ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 387 ผลของการที่คุณชายสามเย่รู้ความจริง น่ากลัวเกินไปแล้ว (4
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 387 ผลของการที่คุณชายสามเย่รู้ความจริง น่ากลัวเกินไปแล้ว (4
บทที่ 387 ผลของการที่คุณชายสามเย่รู้ความจริง น่ากลัวเกินไปแล้ว (4)
ในตอนที่มาถึงวิลล่า เย่ซือเฉินเปิดประตูออกด้วยความเร็ว เดินตรงขึ้นไปที่ชั้นสองเขาไปที่ห้องของเวินลั่วฉิงก่อน ห้องของเวินลั่วฉิงนั้นประตูปิดอยู่ วินาทีนั้น เขามีความหวังขนาดไหน ที่หวังว่าหลังจากที่เขาผลักประตูเข้าไป ในวินาทีนั้นจะสามารถเห็นเธอนอนหลับอยู่บนเตียงอย่างเงียบสงบ
แต่ว่า ความฝันก็ยังคงเป็นแค่ความฝัน เย่ซือเฉินผลักประตูออก เห็นว่าในห้องว่างเปล่า ไม่มีคน เขาก็รีบไปตามหาทุกๆ ห้อง ต่างก็ไม่มีคน
ชัดเจนเลยว่า เธอไม่อยู่บ้าน
ทุกครั้งที่โทรศัพท์ของเธอโทรไม่ติด เขาไม่รู้เลยว่าจะไปหาเธอที่ไหน ความรู้สึกแบบนี้ไม่ดีเลย แย่มาก
เย่ซือเฉินลงจากตึก ดวงตาคู่หนึ่งได้หรี่ตาขึ้นมา แล้วมองไปรอบๆ ข้างด้วยความรวดเร็ว เห็นว่าในห้องมีการจัดวางทุกอย่างเหมือนตอนที่เขาจากไป ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลย ในห้องครัวก็เหมือนกัน
เขารู้ว่าปกติแล้วน้อยมากที่เขาจะกลับไปที่บ้านตระกูลเวิน
เย่ซือเฉินในขณะนี้ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าจะไปหาเธอที่ไหน เขารู้สึกว่า เรื่องที่เกี่ยวข้องกับเธอ เขาก็ยังรู้ไม่มากนัก โดยเฉพาะเรื่องทางเมืองA
ต่อมาเขาให้คนไปสืบเรื่องพวกนั้น แต่ว่าต่างก็เป็นเรื่องที่ประเทศM
เย่ซือเฉินจึงตัดสินใจไปที่บริษัทก่อน ไม่ว่ายังไงแล้วเมื่อวานเธอก็เคยไปที่บริษัท อีกอย่างโทรศัพท์ของเลขาหลิวก็โทรไม่ติด ที่บริษัทอาจจะเจอกับเลขาหลิว พอเจอเลขาหลิวก็สามารถรู้แล้วว่าเมื่อวานเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เย่ซือเฉินมาถึงที่บริษัทด้วยความเร็วที่สุด แต่ว่า เลขาหลิวยังเมาอยู่ยังไม่ตื่น ฉะนั้นยังไม่ได้ไปที่บริษัท
“ท่านประธาน ท่านกลับมาแล้ว?” เลขาหรวนเห็นท่านประธานเดินออกมาจากบันไดด้วยความเร่งรีบ จึงอดไม่ได้ที่จะอึ้งไปเลย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นท่านประธานรีบเร่งขนาดนี้
นี่เกิดเรื่องใหญ่ขนาดไหนกัน?
คงจะเป็นเพราะเรื่องการโอนย้ายหุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปมั้ง?
นอกจากคนไม่กี่คนที่เย่ซือเฉินเชื่อใจในบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป คนที่เหลือต่างก็ไม่รู้เรื่องที่เย่ซือเฉินยังมีธุรกิจอื่น ฉะนั้นจึงคิดว่าการที่เย่ซือเฉินจะได้รับหุ้นส่วนจากบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปคือเรื่องที่สำคัญ
เย่ซือเฉินมองเธอไปหนึ่งที ถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “เลขาหลิวล่ะ?”
“วันนี้เลขาหลิวไม่ได้มาที่บริษัทค่ะ เมื่อวานหลังจากที่จัดการงานเรียบร้อยแล้วก็จากไปเลยค่ะ” เลขาหรวนถอนหายใจเบาๆ ตอบกลับไปด้วยความฝืน ขาทั้งสองข้างมีความอ่อนแรง วันนี้ท่านประธานช่างน่ากลัวจริงๆ
เย่ซือเฉินกะพริบตา คงจะไม่ใช่เพราะเมื่อวานเลขาหลิวกลับไปตระกูลลู่อีกมั้ง? ไม่ว่ายังไงแล้วเขาเคยพูดว่า ให้เลขาหลิวไม่ต้องกลับมาหนึ่งเดือน
แต่ว่าถึงแม้ว่าเลขาหลิวจะกลับตระกูลลู่แล้วก็ไม่น่าที่จะไม่รับสายเขานิ?
“ท่านประธาน ท่านรีบกลับมาเพราะเรื่องการโอนย้ายหุ้นใช่ไหมคะ? เรื่องการย้ายหุ้นเลขาหลิวได้ส่งต่อให้….” เลขาหรวนคิดว่าท่านประธานอาจจะมาเพราะเรื่องการโอนย้ายหุ้น เลขาหลิวก็ไม่อยู่อีก ฉะนั้นก็เลยพูดมากไปสองสามประโยค
“เธอพูดว่าอะไรนะ?” ขาของเย่ซือเฉินกลับหยุดเดินกะทันหัน ทันใดนั้นดวงตาคู่หนึ่งอึมครึมไปหมด รีบมองไปทางเลขาหรวน น้ำเสียงของคำพูดแต่ละคำนั้นทำเอาคนแข็งทื่อไปเลย
“เรื่อง เรื่องการโอน การโอนย้ายหุ้น….” เลขาหรวนตกใจจนขาอ่อนไปหมด เกือบจะล้มลงพื้น ทันใดนั้นก็พูดไม่ชัดเจนแล้ว
แม่เจ้า ท่านประธานช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว ใครจะมาช่วยเธอได้เนี่ย ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก เมื่อกี้เธอก็จะไม่พูดมากแล้ว
“การโอนย้ายหุ้นอะไร?” หัวใจของเย่ซือเฉินกระตุกขึ้นกะทันหัน มีวินาทีหนึ่ง จู่ๆ เขาก็เหมือนรู้อะไร แต่ก็ไม่ยอมที่จะเชื่อ ไม่ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
“หลัก หลักๆ ฉัน ฉันก็ไม่รู้ค่ะ ฉันแค่ ฉันแค่ได้ยินเลขาหลิวกับ กับทนายเจ้าพูด…..” เลขาหรวนในตอนนี้ตกใจมากจริงๆ คำพูดหนึ่งติดๆ ขัดๆ ไปจะครึ่งวัน พูดไม่ชัดเลย
แต่ว่า เย่ซือเฉินนั้นฟังเข้าใจแล้ว
“ให้ทนายเจ้ามาพบฉัน” เย่ซือเฉินทำสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ หัวใจดวงหนึ่งอัดแน่นขึ้นมา จู่ๆ เขาก็รู้นึกได้ว่าปัญหามีความหนักเล็กน้อย ไม่ ไม่ใช่มีความหนักเล็กน้อย แต่ว่าหนักมาก
ถ้าการโอนย้ายหุ้นที่เลขาหรวนพูดคือการโอนย้ายหุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ป งั้น….
เรื่องจากจากนี้ เขาในขณะนี้ไม่กล้าที่จะคิดจริงๆ
เลขาหรวนตอบกลับแล้วรีบโทรหาทนายเจ้า
“ท่าน ท่านประธาน ทนายเจ้ากำลังจัดการกับแผนกที่มีความเกี่ยวข้องกับการย้ายหุ้น….” เมื่อกี้เลขาหรวนโทรหาทนายเจ้า คำพูดพูดได้คล่องแคล่วแล้ว แต่พอมองไปทางเย่ซือเฉิน ก็เริ่มติดๆ ขัดๆ แล้ว
เย่ซือเฉินหยิบโทรศัพท์จากเลขาหรวนมาเลย “ฉันคือเย่ซือเฉิน นายกำลังจัดการการโอนย้ายหุ้นของอะไรอยู่?”
คำถามของเย่ซือเฉินตรงไปตรงมามาก นี่ก็คือแนวของเขา ขณะนี้ดูเย็นชาลงเยอะมาก
“คือการโอนย้ายหุ้นของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปครับ เมื่อวานเลขาหลิวให้ผมจัดการ คุณปู่เย่ตกลงที่จะโอนย้ายหุ้นส่วนของบริษัทตระกูลเย่กรุ้ปจำนวนหกสิบเปอร์เซ็นต์ให้ท่านประธานแล้วครับ อีกอย่างคุณปู่เย่ก็เซนต์ชื่อแล้วครับ ทางนี้ขอแค่ดำเนินตามขั้นตอนก็ได้แล้วครับ ยินดีกับท่านประธานด้วยนะครับ” ทนายเจ้าไม่รู้ความจริงของเรื่องนี้ คิดว่าเรื่องนี้คือเรื่องที่ดี ฉะนั้นก็เลยพูดว่ายินดีไปก่อน
“ยินดีอะไรวะ รีบหยุดการดำเนินเอกสารเดี๋ยวนี้ รีบกลับมาเดี๋ยวนี้” เย่ซือเฉินได้ยินข่าวที่เขาไม่อยากได้ยินมากที่สุด วินาทีนั้น อารมณ์ของเขาระเบิดออกมาแล้ว จึงพูดอย่างรุนแรงออกมาเลย
เย่ซือเฉินในวินาทีนี้สามารถพูดได้เลยว่าไม่มีการควบคุมใดๆ แล้ว เพราะว่าเขาไม่อยากควบคุม
เลขาหรวนตกใจจนตาโตปากค้าง ท่านประธานด่าคนเป็นด้วย? ครั้งแรกที่ได้ยินท่านประธานด่าคน
ทนายเจ้าที่อยู่ทางนั้นงงไปเลย นี่ท่านประธานเป็นอะไร? ทำไมเขาถึงด่าคนล่ะ? ฉะนั้นในเวลานั้น ทนายเจ้าจึงไม่ได้ตอบ
“จริงด้วย เมื่อวานเลขาหลิวได้ให้นายไปจัดการกับเอกสารอื่นหรือเปล่า?” เย่ซือเฉินยังมีสติเล็กน้อยในตอนสุดท้าย และสามารถพูดได้ว่ายังมีความหวังเล็กน้อยในตอนสุดท้าย ถึงแม้ว่าคุณปู่จะตอบตกลงโอนย้ายหุ้นให้เขาแล้ว แต่ว่าเอกสารยังดำเนินงานไม่เรียบแล้ว ฉะนั้นเธออาจจะยังไม่….
แต่พอคิดถึงความคิดตามวันปกติของเธอ คิดได้ว่าเธออยากจะหย่ามากๆ ในทุกวินาที ที่จริงแล้วในใจของเย่ซือเฉินก็ไม่ได้มีความหวังมากมายอะไรขนาดนั้น
“ไม่นะครับ เลขาหลิวให้แต่ผมจัดการเรื่องนี้ ให้ผมรีบจัดการ” หลังจากทนายเจ้าได้สติแล้ว ก็ตอบกลับประโยคนี้ไป
เย่ซือเฉินถอนหายใจเบาๆ แล้วนึกได้กะทันหันว่า เอกสารการหย่า เลขาหลิวอาจจะไม่ไปหาทนายเจ้า
“รีบหยุดการดำเนินเอกสารทุกอย่าง กลับมา” เย่ซือเฉินเน้นย้ำอีกครั้ง จากนั้นก็โยนโทรศัพท์ให้เลขาหรวน
จากนั้น เย่ซือเฉินก็โทรหาเลขาหลิวต่อ ถ้าหากว่าตั้งใจใส่ใจละเอียดอ่อนในขณะนี้ จะเห็นว่ามือของเขาในขณะนี้กำลังสั่นอยู่
ครั้งนี้ ในที่สุดโทรศัพท์ก็โทรติด เลขาหลิวในขณะนี้มาถึงข้างล่างตึกของบริษัทแล้ว เลขาหลิวโสด สถานที่พักคืออพาร์ทเมนท์ของบริษัท อยู่ใกล้กับบริษัทมาก
เลขาหลิวตื่นมาในตอนเช้า ตอนแรกยังเบลอมึนๆ อยู่ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เห็นมีสายโทรเข้าของท่านประธานที่ไม่ได้รับจำนวนนับไม่ถ้วน ทันใดนั้นก็ตื่นทันที
ท่านประธานโทรหาเขามากมายขนาดนั้น เขากลับไม่ได้ยิน?