ตำนานสุยอวิ๋นยอดกุนซือ - ตอนที่ 3 ลมปากหวานหู (1)
รัชศกอู่เวยปีที่ยี่สิบห้าเดือนห้า องค์หญิงจิ้งเจียงและชายารองเซียวหลานเห็นว่าองครักษ์แซ่เซี่ยประจบสอพลอชวนให้ลี่อ๋องเลอะเลือนจึงต้องการสังหารเขา แต่ถูกท่านอ๋องขวางไว้ นับแต่นั้น ท่านอ๋องจึงบาดหมางกับชายารองและองค์หญิงมากขึ้น
…พงศาวดารต้ายง พระประวัติลี่อ๋อง
คิ้วเรียวดั่งกิ่งหลิวของเซียวหลานชี้ตั้ง สีหน้าเย็นยะเยือกดุจน้ำแข็งพลางเอ่ยอย่างเย็นชา ดี ในเมื่อเจ้ายังกล้าเล่นลิ้น ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะพูดกับเจ้าให้กระจ่าง หนึ่งปีที่ผ่านมาเจ้าทำอันใดไปบ้างยังต้องให้ข้าไล่เรียงทีละเรื่องหรือ เป็นบริวารกลับไม่รู้จักห้ามปรามนาย รู้จักแต่ประจบสอพลอ ยุยงให้รัชทายาททำเรื่องผิดศีลธรรมเช่นนี้ เจ้ามิสมควรตายหรือ เป็นบริวารแต่ไม่ภักดี เป็นมนุษย์แต่ไม่มีคุณธรรม ในเมื่อเจ้าเป็นคนขาดความภักดี ไร้คุณธรรมเช่นนี้ หากยังมีความดีงามเหลืออยู่สักนิดก็สมควรหยิบกระบี่เชือดคอตายไปเสีย ยังจะต้องให้ข้าลงมืออีกหรือ
เซี่ยจินอี้เอ่ยด้วยสีหน้าสบายอารมณ์ ผู้น้อยเป็นเพียงคนเสเพลในยุทธภพ ทั้งไม่มีกาพย์กลอนเต็มหัวและไม่มีวรยุทธ์ล้ำเลิศ สิ่งที่ถนัดมีแต่เรื่องไร้สาระ รัชทายาทช่วยชีวิตผู้น้อยไว้ ผู้น้อยมิมีสิ่งใดตอบแทน จึงทำได้เพียงเพียรพยายามทำให้องค์ชายเบิกบานพระทัยขึ้นบ้าง หากสิ่งนี้นับว่ามิภักดี ผู้น้อยก็ไม่มีคำใดจะพูด คำว่าคุณธรรม ผู้น้อยย่อมรู้จัก แต่ใจผู้น้อยมีเพียงความภักดีต่อองค์ชาย เมื่อความภักดีกับคุณธรรมมิอาจอยู่ด้วยกันจึงจนปัญญา อีกอย่างผืนดินใต้แผ่นฟ้า มิมีที่ใดมิใช่ของจักรพรรดิ อาณาประชาราษฎร์ มิมีคนใดมิใช่ข้าราชบริพาร ต่อให้รัชทายาททำการใดเกินไปบ้างจะเป็นอันใดไป หากมิใช่เช่นนั้น ไยท่านต้องสังหารคนปิดปาก ทำไมไม่ยึดถือคุณธรรมกำจัดพวกตัวเองเสียเล่า
เซียวหลานสะอึกทันที เวลานี้หลี่หันโยวจึงยิ้มหยัน เอ่ยว่า ช่างเป็นบ่าวที่ปากคอเราะรายนัก รัชทายาทเป็นนายเหนือหัว ส่วนเจ้าเป็นบ่าว รัชทายาททำผิดได้ แต่เจ้าทำไม่ได้ เจ้าเป็นภัยต่อแผนการใหญ่ขององค์รัชทายาท ข้าคร้านจะเถียงผิดถูกกับเจ้าแล้ว ศิษย์พี่ ไม่จำเป็นต้องพูดพร่ำกับบ่าวผู้นี้ รีบเชิญพระชายารัชทายาทให้ออกคำสั่งเถิด เรื่องภายนอกต้องให้รัชทายาทตัดสินใจ แต่เรื่องในจวนนี้อย่างไรก็ต้องให้พระชายาตัดสินใจ
เซียวหลานฉุกคิดได้ทันที จึงเอ่ยเสียงดัง รีบไปรายงานพี่สาว บอกว่าจับตัวเซี่ยจินอี้ บ่าวที่ทำให้รัชทายาทเลอะเลือนได้แล้ว ขอพี่สาวออกคำสั่ง
เซี่ยจินอี้ยิ้มหยัน ในใจคิดว่าชายารองเซียวหลานผู้นี้แผนการล้ำลึกนัก การยืมดาบสังหารคนครั้งนี้ทำได้ไม่เลว แต่ในใจเขากลับไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย สำหรับเขา ความตายเป็นเรื่องที่เฝ้าปรารถนามานานแล้ว
หลี่หันโยวขมวดคิ้วเล็กน้อย เดิมนางคิดว่าเซี่ยจินอี้ผู้นี้เป็นเพียงคนถ่อยที่ชอบประจบสอพลอเกาะผู้มีอำนาจคนหนึ่ง คนเช่นนี้เมื่อเผชิญอันตรายถึงชีวิตมักจะคุกเข่ายอมจำนน ไม่มีศักดิ์ศรีให้เอ่ยถึงแม้แต่น้อย ทว่าตอนนี้ชายหนุ่มผู้นี้กลับเพียงยิ้มหยัน ทั้งไม่วอนขอชีวิตและไม่พร่ำขอความเห็นใจ นี่ทำให้หลี่หันโยวกังวลใจอย่างยิ่ง เขามีหนทางใดปกป้องตนเอง หรือนิสัยแท้จริงของเขาเป็นเช่นนี้ หากเป็นดังนั้น เรื่องสำมะเลเทเมาทั้งหลายที่เขาทำนั่น ก็คงมีเจตนาอื่นซ่อนอยู่
ในห้องบรรทมของชุยซื่อพระชายารัชทายาท ซิ่วชุนกำลังคุกเข่าเพียรพยายามอ้อนวอนอยู่บนพื้น ชุยซื่อเอ่ยอย่างจนปัญญา ข้ารู้ว่าเซี่ยจินอี้ผู้นี้คือคนรักของเจ้า ทั้งยังมักพูดถึงข้าในทางดีงามต่อหน้ารัชทายาทอยู่เสมอ ข้าจะไม่ซาบซึ้งได้เช่นไร แต่ชายารองเซียวหลานพูดมีเหตุผล รัชทายาทเป็นสามีของพวกเรา และเป็นที่พึ่งของพวกเรา หากเกิดเรื่องไม่คาดฝันกับรัชทายาท พวกเราจะอยู่ดีได้เช่นไร เซี่ยจินอี้ยุยงให้องค์ชายทำตัวเสเพลข้างนอก หากเรื่องแพร่ออกไป เกรงว่าคงทำให้ฝ่าบาทมีโทสะ ข้าก็ไร้ทางเลือก
ซิ่วชุนร่ำไห้ พระชายา บ่าวไม่ได้อยากว่าร้ายชายารองหลาน แต่หลายปีมานี้ชายารองหลานเคยเห็นพระชายาอยู่ในสายตาเสียที่ไหน มีเรื่องใดบ้างที่นางถามความเห็นของพระชายา บัญชาของนางคำเดียวเหนือกว่าพันหมื่นถ้อยคำของพระชายา เหตุใดวันนี้จึงนึกจะให้พระชายาเป็นผู้สั่งลงโทษผู้อื่น อีกอย่างจินอี้แม้นิสัยแย่สารพัด แต่เขาจงรักภักดีกับรัชทายาท แล้วยังเคารพพระชายา ระยะนี้พระชายามิรู้สึกหรือว่าไม่ว่าเรื่องอันใด เขามักจะช่วยพูดแทนพระชายาอยู่เสมอ เรื่องน้องชายของพระชายาเมื่อปีกลาย หากมิใช่เขาแอบส่งข่าว พระชายาก็คงถูกปิดหูปิดตา ถ้าพระชายามิร่ำไห้ขอร้องต่อหน้าองค์ชาย เกรงว่าถึงตัวตาย เขาก็ยังต้องแบกความผิด คนตายย่อมหมดปัญหาแล้ว แต่ครอบครัวของท่านเล่าจะทำเช่นไร แล้วยังอาจพัวพันมาถึงท่านกับท่านอ๋องน้อยอีก เห็นแก่ความตั้งใจดีของจินอี้ ท่านสมควรช่วยเขาสักหน่อย
ชุยซื่อถอนหายใจยาวครั้งหนึ่ง จริงของเจ้า คนผู้นี้เคารพข้าจริง หนึ่งปีที่ผ่านมา บรรดาชายากับอนุภรรยาข้างกายรัชทายาทอยากจะพบหน้าองค์รัชทายาทสักครั้งยากเย็นยิ่งนัก มีเพียงข้าที่ทำได้ง่ายดาย ของบำรุงกับขนมที่ข้าส่งไป รัชทายาทล้วนส่งหนังสือตอบกลับมา อีกทั้งทุกเดือนยังมาค้างที่เรือนของข้าอยู่หลายวัน ข้ารู้ว่าเซี่ยจินอี้ใช้ความคิดไปมิน้อย
สีหน้าซิ่วชุนเริ่มมีกำลังใจแล้วเอ่ยต่อ พระชายา บ่าวขอเอ่ยเรื่องมิสมควรสักคำ หนึ่งปีนี้แม้รัชทายาทมิได้ดีกับท่านนัก แต่ก็มิได้เฉยชาต่อท่าน ก่อนหน้านี้เคยมาหาเท่าใด ตอนนี้ก็มาหาเท่านั้น แม้องค์ชายทำตัวเสเพลข้างนอกก็มิได้ส่งผลร้ายอันใดต่อพระชายา แต่หากครั้งนี้ท่านออกคำสั่งสังหารเซี่ยจินอี้ เมื่อองค์ชายกลับมาจะต้องโกรธจัดเป็นแน่ ถึงเวลาหากคนผู้นั้นบอกว่าเป็นความคิดของพระชายา น่ากลัวว่าวันหน้ารัชทายาทคงไม่มาหาพระชายาอีกแล้ว ถึงตอนนั้นคนที่ได้ประโยชน์คือผู้ใด คนผู้นั้นหมายมาดตำแหน่งของท่านมิใช่แค่วันสองวัน ท่านไม่นึกถึงตนเองก็ต้องนึกถึงซื่อจื่อบ้าง ไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ แม้วันหน้ารัชทายาทขึ้นครองบัลลังก์ หากพระชายามิมีคนสนิทเช่นนี้สักคนอยู่ข้างกายรัชทายาท พระชายาจะต่อกรกับนางจิ้งจอกเหล่านั้นได้เช่นไรเล่า
ชุยซื่อยิ่งฟังยิ่งพรั่นพรึงจึงเอ่ยว่า ซิ่วชุน เจ้าพูดถูกต้อง ข้าเกือบจะถูกคนต่ำช้านั่นหลอกแล้ว เจ้าไปถ่ายทอดคำสั่งของข้าเดี๋ยวนี้ บอกว่าองครักษ์เซี่ยเป็นคนสนิทของรัชทายาท ข้ามิสะดวกลงโทษ ให้ขังเขาไว้ก่อน รอรัชทายาทกลับมาค่อยส่งต่อให้รัชทายาทลงโทษ ซิ่วชุนยินดียิ่งนัก รีบไปถ่ายทอดคำสั่งด้วยตนเอง
เมื่อได้ยินคำตอบของซิ่วชุน ใบหน้าสะสวยของเซียวหลานพลันปรากฏโทสะ นางตวาดลั่น นังบ่าวตัวดี เจ้าเป็นคนเสี้ยมให้พี่สาวเปลี่ยนความคิดสินะ ได้ยินมานานแล้วว่าเจ้ากับบ่าวคนนี้ลักลอบคบหากัน วันนี้ดูท่าจะเป็นความจริง ช่างเถิด ข้าไม่ขอร้องผู้อื่นก็ย่อมได้ วันนี้ข้าจะโบยชายชั่วหญิงสำส่อนคู่นี้ให้ตายตรงนี้ให้จงได้
ซิ่วชุนเผยสีหน้าหวาดกลัวออกมา นางเป็นห่วงความปลอดภัยของเซี่ยจินอี้ ครั้งนี้จึงมาถ่ายทอดคำสั่งด้วยตนเอง คิดไม่ถึงว่าเซียวหลานกลับจะลงโทษนางไปด้วย นางกลัวจนมิกล้าส่งเสียง ทว่าแม้นางอับอายแต่สีหน้ายังคงแข็งกร้าว มิยอมวอนขอชีวิต เซี่ยจินอี้กลับเอ่ยอย่างเย็นชา เรื่องของผู้น้อยกับซิ่วชุน องค์รัชทายาทกับพระชายาล้วนทราบนานแล้ว เพียงแต่พระชายาชอบให้ซิ่วชุนปรนนิบัติ ส่วนองค์ชายก็ชอบให้ผู้น้อยคอยดูแล ดังนั้นจึงมิได้รีบร้อนตบแต่งกันก็เท่านั้น คำว่าชายชั่วหญิงสำส่อนคำนี้ ผู้น้อยมิกล้ารับ
หลี่หันโยวสีหน้าเปลี่ยนไปทันใดแล้วเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา ยังจะพร่ำพูดกับพวกเขาทำอันใด ศิษย์พี่ พวกเขากำลังถ่วงเวลา
เซียวหลานลุกขึ้นทันที เรียกคนเอาเครื่องลงทัณฑ์มา โบยชายหญิงสุนัขคู่นี้ให้ตาย
หลี่หันโยวเอ่ยเสียงเย็นชา สาวน้อยคนนี้มีนายของตน นางมิรู้จักละอายก็สมควรให้นายของนางสั่งสอน
เซียวหลานสั่งต่อว่า ไม่ได้ยินหรือ ส่งซิ่วชุนกลับไป บอกพี่สาวให้สั่งสอนบ่าวคนนี้สักหน่อย ยังไม่โบยอีก พวกเจ้ารออะไร
องครักษ์สองนายเดินเข้ามา ในมือถือไม้โบยสีแดง นางข้าหลวงอีกคนหนึ่งลากซิ่วชุนออกไปข้างนอก ซิ่วชุนดิ้นรนพลางร่ำไห้ตะโกนเรียก เซี่ยหลาง เซี่ยหลาง แต่นางข้าหลวงหลายคนนั้นเรี่ยวแรงมากยิ่งนัก ไม่นานก็ไม่ได้ยินเสียงของซิ่วชุนอีก องครักษ์สองคนเดินเข้ามาคุกเข่าข้างตัวเซี่ยจินอี้ คนหนึ่งในนั้นกระซิบว่า ชายารองมองอยู่ อภัยด้วยที่ข้ามิอาจยั้งมือ พูดจบ ไม้แรกก็โบยหนักหน่วงลงมาบนแผ่นหลังของเซี่ยจินอี้ เซี่ยจินอี้รู้สึกเจ็บแปลบบนแผ่นหลัง เขารู้ว่าคนเหล่านี้ต้องการรีบจบเรื่องตัดความวุ่นวาย โบยสองสามไม้ก็คงทำให้สันหลังของตนหักได้แล้ว ทว่าแม้ยามปกติเขาจะทำตัวเหมือนไม้หลักปักเลน แต่ยามนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าศัตรูคู่แค้นแสนชิงชังผู้นั้น เขาไม่มีวันยอมอ้อนวอนเด็ดขาด เขาหลับตาลงไม่พูดจาอีก กัดฟันกรอดรอรับความทุกข์ทรมานครั้งต่อไป
ใครจะรู้ว่าการโบยไม้ต่อไปกลับไม่กระทบร่างเสียที เขาพลันลืมตาขึ้น เห็นชายฉกรรจ์ร่างใหญ่คนหนึ่งถลึงตาอย่างโกรธเกรี้ยวจนตากลมดิกพลางคว้าไม้โบยไว้แน่น เขาเอ่ยเรียกอย่างตกตะลึง ศิษย์พี่ คนผู้นั้นก็คือจางจิ่นสยง ศิษย์พี่ของเขานั่นเอง ยามนี้ทั้งร่างของจางจิ่นสยงทรงอำนาจน่าครั่นคร้าม ดวงตาเปี่ยมด้วยจิตสังหาร