ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) - ตอนที่ 15
ฉายา : ความไม่ระมัดระวัง อัพเป็นเลเวล 3 ความต้านทานเพิ่มขึ้น 30 แต้ม
บ้าเอ๊ย เวลาแบบนี้แกก็ไม่ลืมแขวะฉันใช่ไหม! สารเลวเอ๊ย!
“นายกำลังโชว์แสดงสีหน้าเหรอ? ทำไมเดี๋ยวก็ตื่นเต้น เดี๋ยวก็โกรธ เดี๋ยวก็ดูเหมือนจนปัญญาล่ะ…”
เดลพูดอย่างประหลาดใจ
“อ่า? ฮ่าฮ่าฮ่า เปล่า คือว่า…ของฉันน่าจะเป็นสายน้ำแข็งนะ”
พูดจบ ผมก็ชักดาบอัศวินออกมา จากนั้นก็ใช้อัญเชิญดาบน้ำแข็ง
ดาบสีฟ้าปรากฏอยู่ในมือของผมอีกครั้ง ตัวดาบส่องแสงมันเงาเจือจาง ไอเย็นหลั่งไหลช้าๆ ไปตามแขนของผม
“โอ้ เวทมนตร์ประเภทเสริมเหรอ? ถ้าสามารถเสริมพลังไปบนดาบได้ ก็เสริมบนอาวุธอื่นได้ด้วยใช่ไหม?”
“ฉันไม่เคยลองน่ะ”
“อืม…”
เดลคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็วิ่งไปอีกห้องอยู่นาน แล้วหยิบกล่องใบเล็กมาใบหนึ่ง
“อันนี้…น่าจะเป็นของที่ถือว่าใกล้เคียงกับปืนที่สุดแล้ว”
อีกฝ่ายถือกล่องเล็งไปยังเทียนไขที่อยู่ห่างไกล เสียงดังปัง เทียนไขกลายเป็นสองส่วนในพริบตา มีดขนาดเล็กก็ปักอยู่บนกำแพง
“มันคืออาวุธลับเหรอ?”
“ลองดูสิ”
ผมยกเลิกดาบเวทมนตร์ในมือ แล้วรับกล่องใบนั้นมา
ผมทำตามวิธีใช้อัญเชิญดาบน้ำแข็งก่อนหน้า โดยเรียกอยู่ในใจ
…
“ไม่ตอบสนองเลย?”
ผมโยนกล่องไปบนโต๊ะแล้วพูด
“เอ๊ะ…คงได้แค่ดาบสินะ?”
เดลพูดด้วยความเสียดายอยู่บ้าง
“ไม่แน่…เมื่อกี้ฉันเพิ่งลองดู ดูเหมือนบนของนี่จะมีคำอธิบายว่าไม่สามารถร่ายเวทได้ เพราะงั้นเลยไม่ได้สินะ?”
“ร่ายเวทไม่ได้เหรอ…เอาเถอะ งั้นนายลองหนังสือเวทมนตร์ก่อนแล้วกัน”
ครั้งนี้หมอนี่ไม่ต้องรื้อค้น ก็หยิบหนังสือสามเล่มมาจากบนตู้ออกมาทันที
“นี่เป็นเวทน้ำแข็งระดับต่ำ เวทน้ำแข็งระดับกลางและเวทน้ำแข็งระดับสูง แค่มองก็น่าจะเรียนได้ใช่ไหม?”
“อืม”
ผมรับหนังสือสามเล่มนั้น แล้วเปิดตามลำดับ ผ่านไปครู่หนึ่ง ระบบก็แจ้งเตือนขึ้นมา
เวทน้ำแข็งระดับต่ำ : ทักษะธนูน้ำแข็ง ความชำนาญ 0/10 ใช้มานา 30 หน่วย
สกิลต่อไปปลดล็อคที่ เลเวล 3
เวทน้ำแข็งระดับกลาง : ปราสาทน้ำแข็ง ความชำนาญ 0/10 ใช้มานา 100 หน่วย
สกิลต่อไปปลดล็อคที่ เลเวล 5
เวทน้ำแข็งระดับสูง : อุกกาบาตน้ำแข็ง ความชำนาญ 0/10 ใช้มานา 300 หน่วย
สกิลต่อไปปลดล็อคที่ เลเวล 10
“สะดวกจริงๆ…”
“ใช่แล้ว เพราะว่าเป็น RPG ไง”
เดลยักไหล่
“งั้นถ้านายมีโอกาสก็เก็บเลเวลเวทมนตร์ให้เยอะๆ แบบนั้นถึงเพิ่มอานุภาพของสกิลได้”
“พูดแล้วก็ถูก…แต่ว่า ก่อนสงครามจะเริ่มต้น พวกเรามาหาเรื่องอื่นทำกันเถอะ ไม่งั้นคงเบื่อตายแน่”
“ฉันก็คิดแบบบั้นแหละ”
เดลพูดด้วยรอยยิ้ม
“ก่อนหน้าฉันไม่กล้าไปคนเดียว แต่ว่า ถ้ามีสองคน ยาคืนชีพนั้นก็คงใช้ได้”
“ยาคืนชีพ!”
ผมพุ่งไปตรงหน้าเขา!
“มีของแบบนั้นด้วยเหรอ?”
“แน่นอนสิ…”
เดลมองผมด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
“มีการคืนชีพใน RPG ก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ?”
“…พูดแล้วก็ถูก”
จริงด้วย การฟื้นคืนชีพใน RPG เป็นเรื่องปกติจริงๆ แต่ว่า…ผมรู้สึกว่าถ้าหากร่างกายของตัวเองตายตอนอยู่บนโลกใบนี้ จะเป็นอันตรายอย่างมาก
“แต่ที่นายพูดเมื่อกี้…ว่าสองคนถึงจะใช้ได้มันเรื่องอะไรกัน?”
“คือว่า…เพราะว่ายาคืนชีพต้องให้คนหนึ่งใช้ให้อีกคน แล้วของนั่นก็แพงมากด้วย NPC ที่นี่…จะว่ายังไงดีล่ะ ถึงแม้จะเป็น AI แต่ก็ไม่น่าเชื่อถืออยู่ดี เกิดเอายาคืนชีพของฉันหนีไปจะทำยังไง?”
“อย่างนี้เอง…ใช่แล้ว ถ้าตายแล้วเกิดไม่มียาคืนชีพจะเป็นไงล่ะ?”
“ใครจะรู้ล่ะ…”
เดลผายมืออย่างจนปัญญา
“เรื่องอันตรายแบบนั้นฉันไม่เต็มใจลองเสี่ยงหรอก”
“นั่นสิ…”
ดูเหมือนทุกคนคงไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้…
“แต่ที่ที่นายบอกว่าอยากไปคือที่ไหนเหรอ?”
“คือว่า…”
เดลหัวเราะอย่างลึกลับ แล้วหยิบแผนที่ออกมา
“นี่เป็นของที่ฉันหามาได้จากตลาดมืด คนพวกนั้นไม่เข้าใจตัวอักษรประหลาดเหล่านั้น แต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงอ่านเข้าใจ…นี่เป็นแผนที่สามชั้นแรกของดันเจี้ยนใต้เมืองหลวง!”
“ดันเจี้ยนใต้ดิน…”
อย่างที่คิดไว้เลย ถ้าไม่ได้เก็บเลเวลในดันเจี้ยน คงไม่ใช่ RPG สินะ