ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 532 หักนิ้วท่านไปหนึ่งยังไม่นับว่าจบ
อาวุธศักดิ์สิทธิ์นิ้วมังกรทั้งเก้ามีอยู่ทั้งหมดเก้านิ้ว
แต่ว่าบัดนี้นิ้วหนึ่งในนั้นถูกร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกกำไว้ในมือ สั่นไหวอย่างต่อเนื่อง ไม่อาจดิ้นหลุด
เหนียนเชินถลึงตา พวกเฉินซื่อเฉิงมีใบหน้าตกตะลึง
เมื่อคิดจะลงมืออีกครั้ง มิติต่างแดนที่ทุกคนอยู่ในตอนนี้กลับเริ่มพังทลาย
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเหาะร่างลงเบื้องล่าง กระโดดเข้าไปในลำแสงที่สั่นไหวอยู่ด้านล่างพร้อมกับเยี่ยนจ้าวเกอ
เหนียนเชินคำรามขึ้น ไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเอง คว้ากรงเล็บใส่เยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง ส่วนร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกยกฝ่ามือขึ้นป้องกัน
ทั้งสองฝ่ายปะทะกันกลางอากาศหนึ่งกระบวนท่า ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอพุ่งเข้าไปในลำแสงที่ก้นเหวอย่างรวดเร็ว ทว่าฝ่ายเหนียนเชินกลับถูกกระแทกกระเด็นขึ้นด้านบน
“บอกแล้วว่าตอนนี้ข้ากำลังหาคนอยู่” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยอย่างราบเรียบ “แต่ก็วางใจได้มากแล้ว พวกเรายังไม่จบเรื่องนี้กัน ท่านยังเหลือนิ้วแปดนิ้ว ขอฝากพวกมันบนมือสองข้างของท่านก่อน อีกเดี๋ยวพวกเราค่อยๆ สนุกกัน”
ขณะมองเยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกหายไป เสียงคำรามอย่างไม่ยอมแพ้ของเหนียนเชินก็กระเพื่อมกลางอากาศ
เขาคิดจะไล่ตาม แต่เขตแดนมิติรอบๆ กลับแหลกสลายอย่างต่อเนื่อง คนในสำนักมังกรโลหิตได้แต่ป้องกันการเปลี่ยนแปลง และปกป้องตัวเอง
รอจนมรสุมสงบลง ลำแสงตรงหน้าก็สลายไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกไปยังที่ใด
เหนียนเชินมีสีหน้าเคร่งขรึมเป็นอย่างยิ่ง เคร่งขรึมจนน่ากลัว
คนในสำนักมังกรโลหิตที่อยู่รอบๆ ต่างก็รู้สึกอึดอัด
“ท่านอาจารย์…” เฉินซื่อเฉิงมาถึงด้านข้างเหนียนเชิน ฝ่ายเหนียนเชินมองบาดแผลบนมือขวาที่มีเลือดไหลของตัวเอง พูดทีละคำว่า “ข้ารู้สึกได้ถึงตำแหน่งของนิ้วมังกรที่ถูกชิงไป ยังมีเดรัจฉานน้อยแซ่สือนั่น พวกมันหนีไม่พ้นแน่!”
เฉินซื่อเฉิงพยักหน้า “ข้าจะติดต่อเจ้าสำนักเหยียนแห่งบึงหมื่นกระบี่ แต่เกรงว่าวังผลึกวารีจะส่งคนมาเช่นกัน”
เหนียนเชินกล่าว “วังผลึกวารีอยากให้พวกเราบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย เยี่ยนจ้าวเกอนั่นอยู่กับเขาหงส์วิเศษ เจ้าคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะใกล้ชิดเหมือนก่อนหน้านี้หรือ?”
“บอกพวกเขาว่าหลานของข้าตายไปแล้ว แค้นนี้ข้าต้องชำระ ใครขวางย่อมต้องเป็นศัตรูกับข้า!”
ดวงตาของเหนียนเชินทั้งเย็นชาทั้งบ้าคลั่ง “ส่งข่าวว่าเยี่ยนจ้าวเกอออยู่ที่ทะเลตาข่ายดาวออกไป เขาสร้างความแค้นกับหลายสำนัก ตอนนี้มีข้าเป็นคนรับแรงกดดันมากที่สุดอยู่แนวหน้า คนที่ซ้ำเติมสมควรมีไม่น้อย”
“สำนักปราชญ์ปีศาจ สำนักตาข่ายปีศาจ เกาะจิตประสาน…หรือแม้แต่จอมยุทธ์ฝ่ายมารทั้งหมดจะกลัวที่เด็กน้อยผู้นี้เข้ากับเขาหงส์วิเศษหรือ?”
“ข้าจะขอดูหน่อยเถอะว่าต่อให้ร่างเขาจะเป็นเหล็กกล้า แต่จะทำเป็นตะปูได้สักกี่เล่ม[1]!”
ผู้อาวุโสสำนักมังกรโลหิตคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างสั่นไหว “แต่ว่าพวกเราอาจจะถูกมือที่สามฉวยโอกาสได้เช่นกัน…”
“ดังนั้นให้ติดต่อกับบึงหมื่นกระบี่ว่า เราไม่ต้องการให้พวกเขาลงมือจัดการเยี่ยนจ้าวเกอผู้นี้ แค่ระวังหลังให้พวกเราก็พอ ข้าขอแค่แก้แค้น เอาชีวิตของเด็กน้อยสองคนนั่น!” เหนียนเชินเอ่ยอย่างเย็นชา
“ถ้าหากเชือดเด็กน้อยแซ่เยี่ยนนั่นได้แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้มาจะเป็นของบึงหมื่นกระบี่ทั้งหมด เหยียนกังอาจจะไม่ต้องลงมือ เพียงยืนอยู่ด้านข้างก็ได้กำไรเต็มกระเป๋าแล้ว”
จอมยุทธ์สำนักมังกรโลหิตต่างลังเลเล็กน้อย เหนียนเชินกวาดมอง ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกหวาดกลัว พากันพยักหน้าอย่างเงียบงัน
เฉินซื่อเฉิงแบมือ ปรากฏศพของเหนียนเหว่ย “ข้าเก็บร่างของเหว่ยน้อยมาแล้ว ไม่ได้ถูกทำลายในมิติต่างแดน”
“ให้คนส่งไปเก็บรักษาที่สำนัก อย่าเพิ่งกลบฝัง ข้าต้องการให้สือจวินนั่นมาเซ่นไหว้หลานของข้า” เหนียนเชินสีหน้าอ่อนโยนลง พลางมองเฉินซื่อเฉิง แล้วพยักหน้าให้ “ข้าจะระวังอย่างเต็มที่ อิ๋งเอ๋อร์ต้องไม่เป็นไร”
เขาหันไปมองมหาสมุทรเบื้องหน้า สีหน้าเย็นชาขึ้นมาอีกครั้ง “พวกเราตาม!”
…
เยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกข้ามแสงสว่างหนาหนักพร้อมกัน
ครู่ต่อมา แสงสว่างเบื้องหน้าค่อยๆ สลายไป เห็นทัศนียภาพได้อย่างชัดเจนอีกครั้ง
สิ่งที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเยี่ยนจ้าวเกอกลับเป็นวังขนาดยักษ์แห่งหนึ่ง
ชายหนุ่มหันไปมองร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก มันไม่เคลื่อนไหว แต่ว่ามือข้างหนึ่งกำแน่น ใจกลางฝ่ามือสั่นไหวเล็กน้อย
ปลอกนิ้วมังกรที่อยู่ในกำมือของมันกำลังดิ้นรนอย่างต่อเนื่อง เหมือนมีชีวิตและความรู้สึกนึกคิดเป็นของตนเอง
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกมีพลังแข็งแกร่งมาก ถึงจะสะกดปลอกนิ้วให้ไม่อาจขัดขืน แต่ว่าเมื่อเผชิญหน้ากับผู้มีอำนาจเหนือกว่า มันก็ยังคงไม่ยอมศิโรราบ
เยี่ยนจ้าวเกอรับรู้ได้บ้าง เขาเบะปาก ‘ไม่สมบูรณ์ ไม่อาจหลอมได้’
เขาหันไปมองแวบหนึ่ง ด้านหลังเป็นหินโสโครกสีดำ ตนข้ามมิติมายังสถานที่อีกที่หนึ่ง ผ่านลำแสงกลางหุบเหวซึ่งอยู่ในมิติต่างแดนอีกที
หินโสโครกดูชื้นยิ่ง หลังจากสัมผัสถึงเส้นสายปราณวิญญาณที่อยู่ด้านใน เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้ว่าตนอยู่ข้างใต้ชั้นหินก้นทะเล
ที่นี่ถูกเจาะออกโพรงขนาดยักษ์โพรงหนึ่ง รอบๆ มีพลังแห่งเขตแดนคอยช่วยปกปิดอยู่เลือนราง
ดังนั้นต่อให้มีคนผ่านมาจากในมหาสมุทรด้านบน ก็ยากจะสัมผัสได้ว่าด้านใต้ชั้นหินก้นทะเลมีโพรงอยู่ด้วย
‘มีปัญหาจริงๆ ด้วย’ เยี่ยนจ้าวเกอพูดในใจ
มิติต่างแดนเมื่อครู่แข็งแกร่งกว่าที่เยี่ยนจ้าวเกอคาดคิด
การต่อสู้ของพลังระดับศักดิ์สิทธิ์ระหว่างร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกกับนิ้วมังกรทั้งเก้า มิติต่างแดนแห่งนั้นทนต่อไปไม่ไหวจึงค่อยพังทลายลง
มิติต่างแดนเชื่อมกับที่นี่ ที่แห่งนี้สมควรไม่ธรรมดา
เยี่ยนจ้าวเกอมองนิ้วมังกรที่ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกกำไว้ในมือ ค่อยๆ มั่นใจขึ้น ‘สุดท้ายปลอกนิ้วอีกแปดปลอกยังเชื่อมต่อกับมันอยู่ ถ้าเป็นแบบนี้ คนของสำนักมังกรโลหิตสมควรตามมาถึงที่นี่ด้วยการสัมผัสได้’
เขาครุ่นคิดในใจ เตรียมใช้เสาระเบียงวังเทพสะกดปลอกนิ้วนั้นไว้
แต่เพิ่งจะนำเสาระเบียงวังเทพออกมา เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกได้ว่ามันสั่นสะเทือนอย่างฉับพลัน เกือบจะหลุดจากการควบคุมของตน
ชายหนุ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย
เสาระเบียงวังเทพมาอยู่ในมือของตนได้หลายปีแล้ว หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอตั้งใจหลอมอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันค่อยๆ ใช้มันได้ดั่งใจเหมือนกับแขน
เขาไม่อาการคล้ายกับจะสูญเสียการควบคุมเช่นเมื่อครู่นี้มาก่อน
ดวงตาของเยี่ยนจ้าวเกอมองวังด้านหน้า เห็นผิวของตัววังค่อนข้างหยาบไปบ้าง เส้นสายไม่ค่อยละเอียดอ่อนนัก
มองดูแล้วแม้จะเป็นวัง แต่เหมือนกับเป็นอาคารหินขนาดยักษ์มากกว่า ดูโบราณ เต็มไปด้วยกลิ่นอายดึกดำบรรพ์
แต่ว่าด้วยการพิจารณาของเยี่ยนจ้าวเกอ วังหินแห่งนี้กลับมีความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ไม่เปรอะเปื้อนมือคน
เหมือนกับว่าธรรมชาติสร้างวังแห่งนี้ขึ้นมา มิใช่มนุษย์ที่สร้าง
เยี่ยนจ้าวเกอรู้ว่าการรังสรรค์ของธรรมชาติมักจะก่อให้เกิดทิวทัศน์ที่พิสดารจำนวนหนึ่ง อย่างเช่นภูเขาที่คล้ายคนคล้ายปีศาจ หรือสลักเป็นของบางอย่าง แม้มีรูปร่างประหลาดแต่กลับงดงาม
ดูราวกับของที่สร้างขึ้นโดยฝีมือคน แต่กลับเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นจริงๆ
เพียงแต่วังตรงหน้านี้ หากบอกว่าเป็นมนุษย์สร้างก็ดูจะหยาบเกินไป บอกว่าเป็นธรรมชาติสร้าง ก็ดูมีรายละเอียดการก่อสร้างโดยมนุษย์อยู่พร้อมสรรพ
‘จะบรรยายอย่างไรดี?’ เยี่ยนจ้าวเกอเดินไปหาวังแห่งนั้นอย่างสนอกสนใจ ‘คล้ายกับฟ้าดินตั้งใจเลียนแบบวังที่มนุษย์สร้างขึ้น’
มนุษย์เลียนแบบธรรมชาติเป็นเรื่องที่เห็นได้ค่อนข้างบ่อย แต่ธรรมชาติเลียนแบบการสร้างของมนุษย์ย่อมเป็นเรื่องแปลกประหลาด
ชายหนุ่มมองกระบี่หยกในมือ พลังของปฏิกิริยาในตัวมันเบาบางลงไม่น้อย
นี่หมายความว่าระยะห่างระหว่างสือจวินกับเยี่ยนจ้าวเกอกำลังห่างกันมากขึ้น
กระบี่สั้นในมือของสือจวิน ตามเหตุผลแล้วสมควรรับรู้ถึงกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอถึงจะถูกต้อง ตอนนี้กลับออกห่างอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติอย่างชัดเจน
……………………………………….
[1] ต่อให้ร่างเขาจะเป็นเหล็กกล้า แต่จะทำเป็นตะปูได้สักกี่เล่ม หมายถึง ต่อให้เก่งขนาดไหนก็ต้องมีขีดจำกัด