ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 453 ทางเชื่อมเขตแดนที่เปิดขึ้น
เมื่อยืนยันเส้นทางกลับไปได้แล้ว ต่อจากนี้ถ้าหากมีเวลาเหลือ ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะช้าอีก
หลังจากที่เยี่ยนจ้าวเกอทราบถึงตำแหน่งของกระจกครึ่งบานที่เหลืออยู่แล้ว เขาก็มุ่งหน้าไปที่เขาอรุณมรกตทันที พวกเฟิงอวิ๋นเซิงร่วมทางไปด้วย
ทุกคนมุ่งหน้าไปทางตะวันออก เทืองเขาเสียงฉินฉับพลันอยู่ทางตะวันออกของโลกลอยน้ำ อันเป็นถิ่นของสำนักอัสนีคำรน
ก่อนหน้านี้ เทืองเขาเสียงฉินฉับพลันเป็นเขตแดนที่อยู่ระหว่างอาณาเขตของสำนักอัสนีคำรนและปีศาจอัสนี
แต่ว่าหลังจากปีศาจอัสนีถูกเยี่ยนจ้าวเกอสังหาร เทือกเขาเสียงฉินฉับพลันก็ถูกรวมเข้าไปอยู่ในการควบคุมของสำนักอัสนีคำรน
เยี่ยนจ้าวเกอออกจากอาณาจักรตะวันตกเข้าสู่เทือกเขาเสียงฉินฉับพลัน สำนักอัสนีคำรนย่อมมาต้อนรับ แต่ชายหนุ่มไม่ให้พวกเขาร่วมทางมากเกินไป โดยทางสำนักก็ไม่กล้าสอดมือ ได้แต่กวาดล้างบริเวณตีนเขาทิศเหนือของเทือกเขาตามคำสั่งของเขา
ก่อนหน้านี้ยอดฝีมือทุกคนในสำนักล้วนถูกเยี่ยนจ้าวเกอเล่นงานจนได้รับบาดเจ็บ จารึกซ่อนอัสนีถูกทำลายทิ้ง พลังของสำนักอัสนีคำรนเดิมทีก็มีแนวโน้มจะลดลงอย่างรุนแรงอยู่แล้ว ถึงแม้จะไม่มีปีศาจอัสนี แต่ก็ยังมีราชสีห์วิเศษซวนหนีคอยจ้องตาเป็นมันอยู่
แต่ว่าหลังจากเยี่ยนจ้าวเกอมาถึง ราชสีห์วิเศษซวนหนีเลือดผสมย่อมไม่กล้าเข้าใกล้อาณาเขตของสำนักอัสนีคำรน
“ที่นั่นน่าจะเป็นที่ตั้งของเขาอรุณมรกตอยู่” เยี่ยนจ้าวเกอลอยอยู่กลางอากาศ ใช้มือป้องหน้าผากมองไป แยกแยะตำแหน่งทางภูมิศาสตร์
ทุกคนลอยตัวลงมาถึงตำแหน่งของสันเขาใกล้ๆ เขาอรุณมรกต
หูของเยี่ยนจ้าวเกอกระดิกเล็กน้อย ได้ยินเสียงน้ำที่ดังมาแต่ไกล
เมื่อไปตามเสียงน้ำ น้ำตกที่ลอยอยู่กลางอากาศสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว
เยี่ยนจ้าวเกอหยิบกระจกครึ่งบานที่ตนมีอยู่ออกมา เห็นแสงของกระจกยังคงขมุกขมัว แสดงให้เห็นว่าก่อนหน้านี้พลังวิญญาณในกระจกได้หมดลงไปค่อนข้างมาก ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงฟื้นพลัง
แต่ว่าหลังจากเข้าใกล้เขาอรุณมรกตแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกได้ถึงการสั่นไหวและความผิดปกติของกระจกครึ่งบานที่ตนครอบครองอยู่อย่างชัดเจน
เขากับพวกเฟิงอวิ๋นเซิงมองหน้ากันและกัน ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย “มาถูกที่แล้ว”
ขณะที่ใส่ญาณจริงแท้เข้าไปในกระจกครึ่งบาน เยี่ยนจ้าวเกอก็สำรวจน้ำตกลอยฟ้าที่อยู่เบื้องหน้าไปด้วย
ลำแสงหลายสายสว่างวาบขึ้น ค่อยๆ จับตัวกันกลายเป็นเงาแสงมายา จากนั้นก็เติมเต็มกระจกที่ไม่สมบูรณ์อีกครั้ง
บนผิวกระจกครึ่งปลอมครึ่งจริงยิงแสงสว่างสายหนึ่งออกมา พลันสั่นไหวบริเวณรอบๆ
ครู่ต่อมา แสงของกระจกที่กระจัดกระจายก็เริ่มรวมตัวกันตรงกลางกลายเป็นเส้นเดียว พุ่งไปบนภูเขาที่น้ำตกลอยฟ้าตกลงมา
ภูเขาสั่นไหวเล็กน้อย เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นพลันยิ้มขึ้นมา
แสงที่สาดออกมาจากกลางกระจก เชื่อมต่อตำแหน่งหนึ่งบนภูเขาคล้ายกับเส้นด้าย
ชายหนุ่มดีดนิ้วเบาๆ ประกายประบี่สว่างวาบ ภูเขาลูกน้อยพลันพังทลาย
ด้านในภูเขาที่พังทลายมีแสงพุ่งขึ้นท้องฟ้าโดยพลัน เยี่ยนจ้าวเกอยื่นมือคว้าใส่อากาศ ก่อนจะมีเงาดำกลุ่มหนึ่งลอยขึ้น แล้วตกลงบนมือของเขา
นั่นคือกระจกครึ่งบานที่เหลือ
ลักษณะการสร้างและลักษณะของปราณวิญญาณที่แฝงอยู่ด้านใน เหมือนกับกระจกครึ่งบานที่เยี่ยนจ้าวเกอมีอยู่ในมือ
กระจกทั้งสองใบยึดพื้นที่ครึ่งหนึ่งของใครของมัน ขอบกระจกเสมอกัน แสดงให้เห็นว่าก่อนหน้านี้เป็นกระจกสมบูรณ์ เพียงแต่ในตอนนี้แตกเป็นสองส่วน
เยี่ยนจ้าวเกอที่ถือกระจกไว้ในมือซ้ายและมือขวาข้างละอัน นำกระจกทั้งสองใบมาประกบกัน
ฉันพลันนั้น ก็มีลำแสงหลายสายพุ่งออกมาจากบนผิวกระจกที่สมบูรณ์ ส่องสว่างไปทั่วทั้งฟ้าดิน
มิติที่ถูกแสงกระจกกระทบใส่ถึงกับเกิดการบิดเบี้ยวเล็กน้อย
ชายหนุ่มตาเป็นประกาย ‘คุณภาพดั้งเดิมยอดเยี่ยมอย่างที่คิดไว้ วิชาเคลื่อนผ่านโลกกระจกที่สลักอยู่บนกระจก แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญและความละเอียด
‘ถ้าหากเป็นตอนที่ยังสมบูรณ์ไม่แตกหัก การเดินทางระหว่างโลกที่แตกต่างกันด้วยใช้วิชาเคลื่อนผ่านโลกกระจกของกระจกบานนี้ ย่อมมีประโยชน์มาก’
เขาเห็นบนกระจก ค่อยๆ ปรากฏคำว่า ‘ซ่างฉง (ยังสูงส่ง)’
เยี่ยนจ้าวเกอเลิกคิ้ว กล่าวด้วยรอยยิ้ม “กระจกยังสูงส่งหรือ? น่าสนใจ แต่ไม่รู้เลยว่ามารดาของข้ามีประวัติความเป็นมาอย่างไรกันแน่”
สำหรับโลกลอยน้ำ ยืนยันได้แล้วว่าเสวี่ยชูฉิงเป็นเพียงผู้ผ่านทางเท่านั้น
ตามคำพูดที่มารดาของตนทิ้งไว้ก่อนหน้า เยี่ยนจ้าวเกอคิดว่านางอาจจะมาจากโลกซ้อนโลกที่ตัวนางเอ่ยถึง
ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง ก็หมายความว่าในโลกซ้อนโลกมีจอมยุทธ์ที่มีระดับฝึกปรือต่ำกว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ดำรงอยู่เช่นกัน
บางที โลกซ้อนโลกอาจจะมีผู้อยู่อาศัยดั้งเดิม มีอารยธรรมที่พัฒนาเป็นของตัวเอง ที่นั่นมีการแบ่งคนธรรมดาและจอมยุทธ์เช่นกัน
เพียงแต่หากคิดจะไปยังโลกซ้อนโลก เหมือนกับโลกแปดพิภพ โลกปีศาจอัคคี หรือโลกลอยน้ำ ถ้าไม่มีพลังฝึกปรือเกินจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ก็ต้องมีการช่วยเหลือจากของวิเศษ
ของวิเศษชนิดนี้ย่อมหายาก
เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกหวั่นใจ ‘หากพวกเราไปจากที่นี่จะลำบากไปบ้าง แต่คนทางด้านนั้นคิดจะมาคล้ายกับไม่ลำบากนัก?’
‘เพียงแต่ ถ้าหากจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามเป็นมาตรฐานที่ถูกกำหนด และถ้าหากไม่เกินไปกว่านั้น ก็ไปยังโลกซ้อนโลกไม่ได้ กระนั้นถ้าเหนือกว่าแล้ว จะยังจะอยู่ที่โลกเดิมได้อีกหรือไม่?’
เขามีความคิดมากมายอยู่ชั่วขณะ ‘มหาภัยพิบัติทำให้โลกในตอนนี้กลายเป็นเช่นไรกันแน่’
‘ไม่เคยได้ยินว่าจางเชา จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์อาทิตย์ม่วงในอดีตของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ มีระดับมากกว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามนี่…’
หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง เยี่ยนจ้าวเกอก็ละความคิด ความสนใจอยู่บนกระจกยังสูงส่งอีกครั้งหนึ่ง
‘จงเร็วขึ้น!’ เยี่ยนจ้วเกอใช้ความคิด กระจกยังสูงส่งถึงแม้จะสว่างด้านหนึ่ง มืดด้านหนึ่ง แต่ยังส่องลำแสงสายหนึ่งทะลุท้องฟ้า
ลำแสงกระจายกลางอากาศอย่างรุนแรง กลายเป็นแสงสีที่เหมือนกับดาวตกหลากหลายขนาด พุ่งไปทั่วบริเวณ
พวกเยี่ยนจ้าวเกอตั้งใจมองดูทิศทางที่ลำแสงเคลื่อนไป จับเส้นทางที่ชัดเจนที่สุดได้สายหนึ่ง
“ไปทางเหนือ ระยะทางประมาณสี่พันหกร้อยลี้” เยี่ยนจ้าวเกอจับตามองทิศทางที่ลำแสงพุ่งออกไปพลาง ศึกษาแบบแผนการเคลื่อนไหวของปราณวิญญาณในโลกลอยน้ำไปพลาง
หลังจากสวีเฟยครุ่นคิดในใจครู่หนึ่ง ก็พยักหน้าเล็กน้อย “น่าจะเป็นระยะห่างที่ประตูทางเชื่อมเขตแดนมิติ ซึ่งเชื่อมไปยังมหาอำนาจแปดพิภพอยู่”
“ทว่า ประตูทางเชื่อมเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เมื่อพวกเราไปถึง ตำแหน่งอาจจะเปลี่ยนแปลงอีกก็ได้”
เยี่ยนจ้าวเกอดีดนิ้ว “ไม่เป็นไร ข้าพอจะมองแบบแผนออกหลายส่วนแล้ว ค่อยหาต่อหลังจากไปถึงที่นั่นง่ายกว่ามาก ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการช่วยเหลือจากกระจกยังสูงส่งด้วย”
“แต่ว่า…” เยี่ยนจ้าวเกอขมวดคิ้วเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าต่อ เห็นที่นั่นมีลำแสงรวมตัวกัน แต่ไม่ได้กระจายออกไปรอบๆ
คนอื่นพบสถานการณ์ผิดปกติเช่นกัน ต่างพากันเงยหน้าขึ้นไปมอง
มิติตรงหน้ากระเพื่อมอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะค่อยๆ แตกออก
พลังแห่งเขตแดนอันน่ากลัวบิดเบี้ยวอย่างต่อเนื่อง ฉีกกระชากท้องนภาให้กลายเป็นร่องขยายใหญ่ยักษ์
ประกายแสงในรอยสว่างวาบขึ้น เนิ่นนานให้หลังค่อยสลายไป
ประกายแสงหายไปจนหมด ช่องว่างนั้นเกิดความผันผวน ก่อตัวกลายเป็นทางเชื่อมมิติทางหนึ่งเบื้องหน้าพวกเยี่ยนจ้าวเกอ
“ไม่ได้เชื่อมไปที่โลกแปดพิภพ แต่เชื่อมไปยังสถานที่อื่น” ม่านตาของเยี่ยนจ้าวเกอหดตัวลง “พลังแห่งดินแดนตรงข้ามโลกลอยน้ำ ในตอนนี้อาจจะเบาบางลงแล้ว อีกฝั่งมีคนบิดพิภพมิติเช่นกัน พลังของทั้งสองฝ่ายรวมตัวกันเป็นจุดเดียว เปิดเป็นทางเชื่อมชั่วคราวหรือ?”
เมื่อมองให้ละเอียด ในทางเชื่อมสายนั้นมีเงาคนวูบไหว อีกฝั่งหนึ่งมีคนเหาะมาอย่างรวดเร็ว