ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) - ตอนที่ 36
คามิโอชิ ยูอน ดาร์คเอลฟ์ นักบวชเอลฟ์เลเวล 21 นักฆ่าเลเวล 25
ในฐานะคนที่สามที่ผมพบว่ามาจากต่างโลกเหมือนผม ยัยนี่ได้เปลี่ยนแปลงมุมมองของผมที่มีต่อโลกใบนี้ไปหลายอย่าง
อย่างแรก คือตอนพวกเราเข้าสู่โลกใบนี้ เผ่าพันธุ์ของพวกเราเป็นแบบสุ่ม
“ก่อนหน้านี้ฉันก็เคยเห็นคนต่างโลกเหมือนกัน แต่เผ่าพันธุ์กลับเป็นออร์คไม่ก็มนุษย์วิหค”
เธอตอบแบบนี้ตอนที่ผมถามเรื่องเผ่าพันธุ์
ยังไงซะระหว่างทางที่พวกเราหาศัตรูก็น่าเบื่ออย่างยิ่ง
“คนที่กลายเป็นมนุษย์กิ้งก่านั่นน่าสงสารจริงๆ เพราะมนุษย์สัตว์มักไม่ค่อยอาบน้ำอยู่แล้ว สุดท้ายหมอนั่นเลยต้องหนีไปว่ายน้ำในบ่อเองทุกสองสามวัน แล้วนี่ยังไม่ใช่ที่สุด เพราะทั้งตัวหมอนั่นมีแต่เกล็ด ทั้งยังเป็นสัตว์เลือดเย็นอีก การอาบน้ำร้อนจึงไม่ต่างอะไรกับการแช่น้ำเย็นในบ่อ”
“โชคดีที่ไม่ได้กลายเป็นแบบนั้น…”
“ใช่แล้วๆ”
อย่าล้อกันเล่นน่า ให้ผมเป็นมนุษย์สัตว์เหรอ? มันไม่ต่างอะไรจากให้ผมไปตายเลย…
ผมจำได้ว่าเคยเห็นสัตว์เลี้ยงทั้งหลายที่บ้านเพื่อน กลิ่นของมันฟุ้งไปทั่วห้อง…ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาใช้ชีวิตอยู่ได้ยังไง
“แต่จะว่าไป ดาร์คเอลฟ์ก็ดูเหมาะกับเธอ”
“ทำไมพูดงั้นล่ะ?”
“เพราะเธออยากเป็นนักฆ่าไม่ใช่เหรอ? รูปร่างและสีผิวของดาร์คเอลฟ์ดูยังไงก็เป็นนักฆ่านี่”
“นายดู Fate Zexx มากไปรึเปล่า ฉันยังไม่มีรสนิยมแย่ๆ ถึงขนาดสวมหน้ากากกะโหลกขาวนะ1”
“ที่แท้เธอก็ดูเหมือนกัน?”
“แหม…ตอนไม่มีงานทำก็น่าเบื่อนี่ เลยทำได้แค่ดูอนิเมะ เล่นเกมอะไรพวกนี้”
ความเพลิดเพลินตามปกติของนักฆ่าที่มาจากอีกโลกคือเล่นเกมกับดูอนิเมะนี่เอง แล้วบนโลกนี้จะเป็นยังไง?
“แต่มาโลกนี้ดีกว่าเยอะ ไม่มีอะไรทำก็ไปตามที่กระดานประกาศภารกิจแปะไว้ก็ไม่เบื่อแล้ว”
“เฮ้ๆ เธอฆ่าคนเพื่อความบันเทิงเหรอ?”
“แน่นอน ทำไมล่ะ?”
…
ยัยนี่กู่ไม่กลับจริงๆ การส่งยัยนี่มาบนโลกนี้เพิ่มความปลอดภัยให้โลกของผมไม่น้อยจริงๆ
เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าระบบประหลาดนี่ทำเรื่องดีๆ
“เอาล่ะ ฉันไม่อาจก้าวก่ายความคิดของเธอได้หรอก ขอแค่เธอไม่ลงมือกับเพื่อนของฉันก็พอ”
“เพื่อนของนาย? เป็นคนที่มาจากอีกโลกเหมือนกันเหรอ?”
“ไม่ทั้งหมด”
“งั้นเหรอ…นอกจากผู้อำนวยการกับเพื่อนร่วมงานไม่กี่คนในสมาคมนักฆ่าของฉันที่พอจะคุยได้แล้ว ก็ไม่มีใครพูดคุยกับฉันเลย เพราะงั้นเพื่อนอะไรนั่น…”
“เฮ้ๆ นิสัยเธอมืดมนเกินไปแล้ว ถึงนักฆ่าไปไหนมาไหนคนเดียวจะดีกว่า แต่บางครั้งก็ต้องมีคนช่วยเหลือถึงจะทำภารกิจสำเร็จด้วยดีไม่ใช่เหรอ?”
“ก็จริงนะ อยากเข้าร่วมสมาคมฉันไหม?”
“หยุดไร้สาระได้แล้ว ฉันยังไม่ถึงขั้นที่รู้สึกว่าฆ่าคนโดยไม่แคร์…”
แล้วผมก็เข้าร่วม ‘สมาคมปริศนาเรดลีฟ’ องค์กรผู้ชั่วร้ายอันดับต้นๆ ของแผ่นดินใหญ่แล้ว เรื่องแบบนี้ปล่อยผมไปเถอะ
จะว่าไป วันที่สองที่เข้าร่วม ‘สมาคมปริศนาเรดลีฟ’ ก็มีคนเดินทางมาประทับรอยสักเวทมนตร์ของเรดลีฟที่หลังเอวของผมโดยเฉพาะ ยิ่งกว่านั้นยังสามารถซ่อนมันได้ด้วย สะดวกสบายจริงๆ
ถึงเข้าร่วมแล้ว แต่ผมไม่เคยทำอะไรเลย ก่อนหน้านี้ลองเปิดเควสต์ของพวกเธอดู ทั้งหมดแทบจะมีแต่เควสต์ลอบสังหาร ผมเลยปิดทันที
รอให้วันไหนไม่มีเควสต์ฆ่าคนผมค่อยดูแล้วกัน
แล้วยังมีอีกประเด็นคือเรื่องอาชีพของยัยนี่ ได้ยินเธอบอกว่าหลังจากเลเวล 20 แล้ว จะสามารถเพิ่มอาชีพรองได้ ในฐานะที่เธอเป็นดาร์คเอลฟ์ จึงถูกเลือกเป็นนักบวชเอลฟ์ทันทีที่ปรากฏตัว ทำให้ยัยนี่เป็นทุกข์อยู่นาน
แต่หลังจากที่เธอพบเส้นทางหลบหนีออกจากที่รวมตัวของเอลฟ์ ยัยนี่ก็หนีไปอย่างไม่ลังเล ยัยนี่ช่างเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองซะจริง ไม่รู้จริงๆ ว่าเผ่าของเธอจะเละเทะไปแล้วรึยัง
นักบวชหนี นี่ก็คงไม่แตกต่างอะไรจากบาทหลวงในโบสถ์หนีใช่ไหม?
แล้วยัยนี่ยังเลือกอาชีพนักฆ่าอีก ยิ่งกว่านั้นตอนนี้ยังมีเลเวลสูงกว่านักบวช…น่ากลัวซะจริง
ส่วนเลเวล 21 นั้นคงเป็นเพราะว่าใช้สกิลนักบวชเป็นบางครั้งเลยเลเวลอัพ ยัยนี่รังเกียจนักบวชแค่ไหนกันเนี่ย ยังไงเธอก็เป็นสายเพิ่มเลือดนะ
นักฆ่าที่สามารถฟื้น HP ตัวเองได้โดยพื้นฐานแล้วก็โคตรจะสุดยอด ทำไมถึงไม่มีการปรับใช้แบบนี้ในหมู่ผู้ชายบ้าง…
“เพราะงั้น นักฆ่าคนนี้ก็คือภารกิจที่เธอรับงั้นเหรอ?”
“อืม เงินรางวัลยังสูงไม่ธรรมดาด้วย แล้วก็กระดานแจ้งเตือน…ประหลาดนี่? เรียกแบบนี้ไปก่อนแล้วกัน ตอนที่ฉันรับภารกิจนี้มันก็เด้งออกมา บอกว่าเควสต์ย่อยอะไรสักอย่าง อืม…ขอดูหน่อย…”
ยูอนยื่นมือกดกลางอากาศสองสามครั้ง จากนั้นจึงมองบางอย่างด้านบนแล้วพูด
“เอ๋ เควสต์ย่อย ผู้แสวงหาความมืดมิด กำจัดปีศาจนักฆ่าที่ปรากฏตัวในป่ากริฟฟินกลางเดือนแปด ได้รับรางวัลเป็นเลเวลเพิ่มสองเลเวล”
“จริงเหรอ…”
เป็นเควสต์ฆ่าอีกฝ่ายโดยตรงเลยสินะ? เลือกเส้นทางฆ่าฟันเควสต์ก็จะไม่เหมือนกันอย่างที่คิดเลย
“เควสต์ของนายล่ะเป็นไง?”
“ของฉันเป็นเควสต์ฉุกเฉิน ต้องจัดการอีกฝ่ายใน 6 ชั่วโมง ตอนนี้คงยังเหลืออีกสี่ชั่วโมงครึ่ง? ไม่รู้เลยว่าจะทำสำเร็จไหม”
“ฉุกเฉินเหรอ…ฉันก็เคยพบมาครั้งหนึ่ง แต่เวลาเร่งด่วนเกินไปเลยไม่สำเร็จ…แต่ตอนนี้น่าจะยังไม่มีปัญหา ก่อนหน้านี้ถ้าใช้พลังกายหมดจะมึนงง ตอนนี้ขอแค่รักษาค่าความเหนื่อยไว้ก็พอ ดีเลย! การอัพเกรดระบบยังคงพัฒนาไปในทิศทางที่ดีสินะ”
ขอโทษนะ นั่นเป็นเพราะฉันเอง…
แต่เวลาแบบนี้อย่าพูดออกมาจะดีกว่า ถ้ายัยนี่รู้ว่าผมเป็นคนทำ ต่อไปคงถูกระบบนี้ทำร้ายแน่ ถึงตอนนั้นบนรายชื่อนักฆ่าของยัยนี่คงมีชื่อของผมแน่นอน
“แต่พวกเราเดินมั่วซั่วแบบนี้ก็ไม่หนทาง แบบนี้พวกเราจะหาศัตรูเจอเมื่อไหร่?”
“สัตว์อัญเชิญของฉันกำลังค้นหาอยู่ทุกที่ ตอนครั้งก่อนที่เจอนาย จู่ๆ สัตว์อัญเชิญที่นั่นของฉันก็ตาย ฉันยังคิดว่าเขาเป็นคนฆ่ามันอยู่เลย”
ขอโทษที ฉันฆ่ามันเองแหละ…แต่ฉันจะไม่บอกเธอ
“แต่ฉันมั่นใจว่าภาพลวงที่เพิ่งฆ่าไปตัวนั้นถูกควบคุมได้ในระยะหนึ่งพันเมตร ในเมื่อเมื่อกี้มันอยู่ตรงนั้น หมอนั่นต้องอยู่ไม่ไกลแน่”
“เธอคิดว่าหมอนั่นเป็นคนโง่เหรอ?คิดว่าเขาเป็นคนโง่เหรอ แบบนี้ไม่หนีไปแล้วเหรอ? เป็นแบบนี้ยังไม่หนีอีก”
“อีกฝ่ายเป็นปีศาจนักฆ่าแล้วทำไมต้องหนีด้วยล่ะ”
“…”
ได้ยินคำพูดนี้ผมก็ตกตะลึง
ใช่แล้ว อีกฝ่ายเป็นถึงปีศาจนักฆ่าที่ฆ่าไปสิบสองคน ถึงเห็นเราสองคน ก็คงไม่หนีไปง่ายๆ
งั้นตอนนี้…
“หมอนั่นคงไม่ได้รอโจมตีพวกเราอยู่หรอกนะ?”
“ระวัง!”
ผมเพิ่งพูดจบ ยูอนก็เตะผมไปอีกทาง และในขณะเดียวกัน ลูกศรเตือนภัยของผมก็สว่างขึ้น ลูกศรสีแดงปรากฏขึ้นข้างหลังผมบนมินิแมพ
โซ่สีดำแทบลอยผ่านเฉียดหน้าผมไป ความรู้สึกร้อนผ่าวทำให้ผมกลัวจนเหงื่อไหลออกมา
น่ากลัวมาก!
การโจมตีของอีกฝ่ายมาถึงโดยไม่ทันแจ้งเตือน! ความเร็วนี้มันน่ากลัวเกินไปแล้วไหม?
“ดูเหมือนอีกฝ่ายจะปรากฏตัวแล้ว…ฟีล มาแล้วล่ะ!”
ยูอนดึงมีดสั้นสีดำสองด้ามออกมา พูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น
บางทีคงมองเห็นเลเวลของอีกฝ่ายสินะ?
“ดูเหมือนจะเป็นการต่อสู้ที่ลำบาก…”
ฉายา ความไม่ระมัดระวังเพิ่มเป็นเลเวล 4
ได้รับฉายาใหม่ ผู้หยั่งรู้ เลเวล 1 ระยะการแสดงผลบนมินิแมพเพิ่มขึ้น 5 เมตร
ผมลุกขึ้นจากพื้น จากนั้นก็หยิบเอาไม้คทาที่เพิ่งได้จากองค์หญิงออกมา
มีคนต่อสู้ระยะประชิด ในที่สุดก็สามารถเป็นนักเวทปกติได้สักครั้งแล้วสินะ?
ตัวละครหนึ่งในเรื่อง Fate คลาสแอสซาสซิน มักสวมหน้ากากกะโหลก