ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 368 เธอแสดงความสามารถออกมาให้เห็น สร้างความตกใจให้กับทุกคน (9)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 368 เธอแสดงความสามารถออกมาให้เห็น สร้างความตกใจให้กับทุกคน (9)
บทที่ 368 เธอแสดงความสามารถออกมาให้เห็น สร้างความตกใจให้กับทุกคน (9)
ความจริง เมื่อกี้ท่าทางของท่านปู่กู้ที่จ้องไปที่เวินลั่วฉิงคนส่วนใหญ่ต่างก็เห็นแล้ว แค่ไม่กล้าพูดออกมา ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าเวินลั่วฉิงจะพูดแบบนี้ออกมา ชั่วขณะหนึ่งแต่ละคนต่างก็ตกตะลึงไปอย่างสิ้นเชิง
สาวน้อยคนนี้ใจกล้าเพราะไม่รู้อะไร? หรือว่ารู้แล้วยังเจตนาทำ?
ไม่ว่าด้วยสาเหตุไหน ตอนนี้ในสถานที่แบบนี้เธอสามารถพูดแบบนี้ออกมาได้มันก็มากพอที่จะทำให้คนทึ่งได้แล้ว
“กูู้เชวียนจื่อ คุณทำอย่างนี้ไม่ถูกแล้ว คุณจะจ้องก็จ้องหลานแท้ๆ จะไปจ้องนังหนูเขาทำไม ผู้ชายตัวใหญ่(ชาวบ้านไม่มีการศึกษา)อย่างคุณ ทำให้นังหนูตกใจกลัวจะทำอย่างไร?” ท่านปู่ถังเอ่ยปากพูดได้พอเหมาะพอดี คำพูดของท่านปู่ถังค่อนข้างตรงพอสมควร
ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนแต่เป็นคนฉลาดทั้งนั้น ใครบ้างที่จะฟังไม่เข้าใจ?
ท่านปู่ถังจงใจเรียกชื่อเดิมของท่านปู่กู้——กูู้เชวียนจื่อ
ความจริง ท่านปู่กู้เปลี่ยนชื่อมานานหลายปีแล้ว แต่ว่าคนที่อยู่ที่นี่รู้จักชื่อนี้กันอยู่ไม่น้อย
ท่านปู่กู้ได้ยินคำพูดจองเวินลั่วฉิง เดิมทีในใจก็เกลียดจนถึงขีดสุดอยู่แล้ว ตอนนี้มาได้ยินคำพูดของท่านปู่ถังอีก ชั่วขณะหนึ่งก็โกรธจนปอดแทบจะระเบิด
แต่คำพูดที่เวินลั่วฉิงกับท่านปู่ถังพูดออกมานั้นแปลกมาก มันทำให้คนหาความผิดออกมาไม่ได้เลย ดังนั้นตอนนี้ถึงแม้ในใจท่านปู่กู้จะโกรธ ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้
เวินลั่วฉิงได้ยินท่านปู่ถังพูดเข้าข้างเธอ หวั่นไหวในใจเล็กน้อย อดเบนสายตาไปมองไม่ได้ จากนั้นก็เห็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยการประจบขอเครดิตเล็กน้อยของท่านปู่ถัง เห็นถึงการจ้องมองที่กังวลอย่างใจจดใจจ่อของท่านย่าถัง
เวินลั่วฉิงอึ้งไปครู่หนึ่ง จู่ๆก็ยิ้มออกมา ท่านปู่ถังกับท่านย่าถังน่ารักจริงๆ ไม่รู้ทำไม เธอเห็นท่านปู่ถังกับท่านย่าถังแล้วมีความรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมอย่างหนึ่ง
“คุณเห็นหรือเปล่า? นังหนูยิ้มให้ฉันแล้ว” ท่านย่าถังดีใจจนแทบจะกระโดดโลดเต้นขึ้นมา เรื่องบางอย่างมันก็น่าทึ่งมากจริงๆ เจอหน้ากันครั้งแรกแท้ๆ ยังไม่เคยแม้แต่จะพูดกันสักคำแท้ๆ แต่ว่าในใจกลับมีความรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมและห่วงใยอย่างอธิบายไม่ถูก
“อืม” ท่านปู่ถังพยักหน้าตอบรับ สำหรับคำพูดของท่านย่าแล้ว เขาเชื่อฟังและคล้อยตามมาโดยตลอด
“นังหนูยิ้มแล้วสวยมากจริงๆ” จู่ๆท่านย่าถังก็เสริมมาอีกคำ ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อกี้เห็นรอยยิ้มของนังหนูแล้ว จู่ๆในใจของเธอก็มีความรู้สึกประทับใจอย่างบอกไม่ถูก เป็นความรู้สึกที่พิเศษมากอย่างหนึ่ง
“สวยมากจริงๆ แต่ว่า สวยไม่เท่าคุณ” ท่านปู่ถังมองไปทางท่านย่าถัง คำรักแบบนี้ ที่เขาพูดอบอุ่นไปถึงก้นบึ้งของหัวใจคน
เรื่องเมื่อกี้ เวินลั่วฉิงไม่ได้วอกแวกเสียสมาธิ แต่ว่ากู้ชิ่งซินกลับวอกแวกเสียสมาธิอย่างให้ได้ชัด เวินลั่วฉิงยิ้มออกมา โจมตีต่อเนื่องสองสามก้าว จากนั้นกู้ชิ่งซินก็พ่ายแพ้อีกครั้ง
กู้ชิ่งซินอึ้งไป ท่านปู่กู้ก็อึ้งไป ทุกคนต่างก็อึ้งไป แต่ว่าท่านปู่ถังกลับยิ้มออกมา รอยยิ้มนั้นเจ้าเล่ห์เหมือนหมาจิ้งจอก นังหนูคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ นึกไม่ถึงว่า ตระกูลเวินจะมีวาสนาแบบนี้ เลี้ยงดูเด็กที่ยอดเยี่ยมโดดเด่นแบบนี้ออกมาได้!
น่าอิจฉาจริงๆ
หลังจากทุกคนได้สติกลับมา ตอนที่มองไปที่เวินลั่วฉิงอีกครั้ง ความรู้สึกที่แสดงออกทางสายตาเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าหากเวินลั่วฉิงชนะในครั้งแรก ยังพอจะ
พูดได้ว่าเป็นความโชคดี แต่ว่าเวินลั่วฉิงชนะกู้ชิ่งซินอีกครั้งเป็นครั้งที่สองมันก็ไม่ใช่เรื่องของโชคอย่างแน่นอนแล้ว
ถึงอย่างไรกู้ชิ่งซินก็เป็นถึงแชมป์โลก
กู้ชิ่งซินไม่เคยผ่านพายุฝนมาก่อน ไม่เคยพบเจอกับอุปสรรค และไม่เคยประสบกับความล้มเหลวมาก่อน ‘ลูกชายที่ถูกตามใจจนเสียคน’ ในเวลาปกติก็เคยชินกับการหยิ่งยโสโอหัง
คนแบบนี้ ทนรับความกระทบกระเทือนจิตใจใดๆไม่ได้เลย กระเทือนจิตใจนิดเดียว ก็สามารถทำให้เขาพังทลายลงมาได้ และในตอนนี้ เขาที่อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แพ้ให้กับเวินลั่วฉิงที่ได้ชื่อว่าโง่สองเกมติดต่อกัน สำหรับเขาแล้วนี่ไม่ใช่การกระทบกระเทือนจิตใจเล็กน้อยอย่างแน่นอน
“มาอีก มาอีกครั้ง ชนะสามในห้าเกม” ตอนนี้กู้ชิ่งซินเปลี่ยนไปเป็นบ้าคลั่งเล็กน้อย เขาจะไม่แพ้ และจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด
ตอนนี้ท่านปู่กู้ก็เข้าใจแล้วว่าเวินลั่วฉิงสามารถเอาชนะได้ไม่ได้อาศัยแค่โชคช่วย แต่พอจะมีความสามารถอยู่จริงๆ
ท่านปู่กู้อยากจะห้ามเอาไว้ กู้ชิ่งซินกลับรีบร้อนเดินหมากก้าวแรกออกไปแล้ว
เวินลั่วฉิงมองกู้ชิ่งซินครู่หนึ่ง จู่ๆก็รู้สึกสงสารเขาเล็กน้อย เธอไม่อยากจะเล่นกับเขาแล้ว ความจริงเธอก็เข้าใจว่าคนที่เพิ่งจะคว้าแชมป์ระดับโลกมากลับมาแพ้ให้กับเธอสองเกมติด การกระเทือนจิตใจนี้หนักไปสำหรับเขาจริงๆ
ในสถานการณ์แบบนี้ถ้าหากเล่นต่ออีก ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่กู้ชิ่งซินจะสามารถชนะได้ เธอไม่อยากไปโจมตีจิตใจของกู้ชิ่งซินอีก
“คนนอกลือกันตลอดว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเวินเป็นคนโง่ แต่ตอนนี้ดูแล้วไม่เหมือนเลย ไม่ใช่ว่าเธอแกล้งทำเป็นโง่มาตลอดหรอกนะ?”
“เมื่อกี้คุณหนูเวินยังบอกว่าเธอเล่นหมากรุกไม่เป็นเลยนะ สุดท้ายก็เอาชนะสองเกมติดต่อกัน น่าจะจงใจโกหกใช่ไหม?”
“อืม เธอจงใจบอกว่าตัวเองไม่เป็น สุดท้ายกลับเอาชนะกู้ชิ่งซินสองเกมรวด แบบนี้ ก็จะทำให้กู้ชิ่งซินอับอายขายหน้ามากยิ่งขึ้น” คนบางกลุ่มกลัวแค่ว่าโลกจะวุ่นวายไม่มากพอ จงใจพูดใส่นมใส่ไข่พูดเกินจริงอยู่ข้างๆจางเย่วผิง
จางเย่วผิงเห็นลูกชายตัวเองแพ้ติดต่อกันสองเกม เดิมทีในใจก็อัดอั้นความโกรธไว้เต็มท้อง ได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์ของคนพวกนี้อีก ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นอีก
เธอเห็นท่าทางดูถูกลูกชายเธอของเวินลั่วฉิงในตอนนี้ ก็ยิ่งโกรธจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเกลียดชัง
จางเย่วผิงก็นึกถึงเรื่องก่อนหน้าที่เวินลั่วฉิงตีวัวกระทบคราด(เหน็บแนมอีกคนเพื่อกระทบถึงอีกคน)ด่าเธออีก ก็ยิ่งรู้สึกว่าตอนนี้เวินลั่วฉิงจงใจจะทำให้ลูกชายเธออัปยศอดสู ชั่วขณะหนึ่งก็ควบคุมความโกรธในใจเอาไว้ไม่ได้อีก พูดกับเวินลั่วฉิงด้วยความโกรธว่า “เวินลั่วฉิง นี่แกแกล้งบ้าแกล้งโง่ทำให้คนอัปยศอดสูเหรอ?”
เวินลั่วฉิงขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย เธอคิดไม่ถึงจริงๆว่าในเวลาแบบนี้จางเย่วผิงจะพูดแบบนี้ออกมา เธอทำให้คนอัปยศอดสู? ตระกูลกู้ของพวกเขารังแกคนชัดๆ ทำให้คนอัปยศอดสู คำนี้จางเย่วผิงมีหน้าพูดออกมาได้อย่างไร?
ดวงตาของเวินลั่วฉิงหันไปเล็กน้อย มองไปทางจางเย่วผิง เปิดมุมปากเบาๆ “ไม่ คุณพูดผิดแล้ว ฉันไม่เคยแกล้งบ้าแกล้งโง่เพื่อทำให้คนอัปยศอดสู”
คำเดียวเรียบๆเบาๆ กลับทำให้คนรู้สึกถึงอำนาจที่ไม่สามารถเพิกเฉยได้
ชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนต่างก็ตะลึงไป ถูกพลังงานที่มองไม่เห็นที่แผ่ออกมาจากความราบเรียบนี้ของเธอสะกดเอาไว้
แน่นอน ตอนนี้ทุกคนยังไม่รู้สึกถึงพลังอำนาจที่แท้จริงของเวินลั่วฉิง เพราะจากนี้ไปต่างหากถึงจะเป็นประเด็นสำคัญ นี่เป็นเพียงแค่การโหมโรงเล็กๆเท่านั้น!
“เรื่องไร้สาระพูดให้น้อยๆหน่อย เล่นต่อ วันนี้ฉันเล่นแกให้ตายไม่ได้ฉันไม่แซ่กู้” กู้ชิ่งซินคำรามออกมาอย่างหยิ่งผยองสุดๆ
เวินลั่วฉิงหรี่ตาลงเล็กน้อย ยิ้มเย้ยหยันในใจ คนตระกูลกู้หยิ่งยโสถึงขั้นนี้แล้ว เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นที่เธอจะออมมือให้จริงๆ
“กู้ชิ่งซินเป็นถึงแชมป์ระดับโลก เมื่อกี้ใช้เพียงแปดก้าวก็เอาชนะคุณปู่เย่ได้แล้ว ครั้งนี้ต้องไม่แพ้แน่นอน” ผู้หญิงคนหนึ่งอยากจะเอาใจตระกูลกู้ แต่เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ พูดคำนี้เวลานี้ มีแต่จะทำให้สถานการณ์น่าอึดอัดมากขึ้นเท่านั้น
เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดของคนนั้นแล้ว มุมปากงุ้มขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็ชนะกู้ชิ่งซินอีกครั้งในก้าวที่แปดพอดี
เดิมทีเธอคิดจะไว้หน้ากู้ชิ่งซินสักหน่อย ไว้หน้าตระกูลกู้สักหน่อย แต่ในเมื่อคนของตระกูลกู้ไม่คิดแบบนั้น
ในเมื่อคนของตระกูลกู้รังแกคนมากจนเกินไป งั้นก็โทษเธอไม่ได้จริงๆ!!
มีชั่วขณะหนึ่ง ราวกับว่าโลกทั้งใบเงียบสงัดไป