ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1596 ตัดนภาปะทะค้ำทะเล!
ทีปังกรพุทธะสีหน้าสงบนิ่ง สายตาเลื่อนจากร่างพระอาจารย์เสวียนตูไปทางสั่วหมิงจาง
“โปรดชี้แนะ” ไม่รอทีปังกรพุทธะเปิดปาก สั่วหมิงจางก็กล่าวอย่างเรียบง่าย
จากนั้นก็เป็นหมัดที่ลุกไหม้ข้างหนึ่งต่อยใส่พุทธะเก่าแก่ไม่กี่องค์ในโลก!
ทีปังกรพุทธะยื่นฝ่ามือข้างหนึ่งออกมา ขวางกำปั้นของสั่วหมิงจาง
ขณะที่สองฝ่ายปะทะกัน ความรู้สึกหนักอึ้งสุดขีดไหลออกมา บิดเบี้ยวมิติเวลาในจักรวาล
ธารสวรรค์ตรงหน้าถึงแม้จะมีแค่ตอนหนึ่ง แต่ยังคงหนักอึ้งสุดขีด ดวงดาวนับไม่ถ้วนลอยจมอยู่ด้านใน
ตอนนี้สั่วหมิงจางกับทีปังกรพุทธะปะทะกันหนึ่งกระบวนท่า ถึงกับกระตุ้นธารดาวจักรวาลตรงหน้าสั่นไหวไปพร้อมกัน
น้ำในแม่น้ำซึ่งเดิมทีเป็นเพราะผลกระทบจากค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้ง เปลี่ยนเป็นสีเหลืองหม่นหมอง มีพริบตาหนึ่งที่จุดที่คนทั้งสองปะทะกัน ถึงกับกระจ่างใสขึ้นใหม่
หากมองจากด้านนอกธารสวรรค์ จะเห็นแม่น้ำที่เหมือนกับมังกรคลั่งสั่นไหวอย่างรุนแรง บิดงอตัว เกือบถูกคนตัดจากตรงกลาง
ถึงแม้ค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งจะถูกค่ายกลลงทัณฑ์เซียนรบกวน เปลี่ยนแปลงได้รับการสะกด แต่ว่าพลังที่แฝงอยู่ด้านในยังคงน่าตกตะลึง
การปะทะกันอันน่ากลัวของยอดฝีมือชั้นมหาชาลสองคนเกือบทะลวงค่ายกล
“คนรุ่นหลังน่ากลัว” ทีปังกรพุทธะกล่าวอย่างแช่มช้า ในแสงพุทธอันกลมสมบูรณ์ด้านหลังศีรษะ ไฟตะเกียงสว่างเป็นนิรันดร์
ไฟตะเกียงส่ายไหว ด้านข้างตะเกียงแสงใบนี้ ถึงกับเพิ่มไฟตะเกียงสองใบ
หนึ่งม่วง หนึ่งทอง หนึ่งเทา ตะเกียงแสงสามใบ เรียงกันอยู่ในแสงพุทธอันกลมสมบูรณ์ด้านหลังทีปังกรพุทธะ
ไฟตะเกียงสีทองที่อยู่ด้านในยามนี้สว่างไสวมากขึ้น แสงไฟสาดส่องจักรวาล
รอบกายทีปังกรพุทธะเปล่งแสง ยังพร่างพราวเจิดจ้ายิ่งกว่ามหาสถามปราบต์โพธิสัตว์
ภายใต้การสาดส่องของแสงพุทธ เหมือนกับมีริ้วเพลิงลามเลียไม่หยุด แสงไฟสีทองครอบคลุมฟ้าดิน เติมเต็มจักรวาล
มือที่ท่านจับกำปั้นสั่วหมิงจาง เปลี่ยนเป็นยิ่งใหญ่มีพลังมากกว่าเดิม!
แสงเพลิงที่เหมือนท้องทะเลม้วนไปทั่วสี่ทิศแปดทาง ซัดเข้าใส่สั่วหมิงจาง
ขณะคลื่นเพลิงกลืนคลาย ทำลายฟ้าดิน แม้แต่เปลวเพลิงสีแดงฉานรอบๆ ตัวสั่วหมิงจาง ถึงขั้นถูกแสงเพลิงสีทองเผาไม้ กำลังจะกลายเป็นเชื้อเพลิงของมาร
สั่วหมิงจางใบหน้าไร้ความเกรงกลัว แสดงความลี้ลับของคัมภีร์ตัดนภาออกมา
เหมือนมีม่านกำบังไร้รูปร่างที่มิอาจข้ามผ่านชั้นหนึ่งตั้งขึ้นรอบๆ ร่างเขา
แสงเพลิงไร้สิ้นสุดที่แผ่พุ่งไปทั่วจักรวาล พอบรรลุถึงด้านหน้าสั่วหมิงจาง ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ไม่มีความรุนแรงจากการฝืนปะทะ ไม่มีการเสื่อมโทรมจากแข็งแกร่งไปถึงอ่อนแอ ทุกอย่างหยุดลงในชั่วพริบตา จากมีเป็นไม่มี
เหมือนกับฟ้าดินถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ด้านหนึ่งเป็นพายุโหมฝนคลั่ง ด้านหนึ่งเป็นฟ้าครามหมื่นลี้
สั่วหมิงจางค่อยๆ ยกมือข้างซ้ายของตัวเองขึ้น หุบห้านิ้วเป็นกำปั้นเช่นกัน
พร้อมกับการเคลื่อนไหวนี้ของเขา หมู่ดาวที่เดิมซ่อนอยู่ในธารสวรรค์รอบๆ พากันพุ่งออกมาจากน้ำในแม่น้ำ!
จากนั้นสั่วหมิงจางควงหมัดต่อยออกด้านหน้า ดวงดาวที่แท้จริงนับไม่ถ้วนรวมตัวภายใต้การเหนี่ยวนำจากแขนซ้ายของสั่วหมิงจาง กลายเป็นกระแสคลื่นแห่งการทำลายล้าง พุ่งใส่ทีปังกรพุทธะ!
ไฟอาทิตย์เพลิงสวรรค์ในดวงดาวนับไม่ถ้วนหุบตัว พังทลาย พองตัว ระเบิดออก เปิดเส้นทางสายหนึ่งในทะเลแสงสีทองบริสุทธิ์ เป้าหมายคือทีปังกรพุทธะ
พระพุทธะผู้เก่าแก่ยกฝ่ามืออีกข้างหนึ่งขั้น ผลักไปด้านหน้า
แต่ว่าเพลิงอาทิตย์ไฟสวรรค์ของดวงดาวเหล่านั้นตอนนี้ระเบิดออมา เหมือนกับกลายเป็นดาวดารดาษตรงหน้าทีปังกรพุทธะอีกครั้ง
ดวงดาวร่วงหล่นดุจสายฝน หมัดซ้ายของสนั่วหมิงจางซ่อนอยู่ด้านหลัง ยากทราบตำแหน่งที่แน่นอน
ไฟตะเกียงสีม่วงด้านข้างตะเกียงทองในแสงพุทธกลมสมบูรณ์ดังหลังศีรษะทีปังกรพุทธะสว่างไสวกว่าเดิม
สองตาของท่านมีหย่อมเพลิงสีม่วงลุกไหม้ ตวัดกันเป็นเหตุและผลมากมายในโลก เพียงพริบตาอนุมานได้ไร้สิ้นสุด
วัตถุเรื่องราวนับพันนับหมื่นในโลกเหมือนกับล้วนสร้างการเชื่อมต่อในสายเพลิงสีม่วง มีเส้นสายให้สืบค้น แสดงขึ้นตรงหน้าทีปังกรพุทธะ
ทว่าตอนสายเพลิงสีม่วงยื่นขยายถึงขอบเขตหนึ่ง พลันขาดจากตรงกลาง!
อุปสรรคไร้รูปร่างกำเนิดขึ้นอีกครั้ง ตัดขาดสายเพลิงสีม่วงอย่างไร้เหตุผลแม้แต่น้อย
หมัดซ้ายของสั่วหมิงจากยังคงยากตรวจจับร่องรอย ม้วนดาวตกพิรุณคลั่ง แล้วผลักลงใส่ทีปังกรพุทธะ
ทีปังกรพุทธะส่ายหน้าเล็กน้อย ร่างถอยไปด้านหลัง
แต่ว่าหมัดขวาที่สั่วหมิงจางต่อยออกมาก่อนหน้า ตอนนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง
เพลิงอาทิตย์อัคคีสวรรค์ของดวงดาวที่พร่างพราวยามนี้หายไป เหลือเพียงจักรวาลที่เปล่าเปลี่ยวเย็นเยียบ
ระหว่างจักรวาลที่น่ากลัวนี้ เหมือนกับเหลือทีปังกรพุทธะเพียงผู้เดียวอยู่
อุณหภูมิในความว่างเปล่าที่เย็นเยือกหายไป ยากจะมีชีวิตกับวัตถุเรื่องราวใหม่ถือกำเนิด เหมือนกับสุสานอันเป็นนิรันดร์หลุมหนึ่ง ฝังกลบทุกสิ่ง แม้แต่ความหวังที่เกิดใหม่ก็ถูกตัดขาดไปด้วย
มิใช่แรงดึงดูดที่เหมือนกับหลุมดำพังทลาย แต่ว่าทีปังกรพุทธะกลับรู้สึกว่าตนถูกขังอยู่ที่นี่ ยากหนีออกไป
ความว่างเปล่าที่มืดมิดไร้สิ้นสุดและทอดไกล ขอบเขตเหมือนกับถอยหลังอย่างต่อเนื่อง ทว่าตัวท่านก็เคลื่อนไปตามขอบเขตที่เย็นเยียบนั้นเช่นกัน
เหมือนกับกำลังหนีจากศูนย์กลางความมืด กระนั้นกลับไม่มีจุดจบชั่วกาลนาน เหมือนกับยิ่งตกยิ่งลึก
ทีปังกรพุทธะขมวดคิ้ว หยุดการเคลื่อนไหวไม่คิดถอยหนีอีก
ไฟตะเกียงสีทองในแสงพุทธกลมสมบูรณ์หลังศีรษะท่านเปล่งแสงส่างไสว ยกระดับสู่จุดสูงสุด
แสงพุทธเปลวทองที่ไร้สิ้นสุดครอบคลุมฟ้าดิน ขยายไปรอบๆ อย่าต่อเนื่อง ถมเต็มจักรวาลอันมืดมิดว่างเปล่า
ความว่างเปล่าในที่สุดก็มีความอบอุ่น แต่ว่าไม่ทันไร แสงไฟสีทองก็ถูกแหวกออก
มือซ้ายของสั่วหมิงจางในที่สุดปรากฏขึ้นอีกครั้ง!
หนำซ้ำถึงกับอยู่ห่างตรงหน้าทีปังกรพุทธะเพียงแค่คืบ!
พลังอันน่าอัศจรรย์ของคัมภีร์ตัดนภาไม่เพียงแต่ใช้ป้องกัน ในตอนนี้ใช้โจมตี หมัดซ้ายของสั่งหมิงจางไม่มีสิ่งใดขวางกั้น พลังป้องกันรอบตัวทีปังกรพุทธะถูกทำลายอย่างไร้เสียงเป็นชั้นๆ
กายทองศาสนาพุทธที่เก่าแก่ห่างไกลหากแข็งแกร่งยิ่งใหญ่ ตอนที่เข้าใกล้หมัดของสั่วหมิง ล้วนสูญเสียแสงสี เหมือนกับหุ่นไม้ตุ๊กตาโคลน เน่าเฟะเปราะบาง
‘ฝึกฝนบรรพกำเนิดย้อนกลับ เป็นกรณีพิเศษอย่างแท้จริง…’ ทีปังกรพุทธะมองสั่วหมิงจางเงียบๆ
พลันปรากฏเส้นแสงห้าสีขึ้นบนศีรษะท่าน แยงนัยน์ตา สั่นสะท้านจิตใจ
พลังที่หนักอึ้งจนมิอาจหนักอึ้งมากกว่านี้พลันแสดงออกมา ไม่เพียงแต่สะกดโลกที่แท้จริง ถึงขั้นสะกดจิตใจคนจนเป็นอัมพาต ยากจะกระดิกกระเดี้ย
ภายใต้การตัดนภาของสั่วหมิงจาง ลืมตามองไป เห็นวัชระหลายชิ้นลอยอยู่เหนือศีรษะทีปังกรพุทธะ ตอนนี้พากันหล่นลง
วัชระบางชิ้นพุ่งลงใส่แขนของสั่วหมิงจาง หยุดไม่ให้หมัดซ้ายของเขาเคลื่อนไปด้านหน้า บางชิ้นพุ่งสู่ตัวเขา
วัชระชิ้นหนึ่งเหมือนกับสวรรค์ชั้นหนึ่ง จักรวาลแห่งหนึ่ง
เป็นของล้ำค่า มุกค้ำฟ้า!
หากมีชิ้นเดียว สั่วหมิงจางก็ไม่สนใจ
แต่ตอนนี้มุกค้ำทะเลยี่สิบสี่ชิ้นกระหน่ำพุ่งลง เหมือนกับอานุภาพพลิกคว่ำจักรวาล
ค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งต่อสู้กับค่ายกลลงทัณฑ์เซียน พลังไม่อาจแสดงโดยสมบูรณ์ ดังนั้นขณะนี้แม้แต่ธารสวรรค์นั้น ล้วนถูกมุกค้ำทะเลยี่สิบสี่ชิ้นสะกดจนกำลังจากขาดออก
สั่วหมิงจางหยุดฝีเท้าชั่วคราว ฟาดสองหมัดลง ทำลายมุกค้ำทะเลเม็ดแล้วเม็ดเล่า
ทีปังกรพุทธะฉวยโอกาสนี้ ถอนตัวถอยหลัง
คนอื่นๆ ในสนามรบต่างตกตะลึง
หลังจากต่อสู้มารไม้อิก เผิงท่องเมฆหมื่นลี้ วัชรอภิณฑ์พุทธะในตอนนั้น ก็เป็นเวลาเกือบร้อยปีแล้ว สั่วหมิงจางปรากฏตัวขึ้นไม่กี่ครั้ง
แต่ไม่โผล่มายังพอว่า พอโผล่มาก็สร้างความตกตะลึง ผ่านไปหลายปีลงมือใหม่อีกครั้ง หักหาญทีปังกรพุทธะซึ่งหน้า สั่วหมิงจางสร้างความแตกตื่นให้แก่โลกในสงครามเดียวอีกครั้ง