ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) - ตอนที่ 39
“ขอบอกไว้ก่อน ว่าผมไม่ได้อยากเป็นนักฆ่า”
ผมพูดแบบนี้กับผู้มาเยือน
ถึงมองไม่เห็นชื่อของอีกฝ่าย แต่ชื่อกับฉายาของอีกฝ่ายล้วนเป็นสีน้ำเงิน อีกทั้งด้านหน้าสุดยังมีคำว่า ‘เรดลีฟ’
นี่อธิบายได้เพียงเรื่องเดียว คือเขาเป็นสมาชิกสมาคมปริศนาเรดลีฟเหมือนกับผม
ตามข้อมูลที่ฟาลันเคยให้มา จะมีคนของเรดลีฟติดต่อกับผมตอนกำลังฝึกฝน และดูแล้วคนเป็นคนคนนี้
ทว่าสิ่งที่ผมพูดเป็นความจริง แม้ผมจะฆ่านักฆ่าคนนั้นทันที แต่ยังไงอีกฝ่ายก็เป็นถึงนักฆ่าบ้าเลือดไปแล้ว ฆ่าเขาไปก็ถือเป็นการขจัดทุกข์บำรุงสุข
“ยูอน คือว่า…”
ผมเพิ่งหันศีรษะไปคิดจะพูดอะไรกับยูอน แต่หันกลับไปก็พบว่าอีกฝ่ายหนีไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
แล้วไม่นานการแจ้งเตือนก็ส่งมาอย่างรวดเร็วว่าอีกฝ่ายออกจากขอบเขตเพื่อนร่วมทีมแล้ว
ช่างเถอะ ยัยนี่หนีเร็วจริงๆ
“เพื่อนเจ้าคนนั้นไปแล้ว”
“ผมรู้แล้ว”
ผมส่ายศีรษะอย่างจนใจ
ดูเหมือนยัยนี่คงมีอาชีพร่วมทีมกับคนแปลกหน้าสินะ สู้เสร็จก็ไป แม้แต่ร่ำลาก็ยังไม่มี
ทว่าก็ไม่เป็นไร ยังไงซะเควสต์ของพวกเราก็สำเร็จแล้ว
แต่คนตรงหน้า…
เขาต้องแข็งแกร่งแค่ไหนถึงทำให้ผมเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่กลับมองไม่เห็นบนมินิแมพ?
ผมไม่รู้ เพราะเลเวลของอีกฝ่ายสุดยอดเกินไปแล้ว
“ดูเหมือนคุณจะรู้ตัวตนของผมแล้ว แต่คุณหาผมเจอได้ยังไง? ที่นี่ไม่ได้เล็กๆ นะ”
“ถ้าผู้รับผิดชอบเรดลีฟหาสมาชิกไม่เจอล่ะก็ ตำแหน่งข้าคงเสียเปล่าแล้ว”
“งั้นเหรอ แต่ที่จริงคุณหาผมเจอจากรอยสักบนตัวผมนี่?”
“…เฮ้อ”
อีกฝ่ายถอนหายใจ
“ถึงเป็นแบบนั้นจริงเจ้าก็ไม่ต้องพูดออกมาตามตรงก็ได้ ให้เกียรติข้าบ้างไม่ได้เหรอ?”
“มีแค่เราสองคน ผมให้เกียรติคุณไปจะมีประโยชน์อะไร?”
“เด็กสมัยนี้ไม่สนใจคนแก่เลย น่าเสียใจจริงๆ”
“เฮ้ๆ คุณก็ไม่ได้แก่เท่าไหร่นี่?”
หมอนี่สวมชุดหมวกคลุมศีรษะสีดำ จนผมแทบคิดว่าเอซิโอ1 โผล่มาตรงหน้าผม ยิ่งกว่านั้นหมอนี่ยังมีหน้าตาเหมือนคุณอาคนยุโรปอีกด้วย
ทว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ ผมเลยทิ้งความคิดไปทันที
“อะแฮ่ม ถึงเจ้าชมข้าข้าก็ไม่ดีใจหรอก”
“เปล่านะ ผมแค่พูดความจริง”
“…เอาล่ะ เด็กสมัยนี้ก็ยังมีเด็กที่ใช้ได้อยู่! ข้าชอบ!”
“ขอโทษที ผมไม่ใช่เกย์”
“เกย์?”
“อย่าใส่ใจเลย มันเป็นคำท้องถิ่นของผม แปลว่าคนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของความเป็นผู้ใหญ่ หมายถึงคนแบบคุณ”
“ฮ่าๆๆ ไม่ต้องห่วง สักวันเจ้าก็จะเป็นเช่นกัน”
ไม่ ผมจะไม่มีวันเป็นอย่างคุณ
ทว่าผมไม่ได้พูดคำนี้ออกมา เพราะผมคิดว่าเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่จบไม่สิ้น
หวังว่าเขาจะไม่แพร่ศัพท์นี้ออกไปนะ ไม่งั้นมันคงเปลี่ยนโลกของเกย์ไปแน่
“เอาล่ะ ไม่พูดเรื่องไร้สาระแล้ว”
คุณน่ะพูดเรื่องไร้สาระมาเยอะแล้ว
“ชื่อของข้าคือ ‘โทนี่ เคราต์’ ข้าว่าฟาลันคงบอกเหตุผลที่ข้ามาหาเจ้าแล้ว?”
“เธอบอกว่าจะมีคนติดต่อผม เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเรดลีฟ”
“อืม ฟาลันมีชื่อเสียงในองค์กรไม่เบาทีเดียว ในเมื่อนางบอกว่าเจ้าใช้ได้ก็คงไม่มีปัญหา แต่ข้าก็คิดเช่นนั้น นี่เป็นกุญแจติดต่อของเจ้า สามารถใช้มันเข้าถึงเทอร์มินัลระบบของพวกเราได้”
โทนี่หยิบคริสตัลรูปร่างประหลาดออกมาให้ผม พอรับมาดู สิ่งสิ่งนี้ดูเหมือนจะสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ตามใจชอบ
และรูปร่างหนึ่งในนั้นก็ดูเหมือนรูเสียบบนเทอร์มินัลเวทมนตร์ในห้องสมุดของสถาบัน!
“แต่มันไม่ได้ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าสามารถใช้แบบปิดบังตัวตนได้จะดีที่สุด ถึงของสิ่งนี้จะไม่ทิ้งร่องรอยการใช้งานของเจ้า แต่คงยากจะเลี่ยงไม่ให้ยอดฝีมือพบเจ้าได้ แม้เทอร์มินัลเวทมนตร์จะเพิ่งพัฒนาได้สองปี แต่ในบรรดาคนที่วิจัยและศึกษาพวกมันก็มีคนที่เก่งกาจอยู่ไม่น้อย”
พูดตามตรงก็คือแฮคเกอร์ของโลกนี้สินะ? แต่ผมคิดว่าคนที่คิดค้นเทอร์มินัลเวทมนตร์ได้ต้องเป็นคนจากโลกของผมแน่ ยังไงซะโลกใบนี้ก็มีมาหลายพันปีแล้ว ทำไมถึงเพิ่งเกิดระบบจำพวกอินเตอร์เน็ตในสองปีนี้ล่ะ
ทว่านี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
“แต่ฟาลันให้ของสิ่งนี้กับผมเลยก็ได้ ทำไมต้องตั้งใจให้ผมออกมาด้วย?”
“เรื่องนั้นเหรอ มันเป็นธรรมเนียมในองค์กร อย่างไรซะก็ไม่อาจให้คนเพียงคนเดียวรู้จักเจ้า ยิ่งกว่านั้นมันก็ดีไม่ใช่เหรอ ข้ายังได้ช่วยเจ้าจัดการคนที่รับมือยากอีกด้วย เขาแข็งแกร่งกว่าพวกเจ้าสองคนมาก ถึงเจ้านี่จะมีรางวัลนำจับสองหมื่นเหรียญทอง แต่ว่า…”
“สองหมื่น!”
บ้าเอ๊ย ทำไมผมไม่รู้เรื่องนี้!
“ทำไมผมถึงไม่รู้ล่ะ!”
“เอ๋? เจ้าไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องตามล่าเขางั้นเหรอ?”
“เพราะ…เพราะเขาฆ่าเพื่อนในสถาบันของผมน่ะสิ!”
ผมไม่บอกคุณหรอกว่าผมยังมีเควสต์อื่นอีก
“อย่างนี้นี่เอง แต่นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะร่วมมือกับนักฆ่าสมาคมอื่น เคยเป็นคนรู้จักกันเหรอ?”
“ก็ไม่ใช่หรอก ก็แค่เคยติดต่อกันเท่านั้น”
เจอกันครั้งหน้าต้องให้ยัยนั่นจ่ายเงินรางวัลสักหน่อยแล้ว!
“แหม แต่ข้าก็เห็นการต่อสู้เมื่อครู่ของเจ้า ด้วยระดับของเจ้าในตอนนี้สามารถใช้เวทมนตร์รวมกับอาวุธได้ถึงขั้นนี้ก็ไม่เลวแล้ว แต่เจ้าปิดบังความแข็งแกร่งของเจ้าไว้หน่อยรึเปล่า ข้ารู้สึกว่าความแข็งแกร่งของเจ้าดูสูงกว่าตอนแรกนิดหน่อย”
“นิด…หน่อยแหละ”
ที่จริงผมเลเวลอัพน่ะ บอกคุณไปคุณก็ไม่เชื่อหรอก
“เอาล่ะ ภารกิจของข้าก็นับว่าเสร็จสิ้นแล้ว คราวหน้าเจ้าก็ทำภารกิจกับฟาลันให้ดีแล้วกัน”
“แน่อยู่แล้ว แต่ก่อนไปคุณบอกผมสักเรื่องได้ไหม?”
“อ้อ? อะไรเหรอ?”
“คุณรู้ทางกลับไปแถวเรือเหาะของสถาบันผมไหม?”
“…”
1.1 พระเอกของเกม Assassin’s Creed