ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi - ตอนที่ 153 สงครามมากราโด ⑤ หลายการสมคบคิด
- Home
- ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi
- ตอนที่ 153 สงครามมากราโด ⑤ หลายการสมคบคิด
153 สงครามมากราโด ⑤ หลายการสมคบคิด
—————————————————————
【–มุมมอง บุคคลที่สาม–】
วงล้อมท่าแรนเดล แคมป์มากราโด
ข้างในเต็นท์ บนเนินเขาที่ยกสูงขึ้นมานิดหน่อย ที่ไว้มองดูท่าแรนเดล ผู้บัญชาการของกองทัพมากราโด ที่มีส่วนร่วมในการตีวงล้อม ตะโกนใส่กันในอะไรที่เรียกว่าการประชุมสงครามนี้
「ศัตรูชิงความได้เปรียบจากหมอก และใกล้กับ 10,000 ลงพื้นมาแล้ว การตีวงล้อม ได้พังทลายลงไปแล้ว เราควรจะกระจายกำลัง และตั้งแถวป้องกัน」
มองดูไปที่ท่าแรนเดล ด้วยสีหน้าที่บูด บาลิสต้าที่ติดตั้งบนกองหิน ที่ทำจากเศษหินของกำแพงเมืองที่อันตราย และพลธนู ที่ตั้งแคมป์กันอยู่ในห้องของทุกบ้าน มันชัดเจนว่ามันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว ที่จะพึ่งพาแต่กำลังของจำนวน ที่จะเอาชนะ
「พูดอะไรน่ะ?! ถ้าเราถอย ศัตรูบนชายฝั่งตะวันตก จะเดินหน้าทันที! ในการต่อสู้ที่สนาม กับศัตรูที่มีจำนวนกำลังพลเท่ากัน…… นายคิดว่านายเอาชนะกองทัพ ที่นำโดยลอร์ดฮาร์ดเลตต์ได้เรอะไง?」
「มันไม่ได้หมายความว่า ทัพเรือของเราถูกหยุดไว้ ถ้าพวกมันลงพื้นได้อีกเหรอ?」
「โง่ชิบหาย เหตุผลที่มันอยู่กันในท่าแรนเดล มันเพราะเราอยู่ที่นี่กันนั่นแหละ ถ้าเราถอยตอนนี้ พวกมันจะมุ่งหน้าเข้าไปที่ฐานทัพเรือและเผามันทิ้ง ถ้านั่นเกิดขึ้น มันจะข้ามมากี่ครั้งที่มันต้องการก็ได้」
「พวกมันได้แยกแนวหน้าเราออกไปเดี่ยวๆ และกำจัดพวกเขา ตามแผนการลงพื้นไปทางทิศใต้ แต่ด้วยภูมิอากาศที่ดีขึ้นแล้ว พวกมันถูกเลี่ยงจากการลงพื้นไปมากกว่านี้ เราไม่ควรจะคาดหวังถึงกำลังเสริมที่เพิ่มขึ้น……」
「ตั้งแต่ทีแรก ข่าวลือแพร่ไป เกี่ยกับความไร้ความสามารถของพวกเรา และที่เราดิ้นรนที่จะสู้กับทหารแค่ 10,000 เดียว ระหว่างที่เรานั้นมี 30,000」
「มันช่วยไม่ได้…… แม้ว่ามันอาจจะการเป็นชิ้นๆแล้วตอนนี้ ท่าแรนเดลคือเมืองที่มีกำแพง ดังนั้นคนที่สมควรเป็นไพ่ตายของเราซึ่งก็คือทหารราบหนัก ไม่สามารถที่จะออกแรงได้เต็มที่」
「ถ้าเราตีวงล้อมต่อไป เสบียงอาหารและกระสุนเราจะไม่หมดเหรอ?」
「เราควรจะมีอาหารเหลืออยู่เยอะในเมือง นอกจากนี้ ระหว่างที่ทัพเรือของเรา อาจจะสามารถที่จะบล็อคการขนส่งใหญ่ได้ เราจะไม่สามารถที่จะเลี่ยงการเคลื่อนไหวเล็กๆ ภายใต้การปกคลุมของความมืดได้ เพราะทั้งหมด เราอยู่ในน้ำไม่ได้ตลอด」
การปรึกษาหยุดลง และความเงียบงัน ที่ไม่น่าพึงพอใจ เติมเต็มบริเวณนี้
「……ถ้าเรา รักษาสถานการณ์ที่กินกันไม่ลงนี้ไว้ได้ เราาจะสามารถสร้างสันติได้มั้ย?」
ผู้บัญชาการที่นำเรื่องสันติมาคุยถูกทิ้งระเบิดด้วยพายุของคำกร่นด่าทันที
「การเพิ่มภาษีแะเกณฑ์ทหารก่อนเริ่มสงคราม มันไปกระตุ้นพลเมืองของเรา ไม่ใช่เหรอ? ถ้าเราไปสร้างสันติง่ายๆ เราจะโดนแขวนคอ」
「ไม่มีทางเลย ที่ฝั่งโกลโดเนียจะยอมรับ ราชาของประเทศนั้นมันเลือดเย็นและโลภมาก เค้าจะไม่หยุด แม้ว่าหลังจากที่ได้รวมประเทศเราแล้ว」
「สำหรับตอนนี้ เราต้องรอดู แค่โจมตีชุดเล็กๆซ้ำๆ และหาจุดอ่อของศัตรูเถอะ เราจะทำการโจมตีตอนกลางคืน ถ้าเรามีโอกาส」
「เดาว่านั่นเป็นทางเลือกเดียว……」
「น่ารำคาญเสียจริง……」
ในท้ายที่สุด มีทติ้งจบลง ยืนยันได้ ว่าไม่มีอะไรที่จะทำได้ ในสถานะปัจจุบันนี้ และพวกเขาควรจะทำอะไรที่พวกเขาทำกันจนถึงจุดนี้ต่อไป สถานการณ์นั้น ไม่ได้ภัยพิบัติ แต่ไม่ได้หมายถึงว่ามันดีด้วยเช่นกัน ทุกคนเข้าใจ ว่าแม้แต่ความผิดพลาดที่เล็กน้อย จะนำพวกเขาไปสู่ความแพ้พ่าย
—————————————————————
อาณาจักรมอลต์ เมืองหลวง: เบียโด
ชายตัวใหญ่ เดินอยู่ในฮอลล์ของวัง แต่ร่างกายที่กล้ามเป็นมัด แกะสลักมานั้น ยกตัวเองด้วยการนำมือไปไว้ที่กำแพง เซไปเซมาช้าๆ และไม่มั่นคง ยามวังที่ลาดตระเวนอยู่เห็นชาย และยืนเคารพด้วยความตกใจ
「ท่านผู้นำ บรูตัส ท่านกลับมาแล้วเหรอครับ!?」
「ใช่ เพราะทั้งหมด ชั้นไปนอนอยู่อย่างเดียวไม่ได้」
บรูตัส นำมือออกมาจากกำแพง และยืนหลังตรง ทหารที่ได้เห็นนั่น เชื่อใจว่าเขาฟื้นแล้ว และผ่อนคลายสีหน้าของพวกเขา
「ชั้นมีธุระที่ต้องไปทำ ดังนั้นชั้นจะไปของชั้น ทำหน้าที่ต่อไป!」
「เยสเซอร์!」
เมื่อทหารจากไป บรูตัสพักแขนของเขาไว้ที่กำแพงอีกครั้ง หายใจอย่างหนัก
「ท่านผู้นำ! ท่านต้องไม่ฝืนตัวนะคะ!」
คนที่มายกไหล่เขาคือเลขาของเขา เขาซ่อนสภาพจากสาว ผู้ที่ดูแลความต้องการรายวันของเขาไม่ได้
「อาการบาดเจ็บของท่าน ไปถึงเครื่องใน ปรกติแล้วมันต้องใช้การพักหนึ่งเดือน……」
「ไม่มีเวลาสำหับเรื่องนั้น พระองค์พาโบลได้รวมทหาร…….ไอ้บ้านั่นมันมีแผนอะไรอีก?」
พาโบลอาจจะคิดกับตัวเอง ว่าต้องทำบางอย่างในฐานะผู้บงการการกบฎ แต่เขาเข้าใจความไร้ความสามารถของพาโบลด้วย สุดท้ายท้ายสุดแล้ว เขาพยายามจะใช้พาโบล เพื่อนำประเทศไปสู่ทิศทางที่ดีกว่า และไม่มีความเคารพหรือความรักจริงๆกับพาโบลเลยซักนิด
「หนูไม่รู้ ไม่มีใครที่คาดเดายาก ไปกว่าคนที่คิดเหมือนไอ้คนที่เกิดมาเพื่อโง่อีกแล้ว」
ในท้ายที่สุดแล้ว ทั้งสองคน ไปถึงห้องส่วนตัวของพาโบล
「พระองค์! ได้โปรดหยุด มันเจ็บค่ะ!」
「หุบปาก! กูจะฉีดมึงด้วยเมล็ดพันธุ์ขุนนางของกู ดังนั้นมีความสุขและรับมันไปซะ อีกระหรี่!」
「กย้า–!! หยุดน้าาาาาาา!!」
「ขออภัย พระองค์」
เมินเสียงกรีดร้องในห้อง บรูตัสเคาะอย่างดังไปที่ประตู หลังจากที่ได้ยินเสียงด่าทอหลังประตู สิ่งต่างๆเงียบไป และเมดออกจากห้อง
เสื้อผ้าฉีกขาด และหน้าบวมจากการโดนตบ บริเวณต้นขาย้อมเป็นสีแดง ไม่ได้ดูเหมือนเลือดจากการเปิดบริสุทธิ์ แต่แทงที่จะเป็นอย่างนั้น มันเป็นเลือดจากบางคน ที่ได้ใช้มีด เพื่อทำให้เธอบาดเจ็บ เธอร้องไห้ วิ่งหนีไป
「จึ……มันกำลังดีเลย……นุ บรูตัส ในที่สุดนายก็ลุกขึ้นมาแล้วเหรอ? อ่อนแอจังวะ」
「ขออภัยสำหรับความไร้ประสบการณ์ของผม」
「งั้น ต้องการอะไร? ต้องมีเหตุผลดีๆ ที่มาขัดความสนุกชั้นนี่ ใช่มั้ย?」
สีหน้าของบรูตัสยังคงเป็นอย่างเดิม เขาโกรธแค่เมื่อบางอย่าง ทรยศความคาดหวังของเขา
「ครับ ผมได้ยินมาว่า ทหารรวมกันในเมืองหลวง ในนามของประองค์ และท่านก็ได้ขอให้เกณฑ์ชาวนาด้วย ดงนั้น ผมแค่อยากจะให้พระองค์บอกผม ว่าอะไรเกิดขึ้น」
พาโบลสดใสขึ้นทันที
「อุมุ ทำได้ดีนี่ที่รู้! จริงๆแล้ว แค่เมื่อวันก่อน มากราโด ส่งผู้ส่งสาส์นมาที่นี่」
「มากราโด…… ท่านว่า?」
มากราโดอยู่ทางเหนือ และไม่ได้เชื่อมต่อกับมอลต์โดยพื้นดิน ดังนั้น แทบไม่มีความสัมพันธุ์ระหว่างประเทศของพวกเขาเลย พลเมือง ไม่ได้แม้แต่จะรู้ถึงตัวตนของแต่ละประเทศกันเลย
「นั่นใช่แล้ว! นายต้องได้รู้เกี่ยวกับสงคราม ระหว่างโกลโดเนียกับมากราโด แม้ว่าจะอยู่บนเตียงตลอดเวลาหนิ ใช่มะ? โกลโดเนียรับความพ่ายแพ้ทที่ยับเยินในการต่อสู้ครั้งแรก และมันเป็นแค่เรื่องของเวลา ก่อนที่มมันจะโดนกระทืบ ดังนั้น มันเป็นโอกาสดี ที่ประเทศเราจะขยายดินแดนไง! ชั้นจะรับดินแดนทางเหนือ ที่เป็นของไอ้ฮาร์ดเลตต์น่ารำคาญนั่นด้วยตัวชั้นเองเลย!」
บรูตัส รู้สึกว่าหัวของเขา ว่างเปล่าไปวินาทีหนึ่ง เขาต้องไปเช็คสองรอบ ว่าเขานั้น แก่ไปแล้วหรือ
「ฮ่าฮ่าฮ่า! แกรับใช้กองทัพสภาพอย่างนั้นไม่ได้หรอก! ชั้นจะสั่งการเป็นการส่วนตัว และขยี้ไอเหี้ยนั่น ถ้าชั้นเพิ่มความสำเร็จของชั้นได้นะ ไอ้พวกคนอื่น มันจะได้รู้ไง ว่าชั้นน่ะ เป็นราชาที่เหมาะสมกว่าไอ้ฮิลาริโอ!」
「พระองค์ นั่นจะไม่เกิดขึ้น! ผมจินตนาการถึงบางอย่าง เหมือนมากราโดมอบความพ่ายแพ้อย่างยับเยินเหมือนที่ท่านว่าไม่ได้นะครับ……」
เขาไปเชื่ออะไรที่ได้พูดกันเกี่ยวกับประเทศ ในเรื่องสงครามโดยไม่สงสัย และไม่สืบอะไรเลย บรูตัส ประเมินสมองน้อยๆของพาโบลต่ำเกินไป นั่นทำไม พาโบลพูดบางอย่างที่รีบ และไม่มีเหตุผลและไม่มีตรรกะเอาซะเลย
「หุบปาก! ไอ้ฮาร์ดเลตต์……ชั้นแน่ใจ ว่าเค้าไม่อยู่บ้านตอนนี้! ถ้าชั้นโจมตีตอนนี้ ข้ากลืนทุกอย่างได้เว่ย! อาการบาดเจ็บ ทำให้แกขี้ขึ้นหัวด้วยอ๋อไงวะ บรูตัส!?」
「แม้ว่าจะเป็นอย่างที่ท่านว่า โกลโดเนียจะปะทะกับเรา เมื่อสงครามจบลงนะครับ!」
「เงียบ เงียบโว้ย! ไม่ใช่มึงบอกเองไง ว่าจังหวะมันสำคัญในการรบกันอ่ะ!? ตอนนี้มันเป็นเวลานั้นหรอกเว้ย ดังนั้น ขี้ขึ้นหัวก็แค่ไปนอนดูดนมเมียไป้!」
ในที่สุด พาโบลก็ได้ไล่บรูตัสออกไปจากห้อง หลังจากที่บรูตัสและเลขาของเขาออกจากห้องแล้ว เสียงของบางอย่างที่พังเสียหาย สามารถได้ยินมา จากข้างในห้อง
「แม้ว่าเราควรจะเป็นคน ที่รู้สึกเหมือนอยากทำลายบางอย่าง」
เลขาถอนหายใจ
「เฮลวี่ นี่มันแย่แล้ว」
「ค่ะ ลอร์ดฮาร์ดเลตต์ แน่นอนอย่างที่สุดว่าจะไปมีส่วนร่วมในแคมเปญทหาร และจะเตรียมตัวไม่พอเพียง ดังนั้น เราอาจจะสามารถยึดราเฟนได้ ถ้าสิ่งต่างๆ เป็นไปได้ดี…… อย่างไรก็ตาม-」
「ลอร์ดฮาร์ดเลตต์เป็นขุนนางผู้นำที่ยิ่งใหญ่ในโกลโดเนีย ถ้าเราไปยึดดินแดนเค้ามา เค้าจะบินกลับมาหาเรา อาละวาดในความโกรธ ด้วยกันกับกองทัพโกลโดเนีย เมือสงครามกับมากราโดจบลง」
「แม้แต่กองทัพที่ตั้งอยู่ของโกลโดเนีย กำลังยังมีมากกว่า 10,000 มันผิดที่จะเทียบประเทศของเรากับของเค้าตั้งแต่ทีแรก」
อาณาจักรมอลต์ มีกองทัพอยู่ 2000 แต่รวมมาได้ 10,000 เมื่อถึงเวลาจำเป็น แม้ว่า มันจะเป็นการผสมปนเปของพลเมืองและทหาร
「นอกจากนี้……ท่านเซเลสติน่าซามะน่าจะอยู่ที่นั่นด้วย」
ทั้งเฮลวี่และบรูตัส ไม่ได้เกลียดเซเลสติน่าเเป็นพิเศษ พวกเขาแค่มั่นใจ ว่าประเทศจะกลายเป็นซากปรักหักพังในแบบนี้ที่มันเป็นไป และนำเธอออกจากตำแหน่งของอำนาจ
ยังมีทหารอยู่มากมาย ผู้ที่รู้สึกผิดกับเซเลสติน่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าทหารเหล่านั้น ได้ไปอยู่ต่อหน้าเธออีกครั้ง ไม่ต้องพูดถึงประเทศที่ไม่มีเหตุผลที่ยุติธรรมที่จะหยุดพวกเขาแล้วในครั้งนี้
「เรียกทหาร เราจะหยุดพวกเค้ามากที่สุดเท่าที่เราทำได้ ประเทศเราจะกลายเป็นซาก ถ้าเราได้ไปสู้กับโกลโดเนีย」
เราให้พวกเขาเชื่อ ถึงชัยชนะที่แน่นอน ที่ถูกประกาศออกมาจากผู้ส่งสาส์นจากมากราโดไม่ได้ แทนที่จะเป็นอย่างนั้น มันพิจารณาได้อีกว่า มันเป็นสัญญาณที่ไม่ดีแล้ว ถ้าพวกเขา ส่งผู้ส่งสาส์นมาสู่ประเทศเล็กๆ ที่อยู่ไกลออกไป
「หนูจะทำเท่าที่หนูทำได้」
แต่งานที่หนักของดูโอ้ ออกมาเป็นความว่างเปล่า ไม่กี่วันหลังจากนั้น พาโบลประกาศว่าบรูตัสออกจากตำแหน่งเพราะไม่อยู่ เพื่อใช้เวลาพฟิ้นตัวจากอาการบาดเจ็บ และจะถูกระงับจากหน้าที่กองทัพชั่วคราว
—————————————————————
ระหว่างการปะทุสงคราม — ตอนเริ่ม แม่น้ำเทียรี่เหนือ: แม่น้ำเบซิน
「กัปตันรีด กระแสน้ำช้าที่นี่ มาทิ้งสมอแล้วรอเถอะครับ」
「อุมุ มาทำอย่างนั้นกัน」
คาร์เกส แบทเทิลชิพขนาดกลางของทัพเรือมากราโดลดสมอ และหยุดเคลื่อนไหว ระวังตัวที่จะไมถูกใครเห็นจากข้างหน้า
「แต่ มันจะมาจริงๆเหรอ?」
「ข้อมูลนี้มาตรงจากฐานทัพ ดังนั้น มันต้องแม่นยำ」
ปรกติแล้ว มันจะไม่มีเวลาว่าง ที่จะมาอนุญาตให้แบทเทิลชิพ เล่นไปทั่ว ระหว่างที่พวกเขาอยู่ท่ามกลางสงครามกับโกลโดเนีย อย่างไรก็ตาม มีเหตุผลที่ทำไมคาร์เกสได้มาที่ที่ไกลจากปฏิบัติการลงพื้นของศัตรูแบบนี้
「คร้งสุดท้าย เราปล้นสะดมปืนธนูสมรรถนะสูง พร้อมด้วยทองหลายพัน」
「เพราะทั้งหมด ตั้งแต่สงครามเริ่ม เราได้ล่าเรือพ่อค้าแม้ค้าโกลโดเนียอย่างกล้าๆ」
มากราโด อาจจะไม่ได้เหนือกว่า ในกองกำลังพื้นดิน แแต่พวกเขาท่วมท้นโกลโดเนียบนน้ำ อย่งเป็นธรรมชาติ โกลโดเนีย หยุดใช้แม้น้ำเพื่อทำการค้าขาย แต่มีเรือสำเภาไม่กี่ลำ ที่พยายามจะแอบบนน้ำ เป็นไปได้ว่าน่าจะเพื่อพัฒนากำไรที่ย่ำแย่ของพวกเขาบนพื้นดิน ถ้าพวกเขาสามารถได้รับของที่สำคัญแบบนั้นมา ถ้าอย่างนั้น มันมีเหตุผลเพียงพอ ที่จะส่งแบทเทิลชิพได้
คาร์เกสแม้แต่จัดการกับแบทเทิลชิพใหญ่ของโกลโดเนีย ในการต่อสู้เมื่อปีที่แล้ว ปรกติแล้ว มันเป็นการใช้ทรัพยากรผิดพลาด ที่จะล่าเรือสำเภา แต่ภารกิจครั้งนี้นั้นพิเศษ
「สงครามใช้เงินเหมือนไม่มีอะไรเลย ดังนั้นเมื่อเป็นประเทศที่จนกว่า เราควรจะหาเงินจากโกลโดเนียให้มาก เท่าที่จะเป็นไปได้」
กัปตันยิ้ม จากนั้น คนเฝ้าระวังตะโกนอย่างดัง
「พวกเค้ามาจากข้างหน้า! เรือพอค้าใหญ่……พร้อมด้วยท้องเรือจมเยอะ! พวกมันขนคาร์โก้มาเต็มลำ」
「ถ้างั้น มันอยู่นี่แล้ว! ธง ยืนยันธงดิ้!!」
「……ธงเป็น……สหพันธรัฐโอลก้า มันไม่ใช่แค่บนเสากระโดง แต่มีสองธงบนหัวเรือกับท้ายเรือ!」
「ธงเกินจำเป็น……ไม่ต้องสงสัย มันเป็นเรือลำนี้」
ปรกติแล้วเรือจะขึ้นธงเดียว ที่ตำแหน่งที่โดดเด่นที่สุด — เสากระโดง — เพื่อที่จะแยกแยะตัวมันเองจากประเทศอื่น มันแปลกมาก ที่จะมีธงที่หัวเรือและท้ายเรือ
คาร์เกสได้ถูกส่งออกมา เพื่อมีเป้าหมายไปที่เรือนี้โดยเฉพาะ มันควรจะมีเหรียญทองเป็นหมื่น และแท่งทอง แพ็คอยู่บนเรือขนส่งนี้ นำทุนสงคราม จากบริษัทในสหพันธรัฐ มาสู่ฐานทัพในโกลโดเนีย เรือโบกธงสหพันธรัฐโอลก้า เพื่อเลี่ยงการถูกโจมตี แต่แน่นอน ว่ามันเป็นเรือของโกลโดเนีย
「ยอดเยี่ยม อย่างที่ข้อมูลมันบ่งบอก ไม่ต้องสงสัย……เรือคุ้มกันลำเดียว ก็เป็นที่ถูกบอกด้วย」
「เครือข่ายข้อมูลของฐานทัพมันน่าประทับใจ」
กัปตันยิ้มอย่างร่าเริงให้ต้นหน
「มันดูเหมือนพวกเค้ามีสายลับซ่อนอยู่ในหัวใจขอโกลโดเนีย……ทั่วไปแล้ว มันเป็นพ่อค้าที่โลภมาก แต่มันไม่ใช่ธุระเราแล้ว ที่จะสืบไปมากกว่านี้」
「เดาว่าอย่างนั้น เรามีแค่หน้าที่เดียวที่ถูกแต่งตั้งมาให้เรา นั่นก็คือแก้แค้น โดยนำชัยชนะ มาให้ประเทศของเรา!」
「โว่ว นั่น เราจะไม่จมเรือไหนในครั้งนี้ เราจะปล่อยให้ตัวเรือเองนั้นไม่เสียหาย ระหว่างที่สังหารหมู่คนพวกนั้นที่อยู่บนเรือ มันเสียเปล่า ที่จะให้ทองนั้นจมไป」
การได้รับมาซึ่งทองจำนวนมาก จะเป็นการโจมตีใหญ่สู่โกลโดเนีย และมันจะมีความหมายมากกว่าสองเท่า ถ้ามันถูกขโมยมาจากพวกเขา
「เข้าสู่ตำแหน่ง เราจะเข้าข้างเขาทันที และกระโดดขึ้นเรือ!」
「พร้อมเครื่องดีดหินและบาริสต้า! อย่างไรก็ตาม ห้ามใช้ไฟ ได้ยินมั้ย? เราขึ้นเรือติดไฟไม่ได้」
กะลาสีเคลื่อนที่ทันที และคาร์เกสเริ่มเดินหน้า ตอนแรก พวกเขาแทบจะไม่เคลื่อนไหว แต่เรือสำเภา เข้ามาใกล้ในไม่นาน
「ไอ้พวกนี้มันไม่ได้แม้แต่จะหนีเลย โง่ชิบหายเลยว่ะ!」
「พวกมันต้องรู้สึกปลอดภัยกับธงปลอมๆของพวกมัน ตอนนี้ เอานรกให้มันแดก!」
คาร์เกส เข้าใกล้จนเกือบจะสัมผัสเรืออื่น และลูกเรือบนเรือพ่อค้า ทั้งหมดจ้องอย่างว่างเปล่าในความตกใจ
「ยิง!」
ลูกบอลเหล็ก ดีดออกไปจากเครื่องดีดอิน และลูกธนู ลงไปที่ดาดฟ้าเรือเป็นห่าฝน
「อุว้า! พวกมันยิงเรา!」
「ทำไมล่ะ?! เราคือ……เกี๊ยะ!!」
ลูกเรือวิ่งในความตื่นตกใจ พยายามจะหนีจากการโจมตี
「ฮึ่ม เราจะฆ่าไอ้พวกบัดซบโกลโดเนีย พวกมันไม่มีเจตนาจะสู้เลย ขึ้นเรือ!」
「โออออออ้—-!!」
ทหารใช้เชือกเพื่อที่จะช่วยให้เขาไต่ไบนเรือพ่อค้า เรือที่ทำหน้าที่เป็นคนคุ้มกัน ไม่ทำอะไรเพื่อหยุดผู้รุกราน
「ชั้นจะไปด้วย! เพราะทั้งหมดทหารอาจจะแอบเอาทองไปให้ตัวเอง」
「ฮ่าฮ่าฮ่า งั้นได้โปรดเลี้ยงผมทีหลังเมือกัปตันได้ขโมยมันทั้งหมดแล้วนะ」
ไม่เหมือนทหารคนอื่น รีดกระโดดขึ้นเรือด้วยเชือกอย่างราบรื่น และไมต้องใช้ความพยยาม ทักษะที่ได้ขัดเกลามาหลายปี เพื่อที่จะได้เป็นกัปตัน ยังไม่เสื่อมลงไป
การฆ่าได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว บนสนามรบที่เคลื่อนที่ได้การที่ไม่มีอาวุธและมีข้ออ้างที่น่าสงสาร เกี่ยวกับอาวุธและชุดเกราะไม่ช่วย ลูกเรือถูกฟันตาย ทีละคนตามๆกัน
「กัปตันรีด! มันจะไม่นาน ก่อนเราจะจัดการเรียบร้อย」
「อุมมุ แต่ทองคืออะไรที่สำคัญที่สุด ชั้นไม่ถือ ถ้านายจุดไฟใส่เรือ ระหว่างที่ขนทองไปกับนาย รีบเข้าแล้วหามัน!」
「เยสเซอร์! ผมได้แต่งตั้งหลายคนเมื่อกี้ เพื่อที่จะหาท้องเรือด้วย!」
「ชั้นจะปล่อยมันให้นายนะ ชั้นจะอาละวาดที่นี่!」
หลังจากที่ได้พูดอย่างนั้น รีดหยิบดาบของเขา และฟันลูกเรือในการวาดดาบทีเดียว
「อีคนโกลโดเนียลูกกระหรี่ อย่าคิดนะว่ามึงจะไปถึงฝั่งพร้อมชีวิต!」
「ไอ้ระยำ……มึงจะหนีเรื่องนี้ โดยไม่ได้รับบทลงโทษไปไม่ได้! ชื่อกูเกี่ยวพันกับตระกูลอเรนสกี้!」
「มึงยังพูดอยู่อีก? ไอขี้โม้หน้ากี!」
ลูกเรือที่ใส่เสื้อผ้าที่ดูแพงถูกฟันตาย แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ การบอกตัวเองว่าเป็นเรือมาจากประเทศ ที่เป็นประเทศอื่น เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งมันทำให้ศักดิ์ศรีของกะลาสีเรืออับอาย การเป็นกะลาสีเรือเต็มเลือดแบบเขาเอง รีด ซ่อนความโกรธของเขาไว้ไมได้
ดาดฟ้าเรือเปลี่ยนเป็นนรกซักพัก และในที่สุด ก็เปลี่ยนเป็นทะเลเลือด พร้อมด้วยลูกเรือส่วนใหญ่ที่ถูกฟันตาย
「มันเกือบจะจบแล้ว หือ? แต่พวกนั้นมันทำอะไรอยู่ที่ท้องเรือวะ? ถ้าพวกเค้าไม่รีบ พระอาทิตย์จะตกดิน」
รีดไปนั่งอยู่บนศพลูกเรือที่ตาย และเกาอย่างเบื่อหน่าย จากนั้น เขาได้ยินเสียงฝีเท้าไต่บันไดที่นำไปสู่ท้องเรือมา
「นานจริงๆ……โอ้เอ้อะไรกันอยะ-」
「ปัญหาใหญ่แล้ว กัปตัน!!」
กะลาสีทั้งหมดดูป่วยอย่างมาก เหมือนพวกเขากำลังจะอาเจียน
「มีอะไร? อย่าบอกชั้นนะว่า ไม่มีทอง……」
「ท้องเรือมนเต็มไปด้วยถังไวน์! เหตุผลที่เรือมันจบลึกก็เพราะนั่น!」
ลูกเรือส่งกระดาษชิ้นหนึ่งให้เขาด้วยมือที่สั่น รีดฉกกระดาษ เพื่อที่จะอ่านเอง
「เอกษารภาษีซื้อขาย ออกจาก เวเรค……ถึงมิชิล <วายุ: เมืองหลวงของสตูร่า>……คาร์โก้……ถังไวน์」
รีดโยนชิ้นกระดาษไป และพุ่งเข้าไปในห้อง ซึ่งปรากฏว่าเป็นสำหรับกัปตันของเรือ เขาค้นห้อง และทำลายโต๊ะ ที่มีลิ้นชักที่ล็อคด้วยดาบของเขา จากนั้นเอาของข้างในออกมา
「เจอแล้ว! ใบพิสูจน์ความเป็นเจ้าของเรือของเรือ!………..อะไระ นรกอะไรวะเนี่ย! เหี้ยเอ้ย!!」
ชิ้นกระดาษ ถูกเป่าไปด้วยลมแรงที่พัดมา และหายไปในท้องฟ้า
[เชื้อชาติของเรือ: เรือสำเภาสหพันธรัฐโอลก้า เจ้าของเรือ: บารอน อเรนสกี้ ชื่อเรือ: ลูซิทาเนีย]
เรือ ที่คิดวาเป็นเรือคุ้มกัน ได้หันหัวเรือไป ละเดินเรือไกลออกไปอย่างช้าๆแล้ว แต่ลูกเรือของคาร์เกสทั้งหมด ดูตกตะลึงจนโง่ไป และไม่ได้ดูเหมือนจะมีพลังงาน เพื่อที่จะออกไปไล่ตาม
—————————————————————
ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 22 ปี ฤดูใบไม้ร่วง เวลาสงคราม
ผู้บัญชาการกองทหารที่สาม
ทีมลูกน้อง: 42,700
ท่าแรนเดล
กองทัพอาณาจักร: 6400
ชายฝั่งตะวันออก
กองทัพส่วนตัว: 8000 (หน่วยที่ถูกพามาเพื่อต่อสู้เท่านั้น)
ทหารราบ: 2500, ทหารม้า: 500. พลธนู: 700, ช่าง: 300, ทหารม้าธนู: 4000 ปืนใหญ่: 10 (ของแท้ 1)
กองทัพของอาณาจักร – 2 เหล่า: 20,300
กองทัพลอร์ดบริวารเพื่อนบ้าน: 8000
ไม่ได้อยู่ภายใต้การบัญชาการของตัวเอกอย่างเคร่งครัด
เพิ่มเติม – ทีมป้องกันราเฟน : 1000
ลูกน้องกองทัพ:
ลีโอโพลต์ (รองผู้บัญชาการสูงสุด), ซีเลีย (ผู้ช่วย, บาดเจ็บ), ไมล่า (ผู้บัญชาการ), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ, บาดเจ็บ), ลูน่า (ผู้บัญชาการของทหารม้าธนู), ปีปี้ (ท้องของผู้หญิงตั้งท้อง), ทริสตัน (เฝ้าบ้าน), กิโด้ (อาการสาหัส)
ตำแหน่งปัจจุบัน: ท่าแรนเดล
ความสำเร็จ: ยึดท่าแรนเดล
—————————————————————
ขอบคุณสำหรับเงิน 100 บาท
แปลโดย: wayuwayu
เป้าหมายเดือน 10/66
ค่าเน็ต 100/200
กาแฟ 0/300
คอมใหม่ 0/2000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
ถ้าท่านชอบและอยากอ่านเพิ่ม โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปลด้วยนะครับ ซื้อตอน จองตอน แจ้งได้ทาง Facebook ครับ