ตำนานเทพกู้จักรวาล Tales of Herding Gods - ตอนที่ 717 วัวแก่
หนึ่งร้อยลี้ห่างจากจุดศูนย์กลางการระเบิด ฉินมู่ปีนไต่ขึ้นมาจากหลุมยักษ์ ทั้งหมดสภาพและหมดแรง เสื้อผ้าของเขาขาดวิ่นไปหมด และเขาก็ตบดับไฟที่ยังคงลุกไหม้อยู่ตามร่างกาย ไฟเหล่านั้นส่งเสียงฉี่ๆ และส่งกลิ่นหอมเนื้อย่างออกมาขณะที่เผาเนื้อเขา
เมื่อเขาใช้พลังมารชีวาจุดไฟสวรรค์ก่อนหน้านี้ ก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
โชคยังดีว่า เขายังคงระแวดระวัง และใช้สะเก็ดสายพลังมารชีวาเพียงเส้นเดียวเพื่อขับเคลื่อนไฟสวรรค์ ดังนั้นการระเบิดจึงไม่ร้ายแรงเกินไป มันเพียงแค่เป่าเขากระเด็นไปร้อยลี้
แม้กระนั้น เขาก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจากการระเบิด โชคดีที่ว่า เขาได้ฝึกปรือวิชาเสกสรรของจักรพรรดิแดงฉานและจักรพรรดิแสง เขาจึงรักษาชีวิตเอาไว้ได้
แดนใต้พิภพเป็นมรรคามาร และแดนปริศนาเป็นมรรคาเทพ หากว่าข้าใช้ปราณมารใต้พิภพเพื่อจุดสันดาปไฟสวรรค์แดนปริศนา ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องผิดพลาด
เด็กหนุ่มดับไฟมารที่จุดติดอยู่บนร่างของเขา และเหลียวหลังกลับไป มีรูใหญ่มากมายบนเสื้อผ้าของเขา ที่เผยก้นขาวจั๊วะไปครึ่งหนึ่ง
เสื้อผ้าพวกนี้ตัดเย็บโดยอวี่จ้าวชิงและผู้เชี่ยวชาญแห่งเผ่าขนนกสวรรค์ มันพอดีตัวเป็นอย่างยิ่ง และขนาดของมันสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ตามผู้สวมใส่ มันถึงกับสามารถเปลี่ยนสีสันตามอารมณ์ของเขา ดังนั้นมันจึงมิได้เรียบง่ายเกินไปนัก
เขาสวมใส่มันอยู่ตลอดเวลา แต่บัดนี้เขาสวมใส่มันไม่ได้อีกต่อไป
ข้ามีแต่ต้องไปตามหาพี่สาวอวี่ให้ช่วยตัดเย็บขึ้นมาอีกหลายชุด
เขาเหาะขึ้นไปบนท้องฟ้า และรู้สึกถึงอากาศเย็นที่พัดเป่าผ่านก้นเปลือย
ฉินมู่กลับไปที่จุดศูนย์กลางการระเบิดและพบไจกระบี่ ระหว่างการระเบิดก่อนหน้า เขาได้เล็งพลังงานอัคคีไปยังไจกระบี่ของเขา ดังนั้นไจกระบี่ของเขาจึงต้านรับทั้งไฟมารและไฟสวรรค์ เขาไม่รู้ว่ามันจะพังลงไปจากการถูกเผาและการระเบิดหรือไม่
“เอ๋–”
ฉินมู่ร้องเบาๆ ด้วยความแตกตื่นเมื่อพบว่าไจกระบี่ของเขาหดลงไปอีกหลายเท่าอีกครั้ง มันเหลือเพียงขนาดเท่ากำปั้น แต่เขาไม่รู้ว่าส่วนที่หายไปนั้นระเหิดหายหรือว่ามันหดย่อเข้าไปจากการถูกขัดเกลากันแน่
ในตอนนั้นเอง ไจกระบี่ก็เปล่งแสงนวลตาออกมาราวกับมุกเรืองแสง แสงเรืองนั้นไม่เข้มข้นจนเกินไป แต่เหมือนกับน้ำไหลอันไหลรินอยู่รอบๆ ไจกระบี่ งำประกายเอาไว้และไม่ปลดปล่อยออกมา ทำให้ไจกระบี่ดูเหมือนจะก่อขึ้นมาจากแสง
เขายื่นมือออกไปคว้าจับไจกระบี่ไว้ในมือ และมันหนักอึ้งอย่างมหาศาล น้ำหนักของมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากก่อนหน้า อันแปลว่าการระเบิดของไฟมารและไฟสวรรค์มิได้ทำให้ไจกระบี่ระเหิดมวลไป
ฉินมู่ตะลึงเล็กน้อย การขัดเกลาผสานไฟเทวะและไฟมาร สามารถขัดเกลาไจกระบี่ให้ถึงขีดขั้นที่ไหลดุจสายน้ำได้ แต่ทว่า ด้วยการระเบิดอันดุเดือดจากการปะทะของไฟสวรรค์และไฟมาร ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ ที่มันยังคงถูกขัดเกลาจนไหลดุจสายน้ำได้ในสถานการณ์แบบนี้
เขาคว้าจับไจกระบี่ด้วยกำลัง และข้างในไจกระบี่ กระบี่บินก็ราวกับแสงไหลที่เล็ดลอดออกมาผ่านง่ามนิ้วของเขา พวกมันบิดโค้งและไหลไปตามใจคิดของเขา
แสงกระบี่นี้ทั้งนิ่งสงบและลี้ลับ มันกรีดผ่านท้องฟ้าโดยปราศจากเสียง และเมื่อเขาฟาดฟันไปด้วยความเร็ว ก็ไม่มีเสียงกระบี่หวีดหวือแหวกอากาศ ความเงียบงันนี้ช่างน่าสะพรึงกลัว
กระนั้น เมื่อฉินมู่แตะแสงกระบี่แต่แผ่วเบา เขาก็สัมผัสได้ถึงพื้นผิวอันเย็นเยียบจากตัวใบกระบี่
คุณลักษณะนี้แสดงว่าความยืดหยุ่นของกระบี่ได้บรรลุถึงขั้นลื่นไหลดุจสายน้ำ พละกำลังของตัวใบกระบี่ก็สูงล้ำอย่างผิดธรรมดา!
ความยืดหยุ่นและพละกำลังของไจกระบี่ได้บรรลุถึงขั้นสมบูรณ์แบบ!
วิชาหลอมสร้างและตีเหล็กของข้ายังไม่ถึงขั้นนี้เลย แม้แต่ท่านปู่ใบ้ก็อาจจะไม่สามารถบรรลุถึงขั้นนี้ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เมื่อคนอื่นๆ หลอมสร้างสมบัติวิเศษ หากว่าพวกเขาทำสำเร็จ ก็หมายความว่าทำสำเร็จและไม่จำเป็นต้องไปสืบสาวราวเรื่องว่าสำเร็จขึ้นมาได้อย่างไร กระนั้นสถานการณ์เช่นนี้ทำให้ฉินมู่ยิ่งสนอกสนใจและใคร่รู้
ข้าสงสัยว่ามันจะทื่อง่ายหรือไม่
ฉินมู่คุ้ยหาในถุงเต๋าตี้ของเขา และหาระฆังฌาปนกิจสวรรค์พบ ระฆังฌาปนกิจสวรรค์เป็นสมบัติแห่งแดนบาดาล ในโลกหยินสวรรค์ ศิษย์แดนบาดาลเคยใช้สมบัติชิ้นนี้เพื่อโจมตีเขา และทำให้เขายุ่งยากไม่ใช่น้อย
ระฆังฌาปนกิจสวรรค์เป็นสมบัติที่เทพเจ้าหลอมสร้างขึ้นมา และมันก็ถูกสร้างขึ้นด้วยเหล็กหยินสวรรค์ คล้ายกับไจกระบี่ในมือของฉินมู่ แต่ไจกระบี่ของฉินมู่มีส่วนผสมของโครเมี่ยมแดงพุทธชีวาอยู่
ฉินมู่ยกระฆังขึ้นและใช้ปากระฆังหมุนบดใส่ไจกระบี่ ผ่านไปนาน เขาก็เห็นชิ้นส่วนเล็กๆ ร่วงลงมาจากปากระฆัง แต่ไจกระบี่ยังคงอยู่ดีไร้ริ้วรอย
ความทนทานของมันก็สูงล้ำ!
ฉินมู่ตกตะลึง ในด้านวิชาหลอมสร้างนั้น เขาฝีมือล้ำเลิศก็จริง แต่ก็ยังห่างชั้นกับชิ้นงานในมือมาก
นี่เป็นฤทธิ์เดชของไฟสวรรค์และไฟมารหรือ มันอาจจะเป็นเช่นนั้น แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่การระเบิดก่อนหน้าจะสร้างความร้อนเข้มข้นและแรงกระแทกอันผิดธรรมดา
ฉินมู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย การระเบิดสามารถใช้เพื่อทุบกลึงและหลอมสร้าง? ทำไมท่านปู่ใบ้ไม่เคยสอนข้าเรื่องนี้มาเลย…ช้าก่อน! เมื่อหลอมสร้างสมบัติวิเศษ พวกเราจะต้องทุบฟาดมันด้วยค้อนซ้ำๆ ในระหว่างกระบวนการทุบกลึง โรงงานผลิตใช้ยักษ์พยนต์ขนาดมหึมาเงื้อค้อนฟาดทุบ ระเบิดออกไปด้วยแรงกดอัดหลายล้านชั่งในเสี้ยววินาที แต่ทว่า เทพเจ้าอย่างท่านปู่ใบ้สามารถเพิ่มพูนแรงกดอัดไปร้อยเท่าพันเท่ามากกว่าที่ยักษ์พยนต์จะสามารถทำได้! ในเสี้ยววินาทีที่ค้อนของเขาฟาดลงไป อุณหภูมิก็จะสามารถเพิ่มขึ้นถึงระดับพื้นผิวดวงอาทิตย์ แต่ทว่า การระเบิดก็สามารถส่งผลคล้ายคลึงกันได้ และมันอาจจะสร้างแรงกดอัดที่สูงล้ำกว่านั้นเสียอีก!
ดวงตาเขาเป็นประกาย และเขาเดินกลับไปกลับมา เขากล่าวด้วยเสียงเบา “การระเบิดเมื่อไฟสวรรค์และไฟมารพุ่งชนกันนั้นได้สร้างอุณหภูมิและแรงกดอัดสูงลิ่วที่แม้แต่เทพเจ้าอย่างท่านปู่ใบ้ก็ทำไม่ได้ ดังนั้นไจกระบี่ของข้าจึงถูกขัดเกลาถึงขั้นสมบูรณ์แบบในเสี้ยวพริบตา! การหลอมสร้างสมบัติวิเศษด้วยการระเบิดนั้นมีความเป็นไปได้สูงมาก!”
นิ้วทั้งห้าของฉินมู่กางออกมา และไจกระบี่ก็พลันสั่นสะเทือนและแยกออกจากกันเป็นกระบี่แปดพันเล่ม ปลายกระบี่ทั้งหมดชี้เข้าไปยังจุดศูนย์กลางของทรงกลม
หัวใจเขาเคลื่อนคล้อย และไจกระบี่ก็หายวับ แปรเปลี่ยนไปเป็นมีดยาวสองเล่ม ฉินมู่ควงมีดและลองร่ายรำลมฝนราตรีถล่มเมือง แต่เขาสามารถร่ายรำไปได้เพียงแค่ครึ่งกระบวนท่าก็ต้องหอบหายใจอย่างหนักหน่วง เขาแทกจะทรุดลงไปกองกับพื้น
ไจกระบี่นี้หนักเกินไป ข้าใช้ปราณชีวิตควบคุมมันก็ยังพอทำเนา แต่ข้าไม่อาจถือมันไว้ด้วยมือตนเองได้ แม้แต่กระบวนท่าเดียวข้าก็ร่ายรำไปไม่ออก
ฉินมู่เคลื่อนใจอีกครั้ง และมีดยาวสองเล่มก็หายวับ พวกมันประกอบกลับเข้ามาเป็นไจกระบี่ขนาดเท่ากำปั้น และเขาก็วางมันลงไปในถุงเต๋าตี้ แต่ทว่า นั่นก็มีแต่เพิ่มแรงกดดันให้กับเข็มขัดของเขา และเอาแต่จะรั้งกางเกงของเขาให้ตกลงไป
ทหารยามแห่งเมืองหลวงสังเกตเห็นการระเบิดที่นี่ และขี่นกขนดำหงอนแดงรีบรุดมา เมื่อพวกเขาเห็นฉินมู่ในเสื้อผ้าขาดวิ่น พวกเขาก็ตื่นตระหนกและรีบถาม “ใต้เท้าฉิน เกิดอะไรขึ้นที่นี่”
ฉินมู่โบกมือและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เรื่องเล็กน้อย พวกเจ้าไม่ต้องกังวล ข้าจะกลับไปที่โรงงานผลิตแม่น้ำโคลนก่อน พวกเจ้ากลบหลุมที่เกิดจากการระเบิดให้ด้วย” หลังจากที่กล่าวเช่นนั้น เขาก็เดินมุ่งหน้าไปยังดรงงานผลิต
ทหารยามหันไปมองกันไปมาด้วยความหนักอึ้ง และเห็นใต้เท้าฉิน ผู้ซึ่งโด่งดังไปทั่วทั้งเมืองหลวง กำลังเดินไปอย่างกะโผลกกะเผลก และเมื่อเขาเดินไป ก็ถึงกับเผยแก้มก้นขาวๆ ครึ่งหนึ่งด้วย
“พวกเราจะเอาเสื้อให้ใต้เท้าปิดก้นไหม” ทหารคนหนึ่งถามด้วยเสียงเบา
ผู้เป็นหัวหน้าลังเลและส่ายศีรษะ “ข้าได้ยินว่าใต้เท้าฉินก็เป็นช่างตัดเย็บคนหนึ่ง และในช่วงที่เขามาใหม่ๆ ถึงกับมีชนชั้นสูงไปตามหาเขาให้ช่วยตัดเย็บเสื้อผ้า เสื้อผ้าชุดนี้คงจะเป็นหนึ่งในชุดพิเศษของใต้เท้าฉิน เขาตั้งใจตัดเย็บออกมาเป็นชุดขอทาน…”
เมื่อฉินมู่กลับไปยังโรงงานผลิต เขาก็ส่ายหัวเมื่อเห็นกิเลนมังกรยังคงนอนแผ่ขาชี้ไปรอบๆ อยู่กับพื้น
ศิษย์แห่งโถงวิศวกรรมในโรงงานผลิตรีบนำเสื้อผ้าชุดหนึ่งออกมามอบให้และกล่าว “จ้าวลัทธิ พวกเราไม่มีเสื้อผ้าดีๆ ที่นี่ พวกมันเป็นเสื้อผ้าธรรมดาที่ตับเย็บจากผ้าหยาบ จ้าวลัทธิโปรดทนใช้มันไปก่อน”
ฉินมู่สวมใส่เสื้อผ้าและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้ากำลังวางแผนที่จะทดลองบางอย่าง ดังนั้นจึงไม่ต้องใช้เสื้อผ้าดีเกินไปนัก ช่วยเตรียมให้ข้าอีกหลายชุด ข้าอาจจะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกหลายครั้งในภายหลัง จริงสิ หัวหน้าโถงวิศวรกรรมอยู่ที่นี่หรือไม่ เรียกเขาให้มาที่นี่โดยเร็ว!”
ศิษย์โถงวิศวกรรมรีบไปรายงานหัวหน้าโถงวิศวกรรมที่เข้ามาและถามด้วยความแตกตื่น “จ้าวลัทธิวางแผนว่าจะทำอะไรหรือ”
“หลอมสร้างสมบัติวิธีพิเศษด้วยการระเบิด!”
เดิมทีหัวหน้าโถงวิศวกรรมอยู่ที่สุสานแม่น้ำ และกำลังหลอมสร้างเรือตะวันกับเรือจันทราด้วยกันกับราชครูและจักรพรรดิ ปัญหาในการหลอมสร้างถูกแก้ไขแล้ว ดังนั้นเขารีบนั่งเรือเหาะเร็วมาที่นี่เมื่อได้ยินข่าว เขามาถึงในที่สุดตอนพลบค่ำ
ฉินมู่ หัวหน้าโถงวิศวกรรม และศิษย์โถงวิศวกรรมมากมายเดินเข้าไปในโรงงาน หลังจากนั้นสิบวัน มีเสียงระเบิดดังออกมาจากข้างในโรงงานผลิตอย่างไม่หยุดหย่อน และมันทำให้บ้านเรือนในเมืองหลวงสะท้านสั่นไหวไปหมด ผู้คนโมโหเดือดดาล
ในที่สุด จักรพรรดินีและรัชทายาทก็ไม่อาจนิ่งเฉยได้อีกต่อไป และรีบรุดมาที่โรงงาน เมื่อพวกเขามาถึง พวกเขาก็เห็นผู้ฝึกวิชาเทวะมากมายยืนล้อมรอบเตาหลอมใหญ่ที่สูงกว่าสิบห้าวา อักษรรูนทุกชนิดถูกตราประทับเอาไว้บนเตาหลอม
เตาหลอมนี้แตกต่างไปจากเตาหลอมทั่วไป มันไม่มีช่องเปิดถ่ายเทอากาศ และด้านนอกเตาหลอมมีอักษรรูนอัคคีทุกชนิดฝังประทับเอาไว้อยู่ โครงสร้างของพวกมันก็เพริศแพร้วพิสดารอย่างสุดแสน
“จักรพรรดินี องค์ชาย!”
หัวหน้าโถงวิศวกรรมใบหน้าเต็มไปด้วยเขม่า และเขาก็รีบคารวะทักทายทั้งสอง “ถึงกับทำให้จักรพรรดินีและรัชทายาทแตกตื่น ข้าน้อยสมควรตาย!”
จักรพรรดินีกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าเห็นพวกเจ้าก่อการระเบิดจากที่นี่ทุกวี่วัน และมันก็อึกทึกครึกโครมเสียจนผู้คนไม่ได้นอนกันเต็มตา ดังนั้นข้าจึงมาที่นี่เพื่อชมดู ใต้เท้าฉินอยู่ที่ไหนล่ะ คราวนี้เขาให้พวกเจ้าทำเรื่องประหลาดพิสดารอะไรอีกแล้ว”
“จ้าวลัทธิได้จากไปยังชายแดนใต้ เขากล่าวว่าเขากำลังไปหาหัวหน้าเผ่าอวี่เพื่อตัดเย็บเสื้อผ้าชุดใหม่”
หัวหน้าโถงวิศวกรรมชานโหยวซิ่นกล่าวด้วยรอยยิ้ม “จ้าวลัทธินำการทดลองหลอมสร้างสมบัติด้วยการระเบิดมาให้กับพวกเรา เตาหลอมนี้ใช้ในการหลอมสร้างสมบัติด้วยการระเบิด จักรพรรดินี องค์ชาย เตาหลอมนี้สามารถหลอมสร้างเทพศาสตราให้พร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว บนเตาหลอมนี้คืออักษรรูนนกหงส์แดง และไฟสวรรค์ หลังจากจุดสันดาปพวกมัน การระเบิดทรงพลังก็จะผลักให้ค้อนข้างในเตาหลอมทุบฟาดลงไปในยังโลหะเทวะ จากนั้นมันก็จะสำเร็จการหลอมสร้างภายในฟาดทุบเดียว นับว่ารวดเร็วอย่างสุดกู่!”
หลิงอวี้ชู้และจักรพรรดินีล้วนแต่ตกตะลึง พวกเขาร้องออกมา “หลอมสร้างเทพศาสตราสามารถเสร็จเร็วขนาดนี้ได้ด้วยหรือ”
ชานโหยวซิ่นยิ้มกล่าว “การขัดเกลาโลหะเทวะนั้นเป็นงานยากยิ่ง และโรงงานผลิตแม่น้ำโคลนเป็นไม่กี่แห่งที่สามารถขัดเกลาโลหะเทวะได้ แม้กระนั้น พวกเราก็มีกำลังผลิตต่อวันในการขัดเกลาโลหะเทวะได้ไม่มาก เพื่อที่จะหลอมสร้างเทพศาสตรา เทพเจ้าทั้งหลายในสันตินิรันดร์ก็ต้องต่อแถวรอกันตั้งแต่ปีนี้ถึงปีถัดถัดไป! แต่ทว่า ด้วยเตาหลอมเช่นนี้ พวกเราจะสามารถขัดเกลาโลหะเทวะที่เทพเจ้าเหล่านั้นต้องการใช้ภายในชั่วระยะเวลาสองเดือน!”
หลิงอวี้ชู้นึกขึ้นได้ถึงที่จักรพรรดิเอี้ยนเฝิงสั่งความเอาไว้ และเขาก็รีบถาม “แล้วหินยาที่ต้องใช้ในการจุดเตาล่ะ ใช้มากไหม จ้าวลัทธิฉินมักจะมือเติบ และปืนใหญ่เทวะยิงตะวันที่เขาหลอมสร้างก็สิ้นเปลืองหินยามากเกินไป จากที่พระบิดาบอก ในอดีตนั้น หลังจากยิงออกไปหนึ่งดอก พระบิดาก็หลับไม่ลงไปสามเดือนด้วยความรวดร้าวใจ”
ชานโหยวซิ่นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “การเผาผลาญของมันนั้นไม่มากเกินไปนัก ใช่แล้ว มันไม่ได้มากมายเกินไปนัก…”
ที่แม่น้ำหลี่ ฉินมู่ไปพบอวี่จ้าวชิงและขอให้นางช่วยตัดเย็บเสื้อผ้าหลายชุด นางรีบรวบรวมผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายในเผ่าขนนกสวรรค์และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “องค์ชาย ข้าได้เลี้ยงหนอนไหมเอาไว้ในสถาบันและค้นพบวัตถุดิบที่ดีไม่น้อยจำนวนหนึ่ง องค์ชายวางใจได้เลย ข้าจะต้องตัดเย็บให้กับท่านอย่างล้ำเลิศที่สุด องค์ชายต้องการฉลองพระองค์มังกรหรือไม่”
ฉินมู่รีบส่ายหัวไปมาและกล่าว “อย่าล้อข้าเล่น ข้าไม่ได้กะจะก่อกบฏ”
อวี่จ้าวชิงรู้สึกเสียดายเล็กน้อยและกล่าว “ข้าสามารถตัดเย็บเผื่อเอาไว้สองชุด ให้ท่านใช้ในยามจำเป็น”
ฉินมู่ส่ายหน้าและจากไปเพื่อตามหาอธิการบดีป้าซาน ศิษย์พี่และศิษย์น้องคู่นี้นั่งอยู่ในโถงเพื่อดื่มสุรา ฮู่หลิงเอ๋อก็อยู่ในแดนใต้ และนางกำลังฝึกวิชาอยู่กับเซียนจิ้งจอก เมื่อนางได้ยินข่าว นางก็รีบวิ่งมาและร้องคร่ำครวญขอสุรา และก็ได้เห็นกิเลนมังกรอัดกระทืบวัวเขียวอยู่ข้างนอกโถง วัวร้องมอๆ อย่างน่าเวทนา
“พี่สาวใหญ่ ข้าก็เป็นพี่น้องร่วมสาบานของท่านนะ ช่วยข้าด้วย!” วัวเขียวร่ำร้อง
ฮู่หลิงเอ๋อส่ายหัวและเมินเขา นางเผ่นแผล็วเข้าไปในโถงเพื่อร่วมดื่มกับฉินมู่และป้าซาน
หลังจากหลายวัน อวี่จ้าวชิงก็ตัดเย็บเสื้อหลายชุดเสร็จสิ้น และฉินมู่ก็พึงพอใจมากหลังจากที่ได้ลอง เขาจึงใช้ด้ายเงินและด้ายทองเพื่อตกแต่งเสื้อผ้าด้วยอักษรรูนไฟสวรรค์และอักขระใต้พิภพ
อักษรรูนทั้งสองสามารถรับประกันได้ว่าเสื้อผ้าของเขาจะไม่ถูกทำลายเมื่อต้องเผชิญกับการระเบิดระดับนั้นอีกครั้ง
“องค์ชาย ในช่วงวันเวลาที่ผ่านมานี้ ชาวเผ่าขนนกเริ่มจะคิดถึงมาตุภูมิของพวกเขา และพวกเขาก็คิดเสมอว่าอยากจะกลับไปยังโลกขนนกสวรรค์”
อวี่จ้าวชิงถามหยั่งฉินมู่อย่างระมัดระวัง และนางก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ในสันตินิรันดร์ไม่มีภัยพิบัติอีกต่อไป น่าจะได้เวลาที่ครุ่นคิดถึงโลกมิติอื่นหรือไม่”
ฉินมู่เข้าใจความนัยของนางและกล่าวตอบ “ตอนนี้สันตินิรันดร์เพิ่งจะมั่นคงดี และก็มีหลายอย่างที่ต้องรอให้แล้วเสร็จ จักรพรรดิยังคงไม่มีกำลังทหารมากพอที่จะใช้ช่วงชิงโลกขนนกสวรรค์กลับคืนมา โลกขนนกสวรรค์เหมือนกับแดนโบราณวินาศ ตอนกลางวันปกติดี แต่ในตอนกลางคืน ความมืดจะรุกรานเข้าไป ในเมื่อความมืดยังไม่ถูกปราบปราม ทำไมพี่สาวถึงไม่รออีกสักพักล่ะ เมื่อเทพีหยินสวรรค์สามารถขจัดภัยแฝงเร้นทั้งหมดในโลกหยินสวรรค์ได้ พวกเจ้าก็จะสามารถกลับไปในโลกขนนกสวรรค์ได้อย่างแน่นอน”
อวี่จ้าวชิงได้แต่กล่าว “ข้าจะรอข่าวดีจากองค์ชาย”
ฉินมู่วาดแผนที่ภูมิประเทศแล้วกล่าว “หัวหน้าเผ่าสามารถพาคนหนุ่มสาวแห่งเผ่าขนนกสวรรค์ไปยังโลกหยินสวรรค์ก่อน เทพีหยินสวรรค์กำลังขาดแคลนกำลังคนอยู่ในขณะนี้ และหากว่าเจ้าไปที่นั่น ก็จะได้รับความสำคัญจากเทพีหยินสวรรค์เป็นอย่างสูง และก็จะมีผลประโยชน์ตามมามากมาย เมื่อเผ่าพันธุ์อื่นๆ เริ่มที่จะอพยพเข้าไป พวกเขาจะไม่ได้รับผลประโยชน์มากขนาดนั้น ข้ายังคงต้องมุ่งหน้าไปยังยมโลก ข้าเกรงว่าคงไม่มีเวลาที่จะพาพวกเจ้าไปที่นั่น”
อวี่จ้าวชิงลิงโลดยินดี และนางก็รีบจากไปเพื่อจัดการตามที่ฉินมู่บอก
ฉินมู่กล่าวลาอธิการบดีป้าซานและฮู่หลิงเอ๋อ ก่อนที่จะมุ่งหน้าตรงไปยังแดนโบราณวินาศ
เมื่อเขาไปยังแดนโบราณวินาศ เขาก็เข้าไปในยมโลกและปล่อยให้กิเลนมังกรรออยู่ข้างนอก แต่ทว่า เขาไม่เจอตี้อี้เยว่และเถียนฉู่ ยมโลกยังคงดูเหมือนเดิมและไม่มีอะไรเปลี่ยนไป
หรือว่าพี่สาวตี้อี้เยว่จะยังคงหาราชาสวรรค์เถียนฉู่ไม่เจอ
ฉินมู่พิศวงสงสัย และเขาก็ขึ้นเรือของนักพรตหลิงจิ่งออกไปจากยมโลก เขาเห็นกิเลนมังกรฟกช้ำไปทั้งตัว ยับเยินจนดูไม่ได้
ฉินมู่รีบถามเขา และกิเลนมังกรก็กล่าว “ข้าไปเจอกับวัวแก่ที่กำลังไถนาอยู่ เขาดูหน้าตาคล้ายกับวัวเขียว ดังนั้นข้าจึงคิดจะรังแกสักหน่อย แต่สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการถูกกระทืบกลับมา”
ฉินมู่ตกตะลึงและถาม “วัวแก่นั้นอยู่ที่ไหน”
กิเลนมังกรพาเขาไปเพื่อล้างแค้น และพวกเขาก็มายังถึงขอบทุ่งนากว้างใหญ่หลายทุ่ง จากที่ไกลๆ ฉินมู่สามารถมองเห็นวัวแก่นั่งอยู่ข้างใต้ร่มไม้ ขาหลังของมันงอชันเหยียบพื้นไม้เหมือนคนนั่ง ขณะที่กีบเท้าหน้ากำลังถือกล้องยาสูบอยู่ มันพ่นควันขาวปุ๋ยๆ ออกมาอย่างสบายใจพลางทอดสายตามองทุ่งนานด้วยดวงตาอันหรี่ปรือ
ข้างๆ มันคือโต๊ะหินเล็กๆ และบนโต๊ะหินมีน้ำชาที่กำลังต้มอยู่
ฉินมู่เดินเข้าไปคารวะทักทาย “พี่ทางเต๋า”