเสียงเบา
เจ้าแม่โฮ่วถู่ตอบ “เรื่องราวเป็นสหายร่วมเส้นทางอู่เสี่ยนจัดการผู้เดียว ข้าไม่ทราบรายละเอียดด้านใน เพียงแต่หลังเรื่องราว สหายร่วมเส้นทางอู่เสี่ยนมอบกระบี่นี้ให้แก่ข้า”
“ที่แท้เป็นเช่นนี้ ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ก็ต้องขอบคุณเจ้าแม่โฮ่วถู่ที่มอบโอกาสให้พวกเราได้กระบี่ลงทัณฑ์เซียนมา”
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย “จากนี้ผู้เยาว์ขอเสียมารยาท บังอาจถามว่าเจ้าแม่โฮ่วถู่มีโอกาสเข้าไปในวังหยกอีกครั้งหรือไม่? ไม่ทราบปัจจุบันในวังหยกมีของวิเศษอันใด?”
เจ้าแม่โฮ่วถู่อาศัยพวกเยี่ยนจ้าวเกอกับกระบี่ลงทัณฑ์เซียน ดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆ เพื่อให้นางสะดวกเข้าไปในวังหยก
ถ้ามิใช่เช่นนี้ นางมอบกระบี่ให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอโดยตรงก็พอ ไหนเลยต้องวกกลับไปด้านข้างซากสังขารของเทวกษัตริย์กว่างเฉิง สร้างสถานการณ์ขึ้น ให้ดูเหมือนกับกระบี่ลงทัณฑ์เซียนอยู่ในมือเทวกษัตริย์กว่างเฉิงมาโดยตลอด
เยี่ยนจ้าวเกอไม่ถามว่านางเอาอะไรมาจากวังหยก
เทียบกับของที่เจ้าแม่โฮ่วถู่ได้มาแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอสนใจมากกว่าว่า ตนมีโอกาสเข้าไปในวังหยกสักเที่ยวหรือไม่
“วังหยกเปิดขึ้นเพียงแค่พริบตา ข้าเองมิอาจรั้งอยู่นาน ไม่ทันไรก็ถูกส่งออกมา” เจ้าแม่โฮ่วถู่กล่าวอย่างอบอุ่น “จะเข้าไปได้อีกตอนไหน ข้าเองก็ไม่ทราบ”
“ในวังว่างเปล่า เหลือแค่ตะเกียงใบหนึ่ง โชคดีที่วัตถุที่ข้าต้องการหา เป็นตะเกียงใบนี้ ตอนนี้ได้มาแล้ว นับว่าไม่เสียเที่ยว”
นางกล่าวแบบนี้ เฟิงอวิ๋นเซิงกับเยี่ยนจ้าวเกอต่างเข้าใจแล้ว
ตะเกียงเคลือบหยกมายา ตะเกียงวิญญาณที่เทวกษัตริย์บรรพกำเนิดจุดขึ้นตอนที่สั่งสอนเต๋าในวังหยก ถึงแม้จะมีความพิสดารมากมาย แต่ว่าเทวกษัตริย์บรรพกำเนิดมีของวิเศษติดตัวหลากหลาย ตะเกียงใบนี้จึงมิได้มีความพิเศษอะไรนัก เพียงเอาไว้ส่องแสงเท่านั้น
ถึงฟังว่าในหวังหยกไร้สิ่งใด แต่ก็ใช่ว่าจะมีโอกาสเข้าไปอีกครั้ง เยี่ยนจ้าวเกอมิได้ท้อใจ และก็ไม่ได้ส่งสัยว่าอีกฝ่ายกล่าวความจริงหรือไม่
เขาประสานมือพลางยิ้มให้แก่โลกสีเหลืองเข้มอันว่างเปล่า “วันนี้ได้ท่านบอกเล่าเรื่องราวมากมายปานนี้ ทำให้ข้าผู้แซ่เยี่ยนได้เปิดโลกทัศน์ ไขความสงสัยมากมายในใจ รู้สึกซาบซึ้งอย่างแท้จริง”
“มีแค่คำถามสุดท้ายที่อยู่ในใจข้าไม่เสื่อมคลาย ไม่ทราบว่าท่านบอกกล่าวได้หรือไม่?”
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างแช่มช้า “ไม่ทราบว่าไฉนท่านต้องปลอมเป็นเจ้าแม่โฮ่วถู่?”
โลกสีเหลืองขมุกขมัวเงียบงันลงในชั่วพริบตา
“ถ้ามิใช่ใต้เท้าจงใจทิ้งเบาะแสไว้ เจ้าแม่อู๋ตังกับพวกเราก็ยากจะค้นพบเลศนัย” เสียงของเยี่ยนจ้าวเกอสะท้อนกลางความว่างเปล่า
ถ้าหากไม่พบกลิ่นอายที่เจ้าแม่แห่งแผ่นดินทิ้งไว้บนกระบี่ลงทัณฑ์เซียน พวกเยี่ยนจ้าวเกอย่อมคิดว่ากระบี่อยู่กับซากสังขารของเทวกษัตริย์กว่างเฉิงมาโดยตลอด ไม่อาจสัมผัสได้ว่ากระบี่ลงทัณฑ์เซียนถูกเปลี่ยนมือมาหลายรอบแล้ว
ถ้าเป็นแบบนั้น เยี่ยนจ้าวเกอย่อมมิอาจอาศัยเบาะแสอย่างลายมือแห่งแผ่นดิน ค้นหามาถึงที่นี่ได้
“แต่ว่าข้าได้อ่านลายมือของเจ้าแม่โฮ่วถู่มามากแล้ว ยังได้ประโยชน์อยู่บ้าง จึงมองออกว่าท่านมิใช่มารดาแห่งแผ่นดินอย่างแท้จริง”
“ดังนั้นบังอาจถามท่าน ที่แท้เป็นเทพเทวาองค์ใดกันแน่?”