ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1578 มุกค้ำทะเล
ถึงแม้ไม่นับว่าทั่วทุกทิศทุกทางล้วนมีคลื่นห้อมล้อม แต่เยี่ยนจ้าวเกอจำแนกได้ทันทีว่า ‘คลื่น’ ที่ซัดเข้ามามิได้มีแค่ความรุนแรงเท่าในปัจจุบัน
พร้อมกับเวลาที่ผ่านไป กระแสคลื่นซัดสาดนี้จะมีมากขึ้น รุนแรงมากขึ้น จนกระทั่วครอบคลุมทุกทิศทาง ห้อมล้อมจักรวาลฟ้าฟื้นไว้ตรงกลาง จำกัดอยู่ในอาณาเขตหนึ่ง
ถึงเวลานั้น ‘คลื่น’ จากทุกทิศทางจะบีบอัดเข้าหาตรงกลาง จักรวาลฟ้าฟื้นจะไร้หนทางโดยสิ้นเชิง ไม่มีที่ให้หลบหนี แล้วปรากฏขึ้นในคลองจักษุของอีกฝ่าย
จักรวาลฟ้าฟื้นมิใช่ทนทานไม่สั่นไหว เพียงแต่เคลื่อนไหวตลอดเวลา ส่วน ‘คลื่น’ ที่พัดขึ้นกลางมิติเวลาในตอนนี้ก็รุนแรงรวดเร็วเกินไป หนำซ้ำมีแหล่งที่มาไม่ต่ำกว่าหนึ่ง
แหล่งที่มาซึ่งซัด ‘คลื่น’ เหล่านี้ คล้ายล้วนเคลื่อนไหวได้เช่นกัน!
ดังนั้นจึงเปลี่ยนตำแหน่ง เพื่อค้นหาและล้อมจักรวาลฟ้าฟื้นได้อย่างต่อเนื่อง
แน่นอนว่า ความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดนกว้างใหญ่เกินไป ไม่ว่าจะเป็นจักรวาลฟ้าฟื้น หรือว่าแหล่งที่มาของ ‘คลื่น’ เหล่านี้ ล้วนดูกระจ้อยร่อย
อีกฝ่ายคิดจะล้อมจักรวาลฟ้าฟื้น อย่างน้อยจะต้องมีจุดเริ่มต้นแรกสุด กำหนดอาณาเขตคร่าวๆ บริเวณหนึ่ง จากนั้นจึงค่อยสร้างสภาวะห้อมล้อมช่วงแรก อาศัย ‘คลื่น’ ที่ซัดขึ้นจากทุกทิศทุกทาง สั่นไหวความว่างเปล่า ตามหาตำแหน่งที่แม่นยำของจักรวาลฟ้าฟื้น
‘คนที่ออกไปก่อนหน้านี้ มีคนกำลังกลับมาที่นี่ ตอนนี้ถูกจับตาดูแล้ว…’ เยี่ยนจ้าวเกอจิตใจสั่นไหว เข้าใจสาเหตุคร่าวๆ “อาหู่ คนที่ออกจากจักรวาลฟ้าฟื้นล่าสุดมีใครบ้าง?”
คนที่เข้าออกฟ้าเหนือฟ้า มรกตท่องฟ้า ฟ้าน้ำพุหยกในจักรวาลฟ้าฟื้น เก็บเกี่ยวกระสบการณ์ในความว่างเปล่าอันไพศาลในจักรวาลมีมากมาย ไม่ได้มีความเร่งด่วนอันใด
แต่เป็นเพราะว่าสภาพแวดล้อมในปัจจุบันของสำนักเต๋าสายหลักและความพิเศษของจักรวาลฟ้าฟื้น คนที่เข้าออกจักรวาลฟ้าฟื้น ไปๆ มาๆ ระหว่างความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดนอกเขตแดน ล้วนต้องรายงาย เพื่อจะได้สะดวกแก่การติดต่อ ในตอนที่พวกเขากลับจักรวาลฟ้าฟื้น ตำหนักโอสถจะรับพวกเขาเข้ามาได้
จำนวนคนที่สามารถออกจากจักรวาลฟ้าฟื้นไปเคลื่อนไหวนอกเขตแดนได้เดิมมีจำนวนจำกัด ดังนั้นการบันทึกจึงไม่ลำบาก
“เจ้าตำหนักผู้อาวุโสหลิวแห่งตำหนักขุยสายฟ้าเขานภาเขียวของฟ้าเหนือฟ้าเรา ท่านผู้อาวุโสเหล่าหาดธารสวรรค์แห่งยอดเขาทิวทัศน์ ใต้เท้ากษัตริย์หลินแห่งถ้ำศิลานิ่งเขายามเหมันต์ กับใต้เท้าจักรพรรดิซวน ผู้ครองเขาชามเหลี่ยมของฟ้าน้ำพุหยก” ได้ยินเยี่ยนจ้าวเกอถาม อาหู่ก็แจ้งรายชื่ออย่างรวดเร็ว
ในคนที่ออกไปด้านอจักรวาลฟ้าฟื้น ณ ตอนนี้ มีหลิวเจิงกู่แห่งฟ้าเหนือฟ้า หลงซิงเฉวียนแห่งมรกตท่องฟ้า ถงซินหลิง รวมถึงจักรพรรดิซวนเซียนจริงแท้ไร้ช่องโหว่วที่เพิ่งเลื่อนระดับแห่งฟ้าน้ำพุหยก
ที่แล้วมาในฟ้าน้ำพุหยก เขาชามเหลี่ยมกับเขายามเหมันต์มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน จักรพรรดิซวนหลังจากขึ้นสู่ระดับเซียน ก็ออกไปตามหาวาสนาด้านนอก ถงซินหลินเป็นเขาเชิญไปช่วยเหลือ
“หาคนไปแจ้งเขา คนที่ติดต่อได้จงติดต่อให้เร็วที่สุด” เยี่ยนจ้าวเกอสั่ง “ขอให้พวกเขาอย่าเพิ่งกลับจักรวาลฟ้าฟื้น ข้าจะหาวิธีติดต่อกับใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋กับเจ้าแม่อู๋ตังให้รับตัวไปก่อน”
“นอกจากนี้ขอให้มารดากับศิษย์พี่สวีมายังหอเซียนม่วงด้วย”
อาหู่ขานรับ รีบออกไป
ครู่ต่อมาเสวี่ยชูชิงกับสวีเฟยล้วนมาถึงหอเซียนม่วง “จ้าวเกอ เป็นไรแล้ว?”
“ด้านนอกมีคนกำลังตามหาพวกเราอยู่” เยี่ยนจ้าวเกอตอบรวบรัด “ครั้งนี้อีกฝ่ายมีสภาวะดุร้าย มิอาจรับมือ จำเป็นต้องจัดการอย่างระมัดระวัง”
“อีกเดี๋ยวข้าจะย้ายตำหนักโอสถครั้งใหญ่ ท่านแม่ช่วยข้าสะกดทัพ ศิษย์พี่สวีอยู่ด้านข้าง ถ้าหากมีการเคลื่อนไหวใหญ่ ค่อยบรรเทาสภาพของฟ้าเหนือฟ้า”
ขณะที่พูด บนร่างเยี่ยนจ้าวเกอก็มีควันหลายชั้นระเหยขึ้นมา
ในหอเซียนม่วง ลำแสงหลายสายเกาะเกี่ยวกันเหมือนกับสายโซ่ ติดอยู่บนเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ
ฝาเตาบนตัวเตาขนาดใหญ่เปิดออก
“คุณชาย ล้วนติดต่อได้แล้ว” อาหู่กลับมา “เป็นท่านผู้อาวุโสหลงแห่งมรกตท่องฟ้าเตรียมจะกลับมา หลังได้รับข่าว ท่านผู้อาวุโสหลงก็หยุดเคลื่อนไหว ไปยังสถานที่อื่น รอพวกใต้เท้าอายุวัฒนาหนานจี๋กับเจ้าแม่อู๋ตังมารับ”
เยี่ยนจ้าวเกอพูด “เช่นนี้ก็ดี”
เขาลอยตัวขึ้น เข้าไปในเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ ฝาเตาปิดลง
“พวกศิษย์พี่สวีกับพ่านพ่านต้องพักฟื้น ไม่อาจแสงกายทองมหาเทวะลงมือกับผู้คนได้ ข้าต้องออกไปกระมัง?” เฟิงอวิ๋นเซิงพูดเบาๆ ในม่านตาข้างขวาของเยี่ยนจ้าวเกอ
“อีกฝ่ายกล้าเคลื่อนไหวเช่นนี้ จะต้องเตรียมป้องกันเซียนสวรรค์สำนักเต๋าเราลงมือ ไม่เพียงแต่อวิ๋นเซิงเจ้า พวกผู้อาวุโสสั่วและเจ้าแม่อู๋ตังก็ลงมือไม่ง่ายเช่นกัน” เยี่ยนจ้าวเกอพูด “การไม่สนใจคนที่อยู่ต่ำกว่ามหาชาล เป็นความเห็นพ้องตั้งแต่อดีตของเหล่าเจ้ามรรคา การปรากฏตัวของเจ้ายากคิดถึงผลดีผลร้าย”
“ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้อามิตาภพุทธเจ้ากับใต้เท้ากษัตริย์บูรพาไม่ลงมือ การเตรียมการของอีกฝ่ายก็คงจะสมบูรณ์ยิ่ง”
เขาหัวเราะ “การเคลื่อนไหวที่ใหญ่โตขนาดนี้ หากไม่จัดการความกังวลไปแล้วคงจะไม่กล้ามา แม้ว่าเส้นทางนอกรีตสองเส้นาทงจะกำลังสู้กันอยู่ ระหว่างแดนสุขาวดีตะวันตกกับเผ่าปีศาจคงบรรลุการประนีประนอมสักอย่างชั่วคราว เพื่อสะกดพวกเราไว้ก่อน”
ขณะที่พูด เยี่ยนจ้าวเกอถอดวิญญาณออกมา กายเนื้อเหมือนกับเปลือกร่างว่างเปล่า
วิญญาณของเขาเชื่อมต่อกับตำหนักโอสถโดยสมบูรณ์
ร่างของเทพารักษ์จอมทัพฟ้าฟื้นช่วยสรรพสัตว์ค่อยๆ ปรากฏขึ้นในจักรวาลฟ้าฟื้น
ความเร็วและคุณสมบัติวิญญาณในการเคลื่อนย้ายมิติเวลาของจักรวาลฟ้าฟื้นเพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่ง
ภายใต้การควบคุมของเยี่ยนจ้าวเกอ จักรวาลฟ้าฟื้นเหมือนกับปลาที่ปราดเปรียว เวียนว่ายในคลื่นทะเล หลบคลื่นยักษ์กับคลื่นใต้น้ำหลายสายอย่างคล่องแคล่ว
ถึงแม้ว่าจะหลบ ‘คลื่น’ มุ่งหน้าไปยังทิศตรงกันข้าม แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่ผ่อนคลายความระมัดระวัง
จุดที่ว่างเปล่ามิได้หมายความว่าไม่มี ‘คลื่น’ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเป็นเพราะแหล่งที่มาอยู่ไกลกว่า ยังไม่ทันโอบล้อมเข้ามา
แหล่งที่มาทั้งหลายผลัก ‘คลื่น’ หลายชั้นเข้าหาตรงกลาง แต่ว่าก่อนที่จะบรรลุถึงอาณาเขตหนึ่ง ระหว่างแหล่งที่มา หรือระหว่าง ‘คลื่น’ ยังมีระยะห่าง ถึงอย่างไรความว่างเปล่าก็กว้างใหญ่เกินไป
เมื่อเป็นแบบนี้ ก็อาจเหลือร่องแยก เกิดเป็นช่องระหว่างแหกับแห
พวกเยี่ยนจ้าวเกอต้องการหลบแหหลายปาก ก่อนที่พวกมันจะล้อมเข้ามาโดยสมบูรณ์ ปิดตายบริเวณรอบๆ ต้องออกไปก่อน
หลังพุ่งออกจากการปิดล้อม จักรวาลฟ้าฟื้นก็กลับสู่สภาพปกติอย่างรวดเร็ว
สภาพก่อนหน้าไม่เพียงกินแรง มิอาจคงอยู่นาน ขณะเดียวกันยังทำให้จักรวาลฟ้าฟื้นเหมือนเป็นแหล่งที่มาที่พัด ‘คลื่น’ หลายชั้นขึ้น ก็ถูกคนค้นพบได้ง่ายเช่นกัน
เยี่ยนจ้าวเกอกลับสู่ร่างอีกครั้ง ลืมตาขึ้น ก่อนออกจากเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับ “แหมากมายปานนี้ อย่างน้อยก็มีมากกว่าสิบปาก ถึงขั้นอาจมากกว่า”
“อีกฝ่ายรวมยอดฝีมือมา ป้องกันเซียสสวรรค์สำนักเต๋าของพวกเรา ไม่สมควรมาหาคนทั้งหมด ไม่อย่างนั้นจำนวนคนที่พวกเขาใช้ก็มากเกินไปแล้ว” สวีเฟยกล่าว
“ถ้าหากอาศัยของวิเศษบางอย่างล่ะ…” เสวี่ยชูชิงคล้ายนึกอะไรออก
“อืม ข้าคิดถึงคนผู้หนึ่ง” เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง เขาสบตากับเสวี่ยชูชิง พูดขึ้นเป็นเสียงเดียวกัน “ทีปังกรพุทธะ มุกค้ำทะเล!”
ในยุคสถาปนาเทพโบรารตอนต้น จ้าวกงหมิง ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสายเหนือพิสุทธิ์แห่งสำนักเต๋า มีมุกค้ำทะเลยี่สิบสี่ชิ้นที่ร้ายกาจหาใดเปรียบ
ภายหลังจ้าวกงหมิงประสบภัยพิบัติขึ้นสู่ทำเนียบเซียน เข้าสู่วังเทพ มุกค้ำทะเลของเขาตกไปอยู่ในมือของทีปังกรพุทธะที่ตอนนั้นยังเป็นหรานเติงเต้าหยิน
มุกค้ำทะเลยี่สิบสี่ชิ้น สามารถแสดงความน่าอัศจรรย์ในการเปลี่ยนแปลงมิติเวลาที่หนักอึ้งสุดเปรียบปรานและล้ำลึกของเทพธรรมบาลยี่สิบสี่องค์ เหมาะสำหรับใช้โอบล้อมจักรวาลฟ้าฟื้น
………………..