ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1012 คุณชายสามเย่โปรดเมตตา นั่นคือลูกชายแท้ ๆ ของคุณนะ (3)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1012 คุณชายสามเย่โปรดเมตตา นั่นคือลูกชายแท้ ๆ ของคุณนะ (3)
ในที่สุดการประมูลก็กลับสู่สถานการณ์ปกติได้สักที
ทุกคนจึงเพิ่งได้เริ่มประมูล เสียงกระดิ่งดังขึ้นต่อเนื่อง แต่คราวนี้เสียงกระดิ่งไม่ได้ดังติดต่อกันอย่างรวดเร็วเหมือนก่อนหน้านี้ มีการเว้นช่วงกันบ้าง
ในที่สุดพิธีกรก็ได้กลับมาประกาศราคาตามปกติแล้ว ไม่ได้แสดงราคาบนจอภาพเหมือนรอบก่อน ๆ
หลังจากนี้ ไม่มีใครก่อความวุ่นวายอีก ของประมูลที่เหลืออีกไม่กี่ชิ้นล้วนประมูลไปตามปกติ ราคาก็เป็นไปตามปกติ
“ในที่สุดไฟสงครามก็ดับลงแล้ว” ฉู่หลิงเอ๋อเอามือตบหน้าอกแล้วถอนหายใจออกมาแรง ๆ เฮือกหนึ่ง : “คืนนี้น่าลุ้นน่าตื่นเต้นเกินไปแล้ว น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนที่ฉันออกไปปฏิบัติภารกิจในเมื่อก่อนเสียอีก
แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอค่อนข้างเป็นกังวลตลอดเวลา แต่คืนนี้ได้เห็นอะไรที่น่าสนุกมากจริง ๆ สมใจเธอเหลือเกิน
แต่ถังจื่อโม่กลับดูไม่ค่อยดีใจอย่างเห็นได้ชัด เขาทำหน้าบูดบึ้ง ดูจิตใจห่อเหี่ยว
“จื่อโม่จ๊ะ เป็นอะไรไปเหรอ? คืนนี้หนูเอาชนะคุณชายสามเย่ได้แล้วนี่ ทำไมยังไม่ดีใจอีกล่ะ?” ฉู่หลิงเอ๋อเห็นสีหน้าท่าทางห่อเหี่ยวของถังจื่อโม่ก็รู้สึกแปลกใจ จื่อโม่ชนะแล้ว และชนะได้อย่างสวยงามอีกด้วย แต่ทำไมถึงยังไม่ดีใจล่ะ?
ถังจื่อโม่เม้มปาก ไม่ได้พูดอะไร แม้ว่าเขาจะชนะแล้ว แต่กลับไม่สามารถดึงดูดความสนใจของเย่ซือเฉินได้เหมือนอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้
เมื่อครู่เย่ซือเฉินจู่ ๆ ก็หยุดไปซะเฉย ๆ จากนั้นก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ อีกเลย แสดงว่าเย่ซือเฉินไม่ได้สนใจในตัวเขาเลยสักนิด
เย่ซือเฉินมองข้ามเขาอีกแล้ว
“จื่อโม่จ๊ะ หนูแน่ใจเหรอว่าเดี๋ยวจะให้คุณชายสามเย่จ่ายเงินให้พวกเรา?” ตอนนี้ฉู่หลิงเอ๋อไม่เข้าใจความคิดของถังจื่อโม่เลยจริง ๆ เธอยังคิดถึงปัญหาตอนจ่ายเงินอยู่
“แน่ใจครับ” ถังจื่อโม่เงยหน้ามองเธอกะทันหัน แล้วตอบกลับอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงก็ฟังดูดังขึ้นเล็กน้อย
“จื่อโม่ ที่จริงของที่พวกเราประมูลมาก็ไม่ได้เยอะมาก ไม่ได้ราคาแพงเท่าไหร่ พวกเราสามารถจัดการเองได้นะ พวกเราอย่ารบกวนคุณชายสามเย่ดีกว่าเนอะ?” ฉู่หลิงเอ๋อนึกถึงตอนที่แข่งประมูลกับคุณชายสามเย่อย่างดุเดือด แต่สุดท้ายกลับต้องให้คุณชายสามเย่เป็นคนจ่ายเงิน
ถึงตอนนั้นคุณชายสามเย่จะจับพวกเขาฉีกเป็นชิ้น ๆ หรือเปล่า? !
ของที่พวกเขาประมูลมาก็แค่สองร้อยกว่าล้านเอง ถือว่าไม่แพงมาก เธอสามารถจัดการได้
“ไม่ได้ ต้องให้เย่ซือเฉินเป็นคนจ่ายเท่านั้น” แต่ว่าถังจื่อโม่กลับยืนหยัดแน่วแน่
เมื่อครู่ที่เขาแย่งประมูลของกับเย่ซือเฉิน แย่งกันอย่างดุเดือดขนาดนั้น แต่สุดท้ายเย่ซือเฉินกลับไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
เขาไม่มีทางปล่อยผ่านไปแบบนี้แน่
เขาคิดว่าอีกเดี๋ยวจะให้เย่ซือเฉินช่วยจ่ายเงินให้เขา ต้องดึงดูดความสนใจจากเย่ซือเฉินได้แน่นอน ถึงตอนนั้นเย่ซือเฉินคงไม่มีทางมองข้ามเขาอีกแล้วล่ะมั้ง?
ถึงแม้ถังจื่อโม่บอกว่าเป็นการทดสอบเย่ซือเฉิน แต่ที่จริงความคิดของถังจื่อโม่คือต้องการดึงดูดความสนใจจากเย่ซือเฉิน ต้องการให้เย่ซือเฉินเห็นความสำคัญ
สำหรับเด็กที่พ่อไม่ได้เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก ๆ ที่จริงในใจของเขายิ่งต้องการความรักจากพ่อ ทั้งคาดหวังและทั้งกลัว กลัวว่าจะไม่ได้รับความรักจากพ่อ กลัวว่าพ่อจะไม่ชอบตัวเอง
ถังจื่อโม่เข้มแข็งมาตั้งแต่เด็ก และฉลาดอีกด้วย แต่กลับอ่อนไหวยิ่งกว่าเด็กทั่วไปเสียอีก!
นี่คือสาเหตุที่ถังจื่อโม่ไม่ยอมรับเย่ซือเฉิน!!
ยิ่งเย่ซือเฉินมองข้ามเขา ในใจเขาก็ยิ่งรู้สึกหดหู่ ยิ่งอยากคิดหาสารพัดวิธีเพื่องเรียกร้องความสนใจจากเย่ซือเฉิน
ฉู่หลิงเอ๋อเห็นท่าทางของถังจื่อโม่ ก็ขยับปากเล็กน้อย แต่สุดท้ายคำพูดก็ติดอยู่ที่ปากแล้วกลืนมันลงไป
จื่อโม่ยืนยันหนักแน่นอย่างนี้ เธอคงโน้มน้าวอะไรไม่ได้แล้ว
ได้แต่หวังว่าถึงตอนนั้นคุณชายสามเย่จะเมตตา ไม่โหดร้ายเกินไป
หัวหน้าน้อยในห้องหมายเลข 10 ตอนนี้ก็อึดอัดใจมาก : “จบแบบนี้เนี่ยนะ ห้องหมายเลข 11 นั่นตกลงยังไงกันแน่? เย่ซือเฉินทำแบบนี้หมายความว่าไง?”
ตอนนี้หัวหน้าน้อยไม่เข้าใจจริง ๆ คนจากห้องหมายเลข 11 พุ่งเป้ามาที่เย่ซือเฉินชัดเจน ทำไมถึงได้จบลงแบบนี้ล่ะ?
“เย่ซือเฉินไม่ได้ประมูลแล้ว คนจากห้องหมายเลข 11 ก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีก ก็ต้องจบลงแค่นี้ล่ะครับ” อะเฉียงค่อนข้างสงบนิ่งกว่าเยอะ แล้วตอบกลับไปตามข้อเท็จจริง
“แกว่าคนจากห้องหมายเลข 11 เป็นใครกันแน่?” หัวหน้าน้อยตาลุกวาวขึ้นมา ดูเหมือนจะรู้สึกสนใจขึ้นมา : “แต่น่าเสียดายที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่อย่างนั้นฉันอยากเข้าไปทำความรู้จักสักหน่อย”
หัวหน้าน้อยไม่เคยเชื่อในความสามารถของผู้หญิงเลย ในสายตาของเขาผู้หญิงก็คือความวุ่นวาย ฉะนั้นปกติเขาจึงไม่ค่อยคบค้าสมาคมกับผู้หญิงสักเท่าไหร่
ส่วนคุณหนูใหญ่ตระกูลถังถือเป็นกรณีพิเศษ หลัก ๆ เป็นเพราะรู้ว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังอาจจะเป็นลูกสาวของหัวหน้า เขาจึงเริ่มให้ความสนใจขึ้นมา จากนั้นเมื่อได้ฟังเรื่องราวต่าง ๆ ของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง เขาก็ยิ่งอยากรู้และสนใจคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมากขึ้นไปอีก
และเมื่อรู้เรื่องของคุณหนูใหญ่ตระกูลถังมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็พบว่าเขายิ่งมีความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นเท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็พบว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลถังคนนี้ไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่น ๆ
ลูกสาวของหัวหน้าต้องต่างกับคนอื่นอยู่แล้ว
สำหรับผู้หญิงคนอื่นในสายตาของหัวหน้าน้อยยังคงแทนด้วยคำว่าวุ่นวายเหมือนเดิม
อะเฉียงเบ้ปากเล็กน้อย เขาคิดว่าหัวหน้าน้อยของตัวเองคงจะเป็นโสดไปตลอดชีวิตแน่นอน
เป็นผู้หญิงแล้วทำไมล่ะ? ผู้หญิงก็เก่งกาจได้เหมือนกัน
ของประมูลเหลืออยู่ไม่มากนัก แม้ว่าคนอื่น ๆ ไม่ได้แข่งประมูลกันเร็วเท่ากับตอนที่พวกคุณชายสามเย่ประมูลกัน แต่ก็ไม่ได้เสียเวลาไปสักเท่าไหร่
ตอนนี้บนเวทีพิธีกรได้แนะนำสิ่งของชิ้นสุดท้ายของค่ำคืนนี้แล้ว
ถังจื่อโม่มองสิ่งของที่อยู่บนแท่นประมูล จากนั้นก็หันไปมองทางห้องของเย่ซือเฉินครู่หนึ่ง แน่นอนว่ามองไม่เห็นอะไรภายในห้องหรอก
“ผมจะไปรอที่รถนะครับ ที่เหลือฝากจัดการด้วย” ถังจื่อโม่สไลด์ลงจากเก้าอี้ แล้วยืนขึ้น จากนั้นก็เตรียมตัวจากไป
“จื่อโม่ หมายความว่าไง? นี่หนูหมายความว่ายังไง?” ฉู่หลิงเอ๋ออึ้งไปเลย นี่มันอะไรกันเนี่ย?
อะไรคือการฝากให้เธอจัดการที่เหลือด้วย?
ที่เหลือคือเรื่องอะไร? ถึงตอนสุดท้ายแล้ว ที่เหลือก็คือจ่ายเงินไม่ใช่เหรอ?
จื่อโม่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าต้องการให้คุณชายสามเย่เป็นคนจ่ายเงินให้ แต่ตอนนี้จื่อโม่กลับโยนให้เธอจัดการนี่มันหมายความว่ายังไง?
คือให้เธอออกหน้าไปบอกให้คุณชายสามเย่จ่ายเงินให้งั้นเหรอ? !
“คุณน้าไปหาเย่ซือเฉิน แล้วให้เขาจ่ายเงินแทน” ถังจื่อโม่สบตากับฉู่หลิงเอ๋อที่กำลังตกตะลึงอยู่ แล้วตอบกลับอย่างเรียบเฉย
“ทำไมต้องเป็นน้า? ทำไมหนูไม่ไปเองล่ะ? หนูไปด้วยตัวเองจะดีกว่าไม่ใช่เหรอ?” ฉู่หลิงเอ๋อตอนนี้เดาใจถังจื่อโม่ไม่ถูกแล้ว จื่อโม่ต้องการดึงดูดความสนใจจากเย่ซือเฉินไม่ใช่หรือไง?
ถ้าตอนนี้จื่อโม่เป็นคนไปหาด้วยตัวเองจะยิ่งดีกว่าไม่ใช่เหรอ?
“ผมจะรอให้เขาเป็นฝ่ายมาหาผมเอง!!” ถังจื่อโม่เบะปากเล็กน้อย เขาไม่สามารถไปเจอกับเย่ซือเฉินตรง ๆ ได้ เขาต้องการให้เย่ซือเฉินเป็นฝ่ายค้นพบเขา ต้องการให้เย่ซือเฉินเป็นฝ่ายมาหาเขา