ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ - ตอนที่ 964 ต่างสำแดงพลัง
เสิ่นว่านชิงสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย สิบนิ้วบนสองมือแปรเปลี่ยนประหนึ่งกงล้อ พร้อมกันนั้นก็อ้าปากถ่มยันต์ตัวหนึ่งลงบนร่างอสรพิษเพลิง
อสรพิษผงกหัวพุ่งออกจากร่างชายหนุ่มชุดแดง จากนั้นเปลวเพลิงสีแดงฉานพลันลุกพรึบบนร่างในทันใด
ร่างกายของอสรพิษขยายขนาดท่ามกลางเปลวเพลิงจนใหญ่ขึ้นหลายเท่า มันอ้าปากพ่นเปลวเพลิงสีแดงฉานพุ่งเร็วรี่มืดฟ้ามัวดินเข้าใส่บุรุษรอยแผลดาบไม่ขาดสาย
จุดที่ลำเพลิงพุ่งผ่าน อากาศเหมือนจะบิดเบี้ยวเล็กน้อยเพราะทนอุณหภูมิร้อนระอุไม่ได้ พวกหลิ่วหมิงที่ยืนอยู่ไกลๆ ยังสัมผัสได้ถึงความร้อนที่โถมใส่ใบหน้า ผิวหนังถูกแผดเผาจนแสบร้อน
ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจผู้มีรอยแผลดาบทำราวกับมองไม่เห็นสิ่งนี้ สองมือยิงเคล็ดวิชาหลายสายออกมาอย่างต่อเนื่อง ดวงตาทั้งสองข้างกลายเป็นสีแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด ร่างกายใต้อาภรณ์สีดำพองขยาย พริบตาเดียวร่างกายที่เต็มไปด้วยขนปุกปุยก็ดันเสื้อผ้าจนขาด ทั้งร่างขยายจนใหญ่เป็นหลายเท่าของร่างเดิม
เวลานี้ศีรษะของเขากลายเป็นหัวหมี รอยแผลเป็นจากดาบบนใบหน้ายิ่งขับเน้นให้แลดูดุร้าย บนฝ่ามือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยขนสีดำหนา ปราณปีศาจสีดำสนิทดุจหมึกวนเวียนอยู่บนนั้น
เขาคำรามดังลั่น จากนั้นฝ่ามือมหึมาที่มีปราณพลุ่งพล่านก็ต่อยออกมา
เสียงเปรี้ยงดังสนั่น!
หมัดยักษ์โจมตีลงบนลำเปลวเพลิง แสงรัศมีสีแดงกับสีดำเกี่ยวกระหวัด พลังมหาศาลระเบิดออกมากะทันหัน เปลวเพลิงสีแดงฉานทานได้อยู่เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดกลายเป็นดวงเพลิงเต็มท้องนภา
กำปั้นของบุรุษรอยแผลดาบส่งเสียงดังฉ่า ผิวหนังถูกเปลวเพลิงเผาบาดเจ็บแถบใหญ่ แต่เขากลับก้าวเท้าดังตึงโถมเข้าไปยังจุดที่ชายหนุ่มชุดแดงอยู่เหมือนไม่รู้สึก
เสิ่นว่านชิงเห็นเช่นนี้สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที สองมือพลิกหงาย อ้าปากพ่นธงน้อยสีแดงขนาดเท่าฝ่ามือผืนหนึ่งออกมา
ธงน้อยสะบัดดังพรึบก่อนจะขยายใหญ่จนกลายเป็นขนาดหนึ่งจั้งกว่า
เสิ่นว่านชิงท่องมนตร์รัวเร็ว ทันใดนั้นธงสีแดงฉานก็เปล่งแสงสีแดงเจิดจ้า บนผืนธงมีเปลวเพลิงลุกโชติช่วงพุ่งออกมาสายแล้วสายเล่าเต็มไปหมดอย่างรวดเร็ว กลายเป็นเมฆอัคคีขนาดหลายสิบจั้งก้อนหนึ่งล้อมตนเองรวมถึงอสรพิษเพลิงเข้าไปด้านใน
ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจผู้มีรอยแผลดาบเห็นเช่นนี้ ดวงตาพลันวาววับอย่างดุร้าย ทว่าเปลวเพลิงในเมฆอัคคีเบื้องหน้าลุกท่วมฟ้าโหมกระหน่ำไม่หยุด เขาจึงได้แต่หยุดฝีเท้า
เสิ่นว่านชิงเห็นเช่นนี้ก็ลอบถอนหายใจอย่างอดไม่ได้
“โจรชั่วเผ่ามนุษย์ เจ้าคิดว่าหลบอยู่ด้านในก็ไม่เป็นอะไรแล้วหรือ?”
ปีศาจหมีผู้มีรอยแผลดาบฉับพลันหัวเราะชั่วร้าย มันอ้าปาก ทันใดนั้นลำแสงสีดำหนาเท่าถังน้ำสายหนึ่งก็พุ่งออกมา จากนั้นกลายเป็นแสงสีดำสิบกว่าสายกลางท้องฟ้าบินวนเวียนอยู่รอบด้าน
“เอ๋!”
หลิ่วหมิงที่ชมการต่อสู้อยู่ด้านล่างสีหน้าเปลี่ยนไปในทันใด ด้านในลำแสงสีดำสิบกว่าสายนี้คือลูกตุ้มลูกแล้วลูกเล่า
ผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจส่วนมากล้วนอาศัยร่างกายแข็งแกร่งของตนกับพลังที่มีมาแต่กำเนิดในการต่อสู้ ผู้ที่ใช้อาวุธจิตวิญญาณหรืออาวุธเวทน้อยยิ่งนัก ปีศาจหมีตัวนี้ตรงหน้ากลับฝึกฝนการใช้ลูกตุ้มจนสำเร็จ
ดูจากสภาพนี้ ลูกตุ้มชุดนี้คงมีระดับเทียบเท่าต้นแบบอาวุธเวท
ดวงตาของปีศาจหมีผู้มีรอยแผลดาบทอประกายดุดัน ลูกตุ้มสีดำสิบกว่าลูกขยับวูบเดียวพลันเกิดเป็นลูกตุ้มสีดำสามสิบกว่าลูกโจมตีเข้าใส่เมฆอัคคีจากทั่วทุกสารทิศพร้อมกัน
ดวงตาของหลิ่วหมิงทอประกายประหลาด วิชาที่ปีศาจหมีรอยแผลดาบใช้ยามนี้หลักการคล้ายคลึงกับวิชาแบ่งร่างแสงกระบี่ที่บันทึกอยู่ในเคล็ดกระบี่ปราณแกร่งที่ตนฝึกฝนเมื่อสมัยนั้นอยู่เล็กน้อย
เงาลูกตุ้มสีดำมากมายถี่ยิบบินล้อมเมฆอัคคีเป็นวง ชั่วอึดใจหลังจากนั้นพวกมันก็กระหน่ำฟาดหลายร้อยครั้ง เสียงเปรี้ยงปร้างดังสนั่นต่อเนื่องบนท้องฟ้าราวกับว่ามีอสนีบาตหลายร้อยสายฟาดลงมาจากเบื้องบน
ด้านในเมฆอัคคีที่ลุกโหมไม่ยอมดับราวกับไม่มีสิ่งใดอยู่ เงาลูกตุ้มทั้งหมดทุบถูกความว่างเปล่า
สีหน้าของปีศาจหมีเปลี่ยนไปเล็กน้อยในทันใด แม้ยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายใช้วิธีใดหลบลูกตุ้มของตน แต่ความดูแคลนในใจก็ลดทอนลงไปเล็กน้อย
เขาสะบัดมือ ลูกตุ้มทั้งหมดพุ่งเร็วรี่กลับมา หลังจากนั้นดวงตาพลันทอประกายประหลาด กำลังจะใช้วิชาอื่น
ทันใดนั้นเมฆอัคคีทั้งหมดก็เริ่มปั่นป่วนก่อนจะหดเล็กลงอย่างฉับพลัน
“แย่แล้ว!”
แสงสีทองวูบไหวในดวงตาของบุรุษจมูกอินทรีที่อยู่ท่ามกลางผู้ฝึกฝนเผ่าปีศาจ เขาจ้องเมฆอัคคี อยู่แล้วทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยพลางพึมพำกับตนเอง
“พี่อิง เกิดอะไรขึ้นหรือ?” บุรุษกำยำผิวดำเห็นบุรุษจมูกอินทรีมีสีหน้าเช่นนี้ก็ถามอย่างอดไม่ได้
บุรุษจมูกอินทรีไม่ตอบทันทีแต่คิ้วขมวดแน่น
หลิ่วหมิงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเห็นสถานการณ์เช่นนี้ บนใบหน้าก็ปรากฏความประหลาดใจจางๆ เช่นกัน
เขาอาศัยพลังจิตสัมผัสจึงพอสำรวจได้ว่าเวลานี้อสรพิษเพลิงตัวนั้นกำลังอ้าปากกว้างสูบเมฆอัคคีรอบด้านอย่างบ้าคลั่งอยู่กลางเมฆอัคคี ร่างกายของมันขยายใหญ่ขึ้นพรวดพราด
ชั่วอึดใจหลังจากนั้นเมฆอัคคีทั้งหมดก็ทะลักเข้าไปตรงกลางอย่างรวดเร็ว ร่างกายของอสรพิษเพลิงปรากฏออกมาอีกครั้ง มันขยายร่างจนมีขนาดยี่สิบกว่าจั้งราวกับลูกโป่งที่สูบลม
สายลมกรรโชกสายหนึ่งพัดผ่าน เมฆอัคคีรอบด้านพลันสลายไปจนเกลี้ยง
หัวของอสรพิษเพลิงมีเขาคล้ายปะการังสองกิ่งงอกออกมา ตรงท้องก็มีกรงเล็บคมกริบขนาดใหญ่สี่ข้างงอกออกมาด้วย ร่างกายปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีแดงเพลิงซึ่งมีเปลวเพลิงสีแดงฉานเต้นระริกอยู่ด้านใน
“กลายร่างมังกร!”
ดวงตาของปีศาจหมีรอยแผลดาบทอประกายวูบหนึ่งแล้วหลุดปากเอ่ยขึ้น
ร่างของบุรุษชุดแดงปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เขายืนอยู่ด้านหลังอสรพิษเพลิงยักษ์ บนใบหน้าเผยรอยยิ้มหยันเล็กน้อย ขณะที่ปากเอ่ยแผ่วเบา
“ไป!”
มังกรเพลิงขนาดมหึมาส่งเสียงคำรามแล้วโถมเข้าใส่ปีศาจหมีรอยแผลดาบในทันใด
ปีศาจหมีรอยแผลดาบสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อย เขายิงเคล็ดวิชาหลายสายออกมาอย่างต่อเนื่อง ลูกตุ้มสีดำสิบกว่าลูกที่วนเวียนอยู่เหนือศีรษะกลับกลายเป็นค้อนยักษ์ขนาดยี่สิบกว่าจั้งอันหนึ่ง ร่วงลงมาใส่หัวของมังกรเพลิง
บุรุษชุดแดงเห็นเช่นนี้พลันสะบัดมือส่งเคล็ดวิชาสายหนึ่งออกมา
เสียงปังดังสนั่น!
เปลวเพลิงสูงหลายฉื่อลุกพรึบบนร่างมังกรเพลิง มันสะบัดกรงเล็บหน้าทั้งสองข้างครั้งเดียวก็ต้านค้อนยักษ์สีดำที่ร่วงลงมาไว้ได้ ไม่ว่าปีศาจหมีรอยแผลดาบสั่งอย่างไรมันก็ไม่อาจร่วงลงมาได้อีกแม้แต่น้อย
หลังจากนั้นมังกรเพลิงพลันอ้าปากกว้าง พ่นลูกบอลเพลิงร้อนระอุขนาดมหึมาลูกแล้วลูกเล่าออกมากระหน่ำโจมตีบนค้อนยักษ์สีดำ
ชั่วเวลาหนึ่งปราณดำบนผิวค้อนยักษ์สีดำกับคลื่นเปลวเพลิงแถบใหญ่ที่เกิดจากการระเบิดของลูกบอลเพลิงกระหวัดประสานกันอยู่กลางท้องฟ้า
ไอหมอกสีดำกับสีแดงปั่นป่วนขยายไปทั่วท้องนภาในทันที
ค้อนยักษ์สีดำทานรับติดกันอยู่หลายสิบครั้ง ประกายแสงก็หม่นหมอง ตัวค้อนเคลื่อนไหวช้าลง
ปีศาจหมีรอยแผลดาบเห็นเช่นนี้ บนใบหน้าก็เผยสีหน้าร้อนรนเล็กน้อย เขากัดฟัน อ้าปากพ่นลำแสงสีดำสนิทสายหนึ่งผสานเข้าไปในค้อนยักษ์สีดำ
หลังจากพ่นลำแสงออกมา กระดูกบนร่างกายของปีศาจหมีรอยแผลดาบก็ลั่นเสียงดัง ร่างกายขนาดมหึมาสูงหลายจั้งหดเล็กลงอย่างรวดเร็วจนกลับมามีขนาดเท่าเดิม สีหน้าซีดเผือดเล็กน้อย
ค้อนยักษ์สีดำได้แสงสีดำมาเสริมพลันส่องสว่างเจิดจ้าทันที มันส่งเสียงครวญครางแล้วสั่นไม่หยุดราวกับเป็นอสูรยักษ์จำศีลที่ดิ้นรนสุดชีวิตหมายหนีจากกรงเล็บมังกรเพลิง
ค้อนยักษ์แฝงพลังมหาศาลทำให้มังกรเพลิงเริ่มสั่นไหวอย่างห้ามไม่ได้
แววตาเจ็บปวดแล่นผ่านดวงตาของชายหนุ่มชุดแดงแวบหนึ่ง เขาใช้วิชาลับทำให้อสรพิษวิญญาณครอบครองพลังของมังกรเพลิงชั่วคราวก็แทบจะผลาญพลังเวทไปจนหมดแล้ว อีกทั้งวิชานี้ความจริงยังมีจุดที่น่าเสียดายใหญ่หลวงอยู่อีกจุดหนึ่ง
เขาสูดลมหายใจลึกแล้วงอนิ้วดีดรัว ส่งเคล็ดวิชาสีแดงสายแล้วสายเล่าออกมา
แสงเปลวเพลิงลุกโชนบนร่างอสรพิษเพลิง เงาของธงอัคคีผืนยักษ์พุ่งออกมาจากแสงเปลวเพลิง
เสียงกรีดร้องแหลมแสบแก้วหูก้องฟ้าดังขึ้นกลางไอหมอกสีดำแดง
ฮู่! พายุสีแดงฉานร้อนระอุพัดโหมก่อตัวขึ้นจากความว่างเปล่ากดแสงของค้อนยักษ์สีดำลงไป
“เมื่อครู่นั่น…”
สายตาของปีศาจหมีรอยแผลดาบทอประกายก่อนจะสูดลมหายใจลึก แล้วอ้าปากพ่นกระดิ่งสีดำขลับขนาดหนึ่งชุ่นกว่าลูกหนึ่งออกมา
แสงสีดำส่องสว่างวูบหนึ่ง กระดิ่งสีดำพลันพุ่งขึ้นฟ้าลอยไปอยู่เหนือศีรษะของเสิ่นว่านชิง มันสั่นครั้งหนึ่งแล้วส่งเสียงกระดิ่งใสกังวานออกมา
คลื่นเสียงสีดำวงแล้ววงเล่าก่อตัวขึ้นกลางอากาศล้อมมังกรเพลิงกับเสิ่นว่านชิงไว้
เสียงหาได้ดังไม่ แต่มังกรเพลิงเบื้องล่างได้ยินเข้ากลับร่างกายสะท้านแล้วร้องโหยหวน เปลวเพลิงบนร่างพุ่งกระจายออกไปรอบด้านอย่างฉับพลันราวกับว่าควบคุมไม่ได้ แววตาของเสิ่นว่านชิงก็เลื่อนลอยเล็กน้อย พลังเวทในร่างพุ่งทะลวงไปทั่วทุกที่อย่างควบคุมไม่ได้กะทันหัน
ค้อนยักษ์สีดำฉวยโอกาสนี้ขยับอย่างรุนแรง มันส่งเสียงร้องก่อนจะสลัดหลุดจากแรงกดดันของมังกรเพลิงแล้วกลายเป็นแสงสีดำเส้นหนึ่งพุ่งขึ้นท้องฟ้า
แสงสีดำบินวนอยู่กลางท้องนภาแล้วส่งเสียงดังเปรี้ยง เงาค้อนขนาดเท่าบ้านที่มีปราณดำเวียนวนบนผิวปรากฏสูงขึ้นไปบนฟ้า จากนั้นทุบลงมาเบื้องล่างอย่างรุนแรง
ชายหนุ่มชุดแดงเวลานี้ยังไม่ฟื้นคืนสภาพเดิม ด้วยพลังอันน่าหวาดกลัวของเงาค้อนยักษ์ หากถูกทุบเข้าจริง เกรงว่าเพียงชั่วอึดใจก็คงถูกทุบกลายเป็นเศษเนื้อกองหนึ่ง กระทั่งแก่นวิญญาณก็หนีออกมาไม่ได้
ในชั่วเส้นยาแดงผ่าแปดนี้เอง แสงสีเงินพลันสว่างขึ้นตรงลำคอของเสิ่นว่านชิง มุกกลมแวววาวเม็ดหนึ่งพุ่งออกมาแล้วแตกละเอียดดังเปรี๊ยะ รุ้งสีเงินเส้นหนึ่งพุ่งออกมาจากด้านใน มันกะพริบเพียงวูบเดียวก็พุ่งเข้าชนเงาค้อนยักษ์
เสียงดังสนั่นจนแผ่นดินสะเทือนไหว!
แสงสีดำกับแสงสีเงินสอดประสานเป็นร่างเดียวในพริบตาจนเกิดเป็นลูกบอลแสงมหึมาลูกหนึ่งระเบิดดังเปรี้ยง คลื่นสั่นสะเทือนกลายเป็นพายุหมุนพัดไปทั่วทุกสารทิศ
ผู้ชมสองฟากฝั่งเห็นเช่นนี้ก็พากันเรียกม่านแสงหลากสีออกมาขวางพายุหมุน
เสิ่นว่านชิงเห็นเช่นนี้จึงสีหน้าผ่อนคลายลง เขาตะโกนลั่น สิบนิ้วเคลื่อนไหวรวดเร็วส่งเคล็ดวิชาสายแล้วสายเล่าลงบนร่างมังกรเพลิงเบื้องหน้า
เปลวเพลิงบนร่างมังกรเพลิงมั่นคงขึ้นเล็กน้อย หัวใหญ่ยักษ์อ้าปากพ่นเปลวเพลิงลำหนาเข้าใส่ปีศาจหมีรอยแผลดาบที่อยู่เบื้องหน้า
เสิ่นว่านชิงกับสยงอู่ผู้ประเดิมศึกคู่แรกของทั้งสองฝ่ายผลัดกันรุกรับหลายกระบวนในชั่วพริบตา เนื่องจากต่างคนเริ่มลงมือก็ใช้ไพ่ตายออกมาทันที การต่อสู้จึงรุนแรงอลังการดึงดูดสายตาของทุกคนไว้
สิ่งที่ไม่มีใครสังเกตก็คือนับตั้งแต่การประลองเริ่มต้น เส้นไหมแวววาวเรียวเล็กที่ยากจะมองเห็นด้วยตาเปล่าเส้นแล้วเส้นเล่ากำลังแผ่ออกมาจากเอวของเสิ่นว่านชิงเข้าไปในร่างของสยงอู่ จนกระทั่งถึงตอนนี้เส้นไหมแวววาวเพิ่งหยุดลอยออกมา
ผู้ฝึกฝนแซ่ซุนที่ชมการต่อสู้อยู่ไกลๆ ดวงตาเปล่งประกายเล็กน้อยก่อนจะฟื้นกลับมาสภาพเดิมทันที
ปีศาจหมีรอยแผลดาบดวงตาเปล่งประกายวูบหนึ่ง มือยิงเคล็ดวิชาค้อนสายหนึ่งออกมา ค้อนยักษ์สีดำที่ลอยวนอยู่กลางอากาศเปล่งแสงสีดำสว่างจ้าออกมาอีกหนก่อนจะกลายเป็นเงาหมียักษ์สีดำตัวหนึ่งพุ่งเข้าชนเปลวเพลิงที่มังกรเพลิงพ่นออกมา
หมียักษ์สีดำร้องคำราม แม้ร่างกายอ้วนท้วนจะถูกเปลวเพลิงผลักให้ถอยหลังไปทีละน้อย แต่มันก็ยังขวางเปลวเพลิงเอาไว้ได้
ปีศาจหมีรอยแผลดาบหัวเราะหยันแล้วยกดัชนีหนึ่งขึ้นจี้
กระดิ่งสีดำกลางอากาศส่งเสียงใสกังวานขึ้นอีกครั้ง คลื่นเสียงที่แผ่ออกมาหนากว่าเดิม
มังกรเพลิงร้องครวญคราง เปลวเพลิงบนร่างที่เพิ่งสงบพุ่งออกไปรอบด้านอีกหน ร่างกายมหึมาเริ่มสั่นเทา
เสิ่นว่านชิงก็ตัวสั่นเช่นกัน เลือดสายน้อยปริ่มออกมาจากมุมปาก
ปีศาจหมีรอยแผลดาบฉวยโอกาสนี้อ้าปากพ่นแสงสีดำเส้นหนึ่งลงบนกระดิ่ง สองมือทำท่ากดลงมาอย่างแรง
“ทลาย!” เสียงตะโกนดุดันดังขึ้น!
กระดิ่งสีดำแผ่แสงสีดำเส้นแล้วเส้นเล่าออกมาแล้วสั่นไหว แสงสีดำก่อตัวเป็นเงากระดิ่งสีดำขมุกขมัวขนาดหนึ่งจั้งกว่าเงาหนึ่ง