CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ตำนานสุยอวิ๋นยอดกุนซือ - ตอนที่ 122 เสียใจเมื่อสาย (5)

  1. Home
  2. ตำนานสุยอวิ๋นยอดกุนซือ
  3. ตอนที่ 122 เสียใจเมื่อสาย (5)
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ร่างกายมีแต่แผลจากกระบี่และคราบโลหิต มิหลงเหลือความสง่างามของคุณชายผู้สูงศักดิ์ในวันวานอีกต่อไป ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบ ดวงตาของเหวยอิงกลับนิ่งสงบคล้ายกับว่ารอยแผลทั่วร่างไม่มีอยู่ ขณะที่ในใจเขากำลังครุ่นคิดสงสัย

เขาคาดเดาว่าเหตุการณ์ในเรือนตระกูลเฉียววันนั้น เจียงเจ๋อน่าจะสอดมือเข้ามายุ่งด้วย มิฉะนั้นคงไม่เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ซั่งเหวยจวิน สำนักเฟิงอี้กับเหล่าผู้กล้าแห่งหนานฉู่ต่างบาดเจ็บล้มตาย โอวหยวนหนิงถูกยอดฝีมือลึกลับสังหาร สำนักเฟิงอี้เสียยอดฝีมือไปสองคน เหวยอิงคิดว่าหากแม่ทัพใหญ่ยอมหนีเอาชีวิตรอด เขาก็คงหนีรอดพ้นภัยสำเร็จ เมื่อรวมกับเหตุการณ์ที่สือกวน ‘ป่วยหนักจนสิ้นใจ’ กับการช่วยเหลือลู่อวิ๋นอย่างลึกลับหลังจากนั้น คิดอย่างไรก็มีเพียงเจียงเจ๋อที่ได้ประโยชน์

ยิ่งไปกว่านั้นเหวยอิงเป็นศัตรูกับเจียงเจ๋อมาหลายปี เขาสัมผัสได้เลือนรางว่าแผนการเบื้องหลังเรื่องนี้ดูคล้ายวิธีดำเนินกลอุบายของเจียงเจ๋อ เขาแค้นใจที่ตนเองไร้ความสามารถจนมิอาจยื่นมือเข้าไปแทรก ทั้งยังไร้หนทางเข้าไปแทรก แต่หากเป็นเช่นที่ตนเองคิด เหวยอิงก็ยิ่งแน่ใจว่าเจียงเจ๋อจะมิปล่อยให้แม่ลูกตระกูลลู่จนตรอก

ดังนั้นแม้แผนการของเขาจะไม่สำเร็จอย่างสมบูรณ์ เขาก็มิได้เศร้าโศก เพราะเขาเชื่อว่าเจียงเจ๋อจะต้องส่งคนมาคอยจับตาดูอยู่แน่ เจียงเจ๋อไม่มีทางปล่อยโอกาสดีในการกำจัดสำนักเฟิงอี้ไป แต่จนกระทั่งบัดนี้เขาก็ยังไม่เห็นร่องรอยของอีกฝ่าย หรือว่าตนจะคาดเดาผิด พอคิดว่าตนจะมิได้เห็นสำนักเฟิงอี้ล่มสลายอย่างสมบูรณ์กับตาตนเอง หัวใจของเหวยอิงก็เย็นเฉียบ มิปรารถนาจะตรากตรำต่อสู้อีกต่อไปแล้ว

ทันใดนั้นหลิงอวี่ก็จ่อกระบี่มาที่ท้องน้อยของเหวยอิง แต่นางคิดจะกรีดให้เขาบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ผู้ใดจะคิดว่าดวงตาของเหวยอิงกลับฉายแววคมปลาบแล้วขยับร่างสวนมา กระบี่คมเล่มนั้นจึงเสียบทะลุท้องของเขาในพริบตา หลิงอวี่ตกใจยิ่งนัก นางทราบทันทีว่าเหวยอิงตั้งใจจะตาย จึงรีบดึงกระบี่ออกเพื่อมิให้เหวยอิงตายเร็วนัก คิดไม่ถึงว่ากลับถูกมือซ้ายของเหวยอิงจับไว้แน่น นางเผยสีหน้าตกตะลึง เหวยอิงกลับแหงนหน้าหัวเราะ ใบหน้าที่เปรอะคราบโลหิตแลดูงดงามยิ่งนัก

หลิงอวี่ใจสะท้าน แต่ยังมิทันทำสิ่งใดเหวยอิงก็โถมเข้ามาหาราวกับเงาตามตัว อย่างไรเสียหลิงอวี่ก็เพลิดเพลินกับชีวิตหรูหรามาหลายปี ชั่วขณะนั้นนางจึงคิดไม่ออกว่าควรทิ้งกระบี่หลบถอยหลัง การตกตะลึงเพียงชั่ววูบ ทำให้เหวยอิงเข้ามากอดประชิดตัวหลิงอวี่ ศิษย์สำนักเฟิงอี้ที่ล้อมดูอยู่ตะโกนโหวกเหวกขึ้นมาพร้อมกัน ประกายกระบี่ฉายวาบ แขนซ้ายของเหวยอิงถูกฟันขาด ทว่าเหวยอิงกลับถลาไปยังริมผาอย่างมิหวงแหนชีวิต เขาหลบคมกระบี่ที่ฟันมายังแขนขวากับขาทั้งสองข้างพ้นจึงมีเพียงรอยกระบี่ลึกสามเส้นที่ทิ้งรอยไว้บนเนื้อ

หลิงอวี่ที่ถูกเขากอดแน่นตกตะลึงยิ่งนัก นางดิ้นรนสุดชีวิต ทว่าถึงอย่างไรนางก็เป็นอิสตรี เกิดมามีพละกำลังน้อยกว่า ผนวกกับที่เหวยอิงพุ่งไปทางหน้าผาฝั่งที่ไม่มีคนคุม จู่ๆ หลิงอวี่ก็รู้สึกว่าตรงเอวของเหวยอิงมีของแหลมคมชิ้นหนึ่งโผล่ออกมาทิ่มแทงร่างของตน กลับกลายเป็นว่านางถูกมีดคมกริบที่เหวยอิงซ่อนไว้ในสายคาดเอวทำร้าย นางร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด เสียโอกาสที่จะสละแขนเพื่อเอาชีวิตรอด

เพียงชั่วพริบตาเหวยอิงกับหลิงอวี่สองคนก็ดิ่งลงไปใต้หน้าผา หูของหลิงอวี่ได้ยินเสียงสายลมพัดหวีดหวิว อวัยวะทั้งห้ากับทวารทั้งเจ็ดรู้สึกผิดปกติเพราะหมอกพิษแทรกซึม หลังจากนั้นพวกเขาก็ตกกระแทกบนทางภูเขาอย่างแรง ความเจ็บปวดแสนสาหัสยามกระดูกและเส้นเอ็นทั่วร่างแตกหักฉีกขาดถาโถมเข้าจู่โจมเสมือนหนึ่งคลื่นสมุทรทำให้นางสิ้นสติไปทันที

ศิษย์สำนักเฟิงอี้บนหน้าผามองหน้ากัน คิดมิถึงว่าเหวยอิงจะพลิกสถานการณ์ ลากหลิงอวี่ไปลงสุสานด้วยกันจนได้ ยังมิต้องพูดถึงความสูงของหน้าผา เพียงควันพิษด้านล่างก็คร่าชีวิตของหลิงอวี่ได้แล้ว จี้เสียเห็นเช่นนี้จึงตวาดเสียงเฉียบขาด “มิต้องรีบร้อน รอหลังควันจาง พวกเราค่อยลงไปหาศพของเจ้าสำนัก” เวลานี้ในหมู่พวกนาง จี้เสียฐานะสูงที่สุด ทุกคนจึงพยักหน้าอย่างเงียบงัน

จี้เสียเห็นเช่นนี้ในใจก็ยินดีปรีดา แต่พอนึกขึ้นมาได้ว่าอำนาจของสำนักเฟิงอี้ย่อยยับอยู่ที่นี่หมดสิ้นแล้ว นางก็เศร้าสลดจนมิอาจเอื้อนเอ่ยวาจา ขณะที่กำลังจะออกคำสั่งให้หาสถานที่หลบชั่วคราว เสียงหัวเราะหยันก็ดังออกมาจากรัตติกาลอันมืดมิดรอบด้าน “กุ้ยเฟย มิพบกันนานนะพ่ะย่ะค่ะ”

จี้เสียตะลึงงัน หันไปมองตามเสียง ในความมืดพลันมีคนจุดคบเพลิง หลังจากนั้นดวงไฟจุดแล้วจุดเล่าก็ส่องสว่าง บ้างไกลบ้างใกล้ ล้อมที่แห่งนี้ไว้กลายๆ ไม่นานรอบด้านก็สว่างไสว จี้เสียเห็นบุรุษหน้าตาหล่อเหลาสง่างามคนหนึ่งยืนมือไพล่หลัง บนร่างเขาสวมอาภรณ์ผ้าไหม เรือนผมประดับปิ่นหยก ท่วงท่าสง่างาม ใต้แสงเปลวเพลิงสาดส่องแลดูงดงามประหนึ่งหยก รอบตัวมีเงาคนมากมาย ปิดหนทางทั้งหมดไว้

จี้เสียตกตะลึง “เซี่ยโหวหยวนเฟิง เหตุใดเจ้าจึงอยู่ที่นี่ นี่เป็นไปมิได้!”

เห็นท่าทางเกรี้ยกราดของจี้เสีย เซี่ยโหวหยวนเฟิงก็ยิ้มน้อยๆ กล่าวว่า “กุ้ยเฟย ไม่สิ ตำแหน่งกุ้ยเฟยถูกถอดมาตั้งนานแล้ว สมควรเรียกท่านว่าจี้ฮูหยินจึงจะถูก ผู้น้อยได้รับพระบัญชาจากองค์จักรพรรดิ มิหวั่นความยากลำบากลักลอบเข้ามาในหนานฉู่ หากสำนักเฟิงอี้มิถูกกำจัด ฝ่าบาทก็บรรทมอย่างสบายพระทัยมิได้

เรื่องในอดีต พวกเจ้ามิมีวันลืม ฝ่าบาทยิ่งมิมีวันลืม ดังนั้นแม้ข้าจะได้คุมกรมวินิจการณ์แล้วก็มิกล้าเสพสุขกับลาภยศอยู่ในฉางอัน ทำได้แต่มาส่งพระสนมออกเดินทาง แต่คิดมิถึงว่าจะมีคนชิงลงมือก่อน ประหยัดเวลาของข้าได้มากทีเดียว”

จี้เสียพลันรู้สึกสิ้นหวัง กระบี่ยาวในมือเกือบหลุดร่วง ทว่าเพียงชั่วความคิดแล่น นางก็ปลุกปลอบตนเอง เอ่ยเสียงเฉียบขาด “ทุกคนตามข้าฝ่าวงล้อม ยามนี้เป็นยามวิกาล พวกเขาคิดจะจัดการพวกเราทั้งหมดย่อมมิง่ายดายเช่นนั้น”

กล่าวจบก็พลันถือกระบี่พุ่งเข้ามา นางทราบว่าที่ผ่านมาเซี่ยโหวหยวนเฟิงถือคติรักษาตัวรอดเป็นยอดดี ดังนั้นนางจึงตัดสินใจพุ่งเข้าใส่เซี่ยโหวหยวนเฟิง หมายจะบีบให้เขาหลบเพื่อฉวยโอกาสฝ่าออกไป ไหนเลยจะคิดว่ายังมิทันพุ่งออกไปถึงสามก้าว หูก็ได้ยินเสียงหน้าไม้ดังขึ้นต่อเนื่องมิขาดสาย นางมิสนใจสิ่งใดทั้งสิ้นกระโจนไปด้านหน้า ลูกดอกหน้าไม้เหล่านั้นบินร่อนตามมาแทบจะเหมือนกับเงาตามตัว

ขณะที่นางกำลังจะพุ่งมาถึงตัวเซี่ยโหวหยวนเฟิงนั่นเอง เงาสีขาวร่างหนึ่งพลันโฉบมาจากใต้แสงคบเพลิง บุรุษอาภรณ์สีหิมะคนหนึ่งยืนอยู่เบื้องหน้าเซี่ยโหวหยวนเฟิง ตบหนึ่งฝ่ามือออกมาเบาๆ

จี้เสียต่อสู้อย่างเหน็ดเหนื่อยมาครึ่งค่อนวันแล้ว นางเป็นลูกศรใกล้สิ้นแรงตั้งนานแล้ว เมื่อครู่นางเพียงใช้ความกล้าเฮือกสุดท้ายก็เท่านั้น นางแทบไม่มีโอกาสสวนกลับสักนิด ถูกฝ่ามือของคนผู้นั้นสะบั้นชีพจรหัวใจในทันที

จี้เสียล้มไปด้านหน้าอย่างเชื่องช้า ความรู้สึกผ่อนคลายอันยากจะบรรยายผุดพรายขึ้นมา ทันใดนั้นนางก็คิดขึ้นมาว่า หากรู้ก่อนว่าความตายมิน่ากลัว ตนเองยังจะดิ้นรนเพื่อมีชีวิตอยู่มานานหลายปีขนาดนี้หรือไม่ จี้เสียมิได้ยินเสียงกรีดร้องของสหายร่วมสำนักแล้ว มุมปากของนางเผยรอยยิ้มเหนื่อยล้า ก่อนจะค่อยๆ จมดิ่งลงสู่ห้วงแห่งความมืดมิด

ผ่านไปครู่เหนึ่ง เซี่ยโหวหยวนเฟิงก็อาศัยแสงเปลวไฟมองสำรวจศพสิบกว่าร่าง บางคนถูกลูกดอกของหน้าไม้สังหาร บางคนตายใต้คมดาบคมกระบี่ ในหมู่พวกนางมีอยู่ห้าคนเกือบจะฝ่าวงล้อมออกไปได้ แต่ถูกบุรุษอาภรณ์สีหิมะจู่โจมสังหารทีละคน เซี่ยโหวหยวนเฟิงเผยรอยยยิ้มพึงพอใจแล้วหันไปประสานมือคำนับบุรุษอาภรณ์สีหิมะคนนั้น “ขอบคุณคุณชายสี่ที่ยื่นมือช่วยเหลือ”

ใบหน้าหล่อเหลาของบุรุษอาภรณ์สีหิมะผู้นั้นกลับมีเพียงสีหน้าเบื่อหน่าย ตอบอย่างเฉยชา “คิดมิถึงว่าจะมิต้องเปลืองแรงสักเท่าใด หากรู้ก่อนว่าจะเป็นเช่นนี้ ผู้แซ่ชิวคงมิจำเป็นต้องเดินทางมาที่นี่”

เซี่ยโหวหยวนเฟิงยิ้ม “คุณชายสี่ถ่อมตัวเกินไปแล้ว หากมิใช่ฝีมือระดับคุณชายสี่ ผู้ใดจะสืบการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นตลอดทางของกลุ่มอำนาจแต่ละฝ่ายได้กระจ่างชัดแจ้ง แล้วเมื่อครู่พวกเราล้อมสังหารทายาทของสำนักเฟิงอี้ไฉนจะง่ายดายเช่นนี้ ความดีความชอบของคุณชายสี่ ผู้น้อยจักกราบทูลฝ่าบาทให้ทรงทราบอย่างแน่นอน”

ชิวอวี้เฟยตอบเสียงเย็นชา “ข้ามิปรารถนารางวัลอันใด เจ้าอย่ายุ่งมิเข้าเรื่องก็พอแล้ว” กล่าวจบก็หมุนตัวเดินเข้าไปในเงามืด เพียงพริบตาเดียวร่างก็หายลับไป เซี่ยโหวหยวนเฟิงแววตาวูบไหว คล้ายมิเข้าใจความนัยในถ้อยคำของชิวอวี้เฟย

ผ่านไปเนิ่นนานสีหน้าของเขาจึงกลับมานิ่งสงบ แล้วออกคำสั่งว่า “ลมภูเขาพัดควันพิษกระจายไปแล้ว พวกเจ้าลงไปตรวจดูศพของคนสำนักเฟิงอี้ทั้งหมด แล้วก็อย่าลืมเก็บศพของเหวยอิงขึ้นมาด้วย หนนี้เขานับว่าสร้างความชอบครั้งใหญ่ หากไม่มีเขา สำนักเฟิงอี้ก็คงมิถูกกำจัดจนสิ้นง่ายดายเช่นนี้ อีกอย่างเขาเป็นคนที่ฝ่าบาทสนพระทัย เป็นตายล้วนต้องมีคำกราบทูล”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 122 เสียใจเมื่อสาย (5)"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์