ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 435 คุณชายสามเย่รู้ความจริงของห้าปีก่อน (1)
- Home
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
- ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 435 คุณชายสามเย่รู้ความจริงของห้าปีก่อน (1)
บทที่ 435 คุณชายสามเย่รู้ความจริงของห้าปีก่อน (1)
ถ้าหากเรื่องระหว่างพวกเขาสามารถคลี่คลายได้ด้วยการคุยกันดีๆ เขาก็ไม่ต้องทำเช่นนี้แล้ว
“เรื่องระหว่างเรามีอะไรสะสางไม่ได้?พวกเราไม่ได้มีหนี้แค้นต่อกันเสียหน่อย อย่างมากสุดก็แค่หย่ากัน ไม่จำเป็นต้อง……”มุมปากเวินลั่วฉิงยกขึ้น เขาพูดราวกับพวกเขามีหนี้แค้นต่อกันอย่างนั้น
“เวินลั่วฉิง ทางที่ดีคุณหุบปากไปเลย ไม่เช่นนั้นคุณก็รับผลที่จะเกิดขึ้นเองนะ”บัดนี้เย่ซือเฉินอยากจะบีบเธอให้ตายไปเสียเลย ผู้หญิงคนนี้เขาโมโหอะไรก็มาอย่างนั้น!
“งั้นคุณปล่อยฉันลงมาก่อนสิ ถูกคนอื่นเห็นเข้าจะไม่งาม”เวินลั่วฉิงเห็นนางพยาบาลที่เดินผ่านตกตะลึง ในใจก็รู้สึกร้อนรนขึ้นมาบ้างแล้ว
“คุณใส่ใจเรื่องพวกนี้แต่ตั้งเมื่อไหร่?ปกติคุณมักจะไม่สนใจสายตาของผู้อื่นไม่ใช่เหรอ?”เย่ซือเฉินตะคอกเสียงเย็น ไม่ได้สนใจการคัดค้านของเธอเลยสักนิด ชั้นนี้เป็นตึกผู้ป่วยในvip ฉะนั้นทางเดินจึงไม่ค่อยมีผู้คนมากนัก
“……”ปากของเวินลั่วฉิงกระตุกอย่างรุนแรง เขาพูดอย่างกับเธอเป็นคนหน้าด้านหน้าทนเสียอย่างนั้น
คนหน้าด้านหน้าทนน่าจะเป็นเขามากกว่าหรือเปล่า?
“แต่คุณก็ควรรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองบ้างไม่ใช่เหรอ?พวกเราแอบซุ่มแต่งงานกันสามารถ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเสียภาพลักษณ์หลังจากที่หย่าร้างกันแล้ว ใช่เปล่า?” เวินลั่วฉิงตัดสินใจเปลี่ยนวิธีเจรจา ลองโน้มน้าวใจเขาดู ตอนนี้เธอไม่เข้าใจเสียเลยว่าเขาทำอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร?
พวกเขาหย่าร้างกันแล้ว เขาอยากจะทำอะไรกันแน่?
“ถ้าเช่นนั้นผมควรขอบคุณที่คุณอุตส่าห์คิดเผื่อหรือเปล่า”เย่ซือเฉินจ้องเขม่นเธอแวบหนึ่งแรงๆ ซึ่งน้ำเสียงเต็มไปด้วยความกัดฟันพูด
เธอยังคงช่างกุลสตรี!ช่างมีน้ำใจจริงๆ!
ทำไมเขาถึงอยากจะบีบเธอให้ตายเสียล่ะ!
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก ฉันก็แค่เตือนด้วยความหวังดี ถ้าท่าทางของคุณเช่นนี้ถูกแพร่ออกไป อีกหน่อยจะหาภรรยาอีกไม่ได้นะ ต้องมีผลกระทบแน่นอน”อิริยาบถในขณะนี้ เวินลั่วฉิงรู้สึกเวียนศีรษะ ทรมานมาก สิ่งปรารถนาเดียวของเธอในตอนนี้อยากให้เขาปล่อยเธอลงมา
เพื่อให้เขายอมปล่อยเธอลงมา บัดนี้สิ่งที่เวินลั่วฉิงควรจะพูดก็พูดออกมาหมดเปลือกแล้ว เธอหวังว่าคงจะมีประโยชน์บ้าง
แต่ทว่า……
เย่ซือเฉินจ้องมองเธออย่างดุดันอีกครั้ง เขาพบว่าหากคุยกับผู้หญิงคนนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องเครียดตายเป็นแน่
ฉะนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือไม่ต้องพูดจากับเธอ โดยแปรเปลี่ยนทุกคำพูดเป็นการกระทำเสียจะง่ายและตรงประเด็นกว่า
ฉะนั้นเย่ซือเฉินไม่เพียงแต่ไม่ยอมปล่อยเธอลงมา แต่กลับรัดแน่นมากขึ้นกว่าเดิม และฝีเท้าก็เร่งเพิ่มขึ้นไม่น้อย
พอเข้าไปภายในลิฟต์ ในที่สุดเขาก็ปล่อยเธอลงมาได้เสียที การตอบสนองแรกของเวินลั่วฉิงก็เผ่นหนี
เธอรู้สึกว่าคนนี้บ้าไปแล้ว ไม่มีเหตุผลเอาสักเลย
เธอไม่เข้าใจว่าเขาต้องการจะทำอะไรกันแน่?
เพียแต่เขามาขวางเธอไว้เร็วกว่าหนึ่งก้าว เขาใช้ร่างกายของตนกดเธออยู่บนผนังลิฟต์ด้านข้าง ซึ่งเป็นท่าทางที่คลุมเครือมากมายอีกด้วย
เวินลั่วฉิงขมวดคิ้ว อยากจะใช้แรงดิ้นให้หลุดออกไปโดยสัญชาตญาณ
“ถ้าคุณขยับ คุณไม่ใส่ใจหรือว่าผมจะทำอะไรกับคุณในลิฟต์……”เพียงแต่ร่างกายของเขายิ่งเข้าใกล้มากขึ้นกว่าเดิม กดจนเธอไม่สามารถขยับเขยื้อนได้แม้แต่นิดเดียว
ริมฝีปากของเขาแนบอยู่ใกล้ใบหูของเธอ ซึ่งคำพูดเปี่ยมไปด้วยความคลุมเครือด้านความรักอย่างไม่คิดจะปกปิดเลย
ขณะนั้นที่พูดออกมา เขาจงใจกวาดสายตามองกล้องวงจรปิดด้านมุมขวาบนอยู่แวบหนึ่ง ความหมายของการข่มขู่นั้นชัดแจ่มอย่างไม่ต้องสงสัย
“คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”เวินลั่วฉิงโมโห เธอหย่ากับเขาแล้ว ระหว่างพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ใดๆอีก เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?
เย่ซือเฉินไม่ได้ตอบ เพียงแค่จ้องเขม่นเธออยู่อย่างนั้น แววตามีความเย็นแผ่ซ่านออกมา แต่สิ่งที่มากสุดก็คือเพลิงโกรธในขณะกัดฟันนั่นเอง
ลิฟต์จอดอยู่ชั้นติดลบหนึ่ง เขากอดรัดตัวเธอ ก่อนจะเดินออกมา
เดินมาด้านหน้ารถ เขาเปิดประตูรถยัดเธอเข้าไป โดยไม่รอการตอบสนองจากเธอเลย เขาก็ได้ตามขึ้นรถไปด้วย ก่อนที่จะอยู่ตรงเบาะหลังโดยตรงอย่างไม่รีรอแม้แต่วินาทีเดียว จากนั้นเขาก็จูบริมฝีปากของเธออย่างรุนแรง
ท่าทางของเขาเต็มไปด้วยความเผด็จการในลักษณะลงโทษ หากเป็นการจูบ แต่ยิ่งเหมือนการกัดมากกว่า
“หยุด หยุด หยุด คุณไม่ใช่บอกว่ามีธุระกับฉันเหรอ?พวกเรามาคุยธุระกัน อย่าทำอย่างนี้”ไม่ง่ายเลยที่เวินลั่วฉิงจะคว้าโอกาสสูดลมหายใจไว้ได้
เธอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศM เธอไม่อยากให้เรื่องราวมันบานปลายไปถึงขั้นนั้นอีก ไม่ได้เด็ดขาด
หากเขามีธุระก็สามารถคุยกันได้ แต่จะทำเหลวไหลอย่างนี้ต่อไปไม่ได้
“อันนี้ก็คือธุระที่ผมมาทำกับคุณ”เย่ซือเฉินเงยหน้าขึ้นมองเธอ ซึ่งพูดออกมาอย่างกับถูกหลักการ
“……?”เวินลั่วฉิงมึนไปหมดแล้ว เธอมองเย่ซือเฉินออกมาไม่ได้ว่าเล่นๆ เขาจะเอาจริงแน่ เธอจึงแอบถอนหายใจหนึ่งเฮือก“เย่ซือเฉิน พวกเราหย่ากันแล้ว คุณทำอย่างนี้ไม่ได้”
เธอแต่งงานกับเขามาสามเดือน พวกเขาแค่มีความสัมพันธ์ฉันผัวเมียกันเฉพาะตอนท้าย ตอนนี้พวกเขาหย่ากันแล้ว ทำอย่างนี้เรียกว่าอะไรกัน?
“ไม่ได้?คุณดูว่าผมทำได้หรือเปล่า”เย่ซือเฉินมองเธอ พลางหัวเราะ ซึ่งรอยยิ้มนั้น……
ไม่ได้เหรอ?เขาจะให้เธอดูสิว่าเขาทำได้หรือเปล่า เขาจูบเธออีกครั้ง มือข้างหนึ่งเขาจับสองมือที่กำลังดิ้นอยู่แล้วไปวางไว้ที่ร่างด้านบนของเธอ
“เย่ซือเฉิน คุณทำอย่างนี้ ฉันสามารถแจ้งข้อหาคุกคามทางเพศได้นะ”สีหน้าเวินลั่วฉิงตึงเครียด น้ำเสียงก็ยกสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ได้ ผมสร้างหลักฐานให้คุณเอง เสร็จภารกิจแล้วไปฟ้องได้เลย”เขามองเธอด้วยมุมปากยกขึ้นมา ท่าทางโหดร้ายที่แฝงเสน่ห์ดึงดูดใจยิ่งนัก
“……”ทันใดนั้นเวินลั่วฉิงรู้สึกไม่รู้จะถามอะไรกับสวรรค์ดี
ไม่เจอกันหลายวัน คนนี้ยิ่งเลยเถอะไปไกลจากเดิมอีก
ไม่ใช่หย่ากันแล้วเหรอ อย่างนี้เรียกว่าอะไร?
บังเอิญกับตอนนี้มีเสียงมือถือดังขึ้น เวินลั่วฉิงรู้ว่าเป็นเสียงเรียกเข้าของเธอเอง
“มือถือของฉัน”เวินลั่วฉิงฉวยโอกาสดันเขาออก รีบเอามือถือออกมาโดยเร็ว โทรเข้ามาถูกจังหวะมากเหลือเกิน
เพียงแต่ตอนที่เวินลั่วฉิงเห็นหมายเลขที่เรียกกันเป็นแถวนั้น ดวงตาก็กะพริบปริบๆ ความอยากรับสายก็จบลง
บัดนี้เย่ซือเฉินอยู่ใกล้เธอมาก จึงมองการตอบสนองของเธอออก ดวงตาของเขาหรี่ขึ้น ในขณะที่เธอกำลังลังเลอยู่นั้น เขาได้ยื่นมือไปกดปุ่มรับสายเสียแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังได้เปิดลำโพงอีกด้วย
“ฉิงฉิง……”ในมือถือมีเสียงของผู้ชายส่งออกมา ซึ่งเรียกได้อย่างสนิทสนม จนทำให้สีหน้าเย่ซือเฉินเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก
เขาคาดไว้แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้ ยังเป็นอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้ไม่มีผิดเพี้ยน
ฉิงฉิง?เรียกสักสนิทปาก เขาเป็นสามีภรรยากับเธอมาสามเดือน เขายังไม่เคยได้เรียกเธออย่างนี้เลย ผู้ชายคนนั้นมีสิทธิ์อะไรมาเรียกเธออย่างนี้?
“ผมมาถึงแล้ว นั่งรออยู่ตรงที่เมื่อก่อนพวกเรานั่งกันเป็นประจำ”น้ำเสียงของผู้ชายคนนั้นสั่นระริก โดยไม่รู้ว่าเป็นเพราะความตื่นเต้นหรือว่าตื้นตันใจ
“ออ”ในเมื่อถูกเย่ซือเฉินกดปุ่มรับสายแล้ว และได้ยินเสียงของคู่สนทนา เวินลั่วฉิงจึงได้แต่ตอบรับเสียงต่ำ เพียงแต่เธอเพิ่งจะพูดจบก็รู้สึกมือของใครคนหนึ่งที่อยู่บนตัวเธอใช้แรงกำ จนเธอรู้สึกเจ็บเล็กน้อย
ฉะนั้นน้ำเสียงของเธอจึงมีความ…