CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ตำนานสุยอวิ๋นยอดกุนซือ - ตอนที่ 79 ผู้กล้าย่อมตัดแขน (1)

  1. Home
  2. ตำนานสุยอวิ๋นยอดกุนซือ
  3. ตอนที่ 79 ผู้กล้าย่อมตัดแขน (1)
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

เดือนสี่ วันที่สิบห้า ไท่จงออกจากด่านถงกวน ธงทัพยาตราไปที่ใด ศัตรูหลีกหนีแทบมิทัน เดินทัพราบรื่นดั่งผ่าปล้องไผ่

วันเดียวกัน ชิ่งอ๋องรวบรวมกองทัพก่อกบฏที่หนานเจิ้ง แต่งตั้งเมิ่งซวี่ ทายาทที่กำเนิดหลังเจ้าแคว้นสู่สิ้นเป็นเจ้าแคว้น สาบานว่าจะฟื้นฟูแคว้นสู่ อดีตขุนนางแคว้นสู่หลายร้อยต่างหลั่งน้ำตา ก้มศีรษะคำนับ

เดือนสี่ วันที่สิบหก ชิ่งอ๋องตีด่านซั่นกวนแตก ใต้หล้าสั่นสะเทือน

…ประชุมพงศาวดาร บันทึกต้ายงเล่มที่สาม

บนกำแพงด่านซั่นกวน ชิ่งอ๋องหลี่คังมองพลทหารที่สวมชุดเกราะวาววับภายในกำแพงด่านแล้วคลี่ยิ้มออกมาจากใจจริงอย่างอดมิได้ หลายปีที่ผ่านมาเขาลงแรงจัดการเอาอำนาจเข้าขู่และใช้ผลประโยชน์ล่อลวงจนในที่สุดกองทหารของต้ายงกองนี้ก็ตกอยู่ในมือของเขาอย่างมั่นคง เมื่อรวมกับกำลังทหารส่วนตัวที่รวบรวมจากตระกูลใหญ่ของตงชวนอีกห้าหมื่นนาย ตงชวนที่ครอบครองทหารแสนห้าหมื่นนายก็ยึดด่านแห่งหนึ่งอันเป็นรากฐานของต้ายงได้แล้ว

สาเหตุสำคัญที่ในวันวานต้ายงเลือกบุกตีแคว้นสู่ก็เป็นเพราะแคว้นสู่ตั้งอยู่บนแผ่นดินภาคกลาง อยู่ติดกับด่านหยางผิง ขอเพียงตีด่านซั่นกวนแตกก็ผ่านเข้ามาในด่านได้ ภัยอันตรายเช่นนี้ทำให้ราชสำนักต้ายงรู้สึกว่ามีกระบี่แหลมคมเล่มหนึ่งแขวนอยู่เหนือหัวตลอดเวลา แม้ราชวงศ์ของแคว้นสู่รักสงบก็มิอาจขจัดความกลัวของต้ายงได้

ยามนี้ตนยึดด่านซั่นกวนมาได้อย่างง่ายดายดุจพลิกฝ่ามือ ตะวันตกมีด่านซั่นกวน ตะวันออกมีด่านจยาเหมิง ครอบครองแผ่นดินอุดมสมบูรณ์ของตงชวน หากชนะก็จะได้กวนจง ครอบครองบัลลังก์จักรพรรดิ หากแพ้พ่ายก็ยังถอยกลับมารักษาตงชวน นิ่งดูเหล่าเจ้าแคว้นทั้งหลายรบรากัน เทียบกับการเป็นชินอ๋องแห่งต้ายงผู้ไร้วาสนากับตำแหน่งจักรพรรดิตลอดกาล นี่ถึงจะเป็นความสำเร็จที่ตนเองเฝ้าฝันปรารถนา

ขณะที่หลี่คังกำลังล่องลอยไปกับความคิด ด้านหลังก็มีเสียงอ่อนหวานนุ่มนวลดังขึ้น “ท่านอ๋อง ลมหนาวยามวสันต์หนาวเย็น เหตุใดจึงมิสวมผ้าคลุมที่ข้ามอบให้ท่านเล่า”

หัวใจของหลี่คังรู้สึกอบอุ่น เมื่อหันกลับไปก็เห็นหญิงสาวอาภรณ์สีม่วงนางหนึ่งเดินเข้ามาหาตนเอง แม้เหตุด้วยอยู่ในกองทัพ อาภรณ์บนร่างของหญิงสาวนางนี้จึงเรียบง่ายอย่างยิ่ง เส้นผมสีดำดุจน้ำหมึกเกล้าเป็นมวยทรงก้นหอย ใช้รัดเกล้าทองชิ้นหนึ่งรัดไว้ เรือนร่างบอบบาง ยามขยับกายคล้ายกิ่งหลิว ดวงหน้างามผุดผาดประดุจดอกบัวในสระน้ำ ความงดงามอันเป็นธรรมชาติเพียงพอให้เรียกได้ว่างามล่มเมือง

หญิงสาวนางนั้นคลี่ยิ้มหวานพลางยอบกายคำนับ หลี่คังยื่นมือมาประคองนางลุกขึ้นแล้วแย้มรอยยิ้ม “เจ้าเป็นห่วงมากเกินไปแล้ว ร่างกายข้าแข็งแกร่ง ลมหนาวยามวสันต์เท่านี้ ไหนเลยจะต้องใช้ผ้าคลุมอันใด”

หญิงสาวเอ่ยอย่างเง้างอน “ท่านอ๋องมีงานในกองทัพมากมายจนมิได้หลับตาพักผ่อน ข้ามิอาจช่วยสิ่งใดได้ ย่อมทำได้เพียงทุ่มเทใส่ใจ ดูแลร่างกายของท่านอ๋อง ร่างกายของท่านอ๋องล้ำค่าดั่งทองคำ หากป่วยไข้ ไยมิใช่ขัดขวางการใหญ่” กล่าวจบก็หยิบผ้าคลุมที่ทำจากไหมแคว้นสู่สีขาวจากมือของหญิงรับใช้ท่าทางแข็งแรงคนหนึ่งมาผูกให้หลี่คังด้วยมือตนเอง

ผ้าคลุมผืนนั้นปักลายผีซิว[1]สีทองดูราวกับมีชีวิต หลี่คังอมยิ้มปล่อยให้สตรีนางนี้ทำตามใจ เมื่อสตรีนางนั้นผูกผ้าคลุมเสร็จก็เงยหน้าขึ้นอย่างมิตั้งใจ ยามเห็นดวงตาของหลี่คังมีความรู้สึกอันอ่อนหวานล้นปรี่ ดวงหน้างามก็พลันแดงระเรื่อ ก้มหน้าเอ่ยว่า “ข้าขอตัวก่อน ท่านอ๋องโปรดถนอมร่างกาย” กล่าวจบก็หมุนตัวออกไป

แม้หลี่คังอยากให้นางอยู่เคียงข้างยิ่งนัก แต่ยามนี้มีงานของกองทัพรออยู่ ยิ่งไปกว่านั้น ยกทัพออกศึกพาอนุภรรยามาด้วยก็ไม่เหมาะสมพอแล้ว หากตนเองมัวลุ่มหลงนารีอีก เกรงว่าคงกระทบต่อความมุ่งมั่นของเหล่าทหาร ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงมองส่งอนุภรรยาคนโปรดจากไป

ขณะที่หญิงสาวนางนั้นกำลังจะก้าวเท้าลงจากกำแพงด่าน ชายหนุ่มหน้าตาธรรมดาคนหนึ่งก็รีบร้อนวิ่งขึ้นมา เมื่อเห็นหญิงสาวนางนั้น ชายหนุ่มก็หลบไปด้านข้างแล้วก้มคำนับ หญิงสาวอมยิ้มผงกศีรษะให้แล้วพาหญิงรับใช้เดินลงไป

จากนั้นชายหนุ่มจึงเดินมาถึงเบื้องหน้าชิ่งอ๋อง รายงานว่า “ท่านอ๋อง กองทัพเราเข้าควบคุมภายในด่านซั่นกวนหมดแล้ว ทหารต้ายงที่ถูกจับเป็นเชลยทั้งหมดล้วนถูกคุมขังอยู่ แต่ผู้น้อยสอบสวนได้ความมาว่าหลี่จงซวิน แม่ทัพผู้รักษาด่านซั่นกวนหลบหนีไปตอนด่านแตก มิพบร่องรอยของกรมวินิจการณ์ ขอถามท่านอ๋องว่าจำเป็นต้องส่งทหารออกไล่ล่าหรือไม่ ส่วนรองแม่ทัพด่านซั่นกวนผู้มีความดีความชอบช่วยเป็นไส้ศึกในด่าน รอเข้าเฝ้าท่านอ๋องอยู่พ่ะย่ะค่ะ”

ดวงตาของหลี่คังฉายแววเสียดายเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “น่าเสียดาย หลี่จงซวินเป็นแม่ทัพชั้นดีคนหนึ่ง รู้จักด่านซั่นกวนดีดุจฝ่ามือ หากสังหารเขาเสียคงลดความยุ่งยากได้มิน้อย กรมวินิจการณ์ชำนาญการหาประโยชน์และหลบหลีกภัยเป็นที่สุด จะหลบหนีไปแล้วก็มิแปลก แต่ครั้งนี้พวกเจ้าซื้อคนใน ประสานในนอกจนตีด่านแตกได้ กรมวินิจการณ์ย่อมถูกตำหนิอย่างหนักเป็นแน่ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว”

หลี่คังพึงพอใจกับผลงานของกลุ่มพันธมิตรจิ่นซิ่วอย่างยิ่ง แรกสุดตัดเส้นทางระหว่างกวนจงกับตงชวน ทำให้ตนควบคุมอำนาจในตงชวนไว้ในมือได้อย่างมั่นคง จากนั้นใช้อำนาจบีบบังคับกับใช้ผลประโยชน์ล่อลวง ซื้อรองแม่ทัพด่านซั่นกวน ทำให้ตนมิต้องเสียแรงสักนิดก็ยึดด่านซั่นกวนมาได้ ความดีความชอบเช่นนี้ทำให้หลี่คังวางความระแวงเสี้ยวสุดท้ายที่มีต่อกลุ่มพันธมิตรจิ่นซิวลงในที่สุด

เวลานี้เยี่ยเทียนซิ่วก็ผลุนผลันเข้ามา เขาเป็นคนสนิทของหลี่คัง ครั้งนี้ถูกหลี่คังสั่งให้คอยสอดส่องขุนนางคิดไม่ซื่อ รับผิดชอบจับตาดูเหล่าแม่ทัพนายกองในกองทัพโดยเฉพาะ

ยามนี้กองทัพใต้บัญชาของชิ่งอ๋องประกอบด้วยกำลังพลส่วนตัวของบรรดาตระกูลใหญ่ในเขตอดีตแคว้นสู่กับกองทหารของต้ายง ความขัดแย้งจึงบังเกิดมากมาย ความสามัคคีของไพร่พลมิค่อยดีนัก ดังนั้นเยี่ยเทียนซิ่วจึงยุ่งวุ่นวายอย่างยิ่ง

อดีตสายลับของชิ่งอ๋องแทบทั้งหมดล้วนถูกส่งมาทำงานด้านนี้ ประการที่หนึ่ง หลี่คังเชื่อใจคนที่ตนเองเลือกมากับมือมากกว่า ประการที่สอง ทำเช่นนี้จะทำให้กลุ่มพันธมิตรจิ่นซิ่วเชื่อในความจริงใจของหลี่คังและทุ่มเทกว่าเดิม แล้วอีกประการหนึ่ง การสืบหาข่าวสารก็เป็นจุดเด่นของกลุ่มพันธมิตรจิ่นซิ่วด้วย

แน่นอนว่าหลี่คังยังเก็บสายลับส่วนหนึ่งที่คอยสอดส่องข่าวลับฝั่งฉางอันเอาไว้อยู่ นอกเหนือจากนี้ หลี่คังก็รู้แก่ใจดีว่า ในยุคแห่งความโกลาหล มีเพียงกุมอำนาจทหารไว้ในมือจึงจะมั่นคงดั่งเขาไท่ซาน ดังนั้นเขาจึงใช้กำลังทั้งหมดควบคุมกองทหาร ขอเพียงมีอำนาจทหารมั่นคงก็มิต้องกังวลว่าขุมอำนาจของอดีตแคว้นสู่กับกลุ่มพันธมิตรจิ่นซิ่วจะทำอันใดไม่ซื่อ

หลี่คังฟังเยี่ยเทียนซิ่วรายงานเรื่องในกองทัพจนจบก็เอ่ยอย่างพึงพอใจ “ลำบากเจ้าแล้วเทียนซิ่ว ตอนนี้ข่าวที่พวกเราก่อกบฏคงส่งไปถึงฉางอันแล้ว แม้หลี่จื้อจะยกทัพออกไปด้วยตนเอง ส่วนเสด็จพ่อก็มิทรงยุ่งกับราชกิจแล้ว แต่ก็ยังมีหลี่จวิ้นที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทนกับสืออวี้ที่คอยช่วยเหลืออยู่ แล้วยังมีฉินอี๋กับเฉิงซูแม่ทัพเฒ่าเหล่านี้อยู่ที่ฉางอันอีก กองทัพของข้าทำได้เพียงรุกคืบทีละก้าว ข้าตัดสินใจจะนำทัพบุกตีเฉินชังด้วยตนเอง ตอนนี้ฝั่งเป่ยฮั่น ต้ายงกำลังเสียเปรียบในสงคราม ข้าก็อยากดูสิว่าแคว้นต้ายงจะรับมือศัตรูสองทางเช่นไร”

เยี่ยเทียนซิ่วได้ยินหลี่คังเรียกราชสำนักต้ายงว่าแคว้นต้ายงก็ทราบแล้วว่าท่านอ๋องตัดขาดความสัมพันธ์กับต้ายงอย่างสิ้นเชิงแล้ว ความจริงแล้วใจเยี่ยเทียนซิ่วมิต้องการให้หลี่คังทำเช่นนี้ เป็นถึงชินอ๋องแห่งต้ายง อำนาจลาภยศมากมายอย่างที่น้อยคนในใต้หล้าจะครอบครองได้ ไยต้องรวบรวมกองทัพก่อกบฏอีก แต่เขาเคยติดค้างบุญคุณหลี่คังมากมายนัก เขาจึงมิอาจสนใจคุณธรรมยิ่งใหญ่ประการใด

สิ้นเสียงหลี่คัง เยี่ยนเทียนซิ่วจึงเอ่ยว่า “อินหลิงแม่ทัพผู้พิทักษ์เฉินชังเป็นถึงแม่ทัพคนสนิทคนโปรดของหลี่จื้อ ทำศึกระมัดระวังรอบคอบ ชำนาญการป้องกันเมือง เกรงว่าเฉินชังคงจะบุกตียาก”

หลี่คังหัวเราะ “มิมีปัญหา มือสังหารของกลุ่มพันธมิตรจิ่นซิ่วลักลอบเข้าไปในเฉินชังแล้ว รอให้เฉินชังถูกพวกเราบุกตีจนเหนื่อยล้าสิ้นเรี่ยวแรงก็จะหาจังหวะลอบสังหารอินหลิงเสีย ถึงยามนั้นเฉินชังโกลาหล พวกเราย่อมบุกตีเมืองสำเร็จ อีกประการหนึ่ง ยามนี้พวกต้ายงน่าจะกำลังจดจ่ออยู่กับเป่ยฮั่น คงมิมีเวลามาสนใจฝั่งนี้ หลังจากพวกเราบุกตีเฉินชัง กรีฑาทัพเข้าเว่ยหนาน กองทัพใหญ่หลายแสนที่ป้องกันฝั่งซานฉินกองนั้นก็คงเข้ามาบีบ”

เยี่ยเทียนซิ่วเอ่ยว่า “เกรงว่าซิ่นกั๋วกงแม่ทัพเฒ่าฉินจะติดตามกองทัพมาด้วย แม่ทัพเฒ่าฉินกรำศึกนับร้อย เป็นที่นับถือของเหล่าทหาร พวกเราคงยากจะคว้าชัยชนะมาได้”

หลี่คังหัวเราะหยัน “ฉินอี๋ชราแล้ว นับตั้งแต่ฉินชิงตายจากไป คนผู้นี้ก็มิเหลือความฮึกเหิมอีก มิมีค่าให้กังวล อีกอย่างหนึ่ง หลงถิงเฟยบัญชาการทัพได้ดุจเทพ กำราบหลี่เสี่ยนได้อย่างง่ายดาย ต่อให้หลี่จื้อไปด้วยตนเอง จะยังมีกำลังกอบกู้สถานการณ์ได้อีกหรือ พวกเราเพียงใช้เวลาเพิ่มสักหน่อย ต้องตีเมืองได้แน่ ต่อให้สุดท้ายพวกเราจำต้องถอยกลับมายังเฉินชังก็ยังเป็นเรื่องน่าพอใจ”

หลังจากได้ฟังรายงานลับของซั่งกวนเยี่ยน ในใจฮั่วอี้ก็รู้สึกเยาะหยันเล็กน้อย หลี่คังช่างคิดในแง่ดีเสียจริง ตั๊กแตนหมายจับจักจั่น มิรู้สักนิดว่านกขมิ้นอยู่ข้างหลัง เขาไหนเลยจะทราบว่าข้างกายถูกพวกเราแทรกซึมเข้ามาหมดแล้ว กรมวินิจการณ์ทำผลงานฝั่งเป่ยฮั่นได้ยอดเยี่ยมนัก ตัดข่าวสารระหว่างจิ้นหยางกับตงชวนจนสิ้น แม้จะบังเอิญมีข่าวบางอย่างแพร่มา แต่ก็ถูกตนใช้ขุมกำลังของกลุ่มพันธมิตรจิ่นซิ่วที่อยู่ข้างกายชิ่งอ๋องดักไว้ ช่องทางข่าวสารของชิ่งอ๋องทางฝั่งฉางอันก็ถูกกรมวินิจการณ์ควบคุมไว้แล้ว ข่าวลวงที่ส่งมาไม่ขาดสายทำให้ชิ่งอ๋องหลงระเริง ลืมสิ้นว่าคู่ต่อกรของตนเองเป็นคนที่น่ากลัวเพียงไร

ซั่งกวนเยี่ยนเห็นรอยยิ้มแฝงแววเยาะหยันของฮั่วอี้ ในใจก็พลันหนาวยะเยือก หลายวันก่อนเขาได้ข่าวจากฝั่งพ่อบุญธรรมว่ากู้อิงน้องชายบุญธรรมจู่ๆ ก็หายตัวไป เขากับสยงเป้าคิดมาคิดไปก็คิดว่าน้องบุญธรรมคงตกอยู่ในกำมือของพวกเฉินเจิ่นแล้ว การหายตัวไปครั้งนี้ก็คงทำเพื่อควบคุมอำนาจของกู้หนิงให้มากกว่าเดิมเท่านั้น

เขาเคยเลียบเคียงถามฮั่วอี้ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงรอยยิ้มแฝงเลศนัย ด้วยความจนปัญญา เขาจึงมิกล้าขัดขืนคำสั่งของฮั่วอี้ พ่อบุญธรรมมีบุตรชายแท้ๆ คนนี้เพียงคนเดียว หากบาดเจ็บเป็นอันใดขึ้นมาจะให้ตนทำใจได้เช่นไร ดังนั้นแม้คำสั่งของฮั่วอี้จะประหลาดอีกเท่าใด เขากับสยงเป้าก็มิกล้าขัดขืน ถึงจะให้เขาสอดส่องการกระทำของชิ่งอ๋องระหว่างรับหน้าที่คุ้มกันก็ตาม

ซั่งกวนเยี่ยนมองสีหน้าเหมือนขบคิดบางสิ่งของฮั่วอี้ ทันใดนั้นหัวใจก็ค่อยๆ จมลงสู่ความเศร้าสลด ยามใดเขาจึงจะหลุดพ้นจากคนน่ากลัวเหล่านี้ ยามใดเขาจะได้กลับไปมีชีวิตสงบสุข เหตุใดตนจึงต้องสละทุกสิ่งเพื่อภาพฝันลวงตาเช่นการฟื้นฟูแว่นแคว้นนี่ด้วย ยามนี้การฟื้นฟูแว่นแคว้นที่กล่าวถึงก็เป็นเพียงการผูกชาวแคว้นสู่ไว้กับรถศึกในสงครามภายในของต้ายงเท่านั้น เขาไม่รู้แล้วว่าทำเช่นนี้ยังมีความหมายอันใด

[1]ผีซิว สัตว์มงคลในตำนานชนิดหนึ่งของจีน รูปร่างภายนอกคล้ายพยัคฆ์ หัวกับหางคล้ายมังกร มีปีกแต่กางไม่ได้ บนหัวมีเขาอาจจะหนึ่งเขาหรือสองเขา มีอิทธิฤทธิ์ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย เรียกโชคลาภ

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 79 ผู้กล้าย่อมตัดแขน (1)"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์