ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1646 ป่นกะโหลก
หลังจากไท่อี้จินหยินหยิบฝักบัวออกมา ก็ส่ายไปทางนาจาอย่างระมัดระวัง
นาจาหันมามองอย่างสับสนอยู่บ้าง แต่ในสายตาที่มองไท่อี้จินหยินกับฝักบัวยังคงไม่มีจุดรวมศูนย์
ไท่อี้จินหยินเห็นดังนั้นกลับโล่งอก
เขาใช้มืออีกข้างเขียนอักขระอาคมสายหนึ่งในอากาศ อักขระอาคมลอยไปถึงในความว่างเปล่า กลายเป็นแสงสีขาวหลายจุด สาดเทลงดุจห่าฝน
ถูกแสงขาวนี้ชโลมใส่ นาจาไม่มีปฏิกิริยาใด
ทว่าแสงสีแดงในสองตาของเขาถึงกับเปลี่ยนเป็นชัดเจนและแยงตามากขึ้น
ขณะเดียวกันในผิวที่เหมือนกับเหง้าบัวของเขา ถึงกับปรากฏแสงสีแดงหลายสาย
แสงสีแดงรวมกับฝนเส้นเล็กแสงขาวที่ชโลมบนร่าง สองสิ่งต่างถดถอย ปรากฏสภาพรวมตัวหนาแน่น
ในตอนที่แสงสีแดงและขาวนี้รวมตัวกัน นาจาร่างสั่นสะท้าน ในทวารทั้งเจ็ดถึงกับมีเลือดไหลซึมออกมา น้ำเลือดดำสนิท แทรกด้วยสีเขียว
บนใบหน้านาจาไม่ใเห็นความเจ็บปวด แต่สายตาที่เดิมทีสับสน แสดงความหงุดหงิดต่อต้าน
ในน้ำเลือดสีดำสนิทเหล่านั้นส่งคุณสมบัติพิฆาตและความเหี้ยมหาญอันเข้มข้นมา
ไม่ใช่เลือดของจริง แต่แสดงสภาพสำนึกดุร้ายและความเหี้ยมโหด
ไท่อี้จินหยินเห็นดังนั้น ไม่แตกตื่นลนลาน แต่ว่าสีหน้าระมัดระวังมากขึ้น ลงมือระวังตัวกว่าเดิม
เขาสาดแสงสีขาวอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั่วร่างนาจา ในขณะเดียวกันก็ส่ายฝักบัวในมือเบาๆ บนฝักบัวปรากฏแสงเจ็ดสี สาดลงบนร่างนาจาเช่นกัน
อีกด้านหนึ่งผู้ยิ่งใหญ่ศาสนาพุทธอย่างสมันตภัทรโพธิสัตว์กับนรสิงห์พุทธะต่างสีหน้าเคร่งขรึม
พวกท่านอยากจะไปด้านหน้า แต่กลับถูกพวกเยี่ยนจ้าวเกอขวางไว้
นรสิงห์พุทธะนั้นไม่ทันระวัง ถูกเยี่ยนจ้าวเกอเซ่นลูกตุ้มโกลาหลฟาดคว่ำ จากนั้นก็มีวานรร่ายรำกระบองสารพัดนึกตีกราดมา ถ้าไม่ใช่พวกสมันตภัทรโพธิสัตว์ช่วยเหลือสุดกำลัง เกือบถูกฆ่าตายคาที่
น่าเสียดายพอสนใจทางนี้ก็สูญเสียทางนั้น ดูแลทางหนึ่งได้ดูแลอีกทางไม่ได้
ขณะสมันตภัทรโพธิสัตว์ช่วยเหลือนรสิงห์พุทธะ กายทองมหาเทวะอีกร่างก็พุ่งมา กระแทกอินทรเกตุธวัชราชาพุทธะล้มลง
เยี่ยนจ้าวเกอเก็บลูกตุ้มโกลาหลกลับมา เปลี่ยนเป้าหมายทันที ฟาดลูกตุ้มใส่ศีรษะของอินทรเกตุธวัชราชาพุทธะ!
พุทธะผู้น่าสงสารพลันถูกลุ้มตุ้มโกลาหลฟาดจนกะโหลกแยก
นักบวชศาสนาพุทธมีกายทองแข็งแกร่ง พลังชีวิตกล้าแข็ง
ศีรษะของอินทรเกตุธวัชราชาพุทธะยุบตัวแตกกระจาย เบิ่งสองตามองเยี่ยนจ้าวเกอเขม็ง เพียงแต่กลับพูดอะไรไม่ออก
“ดูเหมือนธวัชราชาพุทธะท่านจะต้องถูกรั้งไว้ที่นี่ตลอดกาลแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างราบเรียบ
อินทรเกตุธวัชราชาพุทธะถอนใจคำหนึ่ง ในที่สุดก็ระบายลมหายใจออกมาได้คำหนึ่ง พนมมือแล้วมรณะลงเช่นนี้
กายของท่านค่อยๆ มีเปลวแสงสีแดงลุกไหม้ขึ้น กายทองกลายเป็นธุลีในเปลวแสง พุทธเกษตรดับสูญ ทุกอย่างลุกไหม้ กลับคืนสู่ในเพลิงสีแดง
สุดท้ายเปลวแสงสีแดงฉานล้วนหายเข้าไปในสารีริกธาตุชิ้นหนึ่งบนศีรษะท่าน
พุทธะผู้สำเร็จมรรคผลศาสนาพุทธในยุคโบราณตอนกลางองค์หนึ่ง มิได้มรณะในการเปลี่ยนแปลงใหญ่ของแดนอภิรดีศูนย์กลางซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคสมัยนี้ มิได้มรณะในมหาภัยพิบัติ แต่มรณะด้วยน้ำมือของเยี่ยนจ้าวเกอในวันนี้
นักบวชศาสนาพุทธเช่นพวกสมันตภัทรโพธิสัตว์เห็นดังนั้น ถึงใบหน้าไม่เห็นความโศกเศร้า แต่ต่างเปล่งคำสรรเสริญคุณพร้อมกัน “นะโมอมิตาพุทธ!”
ขณะมองสถานการณ์ตรงหน้า สมันตภัทรโพธิสัตว์ส่ายหน้าติดต่อกัน
แม้จะสัมผัสได้ว่านาจาไม่อาจเข้าร่วมสงครามชั่วคราว ทว่าคนของศาสนาพุทธก็มีการบาดเจ็บล้มตาย พลังลดลง ยากจะดำเนินต่อไป
สมันตภัทรโพธิสัตว์แน่ใจว่าว่าแดนสุขาวดีตะวันตกไม่อาจดึงกำลังคนมาสนับสนุนต่อได้ในระยะเวลาสั้นๆ ได้แต่ตัดสินใจอย่างอับจนหนทาง พาพวกนรสิงห์พุทธะถอยหนี
ท่านคิดจะช่วยมู่จาศิษย์ของตนกลับมา แต่ว่าไม่สำเร็จ
สุดท้ายได้แต่ถอนใจคำหนึ่ง ออกจากอาณาบริเวณแห่งนี้
พวกเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ตามโจมตีต่อ ตอนนี้การปกป้องไท่อี้จินหยินกับนาจาเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง หลีกเลี่ยงไม่ให้นาจาเกิดเหตุเปลี่ยนแปลงขึ้นที่นี่อีก
“สั่ง!” ไท่อี้จินหยินตวาดเบาๆ เคล็ดวิชาบนมือเกิดการเปลี่ยนแปลง
ห่วงจักรวาลกลับไปบนคอนาจา ผ้าต่วนป่วนฟ้าที่พันอยู่บนแขนเขาก็สั่นไหวโดยไร้ลม กรงล้ออัคคีใต้เท้าหมุนติ้วๆ ไม่หยุด ถึงขั้นที่แม้แต่หอกไฟในมือก็กำลังสั่นสะเทือนเช่นกัน
ขณะนี้ของวิเศษทั่วร่างเหมือนมีชีวิต กำลังเกลี้ยกล่อมนาจาอย่างต่อเนื่อง ช่วยเหลือไท่อี้จินหยิน
‘ของวิเศษเหล่านี้ตอนแรกส่วนใหญ่เป็นไท่อี้จินหยินมอบให้นาจา’ เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็พยักหน้ากับตัวเองในใจ
นาจาสายตายังคงไม่มีจุดรวมศูนย์ ดูสับสนว้าวุ่น แต่ว่าสีหน้าหงุดหงิดปฏิเสธกลับจางลงมาก แม้แต่ความเหี้ยมโหดกลางหว่างคิ้วของเขาก็คล้ายหายไปไม่น้อย
เลือดสกปรกที่ซึมออกมาจากห้าอวัยวะเจ็ดทวารของเขา และปราณพิฆาตกับจิตสังหารที่ไหลออกมายิ่งมายิ่งเข้มข้น
ไม่มีบัวทองสามธรรมของสมันตภัทรโพธิสัตว์คอยรบกวน ฝาอัคคีเทพเก้ามังกรของไท่อี้จินหยินก็ได้ใช้ประโยชน์ทันที
มังกรไฟเก้าตัวที่พันอยู่บนฝาพ่นเปลวเพลิงสีขาวน้ำนมออกมาพร้อมกัน
ไฟลุกโชนกระทบร่างนาจา ไม่ได้ทำร้ายเขา แต่แผดเผาเลือดสกปรกที่ชั่วร้ายน่ากลัวนั้น
เลือดสกปรกยิ่งเผายิ่งไหล เหมือนกับเผาไม่หมด กำจัดไม่ได้
แต่ว่าไท่อี้จินหยินสีหน้าฉายแววยินดี ในที่สุดใบหน้าก็ผ่อนคลายลงแล้ว
หลังจากกำจัดเลือดสกปรกส่วนหนึ่ง เขาก็ส่ายฝักบัวในมือไปทางนาจาต่อ
ในที่สุดดวงตาอันสบสนของนาจาก็ปิดลง เหมือนกับหลับลึก ร่างกายลอยเข้าหาไท่อี้จินหยินโดยไม่อาจควบคุม
เวลานี้ฝักบัวในมือไท่อี้จินหยินใหญ่ขึ้น รองรับร่างของนาจา ให้เขาหลับอยู่ด้านบน
ฝาอัคคีเทพเก้ามังกรลอยอยู่เหนือฝักบัว ยังคงมีเปลวเพลิงพุ่งลงไม่หยุด ชำระล้างน้ำเลือดสีดำสนิทที่ไหลออกมาจากเจ็ดทวารห้าอวัยวะของนาจาอย่างเนิบช้าหากแข็งแกร่ง
“ขอแสดงความยินดีกับจินหยิน” เยี่ยนจ้าวเกอกับหลงซิงเฉวียน ยังมีเมี่ยวเฉินเต้าหยินที่ก่อนหน้านี้ถูกช่วยไว้ต่างเข้ามาแสดงความยินดี
“เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ต่อจากนี้ยังไม่ทราบว่าต้องใช้น้ำบดนานขนาดไหน” ไท่อี้จินหยินกล่าวเช่นนี้ แต่ว่าสีหน้าของเขาค่อนข้างผ่อนคลาย ใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มเล็กน้อย
เยี่ยนจ้าวเกอพูดด้วยรอยยิ้มเช่นกันว่า “การเริ่มต้นที่ดีคือครึ่งหนึ่งของความสำเร็จ”
“ขอให้เป็นดั่งที่สหายน้อยอวยพร” ไท่อี้จินหยินยิ้มพลางพยักหน้า
จากนั้นเขาก็มองไปยังมู่จาที่ถูกกายทองมหาเทวะจับไว้ “สหายน้อยเยี่ยนวางแผนจะจัดการกับคนผู้นี้อย่างไร?”
“ข้าอย่างไรก็ได้ มอบให้จินหยินจัดการแล้วกัน” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ย
ตอนนี้อารมณ์ตื่นเต้นโมโหของมู่จาสงบลงแล้ว มองเยี่ยนจ้าวเกอกับไท่อี้จินหยินด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ทวนคำพูดก่อนหน้า “ขอแค่เผชิญภัยพิบัตินี้พร้อมกับบิดาเท่านั้น”
ไท่อี้จินหยินถอนใจเบาๆ “เด็กโง่…”
เขาไม่กล่าวมากความ ฟาดฝ่ามือลง
มู่จาบนร่างไร้รอยแผล สองตาหลับพริ้ม ลมหายใจขาดห้วงทันที
เยี่ยนจ้าวเกอมองเหตุการณ์นี้ ในใจไร้ความทุกข์โศกหรือยินดี สิ่งที่คิดถึงกลับเป็นภาพตอนพบมู่จาเป็นครั้งแรก อีกฝ่ายก็เคยมีท่วงท่าฮึกเหิมเช่นกัน
เพียงแต่ปัจจุบันทุกอย่างกลายเป็นดินธุลี
สำหรับในใจเยี่ยนจ้าวเกอ ความรู้สึกที่มีต่อมู่จาไม่เลว แต่เขาไม่เกิดความรู้สึกเสียดายคนมีความสามารถต่อคนที่มีจุดยืนเป็นศัตรูกับตัวเอง
ไม่ว่าตัวมู่จาจะมีนิสัยอย่างไร แต่ว่าความคิดที่มีต่อหลี่จิ้ง เขาแตกต่างจากนาจาโดยสิ้นเชิง
หลี่จิ้งตายด้วยมือนาจา ระหว่างมู่จากับเขา ไม่มีพื้นที่ให้ไกล่เกลี่ยแล้ว
ไท่อี้จินหยินลงมือแทนนาจา ในระดับหนึ่งแล้วคือความเป็นห่วงชนิดหนึ่งต่อลูกศิษย์ แน่นอนว่าสำหรับมู่จาแล้ว ย่อมเป็นความเหี้ยมโหด เพียงแต่ด้วยนิสัยใจดำอำมหิตที่แล้วมาของไท่อี้จินหยิน การปฏิบัติเช่นนี้ เยี่ยนจ้าวเกอไม่รู้สึกประหลาดใจ