ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 784 ข้าให้ท่านไปได้แล้วหรือ
ฉีเหว่ยกระตุ้นค่ายกลยักษ์สองค่ายให้หมุนทวนพร้อมกัน ก่อนจะหมุนกายผละไปอย่างรวดเร็ว เขาไม่คิดจะตายไปพร้อมกับเยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอกลับกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าให้ท่านไปแล้วหรือ?”
เขาใช้ฝ่ามือดันตราประทับตะวันให้ลอยขึ้นสู่ด้านบน หยุดค่ายกลสายฟ้าทมิฬส่งมารที่ซัดสาดบนนั้น ปล่อยให้ค่ายกลแผนภูมิสิบสามธงที่อยู่ด้านล่างแหลกสลาย
ธงใหญ่สิบสามอันพากันแตกร้าว แผ่นดินถล่ม ฟ้าดินพินาศ
แต่ว่าภายใต้ผลของหลุมดันสับสนสีดำที่อยู่รอบๆ ค่ายกลที่บกพร่องเกิดเป็นพลังบิดเบี้ยวพลิกกลับที่รุนแรง
ฟ้าดินลอยกลับด้าน พลันม้วนฉีเหว่ยที่เตรียมจะออกไปกลับมาใน!
ฉีเหว่ยสีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เสื้อสานเงาเลือนบนร่างกลายเป็นเงาดำกลุ่มหนึ่ง ห่อหุ้มตัวเขา แล้วพาปรมาจารย์ค่ายกลหลบไปด้านข้างในชั่วพริบตา
ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอใช้กระบวนท่ารอยตราพลิกนภา กลับด้านเอกภพ พลิกฟ้าคว่ำดิน ฝืนบิดพลังสองขั้ว
ครั้นถูกพลังฝ่ามือจากรอยตราพลิกนภาบีบอัด เสื้อสานเงาเลือนที่ห่อหุ้มฉีเหว่ยกลายเป็นเงาดำก็พลันส่ายไหว
เงาดำเปลี่ยนไปมาระหว่างจริงปลอม พยายามไม่กลับคืนสู่ของจริง
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า ขั้นเทวะสำแดงระยะกลาง ประสานกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลาง พลังที่แสดงออกมาย่อมน่าทึ่งยิ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอพอใช้กระบวนท่ารอยตราพลิกนภาเสร็จ ก็ไม่อาจพลิกเปลี่ยนจิตพลังด้านในได้ในทันที
ทว่าภายใต้ฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอ การเคลื่อนไหวของฉีเหว่ยก็ได้รับการขัดขวาง
หลุมอันสับสนสีดำหลุมแล้วหลุมเล่าที่ปรากฏขึ้นรอบๆ วังศิลา ในตอนนี้เชื่อมต่อกัน กลายเป็นหุบเหวความมืดไร้ขอบเขต
ชายหนุ่มเก็บตราประทับตะวัน ปกป้องตัวเอง ค่ายกลสายฟ้าทมิฬส่งมารก็แหลกสลายพร้อมกัน ระเบิดตามหลังค่ายกลแผนภูมิสิบสามธงที่สลายไปก่อนหน้า
ฉีเหว่ยที่คิดจะใช้การพังทลายของค่ายกลสองค่ายมารับมือกับเยี่ยนจ้าวเกอ ในตอนนี้กลับถูกพลังแห่งการแหลกสลายของค่ายกลม้วนเอาไว้
ค่ายกลสองค่ายที่ตอนแรกจะพังทลายพร้อมกัน ภายใต้ผลกระทบของเยี่ยนจ้าวเกอ ก็กลายเป็นพังทลายลงตามลำดับ
พลังแห่งความบิดเบี้ยวแหลกสลายที่เกิดขึ้น ม้วนฉีเหว่ยที่เป็นเจ้าของเอาไว้ จากนั้นก็ลากเขาเข้าไปในหลุมดำอันสับสน
ฉีเหว่ยเองก็ไม่ธรรมดาจริงๆ ทางหนึ่งบังคับเสื้อสานเงาเลือนให้ป้องกันแรงดึงดูดของหลุมดำนั้น ทางหนึ่งใช้ฝ่ามือก่อนหน้าตบใส่ความว่างเปล่าติดต่อกัน
แสงสายฟ้าที่กระจัดกระจายรวมตัวกันอีกครั้ง แค่ในไม่กี่ชั่วลมหายใจ ค่ายกลสายฟ้าทมิฬส่งมารที่แหลกสลายไปแล้วก็กลับปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ธงค่ายกลที่ใช้วางค่ายกลสลายไปแล้ว ฉีเหว่ยไม่อาจคืนสภาพค่ายกลแผนภูมิสิบสามธง หลังจากวางค่ายกลสายฟ้าทมิฬส่งมารได้ใหม่ สายฟ้าก็ซัดสาด ระเบิดตรงหน้าหลุมดำมืดมิดไม่หยุด ทำให้ฉีเหว่ยเริ่มหยุดยั้งท่าร่างได้
หลังจากแสงสายฟ้าแตกร้าว กระแสไฟฟ้าเต้นเร่า ยังคงถูกหลุมอันสับสนสีดำดูดเข้าไปด้านใน
แต่เนื่องจากมีสายฟ้าทมิฬส่งมารมาขวางทาง ฉีเหว่ยในที่สุดก็ไม่ถูกหลุมอันสับสนสีดำกลืนกิน
“งดงาม!” เยี่ยนจ้าวเกอกลับมาถึงเบื้องหน้าฉีเหว่ยท่ามกลางเสียงหัวเราะร่า
เขากระแทกตราประทับตะวันที่รองไว้บนมือใส่อย่างสะเทือนเลือนลั่น!
ฉีเหว่ยถลึงตา กลับไม่อาจหลบหลีก ได้แต่ต้านทานสุดกำลัง สุดท้ายถูกตราประทับตะวันกระแทกถอยหลัง กระเด็นกลับไปด้านในค่ายกลสายฟ้าทมิฬส่งมารอีกครั้ง
สายฟ้าทมิฬส่งมารที่ตอนแรกกำลังจะแหลกสลายเพราะแรงกดดันจากหลุมอันสับสนสีดำ พลันระเบิดขึ้นอีกครั้ง
แสงสายฟ้าซัดสาดสาดส่องสี่ทิศ เยี่ยนจ้าวเกอโบกฝ่ามือป้องกัน ถูกชนกระเด็นไปด้านหลังเพร้อมกับตราประทับตะวัน
เยี่ยนจ้าวเกอไม่มีความตั้งใจจะหักหาญโดยสิ้นเชิง กลับอาศัยแรงลอยออกไปด้านหลัง เพื่อรับประกันว่าตนกับตราประทับตะวันจะไม่มีจุดจบเดียวกันกับฉีเหว่ย ที่ถูกหลุมดำดูดเอาไว้
ฉีเหว่ยไม่อาจหยุดร่างได้อีกต่อไป ถูกหลุมดำกลืนกินไปพร้อมกับสายฟ้าที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ
ร่างกายส่วนหลังของเขาพุ่งเข้าไปในหลุมดำ มีแต่ส่วนหน้าเท่านั้นที่ยังคงอยู่ด้านนอก ตะเกียงตะกายอย่างยากลำบาก
และในตอนนั้นเอง ไกลออกไปก็มีประกายกระบี่ท่าสว่างไสวลอยมา
ฉีเหว่ยเบิกตามองเยี่ยนจ้าวเกอ “เจ้า…”
ยังไม่ทันจะพูดเสร็จ ประกายกระบี่ก็โดนใส่ศีรษะเต็มๆ!
น่าสงสารที่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า ขั้นเทวะสำแดงระยะกลางอย่างเขาไม่อาจป้องกันไม่อาจหลบเลี่ยง ได้แต่ถูกเยี่ยนจ้าวเกอแทงตาย เหมือนกับเป้ามีชีวิต!
เยี่ยนจ้าวเกอเก็บกระบี่ ถอนใจคำหนึ่ง “น่าเสียดาย ระดับค่ายกลของท่านไม่ธรรมดาจริงๆ”
สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว แม้ฉีเหว่ยจะเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า แต่หากว่าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เฉพาะเจาะจง กลับส่งผลคุกคามไม่ด้อยกว่าพวกคังผิงเลย
ฉีเหว่ยวันนี้สู้ระยะประชิดกับตน โง่เขลาไปบ้างจริงๆ
ปรมาจารย์ค่ายกลเช่นนี้ หาหลบอยู่ด้านหลังคอยวางแผนการ จะสามารถแสดงความสามารถที่ยิ่งใหญ่ถึงขีดสุดได้
ในเมื่ออีกฝ่ายใช้ยาวสู้สั้น เยี่ยนจ้าวเกอย่อมยินดีสนอง
ฉีเหว่ยคิดจะฝังเขาไว้ที่นี่ แต่กลับไม่รู้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอก็มีความคิดเดียวกัน
เยี่ยนจ้าวเกอชมชอบคนมีความสามารถเช่นกัน แต่ว่าเขาไม่เคยมีความคิดเช่นนี้กับศัตรูของตัวเอง
บาดแผลบนร่างของฉีเหว่ยเริ่มกระจายตัว ค่อยกลายเป็นฝุ่นผง หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอเก็บกระบี่
กระบี่สังหารเซียนทำลายสรรพสิ่ง ฉีเหว่ยหลังจากร่างตาย พลังชีวิตถูกสะบั้น กายเนื้ออันแข็งแกร่งของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า ขั้นเทวะสำแดงระยะกลางก็ต้านทานจิตกระบี่อันกล้าแข็งของกระบี่สังหารเซียนไม่ได้ พังทลายอย่างต่อเนื่อง
เขาในเมื่อร่างตาย พลังสลายไปแล้ว ก็ไม่อาจต้านทานการกลืนกินจากหลุมดำอันสับสนได้อีก
ในขณะร่างกายของฉีเหว่ยกำลังพังทลาย ก็ถูกหลุมอันสับสนสีดำกลืนกิน แตกร้าวแหลกสลาย แล้วกระจัดกระจายไม่เห็นร่องรอย
พร้อมกับที่เยี่ยนจ้าวเกอเก็บกระบี่ ประกายกระบี่ก็ทั้งยกทั้งม้วน นำถุงย่อส่วนอันหนึ่งกลับมาด้วย
สมบัติของปรมาจารย์ด้านค่ายกลอย่างฉีเหว่ย เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกสนใจอยู่หลายส่วน
ทว่าในตอนนี้เขาไม่มีเวลาตรวจสอบของที่อยู่ในถุงย่อส่วน
ฉีเหว่ยแม้จะถูกสังหาร แต่ว่ากลิ่นอายที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าสายหนึ่งก็กำลังเข้าใกล้ทางนี้อย่างรวดเร็ว
เสียงร้องของหงส์ดังขึ้นเป็นระลอก เปลวเพลิงวนเวียน อุณหภูมิของอากาศรอบๆ เพิ่มขึ้นในชั่วพริบตาเดียว
เยี่ยนจ้าวเกอไม่จำเป็นต้องแยกแยะอย่างละเอียดก็รู้ว่าผู้มาเยือนเป็นใคร
เพื่อกระดูกหงส์เพลิงที่อยู่กับถังหย่งฮ่าว บางทีอาจจะบวกกับการจัดการเขาเยี่ยนจ้าวเกอเพื่อระบายแค้น อีกฝ่ายจึงไม่สนใจความผิดปกติของวังศิลาก้นทะเล อสูรร้ายเทาเที่ยกำลังจะคืนชีพอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังทะลวงลงมา
บนร่างของหงส์เพลิงมีแสงไฟละลานตาสว่างขึ้น สาดส่องที่ว่างทั้งหมดในชั่วอึดใจเดียว
ด้านบนตัวเขายังมีแสงสีดำกะพริบ สั่นสะท้านจิตใจผู้คน
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้าย ยังมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงอยู่กับตัวอีกชิ้นหนึ่ง
ต่อให้ไม่ดูอาวุธ อาศัยเพียงมือเปล่า คนผู้นี้ก็มีพลังเหนือกว่าเสวียนมู่อ๋อง หลัวจื้อเทา และโจวฮ่าวเซิงที่เป็นยอดฝีมือในระดับเดียวกันด้วย
เยี่ยนจ้าวเกอที่เคยประมือกับคนผู้นี้ช่วงสั้นๆ ถึงขั้นรู้สึกได้ว่าต่อให้เขาใช้มือเปล่า ก็ไม่อ่อนแอ่กว่าหลัวจื้อเทาที่มีกงจักรตะวันจันทรา หรือเสวียนมู่อ๋องที่มีหอกราชาลี้ลับอยู่ในมือเลย
นี่คือคนที่ก้าวข้ามระดับ สามารถต่อสู้กับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนได้
ยิ่งระดับเพิ่มขึ้นเท่าไร จำนวนยอดฝีมือก็มีน้อยเท่านั้น สามารถเดินมาถึงตำแหน่งที่สูงส่งได้ ไม่ว่าจะใครล้วนมีความพิเศษในตัว
คนธรรมดาส่วนใหญ่ต่างตกแถวในขณะเพิ่มระดับจากต่ำไปสูง ไม่อาจตามการย่างเท้าของพวกเขาได้
นอกจากจะเลื่อนเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหกขั้นเจ็ดแล้ว ยังสามารถสู้ข้ามระดับได้ คนตรงหน้านี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
แต่ว่าทุกสิ่งนี้ เยี่ยนจ้าวเกอคาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ยั้งเขา ไม่ให้ฆ่าถังหย่งฮ่าวเพื่อชิงกระดูกหงส์เพลิงแล้ว
ขณะมองหงส์เพลิงที่เข้ามาใกล้ด้วยความเร็วสูง กับวังศิลาก้นทะเลที่เริ่มพังทลายจนไม่เป็นรูปเป็นร่าง เยี่ยนจ้าวเกอก็เชื่อมจิตกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกไปด้วย
ด้านในบ่อเลือดหัวใจปีศาจ ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกก็อยู่ในช่วงเวลาอันตรายเช่นกัน
มันคิดจะรวมวิญญาณปีศาจของเทาเที่ยเข้ากับกายเนื้อ ในขณะที่เผชิญกับความอันตรายที่จะถูกเทาเที่ยกลืนกิน
แต่ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกมีสีหน้าใจเย็น ด้านหนึ่งยังคงพยายามทำให้ฝักกระบี่กลืนฟ้าและเตากลืนดินเสถียร อีกด้านหนึ่งก้มมองบ่อเลือดด้านล่าง
ด้านในบ่อเลือดที่เดือดพล่าน เลือดพลันแหวกออกเป็นสองทาง
ภายในเลือดสีแดงฉานมีจุดสีครามจุดหนึ่งลอยขึ้นมา โดดเด่นละลานตายิ่ง