ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 483 สังหารเหล่ามารคาที่!
ในเหวลึกเต็มไปด้วยความปั่นป่วนอยู่ชั่วขณะ
มีคนคิดจะตัดเส้นเลือดที่ฟางจุ่นใช้มัดมือมาร แต่เพิ่งจะออกแรงก็ขยับเขยื้อนไม่ได้ คล้ายกับยุงที่ติดใยแมงมุม ขณะเดียวกันก็ถูกเส้นเลือดดึงตกลงสู่หลุมดำ โดนกลืนกินโดยกระแสปั่นป่วนของมิติ
มีบางคนคิดขัดขวางหยวนเจิ้งเฟิงกับฟางจุ่น กลับถูกดูดเข้าไปในหลุมดำตามสหายก่อนหน้าทันที
เสียงของเหล่ามารร้ายดังขึ้นสลับกัน
ดวงอาทิตย์สีทองเหมือนกับหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ
แต่ว่าในความมืดมิดสุดขีดนั้น กลิ่นอายอันน่ากลัวยิ่งมายิ่งหนาแน่น
จู่ๆ ในความมืดมิดก็มีแสงสีแดงมากมายย้อมเหวลึกทั้งหมดให้กลายเป็นสีแดง
ช่างเป็นภาพที่น่ากลัวเหมือนกับการมาของประตูนพยมโลก ซึ่งเกิดจากการเปิดขึ้นของค่ายกลแดนปีศาจหลายครั้งก่อนหน้า
ในอดีตประตูนพยมโลกไม่เคยได้เปิดออกโดยสิ้นเชิง ทว่าในตอนนี้กลับมีรอยแยกนพยมโลกที่แท้จริงปรากฏบนโลกแปดพิภพ
เงาร่างขนาดยักษ์สองสายเบียดไหล่กันออกมาจากใน ‘ประตู’ อันน่ากลัวบานนั้น
พลังอันแข็งแกร่งม้วนพัดไปทั่วเหวลึก แทบจะทำให้ทุกคนต้องกลั้นหายใจและเกิดอาการชาไปทั่วร่าง
ท่ามกลางเสียงหัวเราะอันดุร้าย มือมารสองข้างนั้นทรงพลังมากขึ้น คล้ายกับมีพลังไร้สิ้นสุดส่งมา
เส้นเลือดที่พันอยู่บนมือมารเริ่มฉีกขาด
หยวนเจิ้งเฟิงรู้สึกว่าสองมือของตนเองจับมือมารสองข้านั้นไม่อยู่แล้วเช่นกัน
ใบหน้าของชายชรายังคงแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย เพียงแต่ดวงตาที่หันไปมองลูกศิษย์ของตัวเองกลับเต็มไปด้วยความสงสาร
ฟางจุ่นมีสีหน้าสงบ ทว่าใบหน้าซีดขาวแทบไม่เห็นสีเลือด ดวงตาค่อยๆ ปิดลง คล้ายกับจมลงสู่ห้วงนิทรา
ร่างของคนทั้งสองจมลึกอยู่ในหลุมดำที่เกิดขึ้นจากกระแสปั่นป่วนของมิติ ถูกกลืนกินไปอย่างช้าๆ
ธารแสงสีดำและวิญญาณร้ายจากนพยมโลกมากมาย รวมถึงจอมยุทธ์ผู้กลายเป็นมาร ถูกม้วนเข้าไปในหลุมดำเป็นจำนวนมาก
มือมารขนาดยักษ์สองข้างนั้นคิดตะเกียกตะกายออกมาจากในหลุมดำ
ทว่าในตอนนี้เอง ดวงอาทิตย์สีทองที่จมดิ่งอยู่ในความเงียบงัน พลันมีประกายแสงไร้สิ้นสุดสาดออกมาจากด้านใน!
ดวงอาทิตย์สาดแสงไปทั่วเหวลึกในชั่วพริบตา กวาดล้างแสงมารสีแดงอันดุร้ายจนหมดเกลี้ยง!
ขนาดของดวงอาทิตย์สีทองเริ่มขยายใหญ่มากขึ้น อีกทั้งยังกลืนกินทุกสิ่งที่อยู่รอบๆ
หากมองลงมาจากท้องฟ้าของโลกแปดพิภพที่อยู่ด้านนอกเหวลึก จะเห็นลายแสงสีดำมากมายเริ่มดับลง มีแสงสีทองสว่างขึ้นแทนที่
ทั่วทั้งอาณาเขตอันกว้างใหญ่ไพศาลของปฐพีพิภพ บัดนี้ล้วนมีแสงสีทองพุ่งขึ้นท้องฟ้า!
ท่ามกลางแสงอาทิตย์สว่างไสว ตราประทับสีแดงเปล่งแสงสีทองระยิบระยับอยู่ตรงใจกลาง ใกล้ๆ ตราประทับมีร่างหนึ่งลอยอยู่
เยี่ยนจ้าวเกอปรากฏตัวออกมา สายตามองไปที่อีกด้านของตราประทับสีทอง
เมื่อครู่นี้ เขตแดนของโลกที่เกิดขึ้นใจกลางตราประทับสีทองนี้ถึงกับค่อยๆ พร่าเลือน ก่อนจะพังทลายลง เชื่อมต่อกับโลกแปดพิภพที่อยู่ด้านนอก
ในขณะเดียวกัน กลับมีแสงสีทองหมื่นสายรวมตัวกันกลายเป็นคนผู้หนึ่ง
เงาคนนั้นเมื่อตั้งใจมองจะมีหน้าตาเป็นบุรุษหนุ่ม ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น แล้วยกมือต่อยหมัดออก
จากหมัดนี้ เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกว่า แสงทั้งหมดในโลกต่างรวมกันอยู่บนหมัดของบุรุษผู้นี้ ดวงอาทิตย์ลอยกลางอากาศ สาดแสงส่องสว่าง
ทุกสิ่งนอกจากนี้ล้วนเป็นภาพลวงตา มีเพียงแสงสว่างเท่านั้นที่เป็นของจริง
ทุกสิ่งนอกจากนี้ไม่มีค่าพอให้พูดถึง มีเพียงแต่ดวงอาทิตย์นี้เท่านั้นที่เป็นผู้ปกครองเพียงหนึ่งเดียว
มันกร้าวแกร่งและยิ่งใหญ่ อีกทั้งยังประณีตและทรงพลัง เช่นเดียวกับตราประทับสีทองที่เหมือนกับดวงอาทิตย์อันเจิดจ้าดวงนั้น
วิชาของคัมภีร์เทพดวงอาทิตย์ที่เก่าแก่ที่สุด!
นี่มิใช่คนจริงๆ แต่เป็นเจ้าของตราประทับสีทองนี้ เป็นการแสดงหมัดที่คนสร้างผนึกไว้เหลือให้
ตรงหน้าเยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้เป็นสีทองเรืองรองอยู่ชั่วขณะ แสงอาทิตย์สีทองมิได้เจิดจ้าเช่นเดิมอีกต่อไป เหวลึกในปฐพีพิภพด้านนอกปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
กระแสปั่นป่วนของมิติก่อตัว หลุมดำขนาดใหญ่โผล่ขึ้นเบื้องหน้า
ร่างกายของมารจริงแท้จากนพยมโลกโผล่ออกมาจากในประตูครึ่งหนึ่งแล้ว มือมารข้างหนึ่งของพวกมันเหยียดไปในหลุมดำ ตอนนี้กำลังพยายามตะเกียกตะกายออกมา
จอมยุทธ์โลกแปดพิภพเสียชีวิตเกือบหมดสิ้น ผู้กลายเป็นมารและหุ่นเชิดมารเหล่านั้นตายไปไม่น้อยเช่นกัน เหลือเพียงแต่ ‘ตงเซิงจวิน’ และซี่จ้าวจวิน
เหล่ามารร้ายมองเยี่ยนจ้าวเกอกับตราประทับสีทองด้วยความสับสน รู้สึกได้ถึงการคุกคามโดยสัญชาตญาณ
เยี่ยนจ้าวเกอไม่เห็นผู้อาวุโสร่วมสำนัก พลันรู้สึกหนักใจขึ้นมา
เขาสูดลมหายใจลึกเฮือกหนึ่ง สงบสติอารมณ์ จากนั้นก็ต่อยหมัดหนึ่งออกด้านหน้า!
บนหมัดของเยียนจ้าวเกอค่อยๆ มีแสงสว่างวาบขึ้น จุดลมปราณทั่วร่างเปิดออก มีแสงอาทิตย์สาดออกมา
แสงอาทิตย์หลายสายกลายเป็นอาคมสีทองมากมาย ส่งพลังอันแข็งแกร่งออกมาจากด้านใน ก่อนที่อาคมสีทองประกอบกันเป็นรูปเป็นร่างกลางอากาศ ล้อมรอบเยี่ยนจ้าวเกอไว้ทั้งร่าง
ทันใดนั้น เยี่ยนจ้าวเกอคล้ายกับกลายเป็นคนที่มีเงาร่างเป็นสีทอง
หมัดวรยุทธ์ที่เจ้าของของตราประทับสีทองนั้นทิ้งไว้ พลันระเบิดออกมาอย่างสะเทือนเลือนลั่น!
หมัดนี้แข็งแกร่งเหลือประมาณ กวาดล้างไปทั่วบริเวณในชั่วพริบตา ซี่จ้าวจวินที่กลายเป็นมารแล้วยังไม่ทันได้ร้องโหยหวนออกมาด้วยซ้ำ ร่างกายสลายไปในแสงสว่างไร้สิ้นสุด ไม่ต่างอะไรกับความมืดที่ถูกแสงสว่างขับไล่
มารจริงแท้จากนพยมโลกสองตัวส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธพร้อมกัน ผิวหนังของร่างกายที่โผล่จากนพยมโลกสู่โลกแปดพิภพล้วนเกิดควันลอยขึ้นมา
จากการกระตุ้นของหมัดวรยุทธ์ของเจ้าของตราประทับ ทำให้สีทองปนแดงสั่นไหว คล้ายกับมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง
พลังอันยิ่งใหญ่ที่แฝงอยู่ในตราประทับเริ่มแสดงผล
ตราประทับตกลงสู่เบื้องล่าง มิติในเหวลึกพังทะลายอย่างต่อเนื่อง
แสงสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนกระแทกประตูนพยมโลกที่กำลังเปิดออก ส่งผลให้มันบิดเบี้ยวในทันใด
แสงสีแดงของปีศาจค่อยๆ หายไป ส่วนแสงสีทองไร้สิ้นสุดกลายเป็นตราอาคมขนาดใหญ่เหลือประมาณ ปกคลุมผืนดินและท้องฟ้าอยู่กลางอากาศ
ครั้นอาคมสีทองตกลงสู่เบื้องล่างได้สำเร็จ ประตูนพยมโลกก็ถูกผนึกอีกครั้ง!
มารจริงแท้สองตัวส่งเสียงคำรามพร้อมกัน ร่างของพวกมันที่ครึ่งหนึ่งอยู่ที่ยมโลก ครึ่งหนึ่งอยู่ที่โลกแปดพิภพ ในตอนนี้ถูกพลังของเขตแดนที่บิดเบี้ยวพังทลายตัดขาด!
ก่อนหน้านี้ยังน่าเกรงขาม แต่ตอนนี้ร่างกายกลับถูกตัดเป็นสองส่วน!
ตราประทับสีทองที่ก่อนหน้าถึงแม้จะแข็งแกร่ง แต่ดูสงบนิ่งอย่างเห็นได้ชัด แม้กระทั่งดูทื่อๆ อยู่บ้าง กลับระเบิดอานุภาพเทียมฟ้าออกมาในพริบตานี้
ตราประทับที่บ้าคลั่งฟาดร่างของมารร้ายจากยมโลกสองตัวนั่นจนแแหลก!
ในตอนนั้นเอง เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกได้ว่าโลกแปดพิภพคล้ายกับกำลังสั่นไหว
พลังแรกเริ่มของตราประทับสีทองนี้แข็งแกร่งยิ่งนัก ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในสภาวะสงบยังพอทำเนา ท้ายสุดพอเผยความทรงพลังออกมา พลันเหนือกว่าขีดจำกัดที่โลกแปดพิภพจะรับได้
วิญญาณร้ายจากนพยมโลกและพลังมารสีดำหลายสายในเหวลึกของปฐพีพิภพ กำลังถูกขับไล่ไปอย่างต่อเนื่อง
‘ตงเซิงจวิน’ ส่งเสียงโหยหวน ได้รับบาดเจ็บสาหัสเพราะแสงสีทอง
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตายในชั่วพริบตาเหมือนกับซี่จ้าวจวิน แต่ว่าบนร่างก็มีไอสีดำมากมายระเหยขึ้นมา ร่างกายคล้ายกับกำลังจะแตกสลาย
ร่างจริงถูกฉีกกระชาก ร่างกายส่วนบนถูกทำลายแหลก ร่างแยกนี้เกือบจะแหลกสลายเพราะอาการบาดเจ็บสาหัสนี้เช่นกัน
ประตูนพยมโลกถูกอุดเอาไว้แล้ว เขาไม่กล้าลังเลแม้สักนิด รีบพุ่งร่างขึ้นด้านบน คิดออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
หลังจากหมัดที่เจ้าของตราประทับทิ้งไว้ระเบิดขึ้นแล้ว ก็ค่อยๆ สลายไป
ตราประทับนั้นสงบลงอีกครั้ง แสงสว่างหายไป กลายเป็นริบหรี่ลง
‘ตงเซิงจวิน’ รู้สึกโชคดี แต่จู่ๆ พลันรู้สึกหนาวเหน็บไปทั่วทั้งร่าง
แสงสีทองบนร่างของเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ใกล้ๆ ตราประทับสีทองก็หายไปแล้วเช่นกัน แต่ว่าในมือมีคันธนูสีม่วงคันหนึ่งโผล่ขึ้นมา
ลูกศรสีดำดอกหนึ่งพาดบนสาย เปล่งแสงสีทองอ่อนระยิบระยับ
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างราบเรียบ “เจ้าจะไปไหน”