ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 419 คุณชายสามเย่จะสติคลั่งแล้ว (2)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 419 คุณชายสามเย่จะสติคลั่งแล้ว (2)
บทที่ 419 คุณชายสามเย่จะสติคลั่งแล้ว (2)
“วันนี้คุณเป็นอะไรกัน?รู้สึกใจไม่อยู่กับร่องกับรอยเสียเลย”บัดนี้หลี่ยุ่นรู้อยู่แก่ใจแต่กลับถามออกมาเช่นนั้น หากตอนแรกนั้นแค่ความสงสัยแล้วล่ะก็ ถ้าเช่นนั้นตอนนี้ก็คือแน่ใจเต็มร้อยแล้ว
เพราะเมื่อสักครู่ผู้หญิงคนนั้นเดินผ่านเย่ซือเฉิน เธอก็เห็นเย่ซือเฉินตอบสนองด้วยสัญชาตญาณจะไปจับตัวเอง แต่สุดท้ายก็แค่อดกลั้นความรู้สึกไว้
สิ่งที่เย่ซือเฉินอยากทำ แต่กลับควบคุมตนเอาไว้ เธอเพิ่งจะเคยเห็นครั้งแรก
ฉะนั้น บัดนี้หลี่ยุ่นรับรู้ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นสำคัญต่อเย่ซือเฉินมากเพียงใด
แต่ทว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มองเย่ซือเฉินเลย มั่วได้คล้อยตามสามีของเธอเท่านั้น
แน่นอน ครั้งนี้เย่ซือเฉินยิ่งไม่สนใจหลี่ยุ่น
หลี่ยุ่นไม่ได้ประหลาดใจ มุมปากกลับยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย พูดอย่างจงใจว่า“ผู้ชายเมื่อกี้คือถังไป๋เชียนใช่ไหม?ภรรยาของเขาสวยมาก ดูออกว่าภรรยาของเขานักอ่อนโยน เป็นกุลสตรี ซึ่งแววตาของภรรยามองเขานั้นอ่อนละมุนเป็นพิเศษ น่าจะเกิดจากเพราะรักเขามากมั้ง”
หลี่ยุ่นจงใจพูดให้เย่ซือเฉินฟัง
ร่างกายเย่ซือเฉินแข็งทื่อ ดวงตาทั้งคู่ยิ่งหรี่แน่นกว่าเดิม จากนั้นก็รีบละสายตามามองหลี่ยุ่นแวบหนึ่ง พลางกล่าวหัวเราะเย้ยหยันว่า“ประธานหลี่ ต้องการให้ผมหาคนมาคุยกับคุณโดยเฉพาะไหม?”
ความหมายของเย่ซือเฉินนั้นชัดแจ๋วเต็มประดาแล้ว คือให้เธอไสหัวไปนั่นเอง เขาไม่อยากฟังคำพูดของเธออีก
หลี่ยุ่นคาดการณ์ได้ว่าเย่ซือเฉินนั้นจะโกรธ แต่เธอคิดไม่ถึงว่าเย่ซือเฉินจะมาเหวี่ยงอารมณ์ใส่เธอเช่นนี้
เดิมทีเธอคิดว่าเย่ซือเฉินได้ยินคำพูดของตนแล้ว จะยิ่งโกรธเคืองผู้หญิงคนนั้น จากนั้นก็สังเกตเห็นความเอาใจใส่และการอยู่เคียงข้างของเธอได้อย่างลงตัว ซึ่งไม่แน่ว่าจะมองเธอมากขึ้น จนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอนั้นพัฒนามากขึ้นอีกก้าว
บัดนี้ คำพูดของเย่ซือเฉินทำให้เธอรับไม่ได้และโมโหเล็กน้อย
แต่ทว่าเมื่อเห็นแววตาอันเย็นชาของเย่ซือเฉิน ตัวเธอก็หดถอย จากนั้นก็รีบยิ้มพลางพูดว่า“ขอโทษด้วยค่ะ รบกวนประธานเย่แล้ว
ฉันเห็นเพื่อนพอดีเลย ไปทักทายก่อนนะ”
หลี่ยุ่นหาข้ออ้างรีบเผ่นออกไป
ตอนที่หลี่ยุ่นเดินห่างออกไป ดวงตาที่งุดหน้าลงมีความโหดร้ายเล็กน้อย จากนั้นก็รีบเงยหน้าขึ้นไปมองเวินลั่วฉิง มุมปากเผยรอยยิ้มเย็นรางๆ
แค่ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วเท่านั้นเอง เลอโฉมแล้วจะทำไมล่ะ?
พิเศษต่อเย่ซือเฉินแล้วจะทำไม?หรือเย่ซือเฉินจะไปแย่งชิงภรรยาของผู้อื่นได้ล่ะ?
สุดท้ายเย่ซือเฉินต้องตกเป็นของเธออยู่แล้ว ไม่ คืนนี้เธอต้องได้เขาอย่างสมบูรณ์แบบ
เย่ซือเฉินนั้นเพรียบพร้อมมากความสามารถ จนเธอสามารถทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ตัวเขา
หลี่ยุ่นเดินออกไป เย่ซือเฉินก็มองเวินลั่วฉิงอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าแววตาได้ผ่อนเบาลงไปบ้างแล้ว ซึ่งไม่ได้มีแววตาเย็นชาที่ชัดเจน ไม่ได้มีความเผด็จการ แต่คล้ายกับมีไออุ่นขึ้นมาเล็กน้อย
เขามองผู้หญิงของเขา มันไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น แต่ก็ไม่จำเป็นต้องให้คนประเภทยุ่งเรื่องชาวบ้านมามองด้วย
ถังไป๋เชียนพาเวินลั่วฉิงกล่าวทักทายจบก็หามุมหนึ่ง ซึ่งเขาช่วยเธอลากเก้าอี้ออกมาให้เธอนั่งอย่างเอาใจใส่
จากนั้นถังไป๋เชียนก็นั่งลงข้างๆเธอ
ดวงตาของเย่ซือเฉินหรี่ขึ้นมาอีกครั้ง แก้วเหล้าที่เขาถือเอาไว้ในมือไม่ได้รีบร้อนจะดื่มอีก เพียงแต่แค่เขย่ามันเป็นบางช่วง ดวงตาของเขามองเห็นใบหน้าด้านข้างของเวินลั่วฉิงจากแก้วกระจกใส
มันยิ่งทำให้ใบหน้าด้านข้างของเธอสวยอย่างเลือนรางเล็กน้อย
อืม สวยจริงๆ ไม่เสียแรงที่เป็นผู้หญิงของเขา
เพียงแต่เสียดายที่ผู้ชายข้างกายเธอนั้นขัดหูขัดตายิ่งนัก
แต่ก็ไม่เป็นอะไร เขามีวิธีขับไล่ผู้ชายคนนั้นไป อีกหน่อยข้างกายเธอก็จะมีแต่เขาคนเดียว
บัดนี้เวินลั่วฉิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ ในมือถือแก้วน้ำเปล่าไว้และดื่มเล็กน้อยเป็นบางเวลา เธอรับรู้ได้ว่าเย่ซือเฉินยังคงจ้องมองเธออยู่
เธอไม่เข้าใจจริงๆเลยว่าเย่ซือเฉินจะมองเธอทำไมกัน?
วันนี้เย่ซือเฉินมาทำอะไรกันแน่?เขาคิดจะจ้องแต่เธออย่างเดียวโดยไม่คิดจะทำเรื่องเป็นการเป็นงานแล้วใช่ไหม?
เธอกับเขาหย่ากันแล้ว จึงไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันอีก ทำไมเขาถึงจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลาด้วยนะ?
บัดนี้เวินลั่วฉิงคิดไม่ออกจริงๆ แต่เธอรู้ว่าคืนนี้ตนมีทำงาน ฉะนั้นเธอจะทำตามใจอยากและไม่สำรวมกิริยากับเย่ซือเฉินไม่ได้
ฉะนั้นการมองของเย่ซือเฉิน เธอจึงได้แต่ทำราวกับไม่รับรู้แม้แต่น้อย
ซึ่งขณะนี้ถังไป๋เชียนได้รับข้อความเข้า สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย มองเวินลั่วฉิงพลางพูดด้วยเสียงแข็งเล็กน้อย “ผมออกไปแปบหนึ่ง คุณเคยเห็นรูปถ่ายคนนั้นแล้ว หากเขามา คุณน่าจะมองออก ให้คุณสังเกตเขาดีๆนะ”
“ค่ะ ฉันรู้แล้ว”เวินลั่วฉิงรู้ว่าเวลานี้ถังไป๋เชียนออกไปต้องมีเรื่องสำคัญเป็นแน่ ดวงตาของเธอเกิดความหนักแน่นขึ้นมาเล็กน้อย
ถังไป๋เชียนลุกขึ้นยืน จากนั้นก็ย่างเท้าออกไปอย่างเป็นธรรมชาติ แต่เวินลั่วฉิงก็ยังสังเกตเห็นถึงความร้อนใจของเขา ดูทีว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว
แต่ทว่าสีหน้าของเวินลั่วฉิงไม่ได้เผยความผิดปกติแม้แต่น้อย เพียงแต่นำแก้วน้ำเข้าใกล้ริมฝีปาก ก่อนจะดื่มเบาๆหนึ่งอึก
เย่ซือเฉินเห็นถังไป๋เชียนจากไปดวงตาก็หรี่ขึ้นทันที เมื่อกลับมามองเวินลั่วฉิงอีกครั้ง สายตาก็ได้เปลี่ยนกลับมาเล็กน้อย
อันที่จริงเย่ซือเฉินเฝ้าคอยเธอทนไม่ไหวมาทักทายกับเขา ถึงแม้วันนี้เธอมีภารกิจต้องปฏิบัติ แต่แค่กล่าวทักทายกับเขา ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรนะ
แต่ว่า สุดท้ายเย่ซือเฉินก็พบว่า ไอ้บ้าเอ๊ย มันเป็นแค่การเพ้อฝันลมๆแห้งๆของเขาเท่านั้นเอง
เธอเก่งเหลือเกิน เก่งในด้านไร้หัวใจเสียจริง
เย่ซือเฉินแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก สุดท้ายก็ก้าวเท้าเดินไปหาเธอ
เป็นไปไม่ได้ที่จะรอให้เธอมาก่อนทักทายก่อน ฉะนั้นเขาไปเองแล้วกัน
เพียงแต่เย่ซือเฉินยังไม่ทันเข้าไปถึงด้านหน้าเธอ ข้าราชการที่เอ่ยคำทักทายกับถังไป๋เชียนก่อนหน้านี้ชิงไปอยู่ตรงหน้าเวินลั่วฉิงก่อนหนึ่งก้าว
ข้าราชการคนนั้นฉวยโอกาสตอนที่ถังไป๋เชียนไม่อยู่มาเข้าใกล้เวินลั่วฉิง เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์เท่าใดนัก
เย่ซือเฉินเร่งฝีเท้ากะทันหัน เดินเข้าไปโดยตรง จากนั้นก็เอ่ยทักทายข้าราชการคนนั้นก่อน “หัวหน้าเก๋อหลู่”
“คุณเย่ บังเอิญจังเลย คิดไม่ถึงว่าคุณก็มาด้วยครับ”เห็นได้ชัดว่าคนนั้นรู้จักเย่ซือเฉิน กิริยาก็เป็นมิตรมาก
เย่ซือเฉินเพียงแต่คลี่ยิ้มบางๆ จากนั้นก็มองเวินลั่วฉิงอย่างไม่ปิดบังสายตา
หัวหน้าเก๋อหลู่หยุดชะงัก จากนั้นก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยลึกซึ้ง เห็นได้ชัดว่าเขาคิดว่าเย่ซือเฉินก็มีเป้าหมายเดียวกันกับเขา รีบแนะนำว่า“ท่านนี้คือคุณนายถัง”
“คุณนายถัง?”มุมปากของเย่ซือเฉินขยับเล็กน้อย พลางเรียกเสียงเบา ซึ่งน้ำเสียงเต็มไปด้วยความแปลกประหลาด มันเหมือนกับการซักถามและถามเชิงซักไซ้ติเตียน แต่ก็ไม่ได้ชัดเจนมากนัก ปกติคนนอกจึงฟังออก
แต่เวินลั่วฉิงฟังออก เธอมองเย่ซือเฉินอย่างแปลกใจ
เย่ซือเฉินมาตอนนี้เธอไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะเย่ซือเฉินคอยแต่จ้องมองเธออยู่ท่าเดียว
ทันใดนั้นเย่ซือเฉินก็ยื่นมือออกมาอยู่ตรงหน้าเธอ