ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 153 หย่าก่อนกำหนด (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 153 หย่าก่อนกำหนด (2)
บทที่ 153 หย่าก่อนกำหนด (2)
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เป็นลั่วฉิงตัดสินใจว่าจะทำดีให้ ถึงที่สุด “ถ้างั้นพวกเราไปหย่ากันวันนี้เลยดีไหม? ”
เพราะยังไงเสียก็ต้องหย่ากันอยู่แล้ว ยิ่งเร็วจึงยิ่งดี มันดีต่อพวกเขาทั้งสองคนและดีต่อเธอด้วย
หลังจากที่หย่าเสร็จแล้ว เธอก็สามารถพาเด็กน้อย ทั้งสองคนกลับไปได้แล้ว ไม่ต้องใช้ชีวิตอย่าง หวาดระแวงอย่างนี้อีกต่อไป
แววตาของเวินถั่วนิ่งมีความสุขอย่างไม่ได้ปิดบัง
เห็นท่าทีเธอมีความสุขเช่นนี้ เย่ซือเฉินรู้สึกหายใจ ไม่ออกเหมือนมีอะไรมากั้นหัวใจเขาไว้ เขาอยากจะ หยิกเธอให้ตายเสียจริงๆ
ไม่ใช่สิ เขายิ่งอยากจะกดทับบนร่างเธอ เอาเธอ ให้สาสมใจอยากอย่างรุนแรงไปเลย
มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะหย่าร้างกัน ตั้งแต่นาที ที่แต่งงานกันมา เขาไม่เคยคิดที่จะหย่ามาก่อน ชาตินี้ เธออย่าได้คิดที่จะหย่าเลย แน่นอนว่าเขารู้ว่าตอนนี้เธอไม่ได้ชอบเขา เขาถึง
ขั้นรับรู้ได้ว่าเธอต่อต้านความรักขนาดไหนอีกด้วย
แต่เธอไม่ต่อต้านร่างกายของเขา ไม่ต่อต้านการ
เข้าใกล้ของเขา และไม่ต่อต้านการจูบของเขาด้วย
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็หลับนอนกับเธอเลยละกัน ได้ตัวเธอก่อนค่อยคว้าใจเธอทีหลัง
แน่นอนว่าต้องหลับนอนอย่างสมยอม และไม่มี
ทางที่จะหย่าเด็ดขาด
เขารู้สึกว่าต้องเร่งฝีเท้าในการสืบค้นเรื่องนั้นให้ กระจ่างโดยเร็วที่สุด ขอแค่มีหลักฐานว่าเธอเป็นผู้หญิง ใน 5 ปีก่อนเพียงพอ ถึงเธออยากจะไปก็ไม่มีทางเด็ด ขาด
แน่นอนว่าตอนนี้ไม่หย่าร้างก็คงจะต้องใช้เหตุผล เดิมก่อน
“หูข้างไหนของคุณได้ยินว่าผมไม่เอาหุ้นส่วนของ บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปแล้วล่ะ? ” เย่ซือเฉินได้แต่คิดวิธี ดึงคำพูดเมื่อกี้กลับคืนมา
มีคนเคยบอกว่าสายน้ำไม่หวนคืน น้ำที่เทออกไป แล้วยากที่จะเก็บกลับมา ถึงมันจะเก็บกลับมาได้ยาก สักเพียงไร แต่บัดนี้เขาจำเป็นต้องถ่มน้ำลายแล้วกลับ กลืนกินอีก
“ได้ยินเต็มสองหูเลย เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดอยู่หยกๆ” เป็นลั่วนิ่งได้ยินเขาพูดเช่นนี้ก็รู้สึกมึนงง เมื่อกี้เขาเอ่ย ปากพูดเองและพูดเสียงดังด้วย หูเธอก็ไม่ได้มีปัญหา จะไม่ได้ยินได้อย่างไรกัน?
เมิ่งโรฉิงทนไม่ไหวหัวเราะออกมาอีกครั้ง พี่สะใภ้ เธอช่างน่ารักจริงๆ
“เข้าใจไหมว่ามันเป็นกลยุทธ์? ” เย่ซือเฉินจ้อง มองเธอแวบหนึ่ง ในขณะที่โกหกอยู่หน้าของเขาไม่ได้ แดงและไม่ได้หายใจถี่ๆเลย
มุมปากของเมิ่งโร่ถึงขยับ โอ้ย!พี่ชาย ช่างทำไป ได้นะ?
“เข้าใจ แต่ฉันรู้สึกว่ามันไม่มีประโยชน์หรอก” เงินลั่วฉิงกะพริบตาเบาๆ คนที่อวดดีและบ้าคลั่งอย่าง เขามีหรือจะใช้กลยุทธ์กระตุ้นฝ่านตรงข้าม? ทำไม เธอไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่เลย?
เมิ่งโร่ถึงตัวแข็งที่อ ที่แท้พี่สะใภ้รู้จักพี่ชายดีขนาด นี้เลย?
“มีประโยชน์ก็แล้วกันหนะ” เย่ซือเฉินกัดฟันทนไว้ ตอนที่ควรจะฉลาดไม่ฉลาด ตอนที่ควรจะโง่ก็กลับรู้ เท่าถึงการณ์จริงๆ มันช่างทำให้โมโหยิ่งนัก
“อืม” เงินลั่วฉิงไม่ยอมรับไม่ได้ว่ากลยุทธ์นี้ใช้ได้ ผลดีกับคุณปู่เย่ คุณปู่เย่นั้นเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลม จะไม่รู้ความสามารถของเย่ซือฉุนได้อย่างไรกัน เป็น ไปไม่ได้ที่จะยกบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปให้กับเย่ซือฉุน จริงๆ
เมื่อสักครู่นี้คุณปู่เย่แค่ขู่เย่ชือเฉินเฉยๆ แต่น้ำ เสียงที่ไม่สนใจของเย่ซือเฉิน คนที่ต้องใจร้อนและ กังวลก็คงต้องเป็นคุณปู่เย่อย่างแน่นอน
ถ้าเกิดว่าเยซื้อเฉินไม่สนใจจริงๆ ไม่สานงานบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปต่อ บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปคงต้อง จบลงเพียงเท่านี้แน่ๆ
เห็นท่าทางการตอบสนองของเธอ เย่ซื้อเฉินยัง ถือว่าพอใจอยู่ แต่เย่ซื่อเฉินยังเสริมอีกหนึ่งประโยคว่า “หากยึดตามหลักของสัญญาแต่งงานแล้ว ถ้าผมยังไม่ ได้หุ้นส่วนของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปก็ไม่สามารถที่จะ หย่าร้างกันได้ คิดว่าข้อนี้คุณน่าจะรู้ดีนะ”
“อืม ฉันรู้” เงินลั่วชิงพยักหน้าเล็กน้อย เธอเป็นคน เขียนสัญญาเอง เธอต้องรู้ดีอยู่แล้ว
เมื่อสักครู่เธอคิดว่าเขาตัดสินใจไม่เอาบริษัทตระ กูลเย่กรุ้ปก็เพื่อเมิ่งโร่ถึง เธอถึงได้เสนอยุติการ แต่งงานลง คิดไม่ถึงว่าจะดีใจไปเอง
“รู้แล้ว? จากนั้นล่ะ? “หางคิ้วของเย่ซื้อเฉินยกขึ้น เล็กน้อย ดวงตาทั้งคู่ได้จ้องมองเธออย่างไม่กะพริบตา
“ถ้าคุณยังไม่ได้หุ้นส่วนของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปก็ อย่าพูดถึงเรื่องหย่าอีกเด็ดขาด” เงินลั่วฉิงเข้าใจความ หมายของเขาดี และปกติเธอก็เป็นคนที่ทำตาม สัญญาณอยู่แล้ว ในเมื่อรับปากแล้วก็ต้องทำให้ได้ เมื่อ กี้เป็นเพราะเข้าใจผิด
ในเมื่อเขาไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เธอก็ต้อง รักษาสัญญาอย่างเคร่งครัด
“อิม อย่างนี้ดีที่สุด” เย่ซื้อเฉินรู้สึกพอใจ แต่มีบาง เรื่องที่ยังไม่วางใจ นั่นก็คือเขาต้องหาวิธีไม่ให้คุณปู่เย่ยกบริษัทตระกูลเย่กรุ้๊ปให้เขาเร็วๆ
แน่นอนว่า จิตใจอันโหดเหี้ยมของคุณชายสามเย่ นั้นไร้คนเทียบเทียม
เมิ่งโร่ถึงจ้องมองพี่ชายของตนด้วยความตกใจ เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพี่ชายของตนจะเป็นคนที่เจ้า เล่ห์และโหดเหี้ยมอย่างนี้มาก่อน!
เมิ่งโร่ถึงรู้สึกว่าพี่ชายเจ้าเล่ห์และโหดเหี้ยมไม่เอา
หน้าเลย ถึงแม้พี่ชายจะใช้วิธีหลอกลวงก็ต้องมีสักวันที่
หลอกพี่สะใภ้ให้อยู่ในกำมือได้ พี่สะใภ้เจอคนอย่างพี่
ชาย จึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย
ถ้าอยู่กับพี่ชายที่เจ้าเล่ห์โหดเหี้ยมเช่นนี้ ต้องมีสัก วันที่พี่สะใภ้จะกลายเป็นกระต่ายตัวที่ถูกพี่ชายกลั่น แกล้งต่างๆนาๆ
เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ ดีแล้ว
ดังนั้นความกังวลของเธอนั้นไร่ค่าสิ้นดี
“โอเค พวกคุณค่อยๆคุยกันนะ ฉันไปก่อนล่ะ” เมิ่ง โร่ฉิงรู้สึกว่าตนไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อแล้ว
เงินลั่วชิงรู้สึกคาดไม่ถึง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ไม่ว่า จะอย่างไงมันก็เป็นเรื่องของเย่ซือเฉินกับเมิ่งโร่ถิง เธอ จะไม่ถามอะไรมาก
เมื่อวานตอนเช้าเธอตกใจกลัวท่าทางของเย่ซือเฉิ
นมาก บวกกับช่วงนี้เธอไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนเด็กน้อยทั้งสองคนเลย อยากที่จะอยู่เป็นเพื่อนกับเด็กๆจริงๆ และ พอดีกับเมิงโร่ฉิงโทรมาบอกว่าจะไป ดังนั้นเธอจึง ได้….
“ฉันขอคุยตามลำพังกับคุณได้ไหม? “เมิ่งโร่ถึงจ้อ งมองเวินลั่วฉิง ดวงตากะพริบไปมาเร็วๆ จู่ๆก็เอ่ยปาก พูดขึ้นมาแทรกความนึกคิดของเวินลั่วเฉิง
เมื่อต้องเผชิญกับพี่ชายที่เจ้าเล่ห์อำมหิต เมิ่งโร่ถึง จึงรู้สึกสงสารพี่สะใภ้ ดังนั้นเพิ่งโร่ถึงจึงคิดว่าควรจะ ขัดขวางความร่ารื่นในการจีบพี่สะใภ้ของพี่ชายตนให้มี อุปสรรคบ้าง
ดวงตาเยซูเฉินจ้องมองเธอแวบหนึ่ง เพื่อแจ้ง เตือนเธอไม่ให้ทำตัวเหลียวไหล
เมิ่งโร่ถึงกลับไม่ใส่ใจราวกับไม่ได้เห็น เธอรี บดึงเงินถั่วนิ่งเข้าไปที่ห้องนอนของเธอ
ซื้อเฉินอยากจะขวางเธอไว้ แต่เมื่อคิดดูแล้วก็ คงไม่มีเรื่องอะไรใหญ่หลวงหรอก จึงคิดว่าช่างมันเถอะ
“พวกคุณตกลงแต่งงานกันจริงๆหรือ” เมื่อเข้ามา
ถึงที่ห้องนอน เมิ่งโร่ถึงก็ปิดประตูห้องแล้วถามขึ้นมา ทันที “อืม” เมื่อกี้เมิ่งโร่ถึงก็อยู่ในเหตุการณ์ คงจะได้ยิน หมดแล้ว ดังนั้นเวินลั่วฉิงจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้อง
ปิดบังเธอ
“ฉันขอบอกคุณว่าอย่าเชื่อใจเขาให้มากนัก อย่าให้เขามาหลอกเอาได้ และอย่าตกหลุมรักเขาง่ายๆนะ”
เมิ่งโร่ถึงรู้สึกว่าพี่ชายของตนเก่งกาจอยู่แล้ว ถ้า บวกกับเล่ห์เหลี่ยมและกลอุบายที่โหดเหี้ยม พี่สะใภ้คง ต้านทานได้ไม่นานอย่างแน่นอน ดังนั้นเธอจึงไม่อยาก ให้พี่สะใภ้โดนพี่ชายหลอกจนรักหัวปักหัวป่าอย่าง ง่ายๆ
ว่ากันว่า อะไรที่ผู้ชายได้มาอย่างง่ายๆจะไม่รู้จัก รักษาคุณค่าไว้
“คุณวางใจเถอะ ฉันไม่เป็นอยู่แล้ว” เงินลั่วฉิงยิ้ม น้อยๆ เพื่อยิ้มให้เธอวางใจ
ตั้งแต่ที่คลอดลูกออกมา เธอก็มอบความรัก ทั้งหมดให้กับเด็กน้อยทั้งสองคนหมดแล้ว
สำหรับเธอแล้วความรักก็เป็นเหมือนกับของ ฟุ่มเฟือย เธอไม่คิดที่จะครอบครอง! !