ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 769 หงส์เพลิงก้นทะเล
พายุม้วนน้ำทะเลขึ้นฟ้า เหมือนกับมังกรน้ำมากมายทะยานจากทะเลสู่อากาศ
มังกรน้ำมีสายฟ้าหลายกลุ่มพันอยู่รอบๆ พวกมันส่งแสงและเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่ง
อานุภาพของฟ้าดินเช่นนี้ยังคงทำให้ผู้คนรู้สึกสั่นสะเทือน แต่สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว พายุยังไม่ได้รุนแรงเท่าตอนที่มายังที่นี่ในครั้งก่อน
โดยเฉพาเมื่อสังเกตอย่างละเอียด จะเห็นว่าส่วนลึกของพายุมีแสงส่งมาอย่างเลือนราง
เฟิงอวิ๋นเซิงกับอาหู่ยืนอยู่ด้านข้างเยี่ยนจ้าวเกอ เมื่อเห็นดังนั้นก็นิ่วหน้า “นี่เป็นเพราะการเข้าไปของพวกคังผิงและหลัวจื้อเทาหรือ?”
เยี่ยนจ้าวเกอผงกศีรษะ “มิผิด พวกเขาเข้าไปด้านในดินแดนสุทธทัศน์ ใช้พลังฝึกปรือของตัวเองป้องกันพายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุด ก่อให้เกิดการต่อต้าน กีดขวางซึ่งกันและกัน”
“พูดอีกอย่างก็คือ พายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดกดพลังของพวกคังผิงไว้ ส่วนพวกคังผิงก็ทำให้พายุอ่อนแอลงกว่าเดิม”
“เพราะฉะนั้นพวกเราถึงเข้ามาในน่านน้ำแห่งนี้ได้ ไม่อย่างนั้นคงจะอยู่ในสภาพเดียวกันกับเหวินลั่วเสียแห่งเขาโถงทองไปแล้ว”
ชายหนุ่มพูดไปพลาง นำพวกเฟิงอวิ๋นเซิงเข้าไปในวังฝูงมังกรอีกครั้งไปพลาง
วังฝูงมังกรกลายเป็นจุดแสงขนาดเล็ก หายไปในกลางฝ่ามือของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกตาลุกวาว บนร่างพลันมีแสงสีทองปรากฏขึ้น
เกราะสีทองชิ้นหนึ่งคลุมลงบนตัวของมัน
กลับเป็นเกราะทองบรรพต อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางที่จอมยุทธ์เกราะทองเหยาไห่ ซึ่งดูแลหอกราชาลี้ลับแทนเสวียนมู่อ๋องเคยครอบครอง
ก่อนหน้านี้ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกฉีกการป้องกันของเกราะชิ้นนี้จนเป็นรอย ได้รับความเสียหายค่อนข้างรุนแรง
แต่หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกซ่อมแซมอย่างง่ายๆ ในตอนนี้จึงนำมาใช้ได้อีกครั้ง
หอกราชาลี้ลับซึ่งเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงมีพลังชีวิตและความเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป ไม่ใช่ของที่สามารถหลอมแล้วนำมาใช้ได้ในระยะเวลาสั้นๆ แค่มันไม่ขัดขืนก็ต้องขอบคุณฟ้าดินแล้ว
ต่อจากนี้ค่อยๆ ใช้เวลาเคี่ยวกรำหอกราชาลี้ลับเพื่อให้มันยอมสยบ ส่วนเกราะทองบรรพตและหอกธงเมฆา เยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกร่วมมือกันหลอมพวกมันได้ง่ายดายยิ่ง
อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางสองชิ้นนี้ ในตอนนี้ใช้ได้อย่างเหมาะสมพอดี
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกที่อยู่ในขั้นเทวะสำแดง สามารถแสดงอานุภาพของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางได้อย่างเต็มเปี่ยม
หลังจากร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเก็บวังฝูงมังกรแล้ว มันก็สวมเกราะทองบรรพตลงบนร่าง มือถือหอกธงเมฆา ครั้นชักคมหอกขึ้นครั้งหนึ่ง กระแสน้ำบรรพกาลก็พลันไหลท่วม ส่งคุนเผิงออกทะเล
มันกลายเป็นเงาแสงคุนเผิง มุดเข้าไปในน่านน้ำดินแดนสุทธทัศน์ที่มีพายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดม้วนพัด
เมื่อเข้าไปด้านใน เยี่ยนจ้าวเกอก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่แข็งแกร่ง ซึ่งพุ่งมาหาร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกได้อย่างชัดเจน
แต่ว่าแม้พลังสายฟ้าแม่เหล็กจะกัดกร่อนโจมตีร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้ไต่ตามขึ้นมา
เยี่ยนจ้าวเกอถอนใจด้วยความโล่งอก ความกังวลสุดท้ายหายไป
ถ้าหากว่าร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกยังถูกพายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดพัวพันไว้ในตอนที่เข้ามา เช่นนั้นสภาพของเขาก็ใกล้เคียงกับพวกคังผิง ต้องรับแรงกดดันหลักจากพายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดไปพร้อมกัน
ตอนนี้ดูเหมือนว่าการดำรงอยู่ของพวกคังผิง กู้หง และหลัวจื้อเทา จะปะทะกับพายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุด ก่อเกิดเป็นสมดุลที่ค่อนข้างเปราะบางพอดี
นี่ทำให้ผู้มาทีหลังอย่างเยี่ยนจ้าวเกอได้รับประโยชน์
‘เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง’ เยี่ยนจ้าวพยักหน้าเงียบๆ ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเคลื่อนที่อยู่ในพายุ จากนั้นก็ดำลงไปที่ก้นทะเล
สถานการณ์ด้านล่างผิวทะเล ไม่ได้ปลอดภัยไปกว่าบนผิวทะเลเลย
กลางน้ำทะเลมีน้ำวนจำนวนนับไม่ถ้วนพัดอยู่เช่นกัน ด้านในยังมีพลังของสายฟ้าแม่เหล็กที่น่ากลัวไหลไปทั่ว
งูสายฟ้าสีม่วงอมเขียวที่น่าพรั่นพรึง เลื้อยกลับไปกลับมาอยู่กลางน้ำ มองไปดูรุนแรงยิ่งกว่าด้านนอกเสียอีก
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกใช้ท่าหอกเปิดเป็นทาง ใช้เกราะคุ้มกันกายฝืนป้องกันแรงกดดันมหาศาล ดำลงไปด้านล่าง
ในขณะที่ดำลง มันใช้มือหนึ่งถือหอก อีกมือหนึ่งประคองเตาเครื่องหอมสีดำเล็กๆ ที่ดูไม่สะดุดตาไว้เตาหนึ่ง
เป็นเตากลืนดินนั่นเอง
คิดทำตัวเป็นชาวประมงคอยรอผลประโยชน์ที่จะได้จากการต่อสู้ระหว่างราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องกับสำนักแสงสว่าง โดยใช้พายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุด แม้ว่าความคิดนี้จะดี แต่ถ้าเป็นแค่การพูดแผนการรบบนกระดาษ เช่นนั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้น
ที่เยี่ยนจ้าวเกอกล้าเข้ามา ในใจย่อมมีแผนการอยู่แล้ว
แน่นอนว่าทุกอย่างจะเป็นไปดั่งที่ตั้งใจหรือไม่ก็ยังบอกไม่ได้ ถึงอย่างไรสำหรับดินแดนสุทธทัศน์แล้ว เยี่ยนจ้าวเกอยังมีความเข้าใจอย่างจำกัดเช่นกัน
จะทำสำเร็จหรือไม่ ยังต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์
กระนั้นโอกาสก็มักมาถึงครู่เดียวแล้วหายไป จำเป็นต้องพยายามคว้าไว้
จำต้องยอมรับว่า พวกคังผิงมีระดับพลังสูงส่ง มียอดฝีมือมากมาย ยังไม่ถึงเวลาที่จะปะทะกับพวกเขาตรงๆ
เมื่อมีโอกาสจับปลาตอนน้ำขุ่น เยี่ยนจ้าวเกอย่อมยินดีทำ
จนแล้วจนรอด แนวทางในการเอาชนะศัตรูมีแค่สองอย่าง คือเพิ่มพลังตัวเอง ไม่ก็ลดพลังของศัตรู
ขณะเชื่อมจิตกับเตากลืนดิน เยี่ยนจ้าวเกอสามารถสัมผัสได้ว่า ในความพร่าเลือนเหมือนกับมีเบาะแสนำทางให้กับตัวเอง
หลังจากร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกอยู่ในขั้นเทวะสำแดงแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็พบว่า การเชื่อมต่อกับเตากลืนดินผ่านร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกสะดวกสบายยิ่ง
เตากลืนดินไม่ได้มีแค่ปราณความตายเหมือนเมื่อก่อนหน้าอีกแล้ว แต่คล้ายกับตื่นขึ้นจากการหลับลึก ตอบสนองเยี่ยนจ้าวเกอได้มากกว่าเดิม
ชายหนุมที่อยู่ในวังวนของพายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุด ถึงขั้นสัมผัสได้ว่าเตากลืนดินกลืนกินพลังแม่เหล็กสายฟ้าที่อยู่รอบๆ เพื่อช่วยเหลือและคุ้มครองตัวเขา
ที่ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกสามารถเคลื่อนไหวในพายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดได้อย่างเป็นอิสระ เตากลืนดินมีส่วนช่วยมากมายอย่างไม่ต้องสงสัย
เขตแดนของดินแดนสุทธทัศน์กว้างใหญ่ไพศาล แต่สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังนับว่าไม่ได้ใหญ่มาก
สำหรับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก หายใจเพียงอึดเดียวก็ข้ามได้แล้ว
พวกคังผิงกับกู้หงยิ่งไม่ต้องพูดถึง
แต่ว่าเพราะการรบกวนจากพายุแม่เหล็ก ทุกคนจึงได้แต่ฝ่าการกีดขวางของพายุไปทีละน้อย ถึงจะเคลื่อนที่ไปด้านหน้าได้
ที่ที่เดิมทีไม่ใหญ่โต ในตอนนี้กลับกว้างใหญ่ยิ่ง
นอกจากนี้ยิ่งล่วงลึกเข้าไปด้านในมากเท่าไร พายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเท่านั้น
หลังจากเคลื่อนที่อยู่ในก้นทะเลได้สักระยะ เยี่ยนจ้าวเกอก็สัมผัสได้ว่ายังคงมีความปรวนแปรของพลังอันรุนแรง ที่ส่งมาเพราะการรบกวนของพายุแม่เหล็กด้วย
เห็นได้ชัดว่าพวกคังผิง กู้หง และหลัวจื้อเทาอยู่ใกล้ๆ อีกทั้งคังผิงไล่ตามพวกหลัวจื้อเทากับกู้หงทันแล้ว ในตอนนี้กำลังประมือกันอยู่
หากคนในกองทัพพันธมิตรต่อต้านต้าเสวียนสามารถสลัดพวกคังผิงให้หลุดได้ และออกจากการขัดขวางโดยพายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุด พายุนั้นก็จะกลายเป็นฉากกำบังทางธรรมชาติของพวกเขา ขัดขวางผู้ไล่ล่าแทน
ต่อให้จะเป็นเวลาแค่สั้นๆ แต่ด้วยความเร็วของพวกกู้หงและหลัวจื้อเทา ก็สามารถผละไปได้อย่างรวดเร็ว ทำให้พวกคังผิงไล่ตามไม่ทัน
หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่ได้เข้าใกล้พวกกู้หง แต่ว่าดำน้ำลงไปลึกกว่าเดิม
ภายใต้การนำทางจากเตากลืนดิน วังรกร้างที่เคยเห็นด้านในเตากลืนดินเมื่อก่อนหน้านี้ เยี่ยนจ้าวเกอสามารถสัมผัสได้ว่าตนกำลังเข้าใกล้มันมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
แต่ว่าขณะเดินทาง เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเก็บกลิ่นอาย ซ่อนเตากลืนดิน มันหยุดอยู่กับที่ ก่อนจะตั้งท่าร่าง ปล่อยญาณจริงแท้ออกด้านนอก ลดการป้องกันให้อยู่ในขีดจำกัดต่ำสุด
อีกทางหนึ่งพลันมีกลิ่นอายที่กล้าแข็งส่งมา
แสงไฟอันร้อนเร่าส่องสว่างทะเลลึก แม้รอบๆ จะเป็นพายุสายฟ้าที่พัดโหม ทว่าแสงไฟนี้กลับไม่อ่อนแรงลงแม้แต่น้อย
เยี่ยนจ้าวเกอเพ่งตามองไป เห็นหงส์เพลิงตัวหนึ่งพลันปรากฏตัวในมหาสมุทร
รอบๆ หงส์เพลิงมีควันสีเหลืองหลายสายห่อคลุมอยู่ มอบความรู้สึกทรงพลังให้แก่ผู้คน