ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1644 สู้พุทธะ
“ไม่เอ่ยถึงการปิตุฆาต พวกท่านทำเรื่องนี้สำเร็จ เป็นการก่อบาปขึ้น!” มู่จากกล่าวอย่างโกรธแค้น
เยี่ยนจ้าวเกอเบ้ปาก “วาจานี้กล่าวขึ้นก่อนหน้ายังพอทำเนา มหาเทพสมุทรตรีภพประสบภัยมรณะครั้งแรกแล้วฟื้นขึ้นมาค่อยพูด ยังคงอย่าพูดดีกว่า ยิ่งไปกว่านั้นเขายังประสบภัยมรณะครั้งที่สองเพราะหลี่จิ้ง”
มู่จาสูดหายใจลึกคำหนึ่ง “ข้าไม่ต้องการให้ท่านปล่อยข้า แค่หวังว่าท่านจะอนุญาตให้ข้าเผชิญภัยพิบัตินี้พร้อมกับบิดา”
“ไม่ต้องรีบ รอหลี่จิ้งเป็นวิญญาณตายโหงตนแรกด้วยหอกของมหาเทพสมุทรตรีภพก่อนค่อยว่ากัน” เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม มู่จาได้ยินก็กระวนกระวาย
สมันตภัทรโพธิสัตว์กวาดมองรอบๆ ถอนใจยาวๆ คำหนึ่ง “หลี่จิ้งในที่สุดก็มีภัยพิบัตินี้ในชีวิต แก้ไขไม่ได้”
เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พระโพธิสัตว์อย่าได้พลิกเหตุเป็นผล ตอนเกิดมหาภัยพิบัติมหาเทพสมุทรตรีภพประสบภัย ปัจจุบันหลี่จิ้งก็แค่ใช้คืนเท่านั้น”
“ความสับสนวุ่นวายในนี้ ดำเนินจากยุคโบราณตอนต้นมาถึงยุคปัจจุบัน ไหนเลยใช้วาจาสองสามประโยคแล้วจะกล่าวได้กระจ่าง” สมันตภัทรโพธิสัตว์ส่ายหน้า
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “วาจานี้กลับไม่ผิด แต่มหาเทพสมุทรตรีภพกลับไม่คิดเช่นนี้”
“เฮ้อ!” สมันตภัทรโพธิสัตว์ถอนใจ แต่สีหน้าไม่ทันไรก็กลับคืนสู่สภาพปกติ
ถูกพวกไท่อี้จินหยินถ่วงแข้งถ่วงขา สมันตภัทรโพธิสัตว์จึงหยุดลง ไม่สนใจทางหลี่จิ้งอีก
“ผู้สืบทอดสามพิสุทธิ์มีวันนี้ โยมมีความดีความชอบ แต่ยากจินตนาการยิ่งว่า โยมเป็นคนที่สำนักที่โยมจากมาชุบเลี้ยงขึ้น” สายตาของท่านยามนี้อยู่บนตัวเยี่ยนจ้าวเกอ
“พรรคสำนักแม้ชื่อเขากว่างเฉิง แต่พวกเราล้วนทราบว่า นั่นเป็นแค่การยืมชื่อบรรพตบูรพาสำนักเต๋าก่อนมหาภัยพิบัติเท่านั้น กลับกันบรรพตบูรพาสำนักเต๋ายุคใหม่ค่อยๆ มีชื่อสมกับความเป็นจริง สามารถแบกรับชื่อในตำนานได้พร้อมกับการผงาดขึ้นของท่าน” สมันตภัทรโพธิสัตว์กล่าว
เยี่ยนจ้าวเกอชี้นาจาที่สภาพเหมือนเสือคลั่ง สภาวะไม่อาจต้านทาน “พระโพธิสัตว์เป็นห่วงตัวเองก่อนเถอะ ตอนนี้พวกท่านไม่ไป อย่าว่าแต่คนอื่น รอมหาเทพสมุทรตรีภพลงมือ พวกท่านคิดไปก็ยากแล้ว”
สมันตภัทรโพธิสัตว์ปล่อยแสงขาวที่เหมือนด้ายเล็กเส้นหนึ่งจากปลายนิ้ว ในแสงค่อยๆ บังเกิดเมฆมงคลแผ่นหนึ่ง สูงหลายจั้ง มีแปดมุม บนมุมเป็นตะเกียงทอง พาหุรัด ตุ้มหู
เมฆนี้กันอยู่บนศีรษะท่าน ต้านการจู่โจมจากไท่อี้จินหยินก่อน แล้วค่อยคลุมใส่ไท่อี้จินหยิน
ขณะเดียวกัน ท่านก็ปล่อยบัวเขียวสามธรรมดอกหนึ่งออกมาอีก สัจธรรมบังเกิด ปะทะกับฝาอัคคีเทพเก้ามังกร กั้นเพลิงผลาญสีขาวน้ำนมไว้ด้านนอก
ต้านการโจมตีของไท่อี้จินหยินแล้ว สมันตภัทรโพธิสัตว์ค่อยเอ่ยว่า “อย่างไรดี อย่างไรดี”
ท่านมองเยี่ยนจ้าวเกอ ส่ายหน้าช้าๆ “ข้อยกเว้น...”
“น้ำมีขึ้นมีลง สหายร่วมเส้นทางผู่เสี่ยนใยต้องถอนใจ” ไท่อี้จินหยินทิ่มนิ้วใส่อากาศ ลำแสงหลายสายตัดไขว้ มิติเวลาเหมือนเปลี่ยนเป็นคว้าจับไม่ได้
เมฆมงคลแปดมุมที่สมันตภัทรโพธิสัตว์แสงดออกมาพลันกดไม่ถึงศีรษะของไท่อี้จินหยิน
“พี่ร่วมเส้นทางพูดถูกต้อง” โพธิสัตว์พูด กายทองพุทธะเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน
เห็นเพียงท่านแสดงร่างธรรมที่เอาไว้ใช้ต่อสู้โดยเฉพาะของตัวเอง ใบหน้าดุจแสงม่วง ปากใหญ่เขี้ยวดุร้าย น่าสะพรึงถึงขีดสุด
ชั่วครู่หนึ่งเมฆครอบศีรษะ แสงสีคลุมกายทอง ตุ้มหูพาหุรัดกระจายทั่วร่าง ดอกบัวรองบาทายกเมฆมงคล
ในขณะเดียวกัน สามเศียรหกกรถืออาวุธ มือถือเป็นวัชระปราบมารท่อนหนึ่ง
วินาทีนี้ ปัญญาปรีชาญาณหายเข้าไปด้านใน แสดงอิทธิฤทธิ์ปราบมารแห่งเทวราชที่แข็งกร้าวบ้าคลั่ง วัชรปราบมารขนาดมหึมาแข็งแกร่งไม่อาจทำลาย ทั้งคล้ายปราดเปรียวจนไร้ร่องราวให้สืบสาว
ถึงขนาดไท่อี้จินหยินสู้ด้วย ยังรู้สึกว่ารับมือไม่ง่าย
เขาทราบแก่ใจดีว่าหลังจากศิษย์น้องร่วมอาจารย์ในอดีตผู้นี้หันหลังให้เต๋าเข้าสู่พุทธ ก็มีความเชี่ยวชาญจากทั้งสองที่ อิทธิฤทธิ์ความสามารถเติบโตยิ่งขึ้น
ตนเทียบกับอีกฝ่าย เกรงว่าจะด้อยกว่าขุมหนึ่ง
หนำซ้ำก่อนหน้านี้เขาใช้จิตใจและพลังคอยสะกดนาจาเอาไว้ สิ้นเปลืองมหาศาล ตอนนี้เพิ่งแก้ไขตราผนึก ก็ปะทะกับสมันตภัทรโพธิสัตว์ทันที เกิดความรู้สึกมีกำลังแต่ใช้ไม่ได้ดั่งใจ
แต่ว่าไท่อี้จินหยินก็โชกโชนยิ่ง ไม่รีบร้อนชิงชัยกับสมันตภัทรโพธิสัตว์ เพียงแต่พัวพันกับสมันตภัทรโพธิสัตว์ชนิดมีหนึ่งกระบวนท่าหายหนึ่งกระบวนท่า
เขาขอแค่ถ่วงฝีเท้าสมันตภัทรโพธิสัตว์ ทำให้อีกฝ่ายไม่อาจรบกวนการไล่สังหารหลี่จิ้งของนาจาก็พอ
แม้สมันตภัทรโพธิสัตว์จะได้เปรียบมาก แต่ก็เหมือนเหยียบเข้าไปในบึงโคลนเท้าหนึ่ง
อีกด้านหนึ่งยอดฝีมือศาสนาพุทธคนอื่นๆ อย่างนรสิงห์พุทธะ ต่างแยกกันถูกกายทองมหาเทวะของเยี่ยนจ้าวเกอขัดขวาง ยากจะกระทำการใด
เยี่ยนจ้าวเกอจับมู่จาในมือ บนศีรษะพลันมีฝนเพลิงหลายสายตกลงมา
เพ่งตามองไปกลับเห็นธงวิเศษของอินทรเกตุธวัชราชาพุทธะลอยอยู่ด้านบน ปล่อยเปลวเพลิงสีแดงฉานนับไม่ถ้วนตกลงมา
ไฟชำระล้างบัวแดงของศาสนาพุทธเหมือนลวงเหมือนมายา ถึงเยี่ยนจ้าวเกอจะถูกฝนเพลิงครอบคลุม กระนั้นประสาทสัมผัสไม่มีความรู้สึกแสบร้อน กลับเกิดความว้าวุ่นใจ วิญญาณสั่นไหว
“ถ้าหยุดโยมลงตรงนี้ได้ เช่นนั้นทุกอย่างก็ไม่เสียเปล่าเช่นกัน” อินทรเกตุธวัชราชาพุทธะพนมมือ ท่องคำสวดมนต์
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม “วาจาคล้ายกัน ตอนเจอกันล่าสุด อินทรเกตุธวัชราชาพุทธะก็ได้พูดไปแล้วครั้งหนึ่ง”
พร้อมกับที่พูด เยี่ยนจ้าวเกอสะบัดมือ มู่จาถูกเขาโยนออกเหมือนกับเครื่องบินกระดาษ ตกสู่มือของวานรที่ถือกระบองสารพัดนึก
ในม่านตาสองข้างของเขามีแสงสว่างสีเขียวมรกตกะพริบ
ขณะเดียวกัน เยี่ยนจ้าวเกอก็ยืนตรง เท้าเหยียบความว่างเปล่า ร่างเหมือนส่ายไหวน้อยๆ
บุปผาจิตผนึกรวมบนศีรษะเขา ห้าปราณมุ่งสู่ต้นกำเนิด แก่นเซียนสายแล้วสายเล่ากลายเป็นกระแสปราณขมุกขมัว วนเวียนอยู่รอบๆ ตัวเขา ค่อยๆ ผนึกรวมกลายเป็นรูปเป็นร่าง
วินาทีนี้ เยี่ยนจ้าวเกอทั่วตัวเหมือนกลายเป็นวัตถุคล้ายขวานไม่คล้ายขวาน คล้ายธงไม่คล้ายธง
มือขวาเขาชูขึ้นไปด้านบน เหมือนกับรองรับธรรมชาติด้านหนึ่ง
พร้อมกับการพลิกฝ่ามือของเขา โลกธรรมชาติเหมือนกับมีการพลิกคว่ำ ท้องฟ้าแผ่นดินคล้ายกับพลิกกลับ
ขณะรับเพลิงชำระล้างบัวแดงทั่วฟ้าของอินทรเกตุธวัชราชาพุทธะ เยี่ยนจ้าวเกอไม่หลบหลีก ยกมือขึ้นฟาดใส่ซึ่งหน้า!
ในฝ่ามือนี้แฝงหลักการอันน่าอัศจรรย์ของสามคัมภีร์ก่อนกำเนิด ได้แก่คัมภีร์เกิดนภา คัมภีร์เบิกนภา และคัมภีร์พลิกฟ้าในคัมภีร์นภาแรกเริ่มสายหยกพิสุทธิ์พร้อมกัน
สามคัมภีร์ก่อนกำเนิดแรกเริ่มรวมเป็นหนึ่ง แสดงความลี้ลับมหัศจรรย์ของการเปิดผ่าความโกลาหลแรกสุด และการเริ่มต้นของฟ้าดิน วิถีอันงดงามไร้สิ้นสุดและพลังอันยิ่งใหญ่เหลือประมาณปรากฏชัดแจ้งพร้อมกัน!
ความว่างเปล่าด้านใต้เยี่ยนจ้าวเกอวินาทีนี้เหมือนกลับคืนสู่สภาพโกลาหลที่ไร้หน้าไร้หลัง ไร้เย็นไร้ร้อน ไร้เริ่มต้นไร้สิ้นสุด จากนั้นก็ถูกอิทธิฤทธิ์ความสามารถยิ่งใหญ่แบ่งแยก
ความโกลาหลแหลกสลาย ดินน้ำลมไฟเวียนว่อน สับสนปั่นป่วน จากนั้นก็หยุดนิ่งอีกครั้ง สองลักษณ์วนเวียน สรรพวัตถุแสดงหลักการ ฟ้าดินธรรมชาติมีสภาพแรกสุด มีหลักการเส้นทางโคจรการอนุมานเคลื่อนไหว จากนั้นก็เคลื่อนที่ไปด้านหน้า มหาสมุทรผันแปร
สามคัมภีร์ก่อนกำเนิดแรกเริ่มหยกพิสุทธิ์รวมเป็นหนึ่ง โกลาหลแยกเอกะ!
เพลิงชำระล้างบัวแดงไม่ใช่ไฟที่แท้จริง เป็นไฟปลอมที่ส่งผลโดยตรงต่อใจคน
ทว่าวินาทีนี้ ภายใต้จิตพลังในฝ่ามือนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ ที่เหมือนกับต้องการแสดงการเปิดผ่าความโกลาหล และเริ่มต้นธรรมชาติอีกครั้ง เปลวไฟสูญเสียนิยามจริงปลอมไปแล้ว
“การควบคุมและความมั่นใจต่อสามคัมภีร์ก่อนกำเนิดของผู้สืบทอดหยกพิสุทธิ์ระดับมหาชาลก็ยังสู้ไม่ได้” อินทรเกตุธวัชราชาพุทธะตกใจ
ฝ่ามือเยี่ยนจ้าวเกอกระจายไปทั่ว ฝนเพลิงสีแดงฉานทั่วฟ้าเหมือนกับน้ำฝนที่แท้จริง ถึงจะกระทบใส่ฝ่ามือเขา กลับยากทำร้ายเขาแม้แต่เส้นขน สายเพลิงทะลักไปทั่ว กระจัดกระจายไปรอบๆ
ฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอไปด้านบนต่อทีละก้าวๆ เข้าใกล้ธงวิเศษคันนั้น