ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 376 เยี่ยนจ้าวเกอสู้กระทิง
นอกจากเมืองทะเลมรกตบนเกาะมังกรบูรพา จะมีราชันปีศาจอัคคีตัวหนึ่งนำสมุนจำนวนมากรวมตัวกันโจมตีเมืองทะเลมรกตแล้ว ยังมีปีศาจอัคคีจำนวนมากเคลื่อนไหวอยู่บนน่านน้ำของทะเลตะวันออกด้วย
เมืองทะเลมรกตตอนนี้ถูกบีบให้รักษาเขตแดนของเกาะมังกรบูรพา ได้แต่ปล่อยให้ปีศาจอัคคีเคลื่อนไหวในสถานที่อื่นชั่วคราว
ปีศาจอัคคีพวกนี้มีพลังฝึกปรือค่อนข้างต่ำ มีจ้าวปีศาจอัคคีในจำนวนน้อย ทว่ากลับมีปีศาจอัคคีที่มีระดับเทียบเท่ากับจอมยุทธ์มหาปรมาจารย์มากมาย
หลังจากเมืองทะเลมรกตลดการป้องกันลง เท่ากับพวกปีศาจอัคคีเหล่านี้ไร้คนควบคุม จึงเริ่มทำลายล้างไปทั่วทุกหนทุกแห่ง
บนผิวทะเล ปีศาจอัคคีสามตัวพุ่งผ่านขอบฟ้า บินไปยังทิศที่อยู่ไกลออกไป ที่ด้านหลังพวกมันลากหางเปลวเพลิงเป็นทางยาว
ทุกที่ที่ผ่านไป ล้วนเต็มไปด้วยเปลวไฟ
ปีศาจอัคคีสามตัวนี้ สองตัวรูปร่างคล้ายมนุษย์ ส่วนอีกตัวรูปร่างเหมือนนกยักษ์หนึ่งตัว
บนตัวของพวกมัน นอกจากกลิ่นอายเปลวไฟอันร้อนแรงแล้ว ยังปล่อยกลิ่นคาวเลือดเข้มข้นออกมาด้วย
“เพิ่งจะเชือดมนุษย์ไปหรือ ปีศาจอัคคีเป็นตัวสร้างหายนะะจริงๆ” ครั้งนี้พลันมีเสียงดังมาจากด้านล่าง
ปีศาจอัคคีสามตัวต่างตกตะลึง แต่เพิ่งจะก้มหน้ามอง มหาสมุทรด้านล่างพลันมีคลื่นซัดโหม เสาน้ำพวยพุ่งขึ้นฟ้า
ปราณจิตราอันแข็งแกร่งที่แฝงอยู่ในเสาน้ำ บัดนี้ขังพวกมันไว้ด้านในแล้ว
พวกปีศาจอัคคีดิ้นรน จู่ๆ ก็มีแสงสีแดงจุดหนึ่งสว่างขึ้น
กลิ่นอายอันน่าประหวั่นพรั่นพรึงราวกับทำลายล้างได้ทุกอย่างส่งมาจากใต้มหาสมุทร ทำให้ปีศาจอัคคีทั้งสามตัวรู้สึกชาวาบไปทั้งร่างกายและจิตใจ
หากพูดให้ถูกต้อง กลิ่นอายไม่นับว่ามีพลังแข็งแกร่งมากนัก ค่อนข้างอ่อนแอด้วยซ้ำไป
แต่ในความรู้สึกของปีศาจอัคคีสามตัวนี้ กลับน่ากลัวและน่าตื่นตระหนกยิ่งกว่าการเผชิญหน้ากับราชันปีศาจอัคคีเผ่าพันธุ์เดียวกัน หรือแม้กระทั่งจอมยุทธ์เผ่ามนุษย์เสียอีก
นั่นคือความกลัวที่สลักลึกอยู่ในจิตวิญญาณและสายเลือด พิสดารจนยากบรรยาย แต่ก็มีอยู่จริง
ขณะที่ปีศาจอัคคีสามตัวนี้ตกตะลึง เยี่ยนจ้าวเกอ อาหู่ และพ่านพ่านพลันพุ่งออกมาจากในเสาน้ำสามต้นที่ขังพวกมันเอาไว้
พ่านพ่านคำรามร้อง ฟาดอุ้งเท้าทั้งสองข้าง
ปีศาจอัคคีร่างมนุษย์ที่เผชิญหน้ากับมันดิ้นรนสุดแรง แขนทั้งสองข้างกางออกป้องกัน แต่กลับไม่อาจต้านทานพลังอันมหาศาลของพ่านพ่านได้ ถูกอุ้งเท้ายักษ์บีบไว้ตรงกลาง
พ่านพ่านมองดูปีศาจอัคคีที่ถูกมันใช้อุ้งเท้าจับไว้ พลางอ้าปากคำรามขึ้นอีกครั้ง
จากนั้นมันก็พ่นน้ำสีดำจำนวนมากออกมาจากในปาก น้ำพวกนั้นกลายเป็นมังกรน้ำตัวหนึ่ง เจาะทะลุทรวงอกของปีศาจอัคคีเป็นรูพรุน
อีกด้านหนึ่ง อาหู่กำลังสู้กับปีศาจอัคคีที่มีลักษณะเหมือนนกยักษ์
อาหู่กางแขน พายุสีดำรวมตัวกันคล้ายกรงเล็บเสือ ประกายแสงสีม่วงสว่างขึ้นที่ปลายกรงเล็บนั้น ก่อนจะกลายเป็นมีดคมกริบ
ปีศาจอัคคีที่เหมือนกยักษ์ตัวนั้น ถูกกรงเล็บสองข้างของเขาจับไว้จนมิอาจขยับเขยื้อนได้
ก่อนที่อาหู่จะใช้สองมือเด็ดปีกไฟสองข้างของปีศาจอัคคีตัวนี้ออกมา!
จากนั้นเขาก็ยกขาขึ้นถีบ พายุนิมิตทมิฬอันน่ากลัวระเบิดขึ้น ไอความเย็นกระจายไปรอบๆ ถึงกับกลายเป็นพายุน้ำแข็งที่เป็นเอกลักษณ์ ทุบจุดอ่อนตรงทรวงอกของปีศาจอัคคีตัวนี้ ราวกับใช้ค้อนก็ไม่ปาน
เปลวไฟระเบิดสะเทือนเลือนลั่น จากนั้นก็ค่อยๆ ริบหรี่ลงท่ามกลางพายุความเย็น
เยี่ยนจ้าวเกอเผชิญหน้ากับปีศาจอัคคีตัวที่แข็งแกร่งที่สุด มันเป็นปีศาจอัคคีที่มีระดับเทียบเท่ากับมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณของเผ่ามนุษย์
ถึงแม้จะถูกควบคุมโดยแหวนที่จักรพรรดิปีศาจอัคคีทิ้งไว้ แต่ปีศาจอัคคีไม่ยอมโดนมัดมือรอความตาย มันเผชิญหน้ากับการโจมตีของเยี่ยนจ้าวเกอ โต้ตอบไม่ถอยหนี ใช้วิธีการบุกโจมตี คิดแต่เพียงเข่นฆ่าเท่านั้น
ในยามปกติ เยี่ยนจ้าวเกออาจจะมีความคิดประมือกับมัน
แต่ว่าในตอนนี้ ชายหนุ่มกลับไม่พูดพร่ำทำเพลง กางธนูนภาอลหม่าน และพาดอาคมน้ำแข็งปราบมารกับสายธนู
สายฟ้าสีม่วงส่งเสียงคำรามลั่น แสงสีทองระเบิดพวกพุ่งออกมา ไอเย็นกระจายไปรอบบริเวณเหมือนกับอสรพิษพุ่งทะลุดวงอาทิตย์
แสงสีทองที่กอปรด้วยสายฟ้าระเบิดร่างกายของปีศาจอัคคีตัวนั้นจนแหลกสลาย แต่กลับไม่ได้กลายเปลวไฟ มันก่อตัวกันเป็นผลึกน้ำแข็งสีทองหลายก้อน แล้วร่วงลงไปยังผิวทะเลเบื้องล่าง
หลังจากฆ่าปีศาจอัคคีสามตัวเสร็จ เยี่ยนจ้าวเกอเก็บแหวนจักรพรรดิปีศาจอัคคี แล้วหยิบน้ำแข็งย้อยเก้าแท่งที่ใช้จนชำนาญแล้วออกมา
อาหู่กับพ่านพ่านตอนนี้ไม่มีสีหน้าตกใจแม้แต่น้อย พวกเขารวมตัวกันด้านข้างเยี่ยนจ้าวเกออย่างคุ้นเคย จากนั้นก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ก็ก่อตัวขึ้น ครอบคลุมพวกเขาทั้งสามไว้
ก้อนน้ำแข็งร่วงลงในน้ำทะเล ลอยไปตามคลื่นน้ำที่กำลังเคลื่อนไหวใต้ทะเลอีกครั้ง
เยี่ยนจ้าวเกอกับอาหู่นั่งในบอลน้ำแข็ง สีหน้าสงบราบเรียบ
ครู่ต่อมา เยี่ยนจ้าวเกอก็ยื่นมือขวาของตนเองออกมา แบมืออก จากนั้นเขาหุบนิ้วโป้ง ตามด้วยนิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง จนกระทั่งถึงนิ้วก้อย
อาหู่ทำท่าทางเช่นเดียวกับคุณชายของเขา แม้แต่พ่านพ่านก็ยื่นอุ้งเท้าที่เต็มไปด้วยขนปุกปุยออกมาหุบนิ้วนับถอยหลัง
ตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอหุบนิ้วทั้งห้าหมด ก็พลันมีคลื่นพลังอันบ้าคลั่งส่งมาจากด้านหลังที่ไกลออกไป
กระแสน้ำรุนแรงมากขึ้น ผลักก้อนน้ำแข็งให้มีความเร็วเพิ่มขึ้นในพริบตา ส่งให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอลอยไปไกลยิ่งขึ้น
ขณะนี้ราชันปีศาจอัคคีกำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ อยู่ตรงจุดที่ปีศาจอัคคีสามตัวนั้นถูกฆ่า
เฉิงฮวงคล้ายกับกระทิงดุเห็นผ้าแดง
เรื่องคล้ายกันนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว
เยี่ยนจ้าวเกอเหมือนกับสู้กระทิง ล่อราชันปีศาจอัคคีตัวนี้ให้หมุนวนไปมาอยู่เหนือมหาสมุทร
สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอ การสู้กระทิงเป็นขั้นตอนหนึ่ง มิใช่เป้าหมาย
เป้าหมายของเขาก็คือให้ราชันปีศจอัคคีเฉิงฮวงไม่ย้อนกลับไปยังเมืองมรกต แต่ตามไล่ล่าตนเองแทน
ดังนั้นทุกครั้งที่ผ่านไปพักหนึ่ง หลังจากรักษาระยะห่างกับอีกฝ่ายได้บ้างแล้ว เขาจะเก็บน้ำแข็งย้อยเก้าแท่ง พุ่งตัวออกมาจากก้อนน้ำแข็ง กำจัดปีศาจอัคคีที่กระจายอยู่ในน่านน้ำใกล้ๆ เหมือนเช่นปีศาจอัคคีสามตัวเมื่อครู่
วงแหวนแดงก่ำวงนั้นมีผลในการสะกดข่มปีศาจอัคคีที่มีพลังฝึกปรือค่อนข้างต่ำอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ อาคมน้ำแข็งปราบมารยังส่งผลต่อปีศาจอัคคีได้ดียิ่ง อีกทั้งเยี่ยนจ้าวเกอยังมีธนูนภาอลหม่านอยู่ในมือ
ดังนั้น ขอแค่ไม่ใช่ปีศาจอัคคีที่มีระดับเทียบเท่ามหาปรมจารย์ขั้นรูปญาณของเผ่ามนุษย์ ปีศาจอัคคีตัวอื่นที่พบเจอกับเยี่ยนจ้าวเกอเข้า ล้วนร้องไห้หาบิดามารดาทั้งสิ้น
เยี่ยนจ้าวเกอไม่โลภไล่โจมตีต่อ หลังจากเผยร่องรอยของตัวเองออกมาแล้ว เขาก็รีบกลบร่องรอยของตัวเองทันที และเริ่มเคลื่อนไหวอยู่ในน้ำลึกอีกครั้ง
จากนั้น ปีศาจอัคคีเฉิงฮวงที่ไล่ล่ามาด้านหลัง ก็มาถึงที่เกิดเหตุในทันที
ทว่าน่าเสียดาย หลังจากทดสอบและสรุปอยู่หลายครั้ง เยี่ยนจ้าวเกอก็ค่อยๆ ทราบความเร็วของเฉิงฮวง อีกทั้งยังคำนวณเวลาได้แม่นยำยิ่งขึ้นด้วย
วิธีที่เยี่ยนจ้าวเกอดำน้ำอยู่ในขณะนี้ ขึ้นอยู่กับความเร็วคลื่นใต้มหาสมุทรผืนนี้
นอกจากผลกระทบที่เกิดจากราชันปีศาจอัคคีแล้ว ยังมีปัจจัยทางธรรมชาติอื่นๆ ที่ส่งผลต่อความรุนแรงของคลื่นใต้น้ำ
อย่าว่าแต่เฉิงฮวงไม่เข้าใจว่าเยี่ยนจ้าวเกอหนีไปได้อย่างไรเลย ต่อให้เข้าใจ มันก็ยากจะคำนวณความเร็วของชายหนุ่มได้
สุดท้ายแล้ว ราชันปีศาจอัคคีที่ยิ่งใหญ่กลับจับจอมยุทธ์เผ่ามนุษย์ระดับมหาปรมาจารย์ขั้นซ่อนจิตไม่ได้
มันทำได้แค่รับประทานฝุ่นหลังเยี่ยนจ้าวเกอครั้งแล้วครั้งเล่า
อุตส่าห์มีเบาะแสอย่างยากลำบาก ทว่าหลังจากตามถึง กลับเหลือไว้แต่ความจนตรอก มีแต่เผ่าปีศาจอัคคีเท่านั้นที่ไม่ตายก็บาดเจ็บ
เจ้ามนุษย์น่ารังเกียจนั่น คล้ายระเหยหายไปครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ว่ามันจะหายังไง สุดท้ายก็หาไม่เจอ!
ราชันปีศาจตนนี้เดือดดาล ความคับข้องและโทสะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
การดำน้ำล่อเฉิงฮวง กลายเป็นกิจวัตรต่อจากนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ