ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) - ตอนที่ 21
หลังจากมาถึงโลกนี้แล้ว ดูเหมือนการพักผ่อนที่ดีที่สุดก็คือการหลับตาพักผ่อนจิตใจ เพราะหากนอนหลับจนต้องการฝัน คงทำได้แค่ตอนสลบไปเท่านั้น
หลังจากนอนพักในห้องสมุดหนึ่งคืน มองเห็นค่าความเหนื่อยล้าใกล้จะเต็มแล้ว ผมคิดว่ากลับบ้านไปอาบน้ำเติมไว้ให้เต็มคงดีกว่า
“โอ้ นี่มันฟีลไม่ใช่เหรอ? ขอลายเซ็นให้ข้าได้ไหม?”
“เมื่อวานเจ้ายอดมากจริงๆ หรือเป็นเพราะตั้งใจเรียนอยู่ในห้องสมุดตลอด?”
ทันทีที่ออกจากประตูห้องสมุด นักเรียนที่อยู่หน้าประตูก็พบผม
“คือว่า ขอถามหน่อยได้ไหมว่าตอนนี้ทั้งสถาบันรู้จักผมกันหมดแล้วเหรอ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว คนชั้นต้นที่สามารถคว่ำคู่ต่อสู้ที่กลายเป็นปีศาจได้มีแค่เจ้าคนเดียว แล้วยังเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์เลยด้วย ทุกคนรู้จักเจ้าก็เป็นเรื่องธรรมดา”
ผู้ชายสายวายุตอบกลับ อีกทั้ง ดูจากตราที่หน้าอกเขาแล้วเหมือนจะเป็นชั้นกลาง
“บางทีจนกระทั่งวันนี้คงมีแค่ผมคนเดียวที่เบื่อต่อสู้กับปีศาจกลายร่าง”
“ฮ่าฮ่า นึกไม่ถึงว่าเจ้าแข็งแกร่งขนาดนี้แล้วยังตลกขบขันอีก แต่ว่า เจ้าต้องระวังคนจากชั้นปีสูงเหล่านั้น เจ้าสามารถจัดการชั้นต้นที่กลายเป็นปีศาจได้ นั่นก็อธิบายได้ว่าเจ้าสามารถต่อสู้กับชั้นปีสูงได้ พวกเราชั้นปีกลางยอมรับในความสามารถของเจ้า แต่ว่าชั้นปีสูงไม่น่าปล่อยให้เจ้าพิชิตพวกเขาได้ง่ายๆ อยู่แล้วใช่ไหมล่ะ?”
“หมายความว่ายังไง?”
“ฮ่าฮ่า ดูเหมือนเจ้าจะไม่รู้ หลังจากสิ้นสุดการแข่งขันชั้นปีทั้งหมด ผู้ชนะเลิศในแต่ละชั้นปีจะแข่งขันกัน แม้ว่าเรียกอย่างสวยหรูว่าการแข่งขัน แต่อันที่จริงก็เป็นแค่การแสดงพลังของชั้นปีสูงต่อชั้นปีต้น”
“อย่างนี่นี้เอง แสดงความแข็งแกร่งของตัวเอง….ถ้าผู้ชนะเลิศของชั้นปีสูงถูกผู้ชนะเลิศของชั้นปีต้นจัดการ คงจะทำให้ทั้งชั้นปีเสียหน้าแน่นอน”
“วางใจเถอะ คนส่วนใหญ่ในชั้นปีกลางกลายเป็นแฟนคลับของเจ้าแล้ว เพราะหัวข้อวิจัยในเทอมนี้ของเราคือจะจัดการกับปีศาจอย่างไร และเจ้าทำการสาธิตให้พวกเราได้ดีทีเดียว พวกเราซาบซึ้งเจ้ายังไม่พอเลย แต่เจ้า…ระวังชั้นปีสูงไว้จะดีที่สุด”
“ผมรู้แล้ว ขอบคุณมาก แต่คุณบอกผมเยอะขนาดนี้…”
“แน่นอนว่าเพราะต้องการลายเซ็นของเจ้า”
อีกฝ่ายพูดก็หยิบเอากระดาษออกมา
แถมยังเป็นกระดาษหนังแกะที่เสริมเวทมนตร์ป้องกันการผุพังด้วย ไม่ธรรมดาเลย
“ช่วยเขียนว่า ‘ขอให้เคเลนทำหัวข้อวิจัยสำเร็จอย่างราบรื่น’ ที”
“อืม…ได้…”
“ขอบคุณมาก…”
อีกฝ่ายรับกระดาษที่ผมเขียนจากนั้นตอบด้วยรอยยิ้ม
“งั้นผมขอถือโอกาสถามอีกสักอย่างได้ไหม?”
“อืม ถามสิ”
“ใครที่มีโอกาสเป็นผู้ชนะเลิศของชั้นปีกลางมากที่สุด?”
หลังจากเหนื่อยยากลำบากแล้ว ผมก็กลับไปที่ห้องพักของตัวเอง
แม้ว่าข้างนอกยังมีคนอยู่ไม่น้อย แต่ด้วยเวทปลอมตัวที่อัพเกรดแล้ว ผมเลยกลับบ้านได้อย่างราบรื่น
เวทปลอมตัว เลเวล 1 เวทเปลี่ยนสีผม
เวทปลอมตัว เลเวล 2 เวทเปลี่ยนสีดวงตา
เวทปลอมตัว เลเวล 3 เวทเปลี่ยนโครงหน้า
เมื่อกี้ผมดูเหมือนชายวัยกลางคนผมแดงตาแดง รวมกับเสื้อคลุมสีแดงที่ซื้อมาจากร้านขายของ ดูแล้วเหมือนกับนักเวทสายเพลิง
ตอนผมเข้าไปเลยไม่มีคนจับผมได้เป็นธรรมดา
นอกจากเวทปลอมตัวแล้ว ผมยังอัพเกรด ‘เนตรแห่งเฟคด้า’ กับ ‘ผู้ครอบครองตาอินทรี’ ด้วย
ผู้ครอบครองตาอินทรี เลเวล 1 ได้รับความสามารถมองเห็นมินิแมพของแผนที่ (ต้องการแผนที่กระดาษเพื่อเพิ่มรายละเอียด) จะมองเห็นมินิแมพในขณะที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเท่านั้น
ผู้ครอบครองตาอินทรี เลเวล 2 ได้รับความสามารถมองเห็นมินิแมพขณะเคลื่อนไหวได้
ผู้ครอบครองตาอินทรี เลเวล 3 ได้รับความสามารถการแจ้งเตือนเมื่อฝ่ายตรงข้ามอยู่ในระยะการมองเห็น
เนตรแห่งเฟคด้า เลเวล 1 มองเห็นชื่อ เพศ อายุ อาชีพ หรือฉายาของอีกฝ่ายโดยไม่มีเงื่อนไข (สุ่มหนึ่งอย่าง) หากเห็นข้อใดข้อหนึ่งแล้ว จะไม่อาจใช้ซ้ำได้อีก
เนตรแห่งเฟคด้า เลเวล 2 มองเห็นชื่อของอีกฝ่ายโดยไม่มีเงื่อนไข ไม่ทับซ้อนกับความสามารถในเลเวล 1 หากใช้ความสามารถนี้กับฝ่ายตรงข้ามแล้ว จะสามารถใช้ความสามารถของเลเวล 1 ได้อีกครั้ง
เนตรแห่งเฟคด้า เลเวล 3 มองเห็นอาชีพและเลเวลของอีกฝ่าย ไม่ทับซ้อนกับเลเวล 1 หากใช้ความสามารถนี้กับฝ่ายตรงข้ามแล้ว จะสามารถใช้ความสามารถของเลเวล 1 ได้อีกครั้ง (หากอาชีพของอีกฝ่ายมีมากกว่าหนึ่งอย่าง จะสามารถมองเห็นเพียงอย่างเดียว หากเดิมสามารถมองเห็นอาชีพหนึ่งในนั้น จะสามารถมองเห็นอาชีพที่สองได้)
เนตรแห่งเฟคด้า เลเวล 4 มองเห็นเพศและอายุของอีกฝ่าย ไม่ทับซ้อนกับเลเวล 1 หากใช้ความสามารถนี้กับฝ่ายตรงข้ามแล้ว จะสามารถใช้ความสามารถของเลเวล 1 ได้อีกครั้ง
แบบนี้ผมก็ใช้แต้มสกิลเก้าแต้มที่ได้จากการอัพเลเวลจนหมด
ถึงจะยังมีสกิลประหลาดเยอะแยะที่สามารถเลือกได้ แต่พอเห็นสกิลพวกนั้นมีราคาที่ไม่ถูกแล้ว มันเลยทำให้ผมหยุดได้
แม้สกิลส่วนใหญ่ที่เลือกตอนนี้จะไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้ แต่สำหรับผมกลับรู้สึกว่ามันน่าสนใจทีเดียว ยิ่งกว่านั้นการที่มันไม่มีราคาก็ทำให้ผมรู้สึกดีมาก
หลังจากอาบน้ำเสร็จ อาร์ย่าก็ติดต่อมาอีกครั้ง
“นายทำอะไรกันเนี่ย? ตอนนี้พวกแฟนคลับของวิ่งไปทั่วห้องสมุดแล้ว?”
แค่เปิดหัวข้อ อาร์ย่าก็ตะโกนแบบนี้ “คงเพราะว่าวันนี้ฉันให้ลายเซ็นคนที่หน้าห้องสมุดมั้ง”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ดูเหมือนนายกลายเป็นคนดังแล้วนะ”
“ฉันไม่ได้อยากซะหน่อย ฉันอยากเป็นแค่คนไม่โด่งดัง”
“คนไม่โด่งดังคงไม่จัดการปีศาจในสามสิบวิหรอก”
“โชคดีเท่านั้นแหละ…ใช่แล้ว มีเรื่องอะไร?”
“เพราะไม่ใช่แค่แฟนคลับที่หานายไม่เจอ เพื่อนร่วมทีมนายก็หานายไม่เจอเหมือนกัน พวกเรารอนายอยู่ที่ร้านหนังสือข้างที่กินอาหารเมื่อวาน”
“วางแผนต่อสู้เหรอ?”
“ไม่ เพราะว่าสโนว์บอกว่า ช่วงนี้นายจะมีอันตราย”
“อันตราย? ด้านไหน?”
“ด้านชีวิต”
เล่ม 3