ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 979 คนที่สู้ได้ล้วนไม่มี
โอกาสเกิดใหม่สองครั้ง หากเผชิญกับคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน จะเป็นไพ่ตายที่แข็งแกร่งยิ่ง ถึงขั้นมีประโยชน์อย่างใหญ่หลวงในตอนที่เผชิญกับศัตรูที่เหนือกว่าตนเล็กน้อย
สามารถคืนชีพได้ ย่อมมีความมั่นใจสำหรับการเสี่ยงชีวิต
ต่อให้เลือกใช้วิธีต่อสู้บาดเจ็บแลกบาดเจ็บ ใช้การวิธีการต่อสู้เสี่ยงชีวิตไปจนถึงตกตายร่วมกันก็ไม่เป็นไร
คำกล่าวที่ว่า ‘คนหนึ่งเสี่ยงชีวิต หมื่นคนสู้ไม่ได้’ อาจจะเลยเถิดเกินไป
แต่ว่าในการต่อสู้ระหว่างคนสองคน หากฝ่ายหนึ่งมีความมั่นใจ ไม่เสียดายชีวิตไม่กลัวตาย อีกฝ่ายหนึ่งก็จะเริ่มสู้ลำบาก
นั่นเป็นเพราะไม่อาจเสี่ยงด้วยได้
สายสืบทอดของเนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์ เทียบกับบรรดาขุมกำลังต่างๆ อย่างสำนักรัตติกาล เขามหาวิญญาณ พรรคกระบี่คลื่นม่วง หรือสำนักแสงสว่าง สำนักความมืด หอกระบี่ทะเลเหนือ ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง และเขาสามขา การสืบทอดวรยุทธ์ย่อมลึกล้ำกว่า ถึงขั้นที่นำอยู่ในหลายๆ ได้
แต่ว่าเมื่อเทียบกับการสืบทอดของเขาโถงทองแห่งตะวันออกเฉียงใต้ และตำหนักขุยสายฟ้าแห่งเขานภาเขียวในตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว ม้วนคัมภีร์ร่างหงส์เพลิงของเนินต้นจักรพรรดินั้นป้องกันแข็งแกร่งโจมตีอ่อนแอ
ทว่าในตอนที่จอมยุทธ์จากเนินต้นจักรพรรดิสู้กับจอมยุทธ์จากเขาโถงทองและตำหนักขุยสายฟ้า อีกฝ่ายกลับต้องระวังจนไม่กล้าดูแคลน
เพราะว่าผู้สืบทอดเนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์กล้าใช้วิธีต่อสู้เสี่ยงชีวิต โจมตีอย่างบ้าคลั่งดุร้าย ไม่สนใจตัวเอง
ในอีกมุมหนึ่ง เรื่องนี้นับว่าชดเชยจุดเด่นของวรยุทธ์สายเนินต้นจักรพรรดิที่ป้องกันแข็งแกร่งโจมตีอ่อนแอ
เพียงแต่ความได้เปรียบอย่างการตายแทนเกิดใหม่ หรือการมีพลังชีวิตและพลังป้องกันแข็งแกร่ง เมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่มีพลังแข็งแกร่งกว่าตัวเองเกินไป ล้วนไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง
ถ้าอีกฝ่ายสังหารท่านหนึ่งครั้งโดยต้องใช้พลังทั้งหมดหลังจากท่านคืนชีพอีกแล้ว ก็ย่อมไม่มีแรงสู้ต่อ
แต่ถ้าหากอีกฝ่ายสังหารท่านหนึ่งครั้งอย่างง่ายดาย หลังจากท่านคืนชีพมาใหม่ สุดท้ายก็ต้องถูกสังหารอีกหนึ่งครั้งอยู่ดี
ตอนนี้หยวนเสี่ยนเฉิงพบว่า เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ตรงหน้าเกรงว่าจะเป็นคู่ต่อสู้เช่นนี้
เขาไม่กลัววรยุทธ์ประเภทดัชนีหยินหยาง รอยตราพลิกนภา ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดของเยี่ยนจ้าวเกอ แต่ว่าวิชากระบี่สังหารมังกรเขียวกลับมีอานุภาพสูงถึงขีดสุด
ความคับข้องของพวกผู้วิเศษเซิงและคังผิงในตอนนั้น ตอนนี้หยวนเสี่ยนเฉิงรู้สึกได้แล้ว
ถ้าหากเป็นแค่ท่าสังหารมังกรเขียวยังพอว่า วิชากระบี่ที่ดุร้ายเช่นนี้หากคิดจะสร้างความเสียหายให้แก่ยอดฝีมือระดับเขา จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงทั่วไปจะใช้กระบี่หนึ่งออกมาได้หรือไม่ยังบอกยาก
หากแต่สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอที่มีคัมภีร์นภาไร้ขอบเขต คัมภีร์พลิกฟ้า คัมภีร์นภาหยินหยาง ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิด และคัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิตเป็นพื้นฐาน จะสิบกระบี่หรือร้อยกระบี่ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง
ทุกสิ่งนี้สร้างคู่ต่อสู้ที่ทำให้หยวนเสี่ยนเฉิงรู้สึกว่าต่อให้ตนมีสามชีวิตก็ไม่พอ
เขาทรมานเยี่ยนจ้าวเกอไม่ตาย เยี่ยนจ้าวเกอกลับทรมานเขาจนตายได้!
ความรู้สึกที่รุนแรงที่สุดในตอนนี้ของหยวนเสี่ยนเฉิง ความจริงแล้วคือ…ความประดักประเดิด!
มิผิด ความประดักประเดิด!
เขาที่แล้วมาผ่านการต่อสู้มานับร้อย มีประสบการณ์มากมายสุดเปรียบปาน ตอนนี้จึงรู้สึกได้แล้วว่า ที่จริงปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของตัวเองคือ พลังโจมตีและพลังทำลายล้างไม่อาจมอบแรงกดดันที่มากพอให้กับเยี่ยนจ้าวเกอได้
หยวนเสี่ยนเฉิงที่แข็งแกร่งที่สุดในคนทั้งสามสามารถสู้กับยอดฝีมือในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าได้ ทว่าเทียบกับยอดฝีมือในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าแล้ว เขาป้องกันได้อย่างเหลือเฟือ แต่โจมตีได้ไม่มากพอ
ถ้าหากว่าเขาฝึกฝนวรยุทธ์มรรคากระบี่ของเขาโถงทองแห่งเขตตะวันอาคเนย์เช่นหลงฮั่นหัว มาตรแม้นว่าตนจะมีอันตรายมากกว่า แต่เวลาเยี่ยนจ้าวเกอลงมือกลับมีความกริ่งเกรงไม่น้อย
หนึ่งเพิ่มหนึ่งลด ดูเหมือนแตกต่างกันไม่มาก ความจริงกลับมีโอกาสกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถทำลายสมดุลได้
เยี่ยนจ้าวเกอครอบครองคัมภีร์นภาหยินหยาง ไม่กลัวการกลุ้มรุม
นอกเสียจากว่าวรยุทธ์ที่อีกฝ่ายฝึกฝนสามารถทำลายและกดข่มความน่าอัศจรรย์ของดัชนีหยินหยางได้พอดี ไม่อย่างนั้นก็ต้องมียอดฝีมือที่สามารถคุกคามกดดันเขาได้อย่างชัดเจนเข้าร่วมการรุมโจมตี คอยดึงสมาธิส่วนใหญ่ของเขาไว้
อาศัยเพียงการเพิ่มจำนวนคนจึงไม่มีประโยชน์อะไร
นักพรตตงเฉวียนครองชัยภูมิของเขามหาวิญญาณ ถ้าหากผลักดันค่ายกลสุดกำลัง จากนั้นค่อยใช้หมัดมหาวิญญาณสยบมังกรที่ดุดัน ใต้การหนุนเสริมของพลังแห่งค่ายกล จะมีโอกาสอยู่หลายส่วน
ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอจำกัดการควบคุมค่ายกลของเขา สุดท้ายเขาที่มีพลังอ่อนแอที่สุดก็ถูกเยี่ยนจ้าวเกอสังหารคาที่
หลังจากฆ่านักพรตตงเฉวียนเสร็จแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่หยุดมือ ฟันกระบี่ใส่หยวนเสี่ยนเฉิงที่เพิ่งดับสิ้นแล้วเกิดใหม่ต่อไป
ในขณะเดียวกันเขาก็เหยียบยันต์แปดทิศ ส่งเสียงตะโกนก้อง!
ค่ายกลเขามหาวิญญาณทำงาน รูปยันต์แปดทิศสีทองโผล่ขึ้นบนท้องฟาอีกครั้ง ก่อนจะปกคลุมยอดเขาไว้
เพียงแต่ว่าการทำงานของค่ายกลและสิทธิ์ในการควบคุมตอนนี้ กลับตกไปอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว
ภายใต้การหนุนเสริมจากพลังของค่ายกล เยี่ยนจ้าวเกอเหี้ยมหาญมากขึ้น หลังจากใช้กระบวนท่าสังหารมังกรเขียวกดดันหยวนเสี่ยนเฉิงจนถอยหลัง เขาก็ฟาดฝ่ามือเข้าหาจ้าวเจินต่อทันที
ผู้อาวุโสขั้นสะพานเซียนอีกคนหนึ่งของเขามหาวิญญาณนอกจากนักพรตตงเฉวียนเห็นดังนั้น ก็รีบนำคนในสำนักรับช่วงค่ายกลต่อ พยายามสุดกำลัง ค่อยช่วงชิงสิทธิ์ควบคุมค่ายกลกลับไปได้
แต่ว่าแม้แต่นักพรตตงเฉวียนยังถูกเยี่ยนจ้าวเกอก่อกวน คนอื่นๆ จึงยิ่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
เยี่ยนจ้าวเกอกระทืบเท้า รูปยันต์แปดทิศบนยอดเขาหมุนกลับด้าน
นอกจากผู้อาวุโสระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนคนนั้นแล้ว จอมยุทธ์เขามหาวิญญาณที่เหลือล้วนถูกกระแทกจนกระอักเลือดลงไปนอนกับพื้น
“คนที่เหลือก็เข้ามาด้วยเถอะ” เยี่ยนจ้าวเกอพูดอย่างไม่นำพา “ที่พวกท่านชุมนุมกันอยู่ที่นี่ไม่ใช่เพราะกำลังรวบรวมสมัครพรรคพวกเพิ่มความกล้า เพื่อเตรียมรุมข้าหรอกหรือ”
ขณะที่พูด เยี่ยนจ้าวเกอก็วูบไหวท่าร่าง บรรลุถึงเบื้องหน้าผู้อาวุโสเขามหาวิญญาณผู้นั้นในชั่วพริบตา จากนั้นก็ผลักฝ่ามือหนึ่งลง ส่งเขาไปเจอนักพรตตงเฉวียน
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนผู้หนึ่งถูกสังหารในชั่วพริบตาเดียว!
จอมยุทธ์ทิศใต้ที่เหลือเห็นดังนั้น ร่างกายก็พลันสั่นสะท้าน
ทุกคนมองหน้ากัน แต่กลับไม่ได้เคลื่อนไหว
ต่างคนต่างก็มีความคิดเดียวกัน
เข้าไปด้วยกันหรือ
ล้อเล่นอะไรกัน
จะให้เข้าไปหาที่ตายหรือไร
ไม่เห็นหรือว่าแม้แต่หยวนเสี่ยนเฉิงก็ยังสังหารคนผู้นี้ไม่ได้
ถ้าหากการกลุ้มรุมมีประโยชน์ คนที่อยู่รอบๆ คงลงมือไปนานแล้ว
หากใครสังหารเยี่ยนจ้าวเกอได้จริงๆ คนผู้นั้นก็ถือว่าได้สร้างบุญคุณกับเนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีหลาหงส์อย่างยิ่งใหญ่โดยไม่ต้องสงสัย
เพียงแต่ขนาดยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลางเช่นหยวนเสี่ยนเฉิง จ้าวเจิน และนักพรตตงเฉวียนโจมตีพร้อมกัน ก็ยังทำอะไรเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ กลับพ่ายแพ้ย่อยยับแล้วถูกฆ่าตาย
จอมยุทธ์ทิศใต้ต่างทราบว่าแม้นจะเข้าไปช่วยเหลือก็ไม่มีประโยชน์ ได้แต่ส่งตัวเองไปตายเปล่า
“ประมุขพรรคหวัง พรรคเขาปริศนาของท่านไม่ใช่ว่ามีความแค้นใหญ่กับเขากว่างเฉิงหรอกหรือ” มีคนโพล่งขึ้น “ก่อนหน้านี้ท่านยังบอกอยู่เลยว่า ศิษย์น้องผู้หนึ่งของท่านตายด้วยน้ำมือของคนที่มือชื่อว่าหยวนเจิ้งเฟิงในตอนที่บุกเขตตะวันอาคเนย์เมื่อสองปีก่อน ครั้งนี้เยี่ยนจ้าวเกอโผล่มาบนเขตเพลิงทักษิณ ท่านจะได้แก้แค้นพอดี”
ชายชราผู้หนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ เขาได้ยินร่างกายพลันสั่นระริก มองมาด้วยสายตาแตกตื่นเดือดดาล
ชายชราแซ่หวังลอบด่าทอในใจ ก่อนหน้านี้ในตอนที่รับคำเชิญมางานชุมนุม เขากระตือรือร้นมาก คิดกำจัดเยี่ยนจ้าวเกอจริงๆ
แต่การให้เขาลงมือตอนนี้แตกต่างอะไรกับการส่งตัวเองไปตายเล่า
คำพูดนี้ยังอาจจะดึงดูดความสนใจของเยี่ยนจ้าวเกอด้วย
เป็นดังที่คาด พอได้ยินประโยคนี้เข้า เยี่ยนจ้าวเกอก็มองมา ก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างเหนือความคาดหมายว่า “ในตอนนั้นอาจารย์ปู่ของข้าได้เข้าร่วมสงครามและสังหารจอมยุทธ์ทิศใต้ไปหลายคนจริงๆ ที่แท้ที่นี่ยังมีคนบ้านเดียวกันอยู่ด้วยหรือนี่”
ประมุขพรรคหวังแห่งเขาม่อซานได้ยินก็พลันโอดครวญในใจ
พรรคเขาปริศนาของเขาเจริญเติบโตในเขตเพลิงทักษิณ
หยวนเสี่ยนเฉิงจากเนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์อยู่ด้านข้าง
จอมยุทธ์ส่วนใหญ่ในเทือกเขาสันติภาพล้วนอยู่รอบๆ
แต่ปัญหาก็คือ หยวนเสี่ยนเฉิงยังแทบเอาตัวเองไม่รอด!
ในเวลาเช่นนี้จะให้เขาตอบอย่างไรได้เล่า