CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ตำนานสุยอวิ๋นยอดกุนซือ - ตอนที่ 58 นคราวายวอดในกองเพลิง (1)

  1. Home
  2. ตำนานสุยอวิ๋นยอดกุนซือ
  3. ตอนที่ 58 นคราวายวอดในกองเพลิง (1)
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

เยี่ยนกั๋วกงจิงฉือเกิดในครอบครัวยากจน ไท่จงดึงตัวมายามเป็นพลทหาร เขาห้าวหาญแกล้วกล้า ตรงไปตรงมาจงรักภักดี ทุกครั้งที่ไท่จงนำไพร่พลยาตราทัพ จิงฉือล้วนปกป้องพระองค์อย่างมิเสียดายชีวิต ไท่จงไว้วางพระทัยเขาอย่างยิ่งมาเสมอ

คนแซ่จิงแต่เดิมเป็นสามัญชน ตั้งแต่เล็กมิได้ร่ำเรียน ไม่รู้หนังสือ ไท่จงตักเตือนว่า “มิรู้หนิงสือมิอาจเป็นแม่ทัพ” กั๋วกงได้ฟังดังนั้นจึงรับปาก หาอาจารย์มาสอนหนังสือ ยังไม่ถึงสองปีก็รู้หนังสือพอสมควร ทว่ายังมิแตกฉานกลศึก มีเพียงยามยกทัพทำศึกบังเอิญทำสอดพ้องกับกลศึกเป็นบางครั้ง ไท่จงเองก็จนปัญญา

รัชศกอู่เวยปีที่ยี่สิบสี่ ไท่จงกับลี่อ๋องขับเคี่ยวแย่งชิงราชบัลลังก์ จิงฉือได้รับบัญชาให้เข้าเมืองหลวง จนได้เจียงเจ๋อซือหม่าของยงอ๋องรับเป็นศิษย์ สั่งสอนพงศาวดารตำราพิชัยสงครามให้ด้วยตนเอง จิงฉือเป็นคนหยาบ ร่ำเรียนได้ผลน้อย ทว่าเจียงเจ๋อลอบบอกกับไท่จงว่า “แม่ทัพจิงเป็นผู้มีโชคเกื้อหนุน รู้กลศึกไว้เล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว”

รัชศกหลงเซิ่งปีที่หนึ่ง เดือนสาม จิงฉือรับบัญชาบุกตีด่านหูกวน ใช้เวลาหลายวันแล้วก็ยังตีไม่สำเร็จ จึงแสร้งบาดเจ็บล่อกองทัพศัตรูให้ลอบโจมตีค่าย ทำลายกองทัพศัตรูหนักหนาสาหัส วันที่ยี่สิบสี่ ด่านหูกวนแตก จิงฉือออกคำสั่งฆ่าล้างบางประชาชนในเมือง ชื่อเสียงความเหี้ยมโหดลือกระฉ่อน หลังจากนั้นจิงฉือเร่งเดินทางพันลี้จู่โจมชิ่นหยวน ระหว่างทางหากมีผู้ขัดขวางล้วนเข่นฆ่าหมดสิ้น เขาประกาศว่าผู้ที่ยอมจำนนต่อเขารอด ผู้ต่อต้านเขาตาย เดินทางผ่านที่ใดโลหิตไหลนองนับพันลี้ สังหารผู้คนจนเต็มท้องทุ่ง แม้ประชาชนเป่ยฮั่นมีสันดานห้าวหาญก็ยังหวาดกลัวความโหดเหี้ยมของจิงฉือจนมิกล้าขัดขวาง

…พงศาวดารต้ายง ประวัติเยี่ยนกั๋วกง

ตอนที่ทหารพลีชีพแห่งกองทัพเป่ยฮั่นบุกมาถึงหน้ากระโจมแม่ทัพของกองทัพต้ายง หัวใจของรองแม่ทัพพลันหนาวสะท้าน ท่ามกลางความโกลาหล ทุกหนทุกแห่งในค่ายใหญ่ของกองทัพต้ายงล้วนมีแต่แสงเปลวเพลิงและเงาคนวิ่งพล่านไปมา ทว่ากระโจมหลังใหญ่ใจกลางค่ายตรงหน้ากลับเงียบงับ ทันใดนั้นรองแม่ทัพก็ตะโกนลั่น “ถอย ถอย มีคนดักซุ่ม”

พลทหารใต้บัญชาเขาล้วนสีหน้ามึนงง สายตารวมอยู่บนร่างของเขา รองแม่ทัพรั้งม้าหมายจะถอยกลับ ทว่าทันใดนั้นรอบด้านพลันมีเสียงแตรสัญญาณและเสียงกลองศึกดังขึ้นไม่ขาดสายประหนึ่งตอบรับเสียงตะโกนของเขา

เพียงชั่วพริบตา เปลวเพลิงก็ทอแสงสว่างไสว ทหารม้าต้ายงที่ถือคบเพลิงนับไม่ถ้วนอ้อมค่ายใหญ่ออกมาพร้อมกับตะโกนโห่ร้องเสียงดังกึกก้อง แสงคบเพลิงส่องให้ค่ายใหญ่ของกองทัพต้ายงสว่างดุจกลางวัน เพลิงที่เดิมไหม้ค่ายทหารของต้ายงอยู่ค่อยๆ ดับลง พลทหารต้ายงผุดออกมาจากความมืดไม่ขาดสายล้อมพวกตนเอาไว้ หัวใจของรองแม่ทัพเศร้าสลด สายตากวาดมองหาในหมู่ทหารต้ายง หวังจะเห็นคนที่บงการกับดักครั้งนี้

เวลานี้เอง ขบวนแถวของทหารต้ายงก็แหวกออก ทหารม้าผู้สวมชุดเกราะสีครามเกือบดำกลุ่มหนึ่งควบอาชาออกมาด้านหน้า ผู้ที่นำหน้าคนนั้นดวงตาโต ศีรษะดั่งพยัคฆ์ เคราเฟิ้มประหนึ่งเหล็กกล้า รูปลักษณ์ดุดันห้าวหาญ เขาก็คือจิงฉือนั่นเอง ข้างกายเขาคือหลินหยา แม่ทัพใหญ่แห่งกองทัพเจิ้นโจว จิงฉือหัวเราะเสียงดังกังวาน “ฮ่าๆ เจ้าหนู เจ้าตกหลุมแผนการของแม่ทัพผู้นี้แล้ว ยังมิรีบยอมจำนนอีก ข้าเห็นแก่ที่เจ้ามีความสามารถอยู่บ้าง จะยอมละเว้นชีวิตเจ้าก็ได้”

คลื่นแห่งความสิ้นหวังโถมซัดในหัวใจของรองแม่ทัพผู้นั้น เดิมทีเขาคิดว่าอาจเป็นหลินหยามองแผนลอบจู่โจมค่ายของกองทัพเป่ยฮั่นออกจึงวางกับดักไว้ แต่คิดไม่ถึงว่าจิงฉือจะแสร้งบาดเจ็บหลอกล่อศัตรู จิงฉือผู้นี้มีชื่อเสียงด้านความห้าวหาญมาตลอด มิเห็นเคยได้ยินว่าเขามีความสามารถในการวางกลศึกเช่นนี้ด้วย เขาเอ่ยอย่างคับแค้น “จิงฉือ เจ้ามิได้บาดเจ็บ เจ้าจงใจล่อพวกเราให้ลอบโจมตีค่ายตั้งแต่แรกเช่นนั้นหรือ”

จิงฉือชักอาชาเดินไปด้านหน้าแล้วยิ้มหยัน “บิดาไม่เจ้าเล่ห์มากเพียงนั้นหรอก กล่าวตามตรง ศรเล่มนั้นของพวกเจ้าเหี้ยมนักทีเดียว บิดาเองก็มิทันเตรียมตัวรับ โชคดีบิดาวรยุทธ์มิใช่ชั่ว อีกทั้งศรเล่มนั้นเหลือแรงอีกมิเท่าใด บิดาจึงพลิกร่างหลบได้ทันเวลา มีเพียงแผลถลอกเล็กน้อยเท่านั้น บิดามิเก็บมาใส่ใจ แต่พวกเจ้าโชคไม่ดี พอบิดาต้องศรก็คิดออกทันใดว่าอาจล่อพวกเจ้าออกมาจากด่านได้ มิปล่อยให้พวกเจ้าเลียนแบบเต่า ถูกตีจนตายก็มิยอมออกจากกระดอง”

รองแม่ทัพโกรธจนเพลิงโทสะพวยพุ่งสามจั้ง ตะโกนเสียงดัง “พวกเราบุรุษเป่ยฮั่นองอาจห้าวหาญไฉนจะยอมคุกเข่าให้ผู้อื่น วันนี้พวกเราลอบจู่โจมค่ายย่อมเตรียมใจตายเอาไว้แล้ว พี่น้องทั้งหลาย ฆ่า!” กล่าวจบก็นำหน้าพุ่งเข้าใส่ขบวนทหารต้ายง การต่อสู้เล็กๆ ครั้งนี้ย่อมมิจำเป็นให้จิงฉือต้องลงมือเอง เสียงแตรสัญญาณดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่ากลางกองทัพต้ายง ทหารเป่ยฮั่นราวกับหยดน้ำจมลงในทะเลกว้าง มิมีโอกาสแม้แต่จะก่อคลื่นใหญ่โต

ใต้แสงเปลวเพลิงสาดส่อง ดวงหน้าของจิงฉือมีแต่ไอสังหารและความเหี้ยมโหดเหลือคณา เขาตะโกนเสียงดัง “ชาวเป่ยฮั่นเหล่านี้ ตายก็มิยอมจำนนจริงๆ เอาเถิด บิดาก็มิใช่พวกกินหญ้า ข้าก็อยากดูสิว่ากระดูกของพวกเจ้ากับคมดาบของข้าสิ่งใดจะแข็งกว่ากัน สังหารพวกเขาให้หมด แล้วเอาศีรษะของทุกคนไปวางหน้าด่านหูกวน ข้าอยากจะดูว่าด่านหูกวนยังจะยืนหยัดอยู่ได้ถึงยามใด”

หลินหยาที่อยู่ด้านข้างฟังแล้วก็เอ่ยคล้ายลังเล “แม่ทัพจิง ทำเช่นนี้มิค่อยดีกระมัง เข่นฆ่ากันในสนามรบก็แล้วไปเถิด แต่ท่านแม่ทัพทำเช่นนี้น่ากลัวว่าจะกระตุ้นให้ชาวเป่ยฮั่นคิดต่อต้าน”

จิงฉือโมโห “หากบิดามีเมตตา พวกเขาจะมิต่อต้านหรือไร ด่านหูกวนแห่งเดียวยังเสียเวลาตีเช่นนี้ บิดาต้องไปรวมพลกับฉีอ๋อง หากระหว่างทางถูกกองทัพเป่ยฮั่นถ่วงรั้งบิดาเช่นนี้ แล้วบิดาพลาดจังหวะทำศึกขึ้นมา จะไปเอาความกับผู้ใด ถูกลงโทษโบยไม่กี่สิบหนยังมิเท่าใด แต่หากถูกท่านอาจารย์ลงโทษให้ไปคัดตำราอีก บิดาก็อนาถสิ

อีกอย่างหนึ่ง หากทำให้การใหญ่ผิดพลาดขึ้นมาจริง แม้นบิดาอยากคัดตำราก็เกรงว่าคงไม่มีโอกาสแล้ว หากบิดาถูกตัดศีรษะ พวกคนเป่ยฮั่นเหล่านี้จะหลั่งน้ำตาให้บิดาหรือไร ฟังคำบิดา อีกประเดี๋ยวให้บุกตีด่านตลอดคืน หากวันพรุ่งนี้ยังตีด่านหูกวนมิได้อีก บิดาจะทุ่มหมดหน้าตัก หลังจากตีด่านหูกวนแตกแล้ว จงฆ่าล้างเมืองเสีย วันหน้าหากฝ่าบาทกล่าวโทษ บิดาจะรับไว้เพียงผู้เดียว”

เมื่อเห็นสีหน้าเขาดุร้ายเช่นนั้น หลินหยาก็ได้แต่เพียงขานรับอย่างเชื่อฟัง ในเวลานี้พลทหารพลีชีพของเป่ยฮั่นที่ลักลอบเข้ามาในค่ายใหญ่ของกองทัพต้ายงล้มตายหมดสิ้นแล้ว เหล่าทหารใต้บัญชาของจิงฉือฝ่าดงดาบบุกผ่านทะเลโลหิตมาด้วยกันกับเขา แต่ละคนหัวใจดั่งศิลา พวกเขาตัดศีรษะทหารเป่ยฮั่นทั้งหมดไม่ขาดแม้สักคนตามคำสั่งของจิงฉือ จากนั้นผูกไว้บนม้า จิงฉือเร่งให้หลินหยาออกคำสั่งบุกด่าน หลินหยาเองก็ทราบว่ายามนี้เป็นช่วงเวลาที่ด่านหูกวนอ่อนแอที่สุดจึงทำตามคำสั่ง

กองทัพต้ายงหลายหมื่นบุกประชิดหน้าด่านหูกวน แล้วจุดคบเพลิงส่องใต้กำแพงด่านหูกวนสว่างไสว แม่ทัพใต้บัญชาจิงฉือโยนศีรษะของพลทหารเป่ยฮั่นไว้ใต้กำแพงด่านจนกองเสมือนภูเขาลูกน้อย จิงฉือชักม้าตวาดกึกก้องใต้กำแพงด่าน จากนั้นกองทัพต้ายงก็เริ่มยกพลบุกตี

เดือนสาม วันที่ยี่สิบสาม ยามเช้าตรู่ หลิววั่นลี่ยืนอยู่บนกำแพงด่าน สีหน้าเฉยชา เพียงชั่วข้ามคืนสั้นๆ หนวดเคราและเส้นผมของเขาก็แปรเปลี่ยนสีขาวดุจหิมะ เมื่อคืนวานรองแม่ทัพออกไปลอบโจมตีค่าย เขาเองก็มิได้อยู่ว่าง ออกคำสั่งให้พลทหารทั้งหลายเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ส่วนตนเองก็เฝ้ามองค่ายใหญ่ของกองทัพต้ายงจากไกลๆ บนด่านหูกวน เตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลง

หลังจากรองแม่ทัพถูกดักซุ่ม หลิววั่นลี่ก็มองเห็นเค้าลางจากไกลๆ แล้ว รอจนทหารสอดแนมที่ยอมพลีชีพนำข่าวกลับมาแจ้งความเป็นมาของเรื่องราว หลิววั่นลี่ก็พลันรู้สึกราวกับจมลงไปในบึงอันหนาวเหน็บกลางฤดูเหมันต์ เขาหนาวเย็นไปถึงกระดูก แต่กลับทำได้เพียงจัดกำลังพล รอคอยกองทัพต้ายงบุกโจมตี

แล้วก็เป็นดังคาด กองทัพต้ายงมาบุกตีด่านอย่างรวดเร็วยิ่งนัก บางทีอาจเป็นเพราะสิ้นหวังมากเกินไป หลิววั่นลี่กลับรู้สึกว่าหัวใจของตนสงบอย่างที่มิเคยเป็นมาก่อน เขาสั่งการทหารที่เหลือไม่กี่พันนายให้เฝ้าด่านอย่างแน่นหนา แม้ต้องเห็นศีรษะของสหายร่วมรบในวันวานแหลกเละเป็นเศษเนื้อใต้กีบเท้าของกองทัพต้ายง หัวใจของเขาก็มิสั่นคลอนแม้แต่น้อย

ยามนี้กองทัพต้ายงบุกโจมตีประหนึ่งพยัคฆ์ร้าย มีความมุ่งมั่นแรงกล้าว่าหากมิสำเร็จจะมิหยุดเป็นอันขาด พวกเขาบุกตีด่านทั้งวันคืนไม่หยุด หลิววั่นลี่ยืนอยู่เหนือกำแพงด่าน ข้าวสักเม็ดแทบมิตกถึงท้อง แต่กลับรู้สึกว่าทั่วร่างพละกำลังผุดขึ้นมาไม่ขาด เขาใช้หน้าไม้เสินปี้ที่หลายวันก่อนซุกซ่อนไว้เสริมความแข็งแกร่งของการป้องกันด่านหูกวน เฝ้าพิทักษ์แม้นตายมิถอย ตรากตรำกรำศึกหลายวัน ความแค้นสั่งสมดุจมหาสมุทร

เหล่าทหารเป่ยฮั่นทุกนายต่างรู้อยู่แก่ใจว่าเมื่อกองทัพต้ายงตีด่านแตก แม้ตนเองยอมจำนนก็ไม่แน่ว่าจะมีชีวิตรอด ดังนั้นพวกเขาจึงมิเกียจคร้านสักนิด กองทัพต้ายงเสียหายสาหัส มีเพียงการเข่นฆ่าจึงคลายความแค้นในหัวใจพวกเขาได้ แพ้ชนะของศึกนี้เกี่ยวพันถึงความเป็นความตาย ทั้งสองฝั่งต่างทำศึกกันอย่างสุดชีวิต ผู้ใดก็มิกล้าหย่อนยานแม้แต่น้อย

ไม่ว่าด่านหูกวนจะแข็งแกร่งอีกเท่าใด แต่อย่างไรกำลังทหารก็ไม่เพียงพอ ยิ่งไปกว่านั้น รองแม่ทัพยังตายในการลอบจู่โจม พลทหารที่สูญเสียไปล้วนเป็นทหารชั้นยอดของกองทัพเป่ยฮั่น ดังนั้นแม้มีหน้าไม้เสินปี้ปกป้องด่าน แต่เมื่อถึงคืนวันที่ยี่สิบสาม ด่านหูกวนก็ง่อนแง่นใกล้ล้ม หลิววั่นลี่ยืนอยู่เหนือกำแพงด่าน ชุดเกราะทั่วร่างอาบโลหิตจนแดงฉาน ในหัวใจเขาเคียดแค้นลึกล้ำ การลอบโจมตีค่ายล้มเหลวทำให้ด่านหูกวนพ่ายแพ้เร็วขึ้นอย่างน้อยสามวัน เวลานี้เขานึกเสียใจยิ่งที่ตนเลือกลอบโจมตีค่ายศัตรูเพราะความเห็นแก่ตัวของตนเอง ความแตกต่างสามวันนี้อาจเปลี่ยนสถานการณ์สงครามของเป่ยฮั่นทั้งหมด เขาย่อมเข้าใจดีว่าหากจิงฉือบุกเข้าไปยังใจกลางเป่ยฮั่นได้จะเกิดอันตรายเพียงใด

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 58 นคราวายวอดในกองเพลิง (1)"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์