ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1020 คุณชายสามเย่ตกตะลึง นั่นคือลูกชายแท้ ๆ ของคุณนะ (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1020 คุณชายสามเย่ตกตะลึง นั่นคือลูกชายแท้ ๆ ของคุณนะ (2)
ถ้าเป็นอย่างนี้จริง ๆ งั้นเรื่องนี้……
มุมปากของคุณชายสามเย่โค้งขึ้นเล็กน้อย ถ้าหากถังจื่อโม่มั่นใจว่าเขาจะไม่เอาเรื่องไปบอกเวินลั่วฉิง งั้นเขาก็ต้องทำให้ถังจื่อโม่ผิดหวังแล้วล่ะ เขาจะบอกเรื่องนี้กับเวินลั่วฉิงให้ได้
คุณชายสามเย่หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วกดโทรไปที่เบอร์ของเวินลั่วฉิง
หลังจากเสียงโทรศัพท์ดังอยู่ครู่หนึ่ง เวินลั่วฉิงก็รับสาย : “ฮัลโหล”
น้ำเสียงของเวินลั่วฉิงเบามาก ฟังดูอ่อนโยนมาก คุณชายสามเย่ได้ฟังเสียงของเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา แต่คุณชายสามเย่ยังไม่ลืมเรื่องสำคัญที่เขาโทรศัพท์มาครั้งนี้ : “เมื่อครู่นี้ถังจื่อโม่ประมูลของที่สมาคมประมูลหงเยว่ไปหลายชิ้น จากนั้นเขาหนีไป แล้วให้ฉันเป็นคนจ่ายเงิน”
เย่ซือเฉินไม่ได้บอกว่าเป็นเงินเท่าไหร่ แต่ใครก็รู้ว่าของที่ประมูลจากสมาคมประมูลหงเยว่ไม่เคยมีของราคาถูก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงของหลายชิ้น
เขาจงใจทำแบบนี้ เขาต้องการให้เวินลั่วฉิงเห็นธาตุแท้ของไอละอ่อนถังจื่อโม่คนนั้น
เลขาหลิวที่กำลังขับรถตัวแข็งทื่ออยู่นั้นได้ยินท่านประธานพูดฟ้องชัดเจนขนาดนี้ก็อึ้งไปเลย
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
ท่านประธานกำลังฟ้องอยู่เหรอ?
กำลังฟ้องเรื่องถังจื่อโม่คนนั้นเนี่ยนะ?
แต่ว่า ท่านประธานกำลังฟ้องให้ใครฟัง?
เลขาหลิวคิดว่าคนที่สามารถทำให้ท่านประธานใช้น้ำเสียงแบบนี้ได้ดูเหมือนจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือคุณนายของท่านประธาน!
ฉะนั้น……
ฉะนั้นท่านประธานกำลังฟ้องคุณนายอยู่เหรอ?
แต่เรื่องของถังจื่อโม่ ทำไมท่านประธานต้องไปฟ้องคุณนายด้วยล่ะ? หรือว่าคุณนายรู้จักถังจื่อโม่?
หรือน่าจะพูดว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณนายกับถังจื่อโม่คนนั้นไม่ธรรมดา?
จู่ ๆ เลขาหลิวก็นึกถึงปฏิกิริยาของท่านประธานก่อนหน้านี้ตอนที่ได้ยินชื่อถังจื่อโม่ขณะที่อยู่สมาคมประมูลหงเยว่ ตอนนั้นเขายืนอยู่ข้างท่านประธาน เขาสามารถสัมผัสถึงรังสีอำมหิตจากตัวท่านประธานได้อย่างชัดเจน ตอนนั้นท่านประธานเหมือนอยากฆ่าคนเลยล่ะ!!
ท่านประธานอยากฆ่าถังจื่อโม่คนนั้น!!
โกรธแค้นอะไรกัน? เกลียดอะไรกัน? ถึงทำให้ท่านประธานแผ่รังสีอำมหิตออกมาได้ขนาดนั้น?
เลขาหลิวคิดว่าน่าจะเป็นไปได้อยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือถังจื่อโม่เป็นศัตรูหัวใจของท่านประธาน
เลขาหลิวเหมือนจะคิดได้แล้ว!!
มิน่าล่ะ มิน่าล่ะ
แต่ท่านประธานไปฟ้องเรื่องศัตรูหัวใจกับคุณนายเนี่ยนะ? !!!
การกระทำของท่านประธานเด็ดเดี่ยวจริง ๆ!
กู้หวูรู้สึกตัวได้เร็วกว่าเลขาหลิว สังเกตได้ละเอียดยิ่งกว่า ดังนั้นสิ่งที่เลขาหลิวคิดได้ กู้หวูก็คิดได้แล้วเช่นกัน
ตอนนี้กู้หวูมองไปที่ลูกพี่ของตัวเอง ด้วยสีหน้าตะลึงงัน ด้วยสีหน้าตกใจ และสีหน้าที่ดูลึกลับ
การกระทำของลูกพี่ เขาขอคารวะ!!
“ห๊ะ? อืม” ปลายสาย เวินลั่วฉิงอึ้งก่อนเล็กน้อย จากนั้นก็ตอบกลับเบา ๆ หนึ่งคำ ที่เธอคาดไม่ถึงก็คือถังจื่อโม่ไปถึงสมาคมประมูลหงเยว่
แต่ว่า เรื่องที่ถังจื่อโม่ประมูลของแล้วให้เย่ซือเฉินเป็นคนจ่ายเงินเธอกลับไม่ได้รู้สึกแปลกใจสักเท่าไหร่ และไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมากนัก เพราะเรื่องนี้ไม่ได้ใช่เรื่องผิดอะไร
ยังไงถังจื่อโม่ก็เป็นลูกชายของเย่ซือเฉิน ลูกชายประมูลของแล้วให้พ่อของเขาเป็นคนจ่ายเงินก็เป็นเรื่องสมควรอยู่แล้ว
เวินลั่วฉิงไม่รู้เรื่องราว และไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ดังนั้นจึงไม่ได้พูดอะไรมาก
เพียงแค่คิดว่าสองพ่อลูกน่าจะสู้รบกันอย่างเป็นทางการแล้ว ตอนนี้น่าจะได้เจอหน้ากันแล้วมั้ง?
แล้วตอนนี้เย่ซือเฉินโทรศัพท์หาเธอเพราะมาเอาผิดเธอ คิดบัญชีกับเธองั้นเหรอ?
พูดตามตรง เรื่องนี้ทำให้เวินลั่วฉิงรู้สึกร้อนตัวขึ้นมา ยังไงซะเธอก็ปิดบังเรื่องเกี่ยวกับถังจื่อโม่มาโดยตลอด
แม้ว่าจะเป็นการยืนกรานขอร้องจากถังจื่อโม่ แต่เรื่องแบบนี้ที่น่ากลัวที่สุดคือยิ่งพูดมากความก็จะยิ่งเกิดเรื่องเข้าใจผิดได้ ดังนั้นตอนนี้เธอควรจะระมัดระวังคำพูด
เย่ซือเฉินได้ยินปฏิกิริยาของเธอ ก็อึ้งไปอย่างเห็นได้ชัด ท่าทีอะไรของเธอกันเนี่ย? !
ดูเหมือนเธอไม่ได้ตกใจอะไรเลย และไม่ได้รู้สึกแปลกใจด้วย อีกทั้งเมื่อครู่นี้เขายังได้ยินน้ำเสียงของเธอเหมือนรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่สมควรอยู่เล็กน้อย
ไม่ ไม่ใช่เล็กน้อยสิ น้ำเสียงของเธอเมื่อครู่นี้ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้วชัด ๆ
นี่มันอะไรกัน?
หรือเธอคิดว่าถังจื่อโม่ผลาญเงินเขาเป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว?
เธอเข้าข้างไอละอ่อนนั่นขนาดนั้นเลยเหรอ?
“เธอไม่ถามเรื่องหลังจากนั้นหน่อยเหรอ?” เย่ซือเฉินแววตาดูเย็นชาขึ้น เขาแอบขบกรามอยู่ด้วย
จู่ ๆ เขาก็พบว่า ไป๋ยี่รุ่ย ถังไป๋เชียนอะไรนั่นไม่สำคัญเลยสักนิด ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าถังจื่อโม่ต่างหากเป็นคนที่เธอรักที่สุด
ถังจื่อโม่คนนั้นทำเรื่องแบบนี้ แต่เธอกลับไม่มีทีท่าไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย?
งั้นแสดงว่าไม่ว่าถังจื่อโม่จะทำอะไรผิดไป ก็ถูกต้องในสายตาเธอเสมอ?
นี่ไม่ใช่รักแท้หรอกเหรอ?
“อ้อ แล้วหลังจากนั้นล่ะ?” เวินลั่วฉิงตอบกลับเสียงเบา ๆ จากนั้นก็ถามตามที่เขาพูด
“จากนั้นฉันก็จ่ายเงินให้ไง” ตอนที่เย่ซือเฉินพูดออกมา ในใจรู้สึกอึดอัดมาก แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความใจกว้างของเขา เงินเล็กน้อยแค่นี้เขาไม่สนใจอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นคือได้ใช้เงินเล็กน้อยพวกนี้ตบหน้าไอละอ่อนนั่น ถือว่าสมใจเขาแล้วล่ะ
“อ้อ งั้นก็โอเคแล้วนี่” เวินลั่วฉิงตอบกลับด้วยคำพูดที่ฟังดูสมเหตุสมผล เขาจ่ายเงินก็ถูกต้องแล้ว ถ้าหากไม่จ่าย คงเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่
เย่ซือเฉิน : “……”
ทำไมเขาถึงรู้สึกหน่วง ๆ ที่หน้าอก ทำไมเจ็บหัวใจขนาดนี้ล่ะ? !
อะไรคือโอเคแล้ว? !
เธอหมายความว่าเขาช่วยถังจื่อโม่คนนั้นจ่ายเงินเป็นเรื่องที่สมควรงั้นเหรอ?
มีสิทธิ์อะไร? มีสิทธิ์อะไรกัน?
“มีสิทธิ์อะไร?” คุณชายสามเย่คิดอย่างนี้ เพราะตอนนี้อึดอัดใจมากเกินไป จึงควบคุมไฟที่ลุกโชนในใจไว้ไม่อยู่ เลยพูดความในใจออกมาตรง ๆ
ไม่สิ เรียกว่าตะคอกออกมาน่าจะถูกต้องกว่า
เลขาหลิวได้ยินเสียงตะคอกของประธานตัวเอง มือที่จับพวงมาลัยรถอยู่ก็สั่นเท่า จนเกือบขับเซไปแล้ว
เขาเป็นเลขาให้ท่านประธานมาตั้งหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นท่านประธานตะคอกเสียงดังขนาดนี้ นี่มันเรื่องอะไรกัน?
ฟ้องคุณนายไม่ได้ผลเหรอ?
เลขาหลิวรู้สึกว่า ไม่ต้องคิดมากเลย เห็นปฏิกิริยาของท่านประธาน ก็รู้ได้ทันทีว่าฟ้องไม่ได้ผลแน่นอน
ท่านประธานกำลังถามคุณนายว่ามีสิทธิ์อะไร?
หรือคุณนายบอกว่าการที่ท่านประธานจ่ายเงินให้ถังจื่อโม่เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว ดังนั้นท่านประธานถึงได้ถามคุณนายว่ามีสิทธิ์อะไร?
ถ้าหากเป็นแบบนี้จริง ๆ ก็ไม่แปลกที่ท่านประธานจะโกรธ
ท่านประธานจ่ายเงินให้ศัตรูหัวใจของตัวเอง แล้วคุณนายยังบอกว่าเป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว ตอนนี้ในใจของท่านประธานคงหงุดหงิดน่าดู?
ว่าแต่ คุณนายหมายความว่ายังไงเนี่ย?
หรือว่าในใจของคุณนาย ถังจื่อโม่คนนั้นสำคัญกว่าท่านประธานจริง ๆ?
เมื่อคิดได้ถึงความน่าจะเป็น เลขาหลิวก็อดตัวสั่นขึ้นมาไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ ท่านประธานคงต้องเป็นบ้าแน่ ๆ!!
เขาเองก็คงต้องบ้าด้วยเหมือนกัน!!
เพราะทุกครั้งที่ท่านประธานโมโห คนที่แรกที่ซวยก็คือเขาแน่นอน!!
เวินลั่วฉิงที่อยู่ปลายสายอึ้งไปทันที? !
มีสิทธิ์อะไร? ก็สิทธิ์ที่เป็นพ่อของถังจื่อโม่ไงล่ะ หรือมันยังไม่พอ?
พ่อจ่ายเงินให้ลูกชายไม่ใช่เรื่องสมเหตุสมผลหรอกเหรอ?
ไม่น่าจะจำเป็นต้องสงสัยเลยนะ?
ยังไงซะถังจื่อโม่ก็เพิ่งจะห้าขวบเอง ยังไม่ได้บรรลุนิติภาวะเลยด้วยซ้ำ!!