CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ตำนานสุยอวิ๋นยอดกุนซือ - ตอนที่ 58 เคลื่อนทัพช่วยจักรพรรดิ (2)

  1. Home
  2. ตำนานสุยอวิ๋นยอดกุนซือ
  3. ตอนที่ 58 เคลื่อนทัพช่วยจักรพรรดิ (2)
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ฉินหย่งรับถุงผ้าไหมแล้วเปิดออกดู ทันใดนั้นสีหน้าพลันซีดเผือด ด้านในคือปิ่นเงินเล่มหนึ่งกับหยกห้อยเอวสีเขียวธรรมดาๆ ชิ้นหนึ่ง เขาถามเสียงสั่นระริก “ท่าน ท่านมีของสองสิ่งนี้ได้เช่นไร นี่เป็นปิ่นของแม่ข้ากับหยกห้อยเอวที่แม่ข้ามอบให้หลิวหวาน้องชายบุญธรรม ท่านจะข่มขู่ข้าหรือ”

เสี่ยวซุ่นจื่อเอ่ยอย่างเหนื่อยล้า “พวกข้ามิเคยชอบใช้วิธีการนี้ แต่ยามนี้จะไม่ใช้ก็ไม่ได้ หลิวหวานามจริงคือหัวหลิว เป็นลูกน้องของคุณชายข้า”

ฉินหย่งร่างกายสะท้าน ตอบอย่างดุร้าย “หลิวหวา เขาเป็นสายลับของพวกท่าน คิดไม่ถึงว่ายงอ๋องจะใส่ใจคนตัวเล็กๆ อย่างข้า”

เสี่ยวซุ่นจื่อแย้งเสียงเรียบเฉย “แม่ทัพฉินถ่อมตัวเกินไปแล้ว แม่ทัพใหญ่เห็นค่าท่านยิ่งกว่าฉินชิงเสียอีก เมื่อฉินชิงเข้าข้างรัชทายาทและใกล้ชิดกับสำนักเฟิงอี้มากเกินไป คุณชายของข้าจึงกังวลว่าแม่ทัพใหญ่จะละทิ้งจุดยืนเป็นกลางที่รักษามาตลอด ดังนั้นจึงวางคนไว้ข้างกายท่านแม่ทัพ ท่านแม่ทัพเป็นถึงคนสนิทของแม่ทัพใหญ่ ไม่ว่าตระกูลฉินเคลื่อนไหวอย่างไร เพื่อไม่ให้มารดาของท่านกังวล ท่านแม่ทัพก็คงเปรยออกมาบ้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ คุณชายไม่ต้องการให้แม่ทัพใหญ่ล่วงรู้จึงลอบส่งคนไปไว้ข้างตัวท่าน นอกจากนี้คุณชายยังชื่นชมท่านยิ่งนัก เขาเคยกล่าวว่าความสามารถของท่านเหนือกว่าฉินชิง สิ่งเหล่านี้ก็คือสาเหตุที่เขาให้หัวหลิวไปอยู่กับท่าน หัวหลิวเป็นหนึ่งในแปดยอดฝีมือข้างกายคุณชาย หากมิใช่คนสำคัญ คุณชายไม่มีทางให้เขาไปเฝ้าจับตามอง”

ดวงตาของฉินหย่งปรากฏแววตาหม่นหมอง จากนั้นเขาพลันเอ่ยอย่างเย็นชา “ท่านกำลังบอกว่าเด็กหนุ่มที่ข้ากับท่านแม่เอ็นดูถึงปานนั้น เป็นแค่นักต้มตุ๋นกับสายลับคนหนึ่ง”

เสี่ยวซุ่นจื่อถอนหายใจ “จะกล่าวเช่นนั้นก็ไม่ถูก ความจริงแล้วก่อนออกเดินทางครั้งนี้ ข้าไปพบหัวหลิวมา เขาขอร้องข้าว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ขออย่าได้ทำร้ายมารดาของท่าน เขาบอกว่า เรื่องของท่าน เขาตระหนักดีว่าคงมิอาจช่วยเหลือได้ แต่มารดาของท่านดูแลเขาประหนึ่งบุพการี เขายินดีรับโทษทัณฑ์ทุกประการ แลกกับการที่พวกเราไม่สร้างความลำบากให้มารดาของท่าน ดังนั้นเขาถึงหยิบของสองสิ่งนี้มา เพื่อไม่ให้พวกเราทำมารดาท่านตกใจ”

ใจฉินหย่งผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย แม้สิ่งที่หลี่ซุ่นเอ่ยมาจะไม่มีหลักฐานประการใด แต่เขารู้สึกว่าคนผู้นี้คงไม่ลดตัวลงมาโกหก จึงรับถุงผ้าไหมมาอย่างวางใจขึ้นเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าการที่หลี่ซุ่นเอ่ยเช่นนี้หมายความว่ามารดาของตนจะไม่ถูกคุกคาม แต่อย่างน้อยเขาก็เชื่อว่าหลี่ซุ่นมิใช่คนที่สังหารคนส่งเดช แล้วเจียงเจ๋อนายท่านของหลี่ซุ่นกับยงอ๋องก็มิใช่คนเช่นนั้น แต่หากตนเองปฏิเสธไม่เคลื่อนทหารเล่า

เสี่ยวซุ่นจื่อเห็นแววตากลัดกลุ้มของฉินหย่ง เขาจึงเอ่ยอย่างเย็นชา “ข้ารู้ว่าจะให้ท่านเคลื่อนทหารออกจะลำบากอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยหากทางพระราชวังเลี่ยกงมีคนเดินทางมาถ่ายทอดราชโองการให้ท่านทำสิ่งใด ท่านจะทำตามคำสั่งมิได้”

ฉินหย่งขมวดคิ้ว “หากมีราชโองการของจักรพรรดิกับตราทหารของแม่ทัพใหญ่ ท่านก็จะให้ข้าปฏิเสธหรือ”

หลี่ซุ่นตอบอย่างเย็นชา “หากเรื่องนี้ท่านก็ยังมิยอม ถ้าเช่นนั้นข้าก็ไม่มีอันใดจะพูดแล้ว”

ฉินหย่งเงยหน้าขึ้นก็เห็นจิตสังหารกระจ่างชัดในดวงตาของหลี่ซุ่น จึงเอ่ยอย่างจนหนทาง “ข้าจะส่งคนไปเยี่ยมท่านลุงก่อน หากทุกสิ่งเป็นปกติ ต่อให้ท่านบีบข้าเช่นไร ข้าก็จะไม่เคลื่อนทหาร”

หลี่ซุ่นสีหน้าเย็นชาอย่างยิ่ง เขารู้อยู่ก่อนแล้วว่าฉินหย่งมิใช่คนที่จะถูกข่มขู่โดยง่าย ตอนนี้จึงทำได้เพียงพยายามให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทำให้ฉินหย่งไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจากพระราชวังเลี่ยกงง่ายๆ เมื่อเป็นเช่นนั้น เป้าหมายของเขาก็บรรลุในเบื้องต้นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น หากฉินหย่งส่งคนไปที่พระราชวังเลี่ยกง ไม่นานก็ย่อมค้นพบความผิดปกติ เช่นนี้แม้สายไปสักวันหนึ่งก็ยังมีโอกาสช่วยคุณชายออกมาได้ ตอนนี้ได้แต่หวังว่าคุณชายกับยงอ๋องจะมีชีวิตรอดปลอดภัยอยู่

เขามองสีของท้องฟ้าแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเฉยชา “หากวันพรุ่งเวลานี้ ท่านยังมิยอมเคลื่อนทหาร ข้าคงได้แต่ล่วงเกินแล้ว”

ฉินหย่งตอบอย่างเย็นชา “ข้าทราบว่าท่านวรยุทธ์สูงส่ง แต่ข้ามิมีวันทำเรื่องเช่นการก่อกบฏ หากคนของข้าไม่พบสิ่งผิดปกติ ต่อให้ท่านใช้วรยุทธ์ ข้าก็ไม่มีวันยอม ฝั่งข้ามีกองทัพใหญ่หลายหมื่น หากท่านหมายก่อปัญหา ต่อให้ผู้แซ่ฉินต้องตายก็จะลากท่านลงสุสานไปด้วยกัน”

เสี่ยวซุ่นจื่อยิ้มหยัน “เตรียมที่พักกับอาหารให้ข้า ข้าเหนื่อยมากแล้ว”

ฉินหย่งเอ่ยเสียงดังอย่างจนหนทาง “เข้ามา” เมื่อองครักษ์คนสนิทหลายนายเข้ามาในกระโจม ฉินหย่งก็สั่งเสียงดุดัน “เตรียมกระโจมสำหรับคนเดียวให้เขา ทำตามที่เขาสั่ง จำไว้ หากไม่มีคำอนุญาตของข้า ห้ามให้เขาออกจากกระโจมแม้แต่ก้าวเดียว”

เสี่ยวซุ่นจื่อยิ้มเฉยเมยแล้วลุกขึ้นก้าวออกไปด้านนอก ขณะที่เดินก็เอ่ยว่า “มีเวลาเพียงหนึ่งวันหนึ่งคืน แม่ทัพฉินรีบส่งคนไปเถิด”

ฉินหย่งถอนหายใจ “ข้าจะส่งคนไปเยี่ยมแม่ทัพใหญ่ที่พระราชวังเลี่ยกงทันที”

เดือนเก้า วันที่ยี่สิบเอ็ด ช่วงเวลาพลบค่ำ ยามนี้พระราชวังเลี่ยกงตกอยู่ภายใต้การควบคุมของสำนักเฟิงอี้อย่างสมบูรณ์ แม้ตำหนักเสี่ยวซวงยังอยู่ใต้การควบคุมของจักรพรรดิ แต่ทุกคนล้วนทราบว่าขอเพียงสำนักเฟิงอี้บุกโจมตี จักรพรรดิก็มีอาจหนีพ้น

แต่สำนักเฟิงอี้ก็มีความลำบากของตนเอง หากจักรพรรดิสิ้นพระชนม์ ยงอ๋องย่อมยกทัพก่อกบฏกู้ราชบัลลังก์ได้อย่างชอบธรรม ดังนั้นจำเป็นต้องปกป้องชีวิตของหลี่หยวนเอาไว้จนกว่าจะเสร็จสิ้นพิธีมอบราชบัลลังก์ ด้วยเหตุนี้สำนักเฟิงอี้จึงมิกล้าบีบบังคับ

หลี่หยวนตกอยู่ในสภาพไร้อำนาจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ครั้งนี้เขาเดินทางมาพระราชวังเลี่ยกง แม้พาองครักษ์มาไม่น้อย แต่เมื่อเทียบกับกำลังคนของสำนักเฟิงอี้ก็ยังเสียเปรียบ ภายใต้การควบคุมของกองทหารราชองครักษ์ที่สำนักเฟิงอี้ดึงมาเป็นพวกอย่างลำบากลำบน พวกหลี่หยวนถูกตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง

กองทหารราชองครักษ์ที่ยังจงรักภักดีกับจักรพรรดิเหล่านั้น ถูกเหวยอิงใช้ราชโองการปลอมหลอกพาคนระดับแม่ทัพมารวมกันแล้วขังเอาไว้จนหมด กองทหารราชองครักษ์ที่ไม่มีแม่ทัพบัญชาการย่อมมิกล้าเคลื่อนไหวตามอำเภอใจ ด้วยเหตุนี้หลี่หยวนผู้กุมอำนาจจักรพรรดิแห่งต้ายงไว้ในมือกลับไม่มีหนทางถ่ายทอดพระราชโองการของตนผ่านกำแพงตำหนักออกไปได้

แม้หลี่หยวนจะส่งองครักษ์ฝ่าออกไปถ่ายอดคำสั่งได้ แต่หากสำนักเฟิงอี้บุกโจมตี ต่อให้หลี่หยวนจะรักษาชีวิตไว้ได้ ทว่าจ่างซุนกุ้ยเฟย เหยียนกุ้ยเฟย รวมไปถึงองค์หญิงฉางเล่อคงหนีไม่รอด เมื่อเป็นเช่นนี้ ในตำหนักเสี่ยวซวงจึงเกิดเป็นการคุมเชิงกันระหว่างสองฝ่าย หากสถานการณ์ภายนอกยังไม่เปลี่ยน ภายในตำหนักเสี่ยวซวงมิว่าอย่างไรก็ไม่มีความเคลื่อนไหว

ในอุทยานเซวียนหวา ฉีอ๋องผู้มีสีหน้าเฉยชานอนอยู่บนตั่งนุ่ม ฉินเจิงเดินเข้ามาแล้วโบกมือให้หญิงรับใช้คนสนิทสองนางของตนถอยออกไป เพื่อความปลอดภัยของหลี่เสี่ยน นางไม่ยอมให้ศิษย์สำนักเฟิงอี้มาจับตามองเขา แต่ให้หญิงรับใช้ที่ตนฝึกปรือเองกับมือสองนางมาปรนนิบัติและเฝ้าดู นางปลดกระบี่ข้างกายแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ ในดวงตาเต็มไปด้วยแววตาสับสน ผ่านไปเนิ่นนาน เมื่อนางเห็นว่าหลี่เสี่ยนมิยอมเปิดปากถาม จึงได้แต่ยิ้มอย่างหมองหม่นเอ่ยขึ้นว่า “ท่านอ๋องไม่อยากทราบสภาพของเสด็จแม่หรือ”

ดวงตาหลี่เสี่ยนทอประกายเย็นยะเยือก เอ่ยขึ้นว่า “เสด็จแม่รักษาคุณธรรมของภรรยา ไม่มีทางทรยศเสด็จพ่อเด็ดขาด”

ฉินเจิงขยับยิ้มอย่างรวดร้าว “เป็นดั่งเช่นท่านอ๋องว่า เสด็จแม่เลือกฝ่าบาทอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย หม่อมฉันมิเข้าใจ สำหรับมารดาคนหนึ่ง บุตรชายมิได้สำคัญที่สุดหรือ หรือว่าเสด็จแม่มิสนใจความเป็นความตายกับความรุ่งเรืองตกต่ำของท่าน”

หลี่เสี่ยนยิ้มเฉยชา “สำหรับภรรยาผู้หนึ่ง ยังมีเรื่องใดสำคัญกว่าภักดีต่อสามีอีกหรือ เสด็จพ่อเป็นสามีของเสด็จแม่ และยังเป็นเจ้าแผ่นดินแห่งต้ายง เสด็จแม่จะทรยศเขาได้เช่นไร”

ฉินเจิงโต้แย้ง “แต่ฮองเฮามิใช่ทรยศฝ่าบาทหรือ แล้วอีกอย่าง เหตุใดสตรีจักต้องภักดีต่อสามี ทั้งที่บุรุษมีสามภรรยาสี่อนุ ระเริงรักอย่างมีความสุข”

หลี่เสี่ยนมองแววตาเหมือนกำลังตัดพ้อของฉินเจิงแล้วอดขยับยิ้มไม่ได้ นึกถึงยามแรกพบในอดีต สตรีนางนี้ก็ชอบโต้เถียงเช่นนี้ ทว่าความรู้สึกอันอ่อนละมุนนั่นก็หายไปในทันที เขาไม่ต้องการถกเรื่องนี้ จึงเบี่ยงประเด็นเอ่ยว่า “รัชทายาทอารมณ์เป็นเช่นไร ยามนี้พี่รองฝ่าวงล้อมออกไปได้อย่างไม่คาดคิด เกรงว่ารัชทายาทคงจะกลัดกลุ้มยิ่งนักสินะ”

ฉินเจิงกลับมาทำหน้าจริงจัง ตอบว่า “ศิษย์พี่เหวินพากำลังคนพันนายไล่สังหารยงอ๋องอยู่ พวกเขาเก่งกาจอีกเท่าใดก็หนีไม่พ้น แต่ท่านจะทำเช่นไรดีเล่า หลังจากรัชทายาทขึ้นครองราชย์แล้ว หากนึกถึงเรื่องที่วันนี้ท่านมิยอมออกแรงขึ้นมา น่ากลัวว่าตำแหน่งชินอ๋องนี่ของท่านคงจะไม่มั่นคงแล้ว”

หลี่เสี่ยนมองนางด้วยสายตาเฉยชา “พวกหลี่หันโยวคงให้เจ้ามาเกลี้ยกล่อมสินะ เจ้ามิใช่เอาตราทหารของข้าไปแล้วหรือ เคลื่อนกองทัพมิได้หรืออย่างไร”

ฉินเจิงสีหน้ากระอักกระอ่วนเล็กน้อย ผ่านไปครู่หนึ่งจึงตอบว่า “เคลื่อนทหารสั่งการแม่ทัพย่อมทำได้ แต่แม่ทัพคนสนิทเหล่านั้นของท่านล้วนบอกว่าต้องให้ท่านมาสั่งการกองทัพด้วยตนเอง พวกเขาจึงจะยอมโอบล้อมสังหารกองทัพของยงอ๋อง ท่านก็รู้ว่ายงอ๋องกำลังคิดหาวิธีไปรวมพลกับกองทัพของเขา พวกข้าจึงหวังว่าท่านจะยอมเขียนคำสั่งด้วยลายมือตนสักฉบับ หากยงอ๋องไปรวมกับลูกน้องของเขาได้จริง ไม่มีความช่วยเหลือของท่าน ถ้าเช่นนั้นแพ้ชนะก็ยังก้ำกึ่ง ท่านอ๋อง ยามนี้ท่านลงเรือลำเดียวกับพวกเราแล้ว ท่านยังจะไม่ยอมคล้อยตามอีกหรือ”

หลี่เสี่ยนแววตาวูบไหว ผ่านไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า “ให้ข้าพบรัชทายาท หากพวกเราคุยกันได้ลงตัว คำสั่งลายมือฉบับนี้ข้าจะเขียนให้เจ้า เจ้าน่าจะรู้ดี ข้ากับลูกน้องเหล่านั้นมีรหัสลับที่ใช้ระหว่างกัน พวกเจ้าปลอมสารของข้ามิได้”

ฉินเจิงเผยสีหน้ายินดีออกมาเล็กน้อย “หากท่านอ๋องยอมคล้อยตามลิขิตฟ้า หม่อมฉันยอมทำตามทุกเงื่อนไข”

หลี่เสี่ยนคลี่ยิ้ม ทว่าสีหน้าฉายแววเย้ยหยัน

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 58 เคลื่อนทัพช่วยจักรพรรดิ (2)"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์