ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 122 คุณชายสามเย่ ถ้าคุณเป็นเช่นนี้จะ ทำให้สูญเสียภรรยา (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 122 คุณชายสามเย่ ถ้าคุณเป็นเช่นนี้จะ ทำให้สูญเสียภรรยา (2)
ตอนที่ 122 คุณชายสามเย่ ถ้าคุณเป็นเช่นนี้จะ ทำให้สูญเสียภรรยา (2)
ขณะนี้เขารู้สึกว่าถ้าเขายังคุยกับเธอต่อ คาดว่าจะ ต้องถูกเธอตรอมใจตายแน่ เย่ซื้อเฉินจึงกดวางสาย
เลขาหลิวยืนอยู่ที่ด้านข้าง หลังจากที่เย่ซือเฉิ นวางสาย หน้าจอมือถือก็แสดงภาพบันทึกการสนทนา ขึ้น
เลขาหลิวเห็นบันทึกการสนทนาเป็นชื่อของ– เงินลั่วเฉิง?
ดวงตาของเลขาหลิววิบวับอย่างรวดเร็ว เมื่อกี้นี้ ท่านประธานคุยโทรศัพท์กับคุณนายหรอ?
ให้ตายสิ! !
เขาว่าเมื่อกี้เขารู้สึกว่าท่านประธานพูดไม่ตรงกับ ใจ ที่แท้ก็กำลังโกรธคุณนายอยู่นี้เอง?
คุณนายเก่งจังเลย สามารถทำให้ท่านประธาน
โกรธขนาดนี้ได้? !
เขาติดตามท่านประธานมาหลายปี ครั้งแรกที่เพิ่ง เคยเห็นท่านประธานโกรธขนาดนี้! !
ท่านประธานกับคุณนายทะเลาะกันหรือ?
และดูเหมือนว่าจะรุนแรงซะด้วย! !
ใบหน้าของเลขาหลิวมีความขุ่นเคืองน้อยๆ ท่าน ประธานทะเลาะกับคุณนาย เขาต้องช่วยท่านประธาน แก้ไขปัญหาให้ได้
มิเช่นนั้นแล้ว ถ้าท่านประธานอารมณ์ไม่ดี คนแรก ที่จะต้องรับเคราะห์ก็ต้องเป็นเขา ขณะนี้เลขาหลิว กำลังหาหนทางรอดชีวิตอยู่
เป็นลั่วนิ่งโดนวางสาย ดวงตาก็เกิดวาววาม ถึง แม้ว่าเธอจะคิดไม่ออกว่าเย่ซือเฉินโกรธทำไม แต่เธอรู้ ดีว่าเย่ซื้อเฉินกำลังโกรธและโกรธจนต้องวางสายทิ้ง
เงินลั่วชิงถอนหายใจเบาๆ คิดตรองได้สักพักก็ โทรไปหาเย่ซื้อเฉินอีก ในห้องทำงาน มือถือของเย่ซือเฉินดังขึ้นกะทันหัน
เลขาหลิวกำลังคิดว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไรก็รีบเงย
หน้าขึ้นมอง จากนั้นมองแค่แวบเดียวก็เห็นชื่อที่ปรากฏ
ตรงหน้าจอมือถือของท่านประธาน
เลขาหลิวตกตะลึง แล้วรู้สึกเบาใจลง โอ้โห! คุณนายช่างเป็นคนที่ใจกว้าง รู้จักวางตัว เมื่อกี้ท่าน ประธานพูดไม่เข้าหู แถมยังวางสายคุณนายทิ้ง คุณนายกลับโทรมาหาเอง
หายากมาก หายากจริงๆ ! !
ถ้าเป็นเช่นนี้ ท่านประธานก็จะต้องหายโกรธอย่าง แน่นอนเชียว
เยซื้อเฉินเห็นเงินลั่วชิงโทรมา สีหน้าที่เคร่งขรึมกลับมาดีขึ้น ปากก็เหมือนกำลังอมยิ้มอยู่อีกด้วย
ในที่สุดเธอก็รู้ว่าผิดแล้ว? โทรมาทบทวนตัวเอง ความผิดของตัวเองหรือ?
เลขาหลิวเห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็รู้สึกวางใจลง
ดีจัง ดีจังเลย! !
“ฮัลโหล”เย่ซื้อเฉินเห็นมือถือดังขึ้นสามครั้งจึงรับ
สาย
เลขาหลิวยกมุมปากขึ้น ในใจท่านประธาน กระวนกระวายอย่างกะอะไรดี แต่ยังแสร้งทำเป็นไม่มี อะไรอีก?
ท่านประธานยังโอเคอยู่ใช่ไหม?
“คุณจะกลับบ้านตอนไหนค่ะ? “เวินลั่วฉิงคิดว่าไม่ ว่าตอนนี้เธอจะมีสถานะอะไรกับเย่ซือเฉิน แต่เธอก็ ต้องพูดให้ละเอียดให้เข้าใจกัน และแน่นอนว่าบาง เรื่องคุยที่โทรศัพท์จะไม่สะดวกคุยไม่รู้เรื่อง เธอคิดว่า ควรจะกลับบ้านไปคุยกันดีๆ
“ผมยังมีการประชุมที่สำคัญอยู่ มีเรื่องอะไรพูดมา ส? “ดวงตาของเย่ซือเฉินเป็นประกายวิบวับ ครั้งนี้ เงินลั่วชิงไม่ได้เรียกว่าคุณสามี คุณชายสามเย่ฟังแล้ว ไม่รื่นหูนัก แต่เธอโทรมาหาเขาก่อน ทำให้เขาไม่ค่อย โกรธมากเท่าไหร่แล้ว แต่เขารู้สึกว่าเรื่องนี้จะให้ผ่าน ไปง่ายๆเช่นนี้ไม่ได้
ถ้าเขายกโทษให้เธอง่ายๆ เธอก็จะไม่รู้ความผิดของตัวเอง ยิ่งไม่ได้จดจำไว้เป็นบทเรียน คุณชายสาม เย่แค่อยากให้เธอรับรู้ความผิดของตัวเองอย่างถ่องแท้ จากนั้นจะได้ทบทวนตัวเองเสียจริงจัง
เมื่อเป็นเช่นนี้ วันหลังเขาก็จะจำได้แล้ว! ! เลขาหลิว”.”
ท่านประธานยังมีการประชุมที่สำคัญ? ทำไมเขา
ไม่รู้เรื่องเลย?
เขาเป็นเลขาคนสนิทชิดเชื้อกับท่านประธาน ท่าน ประธานมีประชุมหรือไม่เขารู้ดีที่สุด?
วันนี้บริษัทไม่ได้มีเรื่องอะไรอีก คืนนี้ท่านประธาน ก็ไม่ได้มีนัดอะไรอีกด้วย! !
ท่านประธานกำลังพูดเท็จอยู่นะเนี่ย! !
ดังนั้น ท่านประธานกำลังคิดจะทำอะไรอยู่นะ? เลขาหลิวมองประธานของตน ดวงตาเต็มด้วย ความสงสัย จู่ๆก็เข้าใจขึ้นมา
ท่านประธานมีเจตนาจงใจ! !
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ยินเสียงของคุณนาย แต่ว่าดู จากที่ท่านประธานตอบแล้ว เดาว่าคุณนายน่าจะถาม ว่าท่านประธานจะกลับบ้านเมื่อไหร่
คุณนายยอมถอยตัวขนาดนี้แล้ว ท่านประธานยัง จะเหยินหยิ่งอะไรกัน? !
เลขาหลิวที่ยืนอยู่ด้านข้างใจร้อนเป็นห่วงนัก!เวลานี้เลขาหลิวอยากจะแย่งมือถือของท่านประธาน จากนั้นก็ไล่ท่านประธานกลับบ้านไปหาคุณนาย
เงินลั่วชิงฟังน้ำเสียงของเย่ซือเฉินก็รู้สึกตกตะลึง ด้วยความสงสัย ถึงแม้จะมีมือถือกั้นไว้ แต่เวินลั่วฉิงฟัง น้ำเสียงของเย่ซือเฉินออกว่าไม่เหมือนเมื่อกี้ เธอ ฟังออกว่าเขาไม่ได้โกรธแล้ว
แสดงว่าไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม?
ตอนแรกเวินลั่วฉิงเห็นว่าเย่ซือเฉินกำลังโกรธอยู่ จึงได้โทรไปหา ตอนนี้เห็นเขาไม่โกรธแล้ว เวินลั่วฉิงจึง รู้สึกเบาใจลง
ในเมื่อเขาไม่ได้โกรธแล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไรอีก และไม่จำเป็นต้องคุยกันให้ได้แล้ว
หรืออาจจะเป็นเพราะเมื่อกี้พวกเขาพูดจบแล้ว เป็นไปได้ว่าเย่ซื้อเฉินไม่ใช่ว่าโกรธถึงได้วางสายเธอ ทิ้ง อาจจะเป็นเพราะเขารู้สึกว่าคุยเสร็จแล้ว และเขาก็ ยุ่งอยู่จึงได้กดสายทิ้งไป
เธออาจจะคิดมากไปเอง เธอรู้สึกว่าตัวเองในบาง เวลาง่ายต่อการเป็นโรคติดงาน
“ค่ะ งั้นคุณทำธุระของคุณเลยค่ะ ฉันจะไปเดิน ห้างหน่อยค่ะ” ในเมื่อเขามีธุระ เธอก็จะไม่รบกวนเป็น อันขาด
ในเมื่อเขามีธุระไม่สามารถกลับบ้านได้ เธอก็ไม่ จำเป็นต้องรีบกลับบ้านเช่นกัน
เธอคิดว่าไปหาเด็กน้อยทั้งสองก่อนดีกว่า
เงินลั่วชิงพูดเสร็จก็กดวางสายเลย ตอนนี้ได้จัดการปัญหาเป็นที่เรียบร้อย เธอรู้สึกว่า ผ่อนคลายเป็นอย่างมาก อารมณ์ก็ดีไม่ใช่น้อย
ซื้อเฉินเห็นถูกวางสายทิ้ง ทิ้งไปสองวินาที จาก นั้นด้วยระยะที่สายตาคนอื่นสามารถมองเห็นได้ สีหน้า ของเขาเคร่งขรึมขึ้นมา
เกิดอะไรขึ้น?
เธอวางสายง่ายๆอย่างนี้เลยหรือ?
เธอโทรมาไม่ใช่จะมาพูดทบทวนความผิดของตน หรือ? การสำนึกผิดของเธอล่ะ? ! การสำนึกผิดของ เธอล่ะ?
เธอไม่ได้พูดอะไรก็วางสายทิ้ง หมายความว่า
อย่างไร? เมื่อกี้เธอพูดอะไรกับเขานะ? จะไปเดินห้าง?
เวลานี้เธอบอกเขาว่าจะไปเดินห้าง?
ไปเดินห้าง? ดังนั้น เธอไม่ได้สนใจความผิดของ ตนแม้แต่นิดเดียวเลยใช่ไหม?
เชื่อเธอเลย? เชื่อเธอเลย! !
คุณชายสามเย่จับมือถือไว้แน่น แน่นจนครั้งนี้มือ ถือถูกบีบจนเปลี่ยนรูปร่างไปแล้ว
ขณะนี้สีหน้าคุณชายสามเย่เคร่งขรึมเป็นอย่าง มาก ดูแล้วน่ากลัวที่สุด
เลขาหลิวเห็นท่าทางของประธานของตนก็ทนไม่ ไหวบิดปากขึ้นมาก!
ถึงแม้ตอนนี้ท่าทีของท่านประธานจะน่าหวาดกลัว สักเพียงใด แต่เลขาหลิวก็รู้สึกอยากหัวเราะอย่างทน ไม่ไหว
เหยินหยิ่งเข้าไป เหยินหยิ่งเข้าไป ทีนี้จะโทษใคร
ดีล่ะ?
คุณนายโทรมาปรองดองแล้ว คุณยังจะเล่นตัว อีก? ยังจะเหยินหยิ่งอีก?
ทำตัวเองแท้ๆ จะโทษคนอื่นได้ไง? สมควร(สมน้ำหน้า)! !
ในเวลานี้ดวงตาของเย่ซือเฉินหันมามองเลขาหลิว
ท่าทางของเย่ซื้อเฉินนั้นกะทันหันเกิน เลขาหลิว ยังไม่ทันได้เก็บอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองเลยก็ถูก ซื้อเฉินจับได้เสียแล้ว
จากนั้น วินาทีก่อนเลขาหลิวยังมีความสุขกับสิ่งที่ เขาประสบพบเจอเรื่องไม่ดีอยู่เลย แต่วินาทีต่อมากลับ ต้องมีจุดจบที่น่าอนาถนัก…