ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1571 ใช้แผนซ้อนแผน
การแย่งสิ่งของไปจากมือคนอื่นเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ว่าการถอนเขี้ยวจากเสืออย่างเจ้ามรรคาเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
นี่บ่งบอกว่า วางแผนไปตอแยผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาคนหนึ่ง
สำหรับสำนักเต๋าสายหลักในปัจจุบัน ในสถานการณ์ที่เหล่าจวินไม่แสดงท่าทีชัดเจน การกระทำแบบนี้มีความเสี่ยงถึงขีดสุดอย่างมิต้องสงสัย
การไม่มีผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาที่เชื่อถือได้คอยสะกดทัพ เป็นจุดที่จนปัญญาที่สุดของสำนักเต๋าสายหลักในปัจจุบัน
สาเหตุที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอให้ความสำคัญกับสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนและค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ความจริงมีสาเหตุมาจากตรงนี้เอง
ในความเป็นจริง ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนมิอาจต้านทานเจ้ามรรคาคนหนึ่งตรงๆ มิอาจสร้างการทำลายล้างที่มีประสิทธิภาพ เจ้ามรรคาเข้าออกค่ายกล ล้วนมิใช่เรื่องยาก
แต่เจ้ามรรคาเพียงคนเดียวมิอาจทำลายค่ายกลลงทัณฑ์เซียนที่สมบูรณ์แบบได้
เช่นนั้นในสถานการณ์พิเศษส่วนหนึ่ง นี่กลายเป็นลูกตุ้มที่มีความสำคัญ สามารถส่งผลต่อสถานการณ์ใหญ่
ถึงอย่างไรก็ไม่มีเจ้ามรรคาคนไหนที่หัวเดียวกระเทียมลีบตามความหมายอย่างสมบูรณ์
ถ้าต้องพูดกันจริงๆ บางทีเหล่าจวินอาจนับได้ สำหรับศิษย์สำนักเต๋าเช่นพวกเยี่ยนจ้าวเกอ นี่มิอาจไม่บอกว่านี่ถือเป็นการประชดประชันกันยิ่ง
นี่ก็คือคุณค่าและความหมายที่สำคัญของค่ายกลลงทัณฑ์เซียน
การปรากฏขึ้นของค่ายกลลงทัณฑ์เซียนที่สมบูรณ์ จะเปลี่ยนสถานการณ์ของสำนักเต๋าสายหลักโดยสิ้นเชิง
แต่ว่าตอนนี้ปัญหามาแล้ว ที่ตามหาสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนก็เพื่อต่อสู้กับผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคา แต่ว่ากระบี่เล่มหนึ่งในนี้ปัจจุบันดันตกอยู่ในมือของเจ้ามรรคาเส้นทางนอกรีต ศัตรูคู่อาฆาตของสำนักเต๋าสายหลักอย่างเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ
ดังนั้นนี้คล้ายเป็นเงื่อนตายอย่างหนึ่ง
ถ้าให้เยี่ยนจ้าวเกอคิดหาวิธี นอกจากเหล่าจวินจะยอมลงมือ เกรงว่าจะต้องฝากความหวังไว้ที่เผ่าปีศาจกับแดนสุขาวดีบัวขาว
เทวกษัตริย์ไร้ประมาณกับโถงเซียนแอบเก็บกระบี่สังหารเซียนไว้ รักษาความลับไม่ประกาศออกไป เพื่อให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอรับมือไม่ทัน ชักนำให้พวกเขาส่งตัวเองเข้าหาตาข่าย
พอดีที่ตอนนี้พวกเยี่ยนจ้าวเกอมีกระบี่สามเล่มอยู่ในมือ ทั้งยังมีผังค่ายกลลงทัณฑ์เซียนฉบับสมบูรณ์
เกิดเทวกษัตริย์ไร้ประมาณทำสำเร็จ ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนที่สมบูรณ์ก็เท่ากับตกไปอยู่ในมือของโถงเซียน
นี่จะเป็นการทำลายสมดุลระหว่างพวกเขากับแดนสุขาวดีบัวขาวอย่างไม่ต้องสงสัย
ไม่ว่าพระศรีอาริย์หรือว่ากษัตริย์บูรพาไท่อี้ จะต้องไม่อยากเห็นเหตุการณ์นี้แน่
ต่อให้เมื่อครู่เยี่ยนจ้าวเกอเพิ่งเชือดเซียนงาวิญญาณรับประทานงาช้าง เผ่าปีศาจกับแดนสุขาวดีบัวขาวก็ไม่มีทางยอมให้แผนการของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณประสบความสำเร็จ
แน่นอนว่าพวกเขาก็คิดจะจับพวกเยี่ยนจ้าวเกอให้หมดในคราวเดียว เพื่อให้ค่ายกลลงทัณฑ์เซียนตกมาอยู่ในการควบคุมของตัวเองเช่นกัน
อย่างแย่ที่สุดก็ทำลายค่ายลงทัณฑ์เซียนอีกครั้ง ตนเมื่อไม่ได้ ก็ไม่มอบโอกาสให้เทวกษัตริย์ไร้ประมาณ
เยี่ยนจ้าวเกอถึงขั้นสงสัยว่า แดนสุขาวดีตะวันตกก็มีความคิดอย่างอื่น
ถึงแม้ว่าทางแดนสุขาวดีตะวันตกกับโถงเซียนล้วนมีผู้ยิ่งใหญ่ระดับมรรคาควบคุม แต่ไม่ต้องสงสัยแม้แต่น้อยว่า ในการร่วมมือกันระหว่างสองฝ่าย แดนสุขาวดีตะวันตกมีสภาวะแข็งแกร่งกว่า
แต่ถ้าหากว่าโถงเซียนได้ค่ายกลลงทัณฑ์เซียน เปลี่ยนสถานะเจ้าบ้านกับแขก ก็อาจกลับตาลปัตร
เหตุผลเดียวกันนี้ใช้ได้กับเขาดาราทะเลดวงดาวและแดนสุขาวดีบัวขาว
การเดินหมากในนี้ละเอียดอ่อนยิ่ง
แต่เยี่ยนจ้าวเกอเชื่อว่า ด้วยความสามารถของเหล่าเจ้ามรรคา จะต้องไม่กระทำเรื่องโง่เง่าอย่างการสร้างความขัดแย้งภายในโดยที่ไม่มีการแบ่งสรรปันส่วนอย่างแน่นอน พวกเขาจะต้องยืนยันให้ได้ก่อนว่าค่ายกลลงทัณฑ์เซียนตกมาอยู่ในมือของพันธมิตรฝ่ายตน จากนั้นค่อยมาคิดถึงการแบ่งปัน
ดังนั้นกล่าวจากภาพรวมแล้ว มิใช่ไม่มีวิธีให้คิดถึงเลย
ทว่าถ้าหากเหล่าจวินไม่ลงมือ เช่นนั้นจะวางแผนอย่างไร ล้วนเหมือนเอาผืนหนังจากเสือ ฝ่ายตนมีโอกาสชนะไม่มาก
พูดถึงที่สุด จะตีเหล็กได้ตัวเองก็ต้องแข็งแรงก่อน
ดังนั้นตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอจึงสนใจวิธีการของหยางเจี่ยนยิ่ง
หยางเจี่ยนปลอมแปลงการตาย ทำให้เทวกษัตริยืไร้ประมาณคิดว่าข่าวที่ตนได้กระบี่สังหารเซียนมาไม่รั่วไหล ดังนั้นสามารถวางหลุมพรางอย่างสบายใจ รอให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอมุดมาหาเอง
นี่แสดงให้เห็นว่ามีความคิดใช้แผนซ้อนแผน
แน่นอนว่าเยี่ยนจ้าวเกอก็สามารถเลือกตั้งรับ หลังจากได้รับการแจ้งเตือนจากหยางเจี่ยน ก็ไม่ต้องคิดถึงกระบี่สังหารเซียนอีก ไม่ถูกเทวกษัตริย์ไร้ประมาณคิดบัญชี
แต่ถ้าหากมีวิธีใช้แผนซ้อนแผน เยี่ยนจ้าวเกอย่อมยินดีแล้ว
“ข้ามีความคิดหนึ่งอยู่จริงๆ” หยางเจี่ยนครั้งนี้ไม่อมพะนำแล้ว กล่าวตรงๆ “อยู่ที่ตะเกียงวิเศษซึ่งข้าได้มาจากวังหยกในครั้งนี้”
เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงล้วนกระตือรือร้นขึ้น “ตะเกียงเคลือบหยกมายาถึงแม้เป็นของวิเศษที่ไม่ธรรมดา แต่ว่าคงรับมืออานุภาพระดับมรรคาไม่ได้กระมัง?”
หยางเจี่ยนว่า “หากอาศัยแค่ตัวตะเกียงย่อมใช้ไม่ได้ แต่ว่านี่อาจเป็นวาสนาอย่างหนึ่ง สามารถแลกเปลี่ยนโอกาสให้แก่พวกเรา จะทำสำเร็จได้อย่างแท้จริงหรือไม่ ตอนนี้ข้ามิอาจตัดสิน ได้แต่ต้องฝืนทดลองทำดู”
“ครั้งนี้มิใช่ข้าอมพะนำแล้ว แต่ว่าอุปสรรคส่วนหนึ่งในนี้ ข้ายังมิได้จัดการให้เรียบร้อย ต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์”
หยางเจี่ยนพูดถึงตรงนี้ ก็มองไปยังพวกเยี่ยนจ้าวเกอ “ถ้าหากมีโอกาสทำสำเร็จจริงๆ ข้าจะแจ้งพวกเจ้าเอง ถ้าหากทำไม่สำเร็จ เช่นนั้นทางกระบี่สังหารเซียน เกรงว่าจะได้แต่ค่อยๆ วางแผน มิอาจรีบร้อนเกินไป จนตกไปอยู่ในกรงขังของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ”
“ความสามารถของพี่ร่วมเส้นทางลือเลื่องมาตั้งแต่ยุคอดีตจนถึงปัจจุบัน ข้าสามีภรรยาย่อมเชื่อใจ” เยี่ยนจ้าวเกอประสานมือ “ในเมื่อได้รับการเตือนจากพี่ร่วมเส้นทาง ทราบว่ากระบี่สังหารเซียนตกอยู่ในมือเส้นทางนอกรีต เทวกษัติรย์ไร้ประมาณมีเจตนาร้าย พวกเราย่อมต้องระวัง รอคอยพี่ร่วมเส้นทางแจ้งข่าว”
เขาเว้นเล็กน้อยก่อนจะถาม “ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ขอคำชี้แนะจากพี่ร่วมเส้นทาง”
หยางเจี่ยนว่า “บอกกล่าวเต็มที่”
“มีข่าวลือมาโดยตลอดว่า เทวกษัตริย์ไร้ประมาณเกิดจากเทวกษัตร์ยืผู้หนึ่งของสำนักเต๋าเราพัฒนาขึ้นอีกขั้น ขึ้นสู่ระดับมรรคา” เยี่ยนจ้าวเกอถาม “ที่แท้เป็นใครกันแน่ พี่ร่วมเส้นทางมีเบาะแสหรือไม่?”
หยางเจี่ยนเอ่ยอย่างแช่มช้า “มหาเทวกษัตริย์แห่งหยก สหายร่วมเส้นทางจื่อเวย พี่ร่วมเส้นทางเจิ้นหยวนจื่อ ยังมีเจ้าแม่ซีหวังแห่งบึงหยก ไม่อยู่นอกเหนือสี่คนนี้”
“เดิมทีสมควรยังมีเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู่ช่วยให้รอดอีกคน แต่ว่าหลายปีก่อนข้าได้ยินข่าวว่าเขาเสียชีวิตลงแล้ว ดังนั้นย่อมตัดออกไปได้”
เยี่ยนจ้าวเกอกับเฟิงอวิ๋นเซิงได้ยินก็พยักหน้าช้าๆ
ความจริงหยางเจี่ยนล้วนกล่าวถึงยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่สำนักเต๋าทั้งหลายที่ไม่เคยปรากฏตัวขึ้นในตอนเกิดมหาภัยพิบัติ และในภายหลัง
“ความจริงตอนนั้นมีเรื่องประการหนึ่ง มิอาจไม่พูดถึง” หยางเจี่ยนพูดต่อ “ตอนเกิดเรื่อง ข้าไม่อยู่บนวังเทพ แต่อยู่ที่ปากแม่น้ำก้วนนิวาสสถานของตัวเอง”
“ก่อนหน้านั้น ตอนแรกมีสารฉบับหนึ่งส่งมาที่จวนของข้า เพียงแต่ว่าบนสารมิได้เอ่ยถึงเรื่องใด เพียงเชิญให้ข้าไปวังเทพ เป็นเพราะข้ากำลังเข้าฌาน ดังนั้นจึงมิได้เห็นสารในทันที”
หยางเจี่ยนดวงตาฉายแววนึกย้อน “รอจนข้าถูกมหาภัยพิบัติรบกวนจนต้องออกฌาน วังเทพก็พังทลายแล้ว”
“ถึงกับมีเรื่องนี้” พวกเยี่ยนจ้าวเกอล้วนประหลาดใจ “ไม่ทราบว่าผู้ใดเชิญพี่ร่วมเส้นทางไปวังเทพ?”
หยางเจี่ยนตอบ “เป็นสหายร่วมเส้นทางจื่อเวย”
จักรพรรดิดาวเหนือจื่อเวยผู้อยู่กลางหาว
ผู้นำแห่งสี่เทวราชสำนักเต๋า บุคคลหมายเลขสองตามความหมายบนวังเทพ ถึงแม้จะนับเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอดซึ่งปกติเดี๋ยวหายตัวเดี๋ยวโผล่แล้ว จักรพรรดิจื่อเวยก็เป็นผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งถูกจัดอยู่ในสามอันดับแรกบนวังเทพอย่างมิต้องสงสัย
“นี่อธิบายได้หรือไม่ว่า จักรพรรดิจื่อเวยมิใช่เทวกษัตริย์ไร้ประมาณ ความเป็นไปได้ยังค่อนข้างต่ำ” เฟิงอวิ๋นเซิงถามเสียงเบา
หยางเจี่ยนว่า “ยากจะยืนยัน ในใจข้ามีการคาดเดาอยู่จริงๆ แต่ข้าไม่รู้ว่าสหายร่วมเส้นทางจื่อเวยเชิญข้าเพราะเรื่องใดกันแน่”
เขาพูดพลางใคร่ครวญ “บางทีเทวกษัตริย์ไท่อี้ผู้ช่วยให้รอดคงรู้ว่าเป็นเรื่องอะไร”