ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ตอนที่ 81
ตอนที่81 คุณชายสามเย่รู้ตัวแล้ว
คุณชายสามเย่ยืนอยู่อย่างนั้น เขาไม่ได้โต้ตอบ
ใดๆ
ข้อมูลที่รายงานแสดงให้เห็นว่า ลายนิ้วมือบนแก้วที่เขา ถือมาไม่ตรงกับลายนิ้วมือกับที่ทางตำรวจเก็บไว้ก่อน เขากำลังใช้ความคิดว่าเกิดปัญหาขึ้นที่ตรงไหน
หน้า
แก้วน้ำนั้นเธอใช้แล้ว เขาเห็นมันกับตา ไม่มีข้อผิด
พลาดอย่างแน่นอน
ถ้าอย่างนั้นต้องมีปัญหาที่ทางตำรวจแน่ ตอนนี้คุณ ชายสามเย่เชื่อมั่นเช่นนั้น
เพราะว่า พอได้เห็นผลลัพธ์เช่นนี้ แต่เย่ซื้อเฉินยังคง สงสัว่าเวินลั่วฉิงกับผู้หญิงที่สถานีตำรวจคนนั้นคือคน
เดียวกัน
“พี่สาม ผมว่าไม่น่าใช่เวินลั่วฉิง เวินลั่วฉิงจะไปมีความ สามารถอย่างนั้นได้อย่างไร” คุณชายห้าฉิงยังคงเชื่อ มั่นในผลลัพธ์อีกอย่างหนึ่ง เขาเชื่อว่าผู้หญิงที่สถานี ตำรวจวันนี้ไม่ใช่เป็นลั่วฉิงแน่
แน่นอน ข้อเท็จจริงพิสูจน์แล้วว่าเขาพูดถูก เยซื้อเฉินกำลังคิดถึงเรื่องต่างๆ ขนคิ้วเขาขมวดเป็นปม น้อยๆ เห็นได้ชัดว่าตอนนี้สีหน้าเคร่งขรึม
คุณชายห้าฉิงเห็นท่าทางเขาแล้วก็แอบถอนหายใจ ก่อนจะพูดอย่างระมัดระวัง “พี่สาม พี่จะหย่ากับ เงินลั่วฉิงรึเปล่า”เขารู้ ที่พี่สามแต่งงานกับเวินลั่วฉิงก็เพราะว่าเขาคง สงสัยว่าเป็นลั่วนิ่งคือผู้หญิงเมื่อห้าปีก่อน แต่ว่าตอนนี้ดูแล้วเป็นลั่วฉิงไม่น่าจะใช่ผู้หญิงที่พี่ สามตามหา ดังนั้น พี่สามก็อาจจะหย่ากับเวินลั่วฉิงใช่รี
เปล่า
เยซือเฉินซึ่งเดิมไม่ได้แสดงท่าทีอะไร แต่ตอนนี้เขา เงยหน้าขึ้น และจ้องไปที่คุณชายห้าฉิง สายตานั้น หนาวเหน็บราวกับน้ำแข็ง ภรรยาที่เขาในที่สุดก็ได้แต่งงานกลับมา ทำไมจะต้อง
หย่าด้วย
ใช่ เขาแต่งงานกับเงินลั่วชิงเพราะว่าสงสัยว่าเธอเป็นผู้ หญิงคนเดียวกันกับเมื่อห้าปีก่อน แต่ว่าเรื่องนั้นเขา
กำลังตรวจสอบอยู่
แต่ว่า เมื่อถึงสุดท้ายแล้ว ผลออกมาว่าผู้หญิงเมื่อห้าปี ก่อนไม่ใช่เป็นลั่วฉิง เขาก็จะไม่หย่ากับเวินลั่วฉิงอยู่ดี ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว เขา ก็จะไม่มีวันหย่า
สาเหตุที่เขาลงนามในข้อตกลงวันนั้น เพราะกลัวว่าเธอ จะไม่เห็นด้วย และกลัวว่าจะเป็นการบีบเธอ จนเธอหนี
ไป
แน่นอน ว่าเขายังรู้สึกว่า เงินสั่งฉิงคือผู้หญิงเมื่อห้าปี
ก่อนอยู่
ถึงอย่างไรก็มีเวลาอีกหนึ่งปี เวลาหนึ่งปี เพียงพอที่จะ ให้เขาตรวจสอบทุกเรื่องให้ชัดเจน ถึงตอนนั้น “ที่สาม ผมพูดอะไรผิดไปรี” คุณชายห้าฉิงสบตาเขา แล้วจู่ๆก็มีอาการหนาวสั่นขึ้นมา สายตาของพี่สามนั้น
น่ากลัวมาก!เขารี เขาพูดอะไรผิดไปรี ทำไมพี่สามถึงได้มองเขาแบบนั้น
“แกว่า ลายนิ้วมือที่ทิ้งอยู่บนวัตถุนั้นเป็นของเธอจริง หรือ เธอเป็นนักจิตวิทยาอาชญากรจะทิ้งความผิด พลาดไว้อย่างโจ่งแจ้งอย่างนั้นเลยหรือ” เย่ซือเฉิน เดิมทีที่อยากรู้ผลลัพธ์ ดังนั้นจึงมองข้ามเรื่องนี้ไป แต่ ตอนนี้มาคิดกลับแล้ว เห็นว่าเบาะแสเรื่องนี้ดูง่ายเกิน
ไป
เรื่องนี้สำหรับคนธรรมดาแล้วเรียกว่าไม่น่าเป็นประเด็น อะไร แต่ว่าสำหรับนักจิตวิทยาอาชญากรรมแล้วฟังดู ไม่ค่อยสมเหตุสมผลนัก
“พี่สาม พี่สงสัยว่าลายนิ้วมือบนวัตถุนั้นเธอจงใจทำขึ้น เพื่อที่จะเบนความสนใจอย่างนั้นรี” คุณชายห้าฉิงกระ พริบตา มุมปากตกลงเล็กน้อย คิดครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพูด ต่อ “พี่สาม มีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมยังไม่ได้บอกพี่ใน โทรศัพท์.”
คุณชายห้าฉิงเป็นผู้กำกับที่สถานีตำรวจ มีหลายเรื่อง ที่เขาคิดออกเองได้ ถ้าหากว่าเขาไม่มั่นใจ เขาคงจะไม่ ยอมให้เยซื้อเฉินเอาลายนิ้วมือมาตรวจสอบ
“หมอ” เย่ฉือเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย การแสดงออกยังไม่ เปลี่ยน แต่สายตาทั้งครู่ดูเคร่งขรึมมาก “แน่นอน ตอนที่เธอเข้าไปสอบปากคำมู่เส้าไปในห้อง สอบสวน เธอได้ใช้ปากกาบันทึกข้อซักถาม ผมได้เอา ปากกาที่เธอใช้นั้นไปตรวจสอบลายนิ้วมือบนปากกา กับลายมือบนวัตถุเหล่านั้นเหมือนกันอย่างไม่ต้อง สงสัย” ขณะนี้ สายตาที่คุณชายห้าฉิงแสดงออกมานั้นจริงจังเป็นอย่างมาก
เดิมที่เรื่องนี้ต้องเก็บเป็นความลับ ดังนั้นในโทรศัพท์ เขาจึงไม่ได้พูดกับเย่ซือเฉิน
นัยน์ตาของเย่ซือเฉินหรี่ลงอย่างรวดเร็ว มีการ เปลี่ยนแปลงอย่างมากในท่าทีของเขา
“แน่นอนว่าตอนที่เธอไปสอบสวนมู่เส้าไป๋ ผมก็ยืนดูอยู่ ข้างนอก ตอนที่เธอหยิบปากกาขึ้นมาจดบันทึก ผมเห็น มันกับตา ไม่ใช่แค่ผม ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไป สอบสวนพร้อมกับเธอและทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั่นก็เห็น กันหมด” คุณชายห้าฉิงเป็นหัวหน้าสถานีตำรวจ หลาย ต่อหลายครั้ง สิ่งที่เขาคิดก็คือจะหาทางพิสูจน์ได้ อย่างไร ที่จะทำให้หลักฐานต่างๆนั้นดูน่าเชื่อถือ “ดังนั้น ลายนิ้วมือที่เก็บมาจากปากกาด้ามนั้นจะต้องไม่ ผิดอย่างแน่นอน” คุณชายห้าฉิงกล่าวมาถึงข้อสรุป สุดท้าย
“เอาบันทึกกล้องวงจรปิดในห้องสอบสวนออกมาให้ผม ดูหน่อย” ถึงแม้ว่าที่คุณชายห้าฉิงพูดจะฟังดูแน่ชัด ทั้ง ตรรกะและหลักฐาน แต่ว่าเลยชื่อเฉินก็ยังคงสงสัย เขาจะต้องเห็นด้วยตา ตัดสินด้วยตัวเอง ! เขาคิดอยู่ เสมอว่าเรื่องต่างๆมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
“เทปบันทึกตอนที่เธอสอบสวนได้ถูกลบออกไปแล้ว ไม่เพียงแต่ตอนที่เธอสอบสวนเท่านั้น บันทึกจากกล้อง ตัวอื่นๆที่จับภาพเธอไว้ก็ถูกลบออกไปด้วย” คุณชาย ห้าจึงเข้าใจความหมายของเขา ความจริงแล้วเขาเองก็ ต้องการนำวีดีโอบันทึกภาพมาตรวจสอบดูอีกครั้ง แต่ก็ ไม่สามารถทำได้เป้ซือเฉินหรี่ตาลงพร้อมเงยหน้าจ้องไปยังคุณชายห้า
ฉิง
“เรื่องนี้ผมถามพี่ใหญ่แล้ว พี่ใหญ่บอกว่าเธอมีตัวตน พิเศษ จึงต้องเก็บเป็นความลับ วีดีโอนั้นพี่ใหญ่เป็นคน สั่งให้คนของเขาลบไปเอง” คุณชายห้าฉิงสบกับ สายตาที่ดูเหมือนจะฆ่าคนได้ของเย่ซือเฉิน พร้อมกับ ค่อยๆอธิบาย
“พี่ใหญ่ให้ลบไปรี” เย่ซื้อเฉินดูเกรงๆ ราวกับเป็นเรื่อง ไม่คาดคิด แต่ก็ไม่ได้ดูถึงกับประหลาดใจมากนัก ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาโทรหาพี่ใหญ่ พี่ใหญ่ก็ต้องการ
เก็บตัวตนของเธอไว้เป็นความลับ ตอนนี้พี่ใหญ่ จึงได้ลบวีดีโอภาพทั้งหมดของเธอที่ สถานีตำรวจทิ้งไปจนหมด พี่ใหญ่มีความสัมพันธ์อย่างไรกับเธอกันแน่
“ใช่แล้ว เธอเป็นคนที่พี่ใหญ่หามา ก็เป็นเรื่องปกติที่พี่ ใหญ่จะทำเช่นนี้” สำหรับเรื่องนี้ คุณชายห้าฉิงไม่ได้ สงสัยอะไร อีกอย่างอย่างไรนั่นก็คือพี่ชายคนโตของ พวกเขา เขาไม่มีวันสงสัยพี่ใหญ่เป็นแน่
“ปกติ..” เย่ซือเฉินลดเสียงลงจนฟังไม่ออกว่ามา อารมณ์ไหน และฟังไม่ออกว่าสงสัยหรือว่าน้ำเสียง
แบบไหน แค่เพียงเห็นว่ามีแสงเปล่งประกายในแววตา อันมืดมิด คุณชายห้าฉิงเห็นเขาเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ เขา
ไม่กล้าพูดอะไรอยู่พักหนึ่ง “บันทึกที่เธอบันทึกไว้ตอนสอบปากคำยังอยู่รีเปล่า” อยู่ๆเยชื่อเฉินก็ถามขึ้นมาประโยคหนึ่ง ฉิงฉิงบอกว่าเธอได้บันทึกบางอย่างตอนสอบปากคำ เขาอยากจะดู ว่าเธอบันทึกอะไร หรือว่าค้นพบอะไร
อีกอย่าง เขาคิดว่าบางทีลายมืออาจจะเป็นจุดเปลี่ยน สำคัญก็ได้
เขาและเป็นลั่วนิ่งได้ลงชื่อในข้อตกลง ในข้อตกลงนั้น เธอได้เซ็นยืนยันด้วยตนเอง…
“อยู่ ยังอยู่” คุณชายห้ายิงนิ่งอึ้งไป หลังจากที่ได้สติ เขาก็พยักหน้า “อยู่ในห้องทำงานผม” คุณชายห้านิ่งเข้าไปในห้องทำงาน เขาหากระดาษ
แผ่นหนึ่งอยากรวดเร็ว ก่อนจะยื่นให้ตรงหน้าเย่ซือเฉิน “พี่สาม นี่เป็นบันทึกที่หล่อนทำเอาไว้ตอนนั้น ที่จริง
แล้วหล่อนก็ไม่ได้จดอะไรมาก มีจดแค่..ซื้อเฉินไม่รอให้เขาพูดจบ ก็รีบดึงกระดาษในมือเขา
ไปดูอย่างรวดเร็ว
คุณชายห้าฉิงตกใจเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นพี่ สามกังวลถึงขนาดนี้
สายตาเย่ซื้อเฉินตกลงบนกระดาษ เขาเห็นบนกระดาษ จดสัญลักษณ์เพียงไม่กี่อย่าง เวลาต่อมาดวงตาเขาก็ เป็นประกาย นัยน์ตาทั้งคู่ค่อยๆพองโต สัญลักษณ์ เหล่านี้