ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1603 วานรทองยกกระบองพันจวิน ท้องนภาสดใสไปหมื่นลี้
ในค่ายกลลงทัณฑ์เซียน เจ้าแม่อู๋ตังกุมน้ำผากที่เลือดไหลทะลัก ล้มลงไปด้านหนึ่ง ลมหายใจอ่อนแอ
เกาชิงเสวียนทิ้งร่างแยกของตัวเอง ควบคุมค่ายกลลงทัณฑ์เซียนพร้อมกับเยี่ยนจ้าวเกอ ร่างจริงใช้กระบี่แหนเขียวหลอมเปลี่ยนแสงหยกบนกระบี่สังหารเซียนแทนเจ้าแม่อู๋ตังต่อ
ในอดีตได้สร้างมรกตท่องฟ้า นางจึงเคยสัมผัสกระบี่แหนเขียว ตอนนี้ไม่ถึงกับจัดการไม่ได้
แต่ถึงอย่าไรระดับพลังฝึกปรือของนางยังด้อยกว่าเจ้าแม่อู๋ตัง ความเร็วในการหลอมเปลี่ยนจึงช้าลงมาก
โชคดีที่แสงหยกเหลือไม่กี่ส่วน ยามนี้เริ่มถดถอยออกไปทีละน้อยๆ
เซียนเมฆดำเข้ามาในค่ายกลลสำเร็จ กำลังปรับตัวและศึกษาการเปลี่ยนแปลงในค่ายกล เหนือศีรษะก็มีจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋ไล่ตามมาถึง
มีเยี่ยนจ้าวเกอกับเกาชิงเสวียนรับเข้ามาในค่ายกล ถึงแม้จักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋จะไม่รู้จักค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ก็แต่ผ่อนคลายกว่าเซียนเมฆดำ
คนทั้งสองสู้กัน เยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกของเกาชิงเสวียน ผลักดันการทำงานของค่ายกลลงทัณฑ์เซียนสะกดค่ายกลแม่น้ำเหลืองเก้าโค้งต่อ
เมื่อมีจักรพรรดิโกวเฉินใช้หยกหรูอี้ไตรรัตนะกระแทกมีดบินสังหารเซียนของลู่ยาเต้าจวินร่วงไป เยี่ยนจ้าวเกอก็ใช้ดัชนีเทพปฐมกำเนิด หมุนการเปลี่ยนแปลงหนึ่งปราณสามพิสุทธิ์ย้อนกลับ
ปราณพิสุทธิ์สามสายลอยออกไปด้านนอกค่ายกลลงทัณฑ์เซียน ผสานกับกายทองมหาเทวะสามร่าง
ปราณปีศาจพุ่งสู่ฟ้า เมฆปีศาจสีทองปรากฏขึ้นอีกครั้ง แว่วเสียงคำรามบ้าคลั่งมาจากในชั้นเมฆ
ร่างจริงของมหาเทวะเสมอฟ้าโผล่ออกมา หน้าขนปากงุ้ม ใส่มงกุฎทองปีกหงส์ สวมชุดเกราะสีทอง ใส่รองเท้าใยบัว
มือควงกระบองสารพัดนึก ศีรษะค้ำสวรรค์ เท้าเหยียบแดนบาดาล สภาวะดุร้าย ไร้กฎเกณฑ์ไร้ฟ้า!
“ลู่ยา!” วานรยักษ์คำราม “ตอนนี้ให้อนุญาตให้เจ้าเก็บมีดบินสังหารเซียนกลับมา พวกเรามาสู้กันรอบหนึ่ง”
ลู่ยาเต้าจวินถอนใจ “เก็บมาก็ไม่มีประโยชน์ ทั้งทำลายหยกหรูอี้ไตรรัตนะไม่ได้ชั่วขณะ แต่ถึงแม้พวกเจ้าจะแสดงร่างที่แท้จริงของมหาเทวะเสมอฟ้า ที่สุดแล้วมิใช่ช่วงที่สมบูรณ์เมื่อครั้งกระโน้น ข้าขอลองดูแล้วกัน”
ขณะที่พูด แสงไฟสีทองผสมแดงก็ลุกไหม้ขึ้นมารอบๆ ตัวเขา เจาะทะลวงความว่างเปล่า
ไฟหลีก่อนกำเนิดลุกโหม ดวงอาทิตย์สีแดงผสมทองดวงหนึ่งลอยขึ้นบนศีรษะลู่ยาเต้าจวิน
ดวงอาทิตย์ดวงนั้นยังร้อนแรงและใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ของจริง
ในดวงอาทิตย์มีเงาของอีกาสามขาสีดำโผล่มา
สภาพอีกาทองอาทิตย์ปรากฏ โลกเหมือนกลับสู่ความขมุกขมัว ความร้อนไร้สิ้นสุดกระจายออกมา
น้ำในธารสวรรค์ซึ่งก่อนหน้าบรรจุดาวนับพันดวง ประทบถูกเพลิงอาทิตย์อัคคีสวรรค์ดวงดาว อย่าว่าแต่ระเหยหาย แม้แต่อุณหภูมิก็สูงขึ้นต่ำลงเปลี่ยนแปลงไปมาไม่กี่ครั้ง
แต่ตอนนี้พออีกาทองอาทิตย์โผล่ขึ้นบนศีรษะของลู่ยาเต้าจวิน น้ำในแม่น้ำที่อยู่รอบๆ ก็คล้ายมีอุณหภูมิสูงขึ้น
อีกาทองบินไปหาวานรยักษ์ยกฟ้า พัดเปลวไฟไปทั่วบริเวณ
“ฮ่า!” วานรยักษ์ยิ้ม ถือกระบองสารพัดนึกตั้งไว้ข้างตัว คว้ามือที่เต็มไปด้วยขนอีกข้างใส่อีกาทองอาทิตย์!
มือขนาดมหึมาคว้าถูกคออีกาทองอย่างแม่นยำ
แก่นของไฟหลีก่อนกำเนิดที่สามารถเจาะทะลวงกาลอวกาศจุดกำเนิด กลายเป็นคลื่นอัคคีทั่วฟ้าม้วนคลุมร่างวานรยักษ์
แต่ว่าดวงตาที่เหมือนกับดวงดาราในทะเลเพลิง ปล่อยให้เปลวไฟแผดเผา ไม่กะพริบตาแม้แต่น้อย
มืออันน่ากลัวหุบห้านิ้วแล้วออกแรง บีบดวงอาทิตย์สีทองผสมแดงที่เปลี่ยนมาจากอีกาทองจนระเบิดออก!
แก่นไฟหลีก่อนกำเนิดรอบๆ ร่างลู่ยาเต้าจวินแปรปรวนไม่หยุด
ดวงอาทิตย์โชติช่วงดวงแล้วดวงเล่าลอยขึ้น พุ่งเข้าหาวานร
วานรส่งเสียงกู่ร้อง ควงกระบองกราดฟาด
กลางอากาศแม้แต่เสียงยังไม่ดังออกมา กลับถูกฟาดแหลกเป็นแถบ
น้ำในธารสวรรค์ที่ขุ่นมัวหากยิ่งใหญ่แทบขาดลงด้วยหนึ่งกระบอง!
อีกาทองอาทิตย์จำนวนมากที่บินทะยาน ล้วนถูกฟาดแหลกหมดสิ้น!
กลางจักรวาลเพียงเห็นไฟก่อนกำเนิดที่กระจัดกระจายกับความขุกขมัว
วานรยกกระบองสารพัดนึกขึ้น งอตัวกระโดด บรรลุถึงตรงหน้าลู่ยาเต้าจวิน
ลู่ยาเต้าจวินเปลี่ยนร่าง เสียงสวดมนต์ดังไปทั่วฟ้าดิน ถึงกับแสงสภาวะของมหาพุทธะองค์หนึ่ง
แสงพุทธกลมสมบูรณ์ดวงหนึ่งด้านหลังมหาพุทธะองค์นั้นเป็นสีแดงเข้มจัดราวกับดวงอาทิตย์
ในเสียงสวดมนต์ มหาพุทธะองค์นี้ปล่อยอานุภาพสูงส่งออกมา เหมือนกับสามารถกำทุกสรรพสิ่งในฟ้าดินไว้ในฝ่ามือ คงบคุมอดีต ปัจจุบัน และอนาคตได้
เป็นพระไวโรจนพุทธะ ร่างแปลงในศาสนาพุทธของลู่ยาเต้าจวิน!
พระไวโรจนพุทธะผลักสองฝ่ามือไปด้นหน้า จิตพลังที่แข็งแกร่งมิอาจทำลายสะท้อนออกมา แข็งกร้าวทรงอานุภาพ ยิ่งใหญ่ผ่าเผยกว่าวรยุทธ์ส่วนหนึ่งของเทวราชศาสนาพุทธ
สองฝ่ามือที่เป็นกายเนื้อปะทะกับกระบองสารพัดนึกของมหาเทวะเสมอฟ้าอย่างหักโหม เห็นถึงความแข็งแกร่งของพระไวโรจนพุทธะได้อย่างชัดเจน
แต่สุดท้ายยังเป็นวานรบ้าคลั่งกว่า กระบองสารพัดนึกน่าสะพรึงกว่า
ชูกระบองขึ้นสูงแล้วฟาดลง มหาพุทธะองค์นั้นถึงแม้ต้านไว้ได้ แต่ร่างกายหดเตี้ยลงไปหนึ่งส่วน!
วานรร้องคำราม กระหน่ำฟาดกระบองแล้วกระบองเล่า ร่วงลงดุจห่าฝน
ทุกๆ ครั้งที่พระไวโรจนพุทธะต้านทาน ร่างเตี้ยลงหนึ่งส่วน
เวลาแค่กะพริบตา พุทธะที่น่าเกรงขาม ร่างต่ำเตี้ยกว่าตอนที่เพิ่งปรากฏมากกว่าครึ่ง
บนฝ่ามือพุทธสองข้างที่เหมือนคว้าจับโลกได้ ในที่สุดแตกออกเป็นร่องแยกหลายสาย เริ่มลามไปยังแขนและร่างกาย
วานรง้างกระบวนกวาดฟาดมาอีกหน พลันกวาดทำลายพระไวโรจนพุทธะกลายเป็นน้ำเต้ากลิ้งบนพื้น
แสงทองสลาย ปรากฏร่างจริงของลู่ยาเต้าจวินอีกครั้ง
เขามองกระบองสารพัดนึกในมือวานร พูดกับยุทธวิชัยพุทธะที่อยู่แต่ไกล “หากตอนนั้นท่านถูกเขาฟาดตายที่โถงเซียน ผลลัพธ์คงจะดีกว่ามอบอาวุธชิ้นนี้แก่เขา”
“เขาไม่มีกระบองสารพัดนึก โยมไม่มีมีดบินสังหารเซียน โยมยังสู้เขาไม่ได้” ยุทธวิชัยพุทธะถอนใจเช่นกัน
“ประลองฝีมือไปอีกสักพักดีกว่า อย่างไรเวลาของเขาก็มีจำกัด” ลู่ยาเต้าจวินส่ายหน้าติดต่อกัน
วานรร้องขึ้น ยกกระบองสารพัดนึกขึ้นฟาดใส่ลู่ยาเต้าจวิน
ลู่ยาเต้าจวินกลายเป็นดวงอาทิตย์ สาดรัศมีสีรุ้งหลายสายกลางอากาศ
ชั่วขณะที่เลอะเลือน ดวงอาทิตย์หายไป มีแต่แสงรุ้งหลบเร้น หลีกหนีวานรยักษ์ค้ำฟ้าผู้บ้าคลั่ง
“จุ๊ๆๆ…” วานรหัวเราะเสียงเย็น ส่งเสียงจุ๊ๆ ออกมา
เขาส่ายร่าง งอตัวกระโดดขึ้น กลายเป็นเมฆปีศาจสีทองกลุ่มหนึ่ง ไล่ตามแสงรุ้งที่หนีห่างไปด้วยความเร็วสูง
รุ้งที่ลู่ยาเต้าจวินแปลงกายมีความเร็วสูงมาก ขณะเคลื่อนย้ายถึงกับไม่ด้อยกว่าเผิงท่องเมฆหมื่นลี้เท่าไหร่
แต่ว่ากลับสลัดวานรไม่หยุด ถูกวานรกยกกระบองสารพัดนึกไล่ฟาดไปทั่วบริเวณ!
แสงรุ้งกับเมฆทองเคลื่อนย้ายเปลี่ยนแปลงทั่วทุกแห่งหนระหว่างธารสวรรค์ วานรฟาดกระบองไปทั้งซ้ายทั้งขวา จนธารสวรรค์สั่นสะเทือน เกือบจะขาดสะบั้น
สถานการณ์ในตอนนี้ของสองฝ่ายวินาทีนี้กลับตาลปัตรโดยสิ้นเชิง
ตอนแรกลู่ยาเต้าจวินใช้มีดบินสังหารเซียนข่มขวัญทุกคน ชี้ตะวันออกสู้ตะวันตก ช่วยช่วงชิงความได้เปรียบให้แก่เหล่าจอมปีศาจ
ตอนนี้ตัวเขาถูกวานรไล่ตามไปทุกที่ วานรไม่เพียงติดตามเฉยๆ ยังมีเวลาว่าทักทายคู่ต่อสู้คนอื่นๆ
เมฆทองเคลื่อนผ่าน ก็ฟาดไปกระบองหนึ่ง!
เซียนหัวมังกร หนอนเก้าเศียร หรือแม้แต่หยวนหง ไปจนตลอดผู้ยิ่งใหญ่ศาสนาพุทธอย่างทีปังกรพุทธะ และบุญกุศลพุทธะ ล้วนขวัญหนีดีฝ่อ คอยป้องกันกระบองสารพัดนึกที่โผล่มาอย่างกระทันหัน!
นอกจากเผิงท่องเมฆหมื่นลี้จะอาศัยความเร็ว พวกยุทธวิชัยพุทธะอาศัยธงวิเศษบัวเขียวจึงผ่อนคลายกว่าแล้ว คนที่เหลือล้วนมีสภาพน่าอนาถ
วานรไม่ต้องตั้งใจหยุด เวลาผ่านทางก็ถือโอกาสฟาดหลายกระบอง
ฟาดศีรษะข้างหนึ่งของหนอนเก้าเศียนจนแตก
ทำฟันเหล็กของเซียนหัวมังกรร่วง
พลิกสารีริกธาตุในตะเกียงทองบนศีรษะของบุญกุศลพุทธะ!